รุ่นนี้ไม่ใช่รุ่นปกติ!!!
|
|||
ดูมาแล้ว ม.3 ปี4 เรารักนาย ( T T ) ก่อนที่จะอ่านต่อไป บอกไว้ก่อนว่า ใครที่คิดจะไปดูเรื่องนี้ กรุณาปิดไปดีกว่า เพราะงานนี้ เล่าเรื่องไม่มีกั๊ก พร้อมคำวิจารณ์ด้วย แต่ไม่ให้คะแนนนะ ม.3 ปี 4 เรารักนาย เรื่องเริ่มมาจาก "นัท" เด็กหนุ่มชั้นม.3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ นัทรู้จักกับ "แจน" เด็กสาวชั้นม.3 เหมือนกันมั๊ง ที่โรงเรียนสตรีประจำจังหวัดภูเก็ต (คิดว่านะ) ผ่านทาง msn โดยที่ทั้งคู่ไม่เคยเจอหน้ากัน แจนอาศัยอยู่กับแม่และพี่สาวชื่อ "จูน" โดยแม่เปิดร้านติ่มซำอยู่ที่ภูเก็ต (ร้านภูเก็ตติ่มซำ) จูนเรียนอยู่ปี 4 ที่มหา'ลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต (ภูเก็ตมีมหาลัยอะไรมั่งวะเนี่ย...อันนี้ไม่รู้จริง ๆ ไม่ได้จับผิด) โดยหลังจากที่พ่อเสีย จูนก็ต้องดูแลแม่และน้อง ทำให้จูนเป็นผู้หญิงที่มีบุคลิกห้าว ดุ โหด แถมหวงน้องสาวอีกต่างหาก ส่วนนัทก็มีพี่ชาย 1 คนชื่อ "ธีร์" เป็นนักศึกษาทันตแพทย์ปี 4 ซึ่งกำลังเป็นทันตแพทย์ฝึกหัดอยู่ที่โรงพยาบาลกลาง โดยมีคนไข้ที่ต้องดูแลประจำคือ "ป้าแหม่ม" (จริง ๆ เป็นยายได้แล้ว) ธีร์เป็นชายหนุ่มที่มีสาว ๆ ติดตรึม ก็แน่ล่ะ หน้าตาก็ดี (แต่เราว่าไม่ใช่เทรนด์สาวสมัยนี้นะ แต่ก็ดูดีกว่าเราแน่นอน) มีตังค์ (คอนโดหรู ขับรถมินิคูเป้ แพงโคตร ๆ ๆ ๆ) สาว ๆ ที่ไหนก็อยากได้ไปเป็นแฟนทั้งนั้น ทำให้ธีร์เบื่อผู้หญิงพวกนี้มาก แต่แล้วธีร์ก็ได้เจอหญิงสาวลึกลับคนหนึ่งหน้าตาสวยใส่ชุดหรูแต่ใส่รองเท้าผ้าใบยืนเปลี่ยนยางรถอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามผับที่ธีร์มาเที่ยว ธีร์เกิดความประทับใจในหญิงสาวลึกลับคนนั้นมาก แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะไปเจอเธอได้ที่ไหน ป้าแหม่มก็ช่วยลุ้นกับความรักของธีร์ โดยขั้นแรกคือ "ต้องไปรอในที่ที่เจอ" หลังจากที่นัทได้ดูรูปของแจน จู่ ๆ นัทก็มาปรากฏตัวที่หน้าบ้านของแจนโดยไม่ได้บอกกล่าวก่อน ซึ่งก็ทำให้จูนไม่ค่อยจะชอบใจนัก ทำตัวขวาง ๆ นัทกับแจนอยู่เรื่อยไป และด้วยความที่อยู่ ๆ นัทก็หายไปจากบ้าน ธีร์ก็เป็นห่วงน้องชายเลยโทรตาม แต่เสียงที่รับกลับเป็นเสียงของจูน ธีร์ก็เลยว๊ากใส่หาว่าเป็นยัยป้าแก่ ๆ มาหลอกน้องชายของธีร์ แน่ล่ะว่าใครเจอแบบนี้ก็ปรี๊ดแตกทั้งนั้นแหละ ซึ่งอารมณ์ร้อนแบบจูนไม่มีทางที่จะเย็นลงแน่ แต่พอธีร์มาเจอจูนก็ถึงกับอึ้ง เพราะจูนก็คือหญิงสาวลึกลับคนนั้น แต่จูนเองคงไม่ได้รู้สึกประทับใจด้วยแน่นอนล่ะ (งานนี้มีเละ เสียงกรี๊ดดังสนั่น) ด้วยคำเชียร์ของป้าแหม่มว่า...