Group Blog
 
 
มกราคม 2553
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
7 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

รีวิว - ผ่าตา(ซีส) ร.พ.ปทุมเวช

รีวิว - ผ่าตา(เป็นซีส)


เนื่องจากเป็นซีสที่ตาค่ะ เพราะว่าแพ้กาวต่อขนตาปลอม พอไปหาหมอๆบอกว่าเป็นหนักขั้นเรื้อรัง เลยต้องผ่าตัดออก ก่อนผ่าหมอเอาน้ำยาชาราดไปก่อน 2 ครั้ง พอรอบที่ 3 เอาเข็มฉีดยาชาฉีดลงที่กลางลูกตาเลยค่ะ อยากบอกว่าเจ็บมากๆ แล้วก็นอนให้หมอกรีดตาเอาหนองออก หมอบอกว่าโอ้โห ก้อนใหญ่นะเนี่ย แต่หมอกรีดไวดีนะไม่ถึง 10 นาทีเสร็จแระ ฮือๆๆๆ แต่ก็ดีแระเราจะได้สวยเหมือนเดิมซักที




















เรื่องของตากุ้งยิง การป้องกัน และการรักษา ถ้าใครคิดว่าตัวเอง ไม่มีทางเป็นตากุ้งยิงแน่ๆ ก็ขอให้ผ่านกระทู้นี้ไปได้เลย แต่ถ้าคิดว่า วันหนึ่ง มันอาจจะเป็นประโยชน์ ก็ขอให้กลับมาอ่านก็ได้ครับ 1. ความเชื่อผิดๆเรื่องการเป็นตากุ้งยิง แอบมองผู้หญิงโป๊ อันนี้ ต้องขอบอกว่า ไม่จริง (ไม่งั้นคงเป็นทุกสัปดาห์ 555) โดยส่วนตัว คิดว่า คนสมัยก่อน เวลาไปแอบดูผู้หญิงอาบน้ำ หรือเปลี่ยนเสื้อผ้า จะต้องไปแอบดูตามช่องแคบๆ เมื่อมองไม่เห็น ก็จะขยี้ตา นั่นแหละครับ ถ้ามือสกปรกด้วย และไปขยี้ตา ก็เรียบร้อยครับ โอกาสเป็นตากุ้งยิง เพิ่มขึ้น แน่ๆ 2. สาเหตุของการเป็นตากุ้งยิง 2.1 ขยี้ตา อันนี้แน่นอน ถ้ามือสกปรกแล้วไปขยี้ตา ก็เพิ่มโอกาสการเป็นตากุ้งยิงนะ แต่ การที่ไม่ได้ขยี้ตาเลย ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่เป็นกุ้งยิง นะครับ เพราะผมเอง ก็ไม่ได้ใช้มือขยี้ตา มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ก็ยังเป็นๆเรื่อย 2.2 ฝุ่น ลม เป็นไปได้ครับ การเป็นตากุ้งยิง หมายถึง การที่ต่อมน้ำตาอุดตัน แล้วติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเข้าไปอีก คนที่ตา sensitive มากๆ ก็อาจจะเป็นได้ง่ายขึ้น ถ้าโดนฝุ่นมากๆ 2.3 การใช้สายตามากๆ (โดยทั่วไป) อันนี้ ไม่เคยเป็นกับตัวเอง นะ แต่ทราบมาว่า บางคนก็เป็นเพราะสาเหตุนี้ได้เหมือนกัน 2.4 การใช้สายตา เล่นคอมพิวเตอร์ เล่นเกม นานๆ บ่อยๆ (วันละ 6-7 ชั่วโมง ติดกันขึ้นไป) อันนี้ คุณหมอหลายๆคน ออกมายืนยัน นะครับ ว่า ไม่เกี่ยวกันเลย เวลาเล่นเกม หรือใช้คอมพิวเตอร์นานๆ โดยไม่พักสายตา ตาจะแห้ง แล้วต้องกะพริบตาบ่อย ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย อาจเป็นสาเหตุให้ติดเชื้อแบคทีเรีย แล้วพอใช้คอม หรือ เล่นเกมเสร็จ น้ำตา มันจะถูกผลิดออกมาเยอะกว่าปกติ เพื่อมาทำให้ตาไม่แห้ง สำหรับเรื่องนี้ อธิบายทางการแพทย์คงจะไม่ได้ เพราะหมอบอกแล้วว่า ไม่เกี่ยวกัน แต่สำหรับบางคนที่เป็นบ่อยๆ และไม่ทราบสาเหตุ ก็ลองทบทวนดูละกัน 2.5 ความเครียด มีส่วนครับ เวลาเครียดมากๆ บางที โรคแปลกๆ อะไรต่างๆก็ชอบถามหา อันนี้ หมอค่อนข้างจะยอมรับ 2.6 ทานช็อกโกแล็ต อันนี้ คุณหมอจักษุแพทย์ในเมืองไทยท่านหนึ่งเป็นคนพูดนะเขาบอกว่า การกินช็อกโกแล็ต