การบ้านประถมที่ป.โทยังต้องกุมขมับ ( T T )
ช่วงนี้เหนื่อยกับชีวิตพอสมควร งานเยอะ ความขี้เกียจแยะ หุ้นติดดอย เซ็งโบรกเกอร์จนต้องเปลี่ยนโบรกเกอร์ใหม่ และวิทยานิพนธ์ที่ยังไม่คืบหน้าจนแม่เด็กที่ไปเลี้ยงยังเอาไปแซว

ส่วนหนึ่งที่งานเยอะด้วยก็คือ...การบ้านของเด็กที่ไปเลี้ยงนี่แหละ

ย้อนกลับไปสมัยเราเด็ก ๆ ตอนอยู่ประถม เคยโดนพ่อเอาคันเบ็ดตกปลาฟาดอย่างแรง 2 คราว ด้วยข้อหาเดียวกันคือ...ไม่ทำการบ้านให้เสร็จแล้วทำเหมือนว่าทำเสร็จแล้ว

สมัยนั้นการบ้านถามว่าเยอะมั๊ย...ไม่เยอะมากหรอก แต่ด้วยความที่ตอนเด็กเราเขียนหนังสือช้า ทำอะไรก็ช้า...เป็นพวกเอ๋อ ก็เลยทำเสร็จช้า

การบ้านที่มีอย่างมากก็ 4 วิชา แต่เลขอย่างเดียวก็ทำเอาหมดเวลาแล้ว เพราะการบ้านวิชาเลขจะ fix ไว้เลยว่า...วันละ 3 หน้า บางวันมันก็เยอะ บางวันมันก็น้อย แต่ขั้นต่ำ ๆ ก็ 20-30 ข้อทุกวัน...แสดงวิธีทำโดยละเอียดด้วย จำได้ว่าตอนเด็กเวลาทำการบ้านโดยเฉพาะเรื่องสมการ จะต้องเขียนตั้งแต่โจทย์, ประโยคสัญลักษณ์, วิธีทำ (ขีดเส้นใต้ 2 เส้น), เขียนวิธีทำอย่างละเอียด แล้วก็เขียนว่า ตอบ (ขีดเส้นใต้ 2 เส้น) แล้วเขียนคำตอบลงไป...จนเราแทบจะร้องเนื้อหาในการบ้านเป็นเพลงได้เลย...เช่น แทนค่า ก ในสมการ อะไรแบบนี้

ทำการบ้านจนเอาเนื้อหาในการบ้านมาร้องเป็นเพลงได้...ก็เพราะต้องเขียนไอ้ที่ว่ามาซ้ำ ๆ กันไปวันนึงราว ๆ 20-30 ข้อทุกวันนั่นแหละ

วิชาอื่นไม่ต้องพูดถึง ข้าพเจ้าโยนทิ้งเรียบ ไปทำเอาที่โรงเรียนโน่น ถ้าขี้เกียจ ๆ หน่อยก็ลอกเพื่อนเอาล่ะกัน (แต่ไม่ได้ลอกแบบโง่ ๆ นะ ลอกไปคิดไป ตรงไหนสงสัยก็ถามเพื่อนด้วย)

ครอบครัวของเราไม่ได้มาเอาใจใส่เราในเรื่องเรียนมากนัก...สิ่งเดียวที่บ่งบอกว่าที่บ้านใส่ใจเรื่องเรียนของเราคือ คำด่าและคำค่อนขอดของพ่อกับอาเท่านั้น

แต่พอตอนนี้ จากนักเรียนป.6 ก็กลับกลายสภาพเป็นพี่เลี้ยง+ครูสอนเด็กป.6 แทน...แต่เด็กป.6 สมัยเรากับเด็กป.6 สมัยนี้มันย่อมไม่เหมือนกันตามกาลเวลาและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป

การบ้านแม่งอย่างเยอะ!!!

เด็กที่เราไปสอน เรียนโรงเรียนที่เป็นต้นเรื่องหวัดสายพันธุ์ใหม่นี่แหละ เป็นโรงเรียนที่โคตรอภิมหายัดวิชาเรียนให้เด็กสุด ๆ

สมัยเด็ก ๆ เราเรียนประมาณ 8 วิชา มีการบ้านราว ๆ 3-4 วิชา ก็ทำแค่วิชาเดียว...เลข ยังเกือบตาย การบ้านกินเวลาไป 1 ใน 5 ของชีวิตเลยทีเดียว

แต่เด็กที่เราไปเลี้ยง โรงเรียนมันจัดให้เรียนราว ๆ 12 วิชาได้ เป็นวิชาที่ต้องเรียนหลักสูตรทั้งไทยและอังกฤษอยู่ราว ๆ 3-4 วิชา มีเลข สังคม วิทย์