ต้องเคลียร์ ธีร์ถึงกับลงทุนด้วยการนั่ง "เครื่องบิน" ไปหาจูนที่ "ภูเก็ต" ทุกเช้าเพื่อไปทำคะแนนชนะใจจูน แล้วก็กลับมาดูแลป้าแหม่มต่อตอน "9 โมงครึ่ง" ที่โรงพยาบาลกลางทุกเช้า ซึ่งก็ทำคะแนนได้เยอะล่ะ เพราะต่อหน้าแม้จูนจะตีหน้ายักษ์ใส่ แต่ลับหลังก็แอบอมยิ้มกับพฤติกรรมของธีร์บ่อย ๆ โดยมีนัท แจนและแม่ของ 2 พี่น้องคอยลุ้นอยู่ (แจนนี่ลุ้นแบบออกนอกหน้าทีเดียว ถึงขั้นที่ขอคำสัญญาจากธีร์ว่า "อย่าทำให้พี่จูนเสียใจนะ") แต่จูนก็ใช่ว่าจะไม่มีคนสนใจ ยังมีเพื่อนชายอีกคนคือ "บอย" ที่แอบชอบจูนเงียบ ๆ แต่เมื่อเห็นธีร์มาวุ่นวาย ก็เลยสารภาพรักด้วยวิธี...ดักจูนแล้วดึงมากอดแล้วก็พูดว่า เราชอบจูนนะ เราไม่อยากเสียจูนให้คนอื่นไป (ประทานโทษ หน้าตากับวิธีการนี่ขัดกันอย่างเห็นได้ชัดเจนสุด ๆ หน้าตาพี่ท่านเนี่ย ออกโหด ๆ มีสักด้วย แต่ดันมาทำวิธีเด็กอมมือมากซะยังงั้น) บังเอิญตอนที่กอดเนี่ย ธีร์ดันมาเห็นพอดี ธีร์ก็เลยเกิดอาการงอนหนีกลับกรุงเทพทันที ธีร์กลับมากรุงเทพด้วยใจที่บอบช้ำจากภาพบาดตา กลับต้องมาเจอความโหดร้ายซ้ำสอง เมื่อเขากลับมาหาป้าแหม่มที่โรงพยาบาล กลับกลายเป็นว่าป้าแหม่มเสียชีวิตแล้วเมื่อเช้านี้...ป้าแหม่มที่เป็นโค๊ชที่คอยแนะนำเรื่องความรักให้ธีร์จากโลกนี้ไปแล้ว ขณะที่ชีวิตและจิตใจธีร์บอบช้ำถึงขั้นปล่อยตัวเละเทะเมามาย ความสัมพันธ์ของนัทและแจนเองก็เริ่มเกิดรอยร้าวขึ้นมาเช่นกันเมื่อแจนไม่พอใจที่ธีร์หนีจูนกลับกรุงเทพโดยไม่ยอมรับรู้ความจริง แจนรู้สึกว่าการกระทำแบบนี้ "ไม่แมนเลยว่ะ" ส่วนนัทก็ตอกกลับไม่แพ้กันว่า "ไม่นึกว่าผู้หญิงภูเก็ตจะเป็นแบบนี้" ทั้งคู่ทะเลาะกันใหญ่โตถึงขั้นตัดความสัมพันธ์กัน แต่ถึงแม้ความสัมพันธ์จะขาดกันไป แต่ 2 คนพี่น้องก็ยังมีเยื่อใยให้อีกฝ่ายอยู่ ธีร์เองก็ยังแอบบินไปดูจูนอยู่บ้าง ส่วนนัทเองก็เพียรเฝ้าหน้าจอ msn ทุกวันว่าเมื่อไหร่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ร่าเริงคนนั้นจะกลับมาออนไลน์อีกครั้ง เมื่อธีร์ทำใจได้ ธีร์ก็ตัดสินใจกลับไปเพื่อจะขอโทษจูน แต่ทันทีที่ลงจากรถ ภาพที่ธีร์เห็นคือขบวนแห่งานศพแบบจีน มีจูนเดินนำหน้า ในมือถือรูปของแจน...