ทำให้ ต่อมน้ำตา ผลิตน้ำตามากขึ้น ในขณะที่ ไม่มีรายงานหรือวิจัยใดๆ ในต่างประเทศเลย ที่บอกว่า การกินช็อกโกแล็ตมาก จะทำให้เป็นตากุ้งยิงง่ายขึ้น แต่สำหรับผมแล้ว ค่อนข้างจะใช่ เพราะหลายๆครั้ง 2.7 กรรมเก่า อันนี้ ไม่ได้พูดเล่นบางคน อาจไม่เชื่อ 3 การป้องกัน เวลาล้างหน้า บางคนละเลยการทำความสะอาดบริเวณรอบดวงตา ดังนั้น เมื่อล้างหน้าแต่ละครั้ง ต้องถูสบู่รอบๆดวงตา ถ้าจะให้ดี ใช้พวก สบู่ฆ่าเชื้อได้ จะดีมาก แต่แค่นี้ ไม่ได้หมายความว่า จะป้องกันได้ 100% นะครับ หากต้องการให้ป้องกันได้มากกว่านี้ คือ การนำขั้นตอนการรักษา มาใช้กับตอนที่ยังไม่เป็นครับ เนื่องจากการเป็นตากุ้งยิง เกิดจากต่อมน้ำตาอุดตัน ดังนั้น การนำผ้าชุบน้ำร้อนมาประคบตา ทั้งสองข้าง ซักประมาณ อาทิตย์ละครั้งหรือสองครั้ง จะช่วยให้ต่อมน้ำตามีการระบายได้ดีขึ้น ป้องกันการอุดตันของต่อมน้ำตาได้ 4. เมื่อเป็นแล้ว จะทำอย่างไร 4.1 ระยะแรกเริ่ม ดีใจด้วยครับ ที่คุณสามารถสังเกตตัวเองได้ว่าจะเป็นในระยะแรกเริ่ม ในระยะนี้ อาการ จะเริ่ม คัน บวม แดง และเจ็บนิดๆ ระยะนี้ จะมีโอกาสให้คนที่เป็น ประมาณ 30 - 60 นาที ครับ ถ้ารักษาได้ทัน ก็จะไม่เป็นกุ้งยิงเลย (เฉพาะครั้งนั้น) เมื่อรู้ว่าเป็น ต้องรีบนำ น้ำร้อน (เน้นว่าร้อน นะครับ ไช้น้ำอุ่นไม่พอครับ เพราะน้ำอุ่น มันจะร้อนได้แปปเดียว เดี๋ยวก็ต้องชุบใหม่ แต่อย่าร้อน จนลวก นะครับ ตัวผมเอง ใช้น้ำเดือด ใหม่ๆ ทิ้งไว้ให้พอประคบได้สักพัก) มาประคบตาข้างที่เป็นทันที เป็นเวลา นาน เท่าที่จะทำได้ (ประมาณ 20-30 นาที) ถ้าสำเร็จ จะมีน้ำตาไหลโจ๊กออกมาจากข้างที่เป็น นั่นก็แปลว่า ป้องกันการเป็นได้สำเร็จ แต่จะต้อง ประคบตาต่อเนื่องด้วย หรือถ้าน้ำตาไม่ไหลออกมา ก็ลองประคบ ให้บ่อยๆ เท่าที่จะทำได้ ภายในวันสองวันแรก ถ้าโชคดี ก็จะหายไป โดยไม่เจ็บปวด 4.2 ระยะ แสดงอาการ ระยะนี้ จะบวม แดง เจ็บ ถ้าเป็นมากๆ หนังตาจะปิด (แล้วแต่ว่า เป็นหนังตาบนหรือล่าง) ถ้าเป็นหนักๆ เวลาตื่นเช้ามา ขี้ตาเปียกๆ จะเต็มตา ระยะนี้ ต้องใช้สองอย่าง แต่หมอ มักจะแนะนำแค่อย่างเดียว เพราะหมอไม่จะไม่ชอบให้ใช้ยาแก้อักเสบพร่ำเพรื่อ - ประคบน้ำร้อน ครั้งละ 10-20 นาที วันละ สองครั้ง เป็นอย่างน้อย กี่ครั้งก็ได้ เป็นอย่างมาก (ตัวคนเขียนเอง ทำจนหนังตาเปลี่ยนสีไปพักนึงเลย) ติดต่อกัน จนกว่าจะหายสนิท - ทานยา แก้อักเสบ มีอยู่ไม่กี่ชนิดที่แนะนำ ก็คือ แอมม็อกซิล (สำหรับผู้ที่ไม่เป็นมาก) ค็อกซา (สำหรับผู้ที่เป็นปานกลาง มั้ง) และ อ็อกเมนติน (สำหรับผู้ที่เป็นหนักๆ และผู้ที่ไปผ่าออก) ซึ่งอ็อกเมนติน จะแพงมาก ถ้าเทียบกับสองตัวแรก นอกจากนี้ ยังมียาอีกตัว ที่ไม่เชิงเป็นยาแก้อักเสบเท่าไหร่ แต่ให้ผลชะงัดนัก นั่นคือ ด็อกซีไซคลิน ซึ่งยาตัวนี้ จะไปลดการผลิดน้ำตาของต่อมน้ำตาลง เมื่อผนวกกับการประคบน้ำร้อนแล้ว จะทำให้หายเร็ว แต่ยา ด็อกซีไซคลินนี้ มีผลข้างเคียงเยอะ เช่น ต้องกินน้ำตามมากๆ เพราะมีฤทธิ์กัดกระเพาะสูง หลังจากทานแล้ว ห้ามนอน เพราะมันจะไปกัดหลอดอาหาร และห้ามโดนแดดจัดมากๆ เพราะผิวจะแพ้แสงง่าย - ทายา เช่น เทรามัยซิน ซึ่งเป็นยาที่ใช้ป้องกันการอักเสบบริเวณดวงตาครับ หากทาเองไม่ได้ ต้องให้คนอื่น ทาให้ครับ เพราะจะต้องมีการเปิดเปลือกตาออกมาทา - หยอดตา จำไม่ได้แล้ว ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะผมว่า ไม่ค่อยได้ผลลองถามร้านขายยาดูละกัน 4.3 ระยะ สิ้นหวัง หากผ่านระยะแสดงอาการมาแล้ว ไม่หาย ไม่ยุบ ไม่ดีขึ้น ปูดเหมือนสิวหัวช้างอักเสบ ... ทำใจครับ ต้องผ่าออกสถานเดียว ซึ่งการผ่าออกนี่ ทรมานมาก หมอจะใช้ยาชา อาจจะเป็นแบบทา หรือ แบบฉีด เข้าที่บริเวณ ใกล้ๆ เปลือกตาข้างที่เป็น แล้วหลังจากนั้น จะใช้มีดหมอ ผ่าออก และเมื่อผ่าออกแล้ว ก็จะใช้มือ(สะอาด) ขยี้เปลือกตาอีกครั้ง เพื่อเอาออกมาให้หมด หลังจากผ่าออกแล้ว ยังจะต้องกินยา อ็อกเมนติน ไปอีก เป็นอาทิตย์ และสองสามวันแรก ยังให้ตาข้างนั้น โดนน้ำ ไม่ได้อีกด้วย 4.4 ระยะ เรื้อรัง หากคุณไปผ่าออก ระยะนี้ แน่ใจได้ ว่า ไม่เป็นแน่นอน คนที่จะเป็นระยะนี้ คือ คนที่ ไม่ได้ประคบน้ำร้อนจนตาหายสนิท ประมาท คิดว่า ยุบไปแล้ว คงไม่เป็นอีกหรอก ... ท่านกำลังคิดผิดครับ เพราะผมก็เคยคิดเช่นนั้น ผลที่ได้กลับมาคือ คุณจะได้ กุ้งยิง เรื้อรังครับ ภาษาไทย ไม่รู้เรี่ยกว่า อะไร ภาษาอังกฤษ เรียก ชาเลเซี่ยน ครับ อาการ จะมีก้อนแข็งๆ ตั้งแต่เล็กๆ ขนาดเท่าปลาย เข็ม ถ้าเป็นหนักๆ จะเท่ากับ เม็ดถั่วทีเดียว และจะเป็นนาน ไม่หายไปเหมือนกุ้งยิงที่เป็นแค่ อาทิตย์ สองอาทิตย์ อย่างมาก ก็จะหาย แต่จะเป็น นาน เป็นเดือนๆ หรือ อาจเป็นปีๆ ได้เลย แต่จะไม่เจ็บปวดทรมานมากเท่าเป็นตากุ้งยิง แต่ก็สร้างความรำคาญได้มากทีเดียว วิธีแก้ไข 1) ผ่าออก ซึ่งก็เหมือนๆกับการผ่าตากุ้งยิงออกธรรมดาหละ 2) ใช้น้ำร้อนประคบอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับทานยา ด็อกซีไซคลิน ในระยะนี้ ก้อนแข็งนี้ ไม่ได้มีอาการติดเชื้อแบคทีเรียแล้ว ดังนั้น การทานยาแก้อักเสบใดๆ จะไม่มีประโยชน์ ทั้งสิ้น ทางนี้เป็นทางเดียวเท่านั้น ที่ผมค้นพบในขณะนี้ ที่จะรอดจาก มีดหมอ ได้ ที่ว่า ประคบ น้ำร้อน อย่างบ้าคลั่ง นี่คือ ทำให้บ่อย มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ ติดต่อกัน ทุกๆวัน แต่จะมีอาการที่ดีขึ้น แต่ถ้าดูด้วยตาแล้วคือดูเหมือนจะแย่ลง นั่นคือ เปลือกตา ตรงรอบๆ ตุ่ม อาจจะเปื่อย มีหนอง และเลือด ไหล ออกมา แต่ นี่เป็น อาการที่ดี ครับ นั่นหมายถึง อะไรที่ไม่พึงประสงค์ข้างใน มันเริ่มระบายออกสู่ภายนอก แต่ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว ให้หยุดประคบน้ำร้อน จนกว่าแผลภายนอกจะหาย เพราะอาจเกิดการติดเชื้อรอบใหม่ได้ แต่ถ้าแน่ใจว่า ผ้าประคบ สะอาดจริง ก็จะเสี่ยงทำต่อ ก็ได้ แต่ไม่แนะนำ เมื่อแผลหายแล้ว จึงค่อยทำต่อ ถ้าโชคดี ไอ้ ก้อนแข็งที่เรียกว่า ชาเลเซี่ยน นี่ ก็จะหายไป ใช้เวลา เป็นเดือนๆ อยู่ แต่ถ้าไม่หาย ยังไง ก็คงหนีมีดหมอ ไม่พ้น แล้วล่ะครับ