ทั้ง 12 วิชา มีการบ้านหมด แม้กระทั่งสุขศึกษา วันหยุดแทบไม่ได้พัก ต้องนั่งทำแต่การบ้านแล้วก็การบ้าน ยิ่งวันหยุดนี่ตัวแสบเลย ยัดการบ้านมาเป็นภูเขา

แล้วการบ้านมันก็เหมือนการบ้านเราสมัยเด็กเลยคือเน้นปริมาณ ไม่เน้นคุณภาพ เหมือนวิชาเรียนที่มันสอนนั่นแหละ เน้นปริมาณให้ดูเด่น แต่คุณภาพแม่งไม่เอาอ่าว...

ทำไมต้องเรียนหลักสูตรภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ทั้ง ๆ ที่มันก็เนื้อหาเหมือนกัน ก็ให้มันเรียนเป็นภาษาอังกฤษไปเลยดิวะ จะมาให้เรียนทั้งแบบไทยและอังกฤษทำไม

เรียนแล้วก็สั่งการบ้าน...การบ้านเด็กประถมที่แม้แต่นักศึกษาป.โทยังต้องกุมขมับ...สั่งการบ้านเห้อะไรของมัน การบ้านตอนป.โทยังง่ายกว่าเลย

อย่างเช่นปีที่แล้ว...สั่งให้วาดการ์ตูนภาษาอังกฤษ พร้อมข้อกำหนดเพียบ...แม่งเอ๊ยเด็กป.5 วาดการ์ตูน ถ้าไม่มีพรสวรรค์จริง ๆ อย่าหวังว่ามันจะวาดได้...แล้วแม่เด็กให้เราวาดด้วย เจริญเถิดครับ ประสบการณ์การวาดการ์ตูนของข้าพเจ้าเนี่ยต่ำกว่าเด็กประถมหลาย ๆ คนแน่นอน

พอขึ้นป.6 วิชาคอมพิวเตอร์ ให้ตอบคำถามว่า คอมพิวเตอร์เอาไปใช้อะไรได้ในชีวิตประจำวัน...ง่าย ถ้าไม่แบ่งหมวดหมู่มา แล้วมีคำว่า environment กับ sport...

คอมพิวเตอร์กับสิ่งแวดล้อม...มืดบอดเลยครับ เอาคอมมาใช้ด้านสิ่งแวดล้อม ทำไรได้ฟระเนี่ย ไอ้ที่คิดได้คือ เอามาใช้ทำแบบจำลองวิเคราะห์สภาพแวดล้อมเพื่อการอนุรักษ์...เด็กป.6 มันคงคิดได้หรอกนะ ท้ายที่สุดตอบไปว่าเอามาใช้พยากรณ์อากาศ

ส่วนกีฬา อันนี้ล่ะมึนตึ๊บ เอามาทำไรได้วะเนี่ย...ต้องเขียนเป็นภาษาอังกฤษด้วย

ทำไมการบ้านเด็กสมัยนี้มันถึงได้ยากและเยอะมหาศาลแบบนี้เนี่ย

แม่เด็กยังพูดกับเราประจำเลยว่า...สั่งการบ้านมาแบบนี้เด็กที่พ่อแม่ไม่มีเวลามาดูแลจะทำได้เหรอ

ก็ไม่ได้ไงครับ ถ้าสมัยประถมเราเจอการบ้านแบบนี้ก็คงบ๊ายบายไม่ทำเหมือนกัน...ใครจะไปทำได้หมดวะ เยอะ ยาก...ยากแบบไร้สาระด้วย เหมือนอวดว่าครูฉลาดยังไงยังงั้นเลย

ระบบการศึกษาบ้านเรามันเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย เน้นปริมาณไม่เน้นคุณภาพ ทุกวันนี้คนจบปริญญาตรี โทมันเลยเยอะมากแต่หาคุณภาพไม่ได้ แล้วระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานของเด็กก็ยังปลูกฝังเรื่องนี้เข้าไปอีก

คิดแล้วอนาถว่ะ อนาคตถ้าเกิดมีลูกขึ้นมาแล้วลูกต้องมาเผชิญอะไรแบบนี้มันคงเป็นกรรมอันหนักหนาสาหัสของลูก...และก็เราด้วย

เอาน่ะ...เรายังหาแม่ของมันไม่ได้เลยนี่หว่า

แต่...สมัยเด็กเราไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเป็นครูสอนเด็กเลย...โตมากลับต้องมาเป็นครูสอนการบ้านเด็กแทน...ระวัง ๆ ไว้มั่งดีกว่าแฮะ



Create Date : 30 มิถุนายน 2552
Last Update : 30 มิถุนายน 2552 5:11:21 น.
Counter : 1047 Pageviews.