แจนเสียชีวิตแล้ว (ไอ้คนเขียนบทแม่งโคตรโหดเลยว่ะ) สาเหตุของการเสียชีวิตก็คือ วันนึงขณะที่ 2 คนพี่น้องขับรถไปส่งของตามปกติ วันนั้นฝนตกหนักมาก ที่ปัดน้ำฝนซึ่งจูนปฏิเสธว่าจะซ่อมมาตั้งแต่ต้นเรื่องก็ยังเสียอยู่ จูนก็ขับรถไปพลางชะโงกตัวมาเช็ดกระจกไปพลาง แล้วก็มีรถบรรทุกวิ่งสวนทางมา จูนหักหลบจนรถพลิกคว่ำหลายตลบ จูนเจ็บหนัก แจนเสียชีวิต ซึ่งเป็นปมที่ทำให้จูนโทษตัวเองตลอดว่า...จูนทำให้แจนตาย ธีร์เองก็พยายามที่จะคอยดูแลปลอบใจจูน แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น วันหนึ่งจูนเปิดคอมและ msn ของแจน ก็เห็นนัทซึ่งเพียรพยายามที่จะขอโทษแจนตลอดเวลา จูนก็พิมพ์ตอบกลับไปโดยสมมติว่าตัวเองเป็นแจน ในตอนนั้นธีร์กำลังจะบอกนัทว่าแจนเสียแล้ว แต่เสียง msn ที่ดังขึ้นมาทำให้นัทหันมาดูแล้วก็พูดอย่างดีใจว่า "เดี๋ยวนะพี่ขอคุยกับแจนก่อน" ธีร์ลากตัวจูนออกมาแล้วพยายามพูดให้จูนเข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาไม่ใช่ความผิดของจูนเลย และตอนนี้จูนกำลังทำอะไรอยู่ แต่จูนก็ไม่พยายามจะเข้าใจ ซ้ำยังออกปากไล่ให้ธีร์กลับกรุงเทพไป ธีร์กลับกรุงเทพมาแล้วเจอนัทกำลังคุย msn อยู่ ธีร์เลยบอกนัทว่าให้บอกไปว่าธีร์อยากคุยกับจูน ขอให้แจนบอกให้จูนรับโทรศัพท์หน่อย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น จูนมองโทรศัพท์ แล้วก็เห็นแจนมานั่งอยู่ข้าง ๆ พยักหน้าให้จูนรับโทรศัพท์ของธีร์ จูนรับโทรศัพท์แต่ไม่ได้พูดอะไร เมื่อจูนหันกลับมา แจนหายไปแล้ว จูนทิ้งโทรศัพท์ร้องเรียกหาแจนแล้ววิ่งไปทั่วบ้าน ธีร์ได้ยินโดยตลอดจึงบอกกับนัทว่า พรุ่งนี้เราไปภูเก็ต ไปหาแจนด้วยกันนะ... จูนวิ่งหาแจนที่ไม่มีทางหาเจอจนเหนื่อยจึงกลับมาที่บ้าน พบแม่นั่งร้องไห้อยู่ จูนปลอบแม่ว่า แม่ร้องไห้ทำไม แม่อย่าร้องไห้สิ แม่ร้องไห้แล้วไม่สวยเลยนะ แจนเคยบอกว่าแม่ยิ้มแล้วสวยที่สุดเลย แม่หันมามองจูนแล้วบอกว่า "ในชีวิตแม่มีเรื่องเศร้าอยู่ 2 ครั้ง ครั้งแรกที่พ่อเสีย ครั้งที่ 2 ที่น้องแจนเสีย แล้วตอนนี้แม่ก็กำลังจะเสียจูนไปอีกคน จะไม่ให้แม่เศร้าได้อย่างไร" เมื่อนัทมาถึงก็ได้ทราบความจริงว่าแจนเสียแล้ว นัทขอร้องให้พาไปที่แหลมพรหมเทพ ซึ่งเป็นที่ ๆ แจนบอกว่าเป็นที่สำคัญของแจน และเป็นที่ ๆ แจนกับนัทสัญญากันว่า เมื่อถึงเวลาแล้วจะบอกว่าที่นี่สำคัญอย่างไร แจนเคยบอกว่า มันยังไม่ถึงเวลา จูนเองก็พูดกับนัทแบบเดียวกัน เมือถึงเวลาที่เหมาะสม แสงอาทิตย์ที่สาดส่องมาเป็นลำสะท้อนกับผิวน้ำทะเลสวยงามมาก จูนบอกว่า ที่นี่เป็นสถานที่ที่พ่อขอแม่แต่งงาน จู่ ๆ ภาพที่ปรากฏตรงหน้านัทก็คือ แจน สาวน้อยใน msn ที่เขารัก ทั้งสองกอดกันพลางพร่ำบอกถึงความคิดถึงที่มีต่อกัน และแจนพูดว่าเสียดายที่ไม่อาจรักษาสัญญาที่อีก 20 ปีจะมาที่นี่ด้วยกัน แล้วก็อะไรต่าง ๆ อีกมากมาย (จำไม่ได้) ตอนนี้ความเศร้าในใจของทุกคนเรื่องแจนก็มลายสิ้นไปแล้ว ธีร์ก็บอกกับจูนว่า "เราคบกันได้มั๊ย" แต่คำพูดของจูนคือ "เราคบกันแบบเพื่อนไม่ได้เหรอ" คำตอบที่ธีร์ตอบกลับมาคือ "ถ้าเรารักใครแล้ว เราไม่อาจเป็นเพื่อนกับคน ๆ นั้นได้หรอก" (โดนใจว่ะ บางคนชอบถามเหลือเกิน เป็นแฟนไม่ได้แล้วเป็นพี่น้องหรือเพื่อนกันได้มั๊ย คำตอบก็นี่ไงล่ะ) ธีร์และนัทกลับไปแล้ว จูนถามแม่ว่า เวลาที่แม่ลังเลใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร แม่จะทำอย่างไร...แม่ตอบว่า ต้องถามความรู้สึกตัวเองสิว่าเราต้องการอะไรกันแน่... จูนยืมรถจักรยานปั่นมาเพื่อจะมาหาธีร์ที่สนามบิน แต่ก็สายไป... ที่ร้านเน็ท จูนออน msn ของแจน แล้วก็บอกผ่านไปยัง msn ของนัทว่า จูนก็รู้สึกดี ๆ กับธีร์นะ แต่สิ่งที่ตอบกลับมาเป็นทำนองว่า ธีร์ไม่อาจรับความรู้สึกแค่เพื่อนของจูนได้ (อะไรทำนองนี้แหละ จำไม่ได้แล้ว) แล้วก็มีเสียงนึงถามว่า "คุยกับใครอยู่เหรอ" "ก็คุยกับธีร์...ธีร์" ชายหนุ่มยืนอยู่ข้างหลังหญิงสาว เขาไม่ได้บินกลับกรุงเทพไปหรอก คนที่พิมพ์ตอบมาก็คือนัทนั่นเอง ซึ่งธีร์ก็บอกจูนว่า อย่าไปโกรธนัทเลย นัทพูดแทนความรู้สึกของธีร์ทั้งหมดแหละ.... และเรื่องราวปัญหาความรักของทั้งคู่ก็จบลงอย่างสวยงาม เหมือนจะดีเนอะ แต่ขอวิจารณ์หน่อยล่ะกัน อย่างแรกที่ทำให้รู้สึกอยากไปดู เหตุผลสั้น ๆ ง่าย ๆ จนน่าแปลกใจ "โปสเตอร์ครับ" คือนั่งรถผ่านแล้วมองไปที่โปสเตอร์เรื่องนี้แล้วเห็นภาพนางเอกมุมนึง...ช่างเหมือนกับคน ๆ นึงที่เรารู้สึกดี ๆ ด้วยมากเหลือเกิน โอเคคน ๆ นั้นอาจจะไม่สวยใสเท่านางเอก แต่มุมนั้นพอมองแล้วให้ความรู้สึกว่า...เหมือนจริง ๆ เห็นแล้วคิดถึงเลย เหตุผลมีแค่นี้จริง ๆ เพราะเรื่องรักผ่านเน็ทอะไรเนี่ยไม่มีเรื่องไหนสู้เรื่อง You've got mail. ที่ทอม แฮงค์ เล่นคู่กับเมก ไรอัน เมื่อ 10 ปีก่อนไม่ได้หรอก เรื่องนั้นเป็นเรื่องแรกของโลกที่จับประเด็นเรื่องรักผ่านเน็ทเลยทีเดียว และเป็นภาพยนตร์ที่ถือว่าขึ้นหิ้งไปแล้ว แต่เมื่อดูจบ ความรู้สึกก็คือ... ข้อดี 1. ภาพสวย ไม่ได้หมายถึงมุมกล้องหรือองค์ประกอบภาพนะ อันนั้นเราว่าไม่เวิร์ก แต่ภาพสวยในที่นี้คือ เป็นหนังไทยเรื่องแรก (ที่เราเคยดู) ที่เน้นการเล่นโทนสีเพื่อบรรยายอารมณ์ในแต่ละฉาก อย่างช่วงที่แจนยังอยู่โทนสีก็จะออกสดใส พอแจนเสียชีวิตไปโทนสีก็จะกลับเป็นโทนสีขาวดำ ให้ความรู้สึกเศร้าสร้อย หม่นหมอง อึมครึม แต่ตอนท้ายเรื่องจะเน้นโทนสีอุ่น เพื่อให้ผู้ชมได้รับรู้ถึงอารมณ์จากความอบอุ่นในใจของตัวละคร 2. นักแสดงน่ารักดีทั้งบัว (จูน) และแจม (แจน) ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่ารูปบัวนั้นแหละที่ทำให้เราไปดูเรื่องนี้ แต่พอดูแล้วบอกเลยว่าแจมข่มบัวได้เยอะกว่ามาก ด้วยภาพลักษณ์ใส ๆ ร่าเริง แล้วมีความรู้สึกว่าเล่นได้เป็นธรรมชาติมากกว่าบัวเยอะเลย อันนี้ความรู้สึกของเรานะ แต่ทั้งคู่ก็ดูแล้วน่ารักจริง ๆ นอกจากนี้ยังมีนักแสดงอีก 2 ท่านที่เล่นได้ดีมาก ๆ เลยคือป้าจุ๊ (ป้าแหม่ม) และคุณต่าย เพ็ญพักตร์ (แม่ของจูนกับแจน) ป้าจุ๊เรียกเสียงฮาได้ทุกครั้งที่ออกมา เสียดายบทน้อยไปนิด น่าจะมีบทในเรื่องไปนาน ๆ ส่วนคุณต่ายเล่นได้เยี่ยมมาก ดูแล้วเชื่อเลยว่าเป็นแม่ที่ใจดีมาก ๆ (ทั้ง ๆ ที่เราว่าหน้าดุนะ) แล้วบทเศร้าที่เราว่าเศร้าที่สุด ก็อยู่ที่คำพูดที่แม่ของจูนพูดเรื่องความเศร้าของแม่นั่นแหละ ช๊อตนั้นอ่ะเด็ดที่สุดในเรื่องแล้ว ดูแล้วเศร้ามากจริง ๆ ข้อเสีย 1. ทำไมหนังไทยชอบใส่ความ "บังเอิญ" เข้าไปเยอะเหลือเกิน อะไร ๆ ก็บังเอิญ บังเอิญธีร์เจอจูนแล้วปิ๊งกัน แล้วบังเอิญที่นัทกับแจนซึ่งเป็นน้องของทั้งคู่กลับเป็นคนที่คุยกันอยู่แล้วผ่าน msn บังเอิญที่ธีร์มาเห็นจูนโดนบอยกอดจนถอดใจหนีกลับกรุงเทพ บังเอิญที่พอกลับกรุงเทพแล้วป้าแหม่มก็เสียชีวิตในช่วงเวลาที่ธีร์กำลังต้องการคำปรึกษาจากใครซักคน บังเอิญที่ธีร์ลงจากรถมาแล้วเจอจูนถือรูปแห่งานศพแจนผ่านหน้าบ้านพอดีเด๊ะ...เฮ้ย นี่มันไม่บังเอิญมากไปหน่อยเหรอ ในการแต่งนิยาย ความบังเอิญสามารถใส่เป็นปมประเด็นของเรื่องได้ว่าปัญหาที่เกิดมาจากความบังเอิญ...แต่ไม่ควรจะบ่อย ชีวิตจริงเราไม่มีใครบังเอิญได้ขนาดนั้นหรอก อย่างเรื่อง You've got mail. ความบังเอิญของเรื่องมีแค่อย่างเดียวคือพระเอกกับนางเอกสนิทกันจากการส่งเมล์หากัน แต่ในชีวิตจริงทั้งคู่เป็นคู่กัดทางธุรกิจกัน แค่นั้นเอง ที่เหลือไม่มีความบังเอิญ มันเป็นไปตามสิ่งที่มันดำเนินไป ก็เท่านั้น... นิยายที่เราเขียน (จนบัดนี้ยังเขียนไม่เสร็จ) ใส่ความบังเอิญลงไปเป็นเมนหลักของเรื่องอยู่ปม - 2 ปม เรายังไม่ค่อยชอบเลย แล้วอันนี้ใส่ไปเกือบทุกช่วงของเรื่อง แล้วมันจะได้เรื่องรึ 2. รู้สึกว่าคนเขียนบทมันโหดเกินไป หนังโทนนี้ตัดคนตาย 1 คนก็ถือว่ามากพอแล้ว นี่ล่อตัดทิ้ง 2 คนนี่ออกจะโหดไปหน่อย แถมตัดแจนที่เป็นสีสันของเรื่องออกไปด้วยเนี่ย....