 

Create Date : 07 มกราคม 2553
8 comments
Last Update : 15 มกราคม 2553 1:25:42 น.
Counter : 4830 Pageviews.

 

น่าลาก

 

โดย: ต๊อด IP: 202.183.171.1 29 มกราคม 2553 10:44:57 น.  

 

โทรหาหน่อยดิ0833701036

 

โดย: เอ IP: 61.91.188.117 24 มิถุนายน 2553 23:26:25 น.  

 

อยากทราบคาผ่าตัดซีสที่ตาค่ะเพราะเป็นเหมือนกันเลยอะเจ็บมากเปล่าช่วยตอบที่นะค่ะ

 

โดย: นางฟ้าตัวน้อย IP: 118.172.249.89 6 สิงหาคม 2553 21:24:43 น.  

 

ไม่เจ็บค่ะ ค่ารักษาเราประกันสังคมอ่าค่ะ

 

โดย: girlsaimtoone 9 สิงหาคม 2553 17:46:41 น.  

 

พอดีเรียนเทคโนสื่อฯที่รามเห็นเรื่องของคุณแล้วหน้าสนใจ อยากขอสัมภาษณ์คุณหน่อยคะ จะเอาไปทำงานส่งอาจารย์ ยังไงรบกวนช่วยติดต่อกลับที่เบอร์ 0891091193 หรือ sassygirl-nan@hotmail.com ด้วยนะคะ ขอบคุณมากนะคะ เพราะเรื่องของคุณจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นอีกมาก

 

โดย: บันทึกของพระจันทร์ IP: 192.168.1.128, 110.164.149.101 31 มกราคม 2554 18:40:21 น.  

 

ผ่าซีสที่โรงบาลไหนครับ จะพาน้องไปผ่าท่ีตา

 

โดย: ao. IP: 223.24.22.34 10 กรกฎาคม 2554 10:28:14 น.  

 

เจ็บมากไหม มีวิธีอื่นที่ไม่ต้องผ่าไหมอะ วางยาสลบปะ

 

โดย: กีต้าร์ IP: 180.183.72.98 12 ธันวาคม 2554 10:18:53 น.  

 

กลัวเหมือนกันนะค้ะ เรื่องการผ่าตัด โดยเฉพาะ ที่ตาเนี่ย
แล้วถ้าผ่าตัดออกมาแล้วนี่ ใช้ระยะเวลาในการรักษาประมาณกี่วัน ถึงจะหายค้ะ แล้ว มีรอยแผลเป็นหรือเปล่า ?

ยังไงก้อช่วยตอบกลับมาที่ loveyou_myhoney@hotmail.com ได้ไหมค้ะ ขอบคุณล่วงหน้าเ้ลยค่าาาา

 

โดย: AS IP: 115.67.64.61 29 มีนาคม 2555 12:20:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Nenejung N Nuy
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add Nenejung N Nuy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.