7 comments
  
จำได้เลย ตอนประถม การบ้านเยอะโคตร ทำไม่เคยเส็ด เพราะครูสั่งการบ้านเยอะจิงๆ ให้ที่บ้านช่วยทำตลอด

ตอนนี้เด็กประถมการบ้านเยอะเหมือนเดิม
โดย: The Start of something new วันที่: 30 มิถุนายน 2552 เวลา:6:01:11 น.
  
โห หลานเราจะไปเข้าโรงเรียนนี้ด้วย

เริ่มสงสารมันแล้วอะ
โดย: แปรงสีฟันเดียวดาย วันที่: 30 มิถุนายน 2552 เวลา:8:16:01 น.
  
ฮ่าๆๆๆขำมากเลย กับคำตอบที่เตรียมตอบการบ้าน

คอมพิวเตอร์กับสิ่งแวดล้อม และการกีฬา

คำถามดีมากเลยค่ะ ลองคุยกับเด็กให้แตก line มากๆสิ จะสนุกมาก

เขียนคำว่าคอมพิวเตอร์ไว้ตรงกลางหน้ากระดาษ
แล้วทำวงกลมรอบคำ
ลากเส้นออกไปเขียนคำว่า"สิ่งแวดล้อม" แล้ววงกลมรอบคำ
แล้วลากเส้นออกไปสักอีกประมาณ 6 เส้น เพื่อหาคำตอบ ว่ามันเกี่ยวอย่างไรบ้าง ...อย่างนี้เรียกว่าฝึกคิดวิเคราะห์.. ค่ะ สนุกดี ลองเล่นสิ
-เอาไว้วิเคราะห์สภาพแวดล้อม
-เอาไว้พยากรณ์อากาศ
-เอาไว้ทำสิ่งดีๆได้หลายอย่าง ฯลฯ

แต่ควรคิดแบบกลับด้านบ้าง
-ชิ้นส่วนคอมทำให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายยากไหม
-มีผลต่อสภาวะจิตใจของคนในแวดล้อมเราไหม(แบบมัวอยู่หน้าคอมจนไม่มองหน้ากัน เหอๆๆๆ)
-เกิดเชื้อโรคแพร่ระบาด เพราะแป้นคอมไหม(คอมสาธารณะ)


แล้วคำว่ากีฬา ก็ทำเหมือนๆกัน

ลองคุยกัน บางทีเด็กตอบมา เราอาจอึ้ง!!!
โดย: วันจัน วันที่: 30 มิถุนายน 2552 เวลา:10:43:40 น.
  
ทำ mind mapping น่ะเหรอครับ ไม่ต้องห่วง เด็กคนนี้...มันไม่คิดครับ ฝึกให้มันคิดเอง...ไม่มีทาง เสียเวลา การบ้านอย่างอื่นก็เยอะด้วยครับ แล้วครูที่โรงเรียนนั้นก็สั่งให้ทำ mind mapping มาหลายอันแล้ว...คนทำก็เป็นผมนี่แหละที่ต้องมานั่งคิดแทบทุกที

ใครจะว่ายังไงไม่รู้ แต่ผมไม่เคยเห็นว่า mind mapping จะช่วยฝึกให้คิดอะไรได้เลย เพราะถ้าคิดได้เนี่ย ไม่ต้องวาด mind mapping ก็คิดได้ครับ ผมหัดวาดมาตั้งแต่ม.6 นี่ก็ 10 ปีแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจซักเท่าไหร่
โดย: DarthTrowa วันที่: 30 มิถุนายน 2552 เวลา:11:29:35 น.
  
ดีคร๊า

ขอบคุง..ที่แวะปายทักทายกันหนัยบล๊อคน๊า
โบว์เพิ่งอัพบล๊อคเสร็จค่ะ
เลยแวะมาเม้นๆๆๆให้
ช่วงนี้..ไข้หวัดระบาด
ดูแลสุขภาพด้วยน่ะ
มิสๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: โบว์ริ้ง (INGING777 ) วันที่: 3 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:52:51 น.
  
เด้าถึงว่าเกลียดอะไรได้อย่างนั้น พี่เลยต้องกลายมาเป็นครุสอนเด็ก อิอิ เอาน่าอย่าเสียใจไป ช่วยพัฒนาอนาคตของชาติเรา ดีกว่า ไม่ทำอะไรเลยเน๊าะ สู้ๆๆ
โดย: Phannaploy วันที่: 4 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:45:04 น.
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โดย: ม๊ามี๊น้องอิงอิ๊ง (INGING777 ) วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:34:16 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

DarthTrowa
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มิถุนายน 2552

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
 
 
All Blog
MY VIP Friend