แบบว่าเซ็งเลย มาดูหนังรักนะ ไม่ได้มาดูหนังปัญหาชีวิต แล้วปกติคนเราน้อยคนนะที่จะเจอคนรู้จักตายติด ๆ กัน 2 คน แล้วจริง ๆ ไม่ต้องให้แจนตายหรอก แค่บอกว่าเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะฟื้น แค่นี้จูนก็สามารถโทษตัวเองได้พอ ๆ กับแจนตายแล้ว ไม่เห็นต้องตัดให้ตายไปเลย (แอบเสียดายนะ เพราะน้องแจมเล่นได้น่ารักสดใสมากทีเดียว) 3. ไม่เนียน...รายละเอียดเก็บได้ยอดแย่ ไม่เคยดูหนังเรื่องไหนแล้วจับผิดได้มากเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต เอาเป็นฉาก ๆ เลยนะ 3.1 เปิดมาฉากแรก ร้านเน็ทแถวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คือ คนเล่นเน็ทในร้านนั้นเนี่ยเป็นเด็กนักเรียน แล้วตามเนื้อเรื่องมีเวลาเข้าเรียน 8 โมงแล้วเด็กรีบเก็บของไปเรียน แถวนั้นน่ะ โรงเรียนที่มีใกล้ ๆ เลยนะคือสตรีวิทยากับวัดบวรนิเวศน์ซึ่งเป็นโรงเรียนรัฐ แต่เครื่องแต่งกายแบบในเรื่องน่ะมันโรงเรียนเอกชนชัด ๆ แล้วโรงเรียนเอกชนที่ใกล้ที่สุดในย่านนั้นคือเซนต์คาเบรียลกับเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์ ซึ่งใกล้ที่สุดก็อยู่ไปทางซังฮี้แล้วนะ จะมาเล่นเน็ทอะไรแถวนั้น แถวหน้าโรงเรียนมันก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ ไม่ไปเล่นล่ะวะ 3.2 หน้าจอ msn ข้าพเจ้าไม่ได้อยากจับผิดนะ แต่ด้วยความที่เล่นคอมมาเป็น 10 ปี มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าหน้าจอวินโดวส์แบบนี้ใช้โปรแกรมอะไร (ไม่เอาแบบหนังฝรั่งนะ ที่แบบว่ามาเป็นหน้าจอแฮกเกอร์ อันนี้มิสามารถ) ที่เราเห็นในเรื่องคือหน้าจอ msn ปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ taskbar พี่แกลอยอยู่กลางจอ พอมองลงมาที่ขอบจอ เฮ้ย Windows media player นี่หว่า จะเปิดวิดีโอโชว์เหมือนว่ากำลังคุย msn อยู่ก็ให้มันเนียน ๆ กว่านี้หน่อยก็ได้ เปิดโหมดเต็มจอซะแค่นี้ก็ไม่เห็นแล้วว่าเป็นการ capture ภาพวีดีโอบนหน้าจอเอามาฉายแทนที่จะให้กดเล่นจริง ๆ 3.3 เวลาในเรื่องตอนที่ธีร์ตามไปง้อจูนที่ภูเก็ตทุกเช้า...คือเครื่องบินจากกรุงเทพไปภูเก็ตวันนึงมันมีหลายเที่ยวมาก และก็รู้ว่าบ้านธีร์มันรวย แต่ว่าการที่ไปขึ้นเครื่องบินไปตั้งแต่เช้า (ไม่มืดด้วย) ไปถึงภูเก็ตแล้วก็เช่ารถมอเตอร์ไซค์ขับเข้าเมืองไปหาจูน (ตอนนั้นสว่างแล้วด้วย) แล้วก็ขับรถบุโรที่ไม่รู้จะเสียเมื่อไหร่ทั่งไปส่งติ่มซำ (เออนึกขึ้นได้อย่างนึง...รถคันนี้จูนขับแล้วเสียประจำ แต่ธีร์ขับไม่เห็นเสียเลย) แล้วก็กลับมานั่งเครื่องบินกลับมาถึงโรงพยาบาลกลางตอน 9 โมงครึ่ง...9 โมงครึ่งจริง ๆ ตอนนั้นเหลือบไปเห็นนาฬิกาในหนังพอดี คือ...จากสุวรรณภูมินั่งรถกลับมาโรงพยาบาลกลางในชั่วโมงเร่งด่วนเนี่ย ออก 7 โมงก็ยังไม่แน่เลยว่าจะถึงโรงพยาบาลกลาง 9 โมงครึ่งรึเปล่า แล้วนี่บินมาจากภูเก็ต โอ้ว...พระเจ้ามันทำไปได้ยังไงเนี่ย ใครช่วยบอกที 3.4 อีกอันที่รู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้คือ...บอย เพื่อนช่างซ่อมรถที่แอบชอบจูน ในเรื่องหน้าตาโหดมาก มีรอยสักด้วย ท่าทางหาเรื่องมาก แต่กลับมาสารภาพรักกับจูนด้วยการดึงไปกอดแล้วบอกรักจูน...เอ่อคือ หน้าตายังงี๊เนี่ยในชีวิตจริงมันคงไม่ฉุดมากอดสารภาพรักหรอกครับ โน่นฉุดลงไปปล้ำพุ่มไม้ข้างทางเลยง่ายกว่า...เท่ไม่เท่ไม่เกี่ยวอาศัยทางเปลี่ยวและพละกำลัง หรือไม่งั้นนะ ถ้าบอกรักแล้วนางเอกไม่เอา มันคงตามพวกมาอัดพระเอกจนปางตายแล้วแน่ ๆ ไม่ปล่อยให้รอดไปได้หรอก 3.5 อันสุดท้ายที่รู้สึกว่าเวรมากคือ...งานศพแจน งานศพจัดพิธีแบบจีน โลงศพแบบจีน หน้าบ้านแขวนโคมด้วย...แต่ที่หลุมศพมีไม้กางเขนเว๊ยเฮ้ย...ตกลงคุณน้องเธอจะเป็นคนจีนหรือคนคริสต์กันแน่วุ๊ย เท่าที่มอง ข้อเสียก็มีประมาณเท่านี้ จริงๆ มันมีเยอะกว่านี้แหละ แต่นึกไม่ออก ไอ้ครั้นจะลงทุนไปดูอีกรอบเพื่อที่จะเอามาเขียนจับผิดมันก็คงเป็นการกระทำที่ไม่สมควรจะทำซักเท่าไหร่ หมดแล้ว ข้อดีข้อเสีย ถ้าถามเราว่า สรุปแล้วควรไปดูมั๊ย คำแนะนำของเราก็คือ ถ้าอยากดูอยู่แล้วก็ดูไปเถอะเพราะมันก็ไม่ถึงขนาดว่าดูแล้วรู้สึกเสียดายตังค์ (อันนั้นยกให้เดอะกิ๊กทั้ง 2 ภาค หนังหลอกแดกตังค์ชัด ๆ ดูแล้วแทบอยากร้องว่าเอาเงินกูคืนมา) แต่ถ้าว่าง ไม่มีอะไรดู แล้วอยากจะดูหนังสนุก ๆ ดี ๆ ซักเรื่อง ก็เก็บเงินไปดูเรื่องอื่นเหอะ หรือไม่ก็เก็บเงินไปอีกเดือนนึงแล้วไปรอดูคนเหล็ก 4 จะดีกว่า เอวังก็ด้วยประการฉะนี้ ไม่ชอบที่หนัง/ละครไทยชอบเอาความบังเอิญมาใส่เยอะๆเหมือนกัน
โดย: thejkpb วันที่: 1 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:37:05 น.
เข้ามาอ่านเพราะอยากรู้ว่าเป็นยังไง
แต่ไม่ได้รู้สึกอยากดูอะไร เหอๆ ปกติก็เล่นบทแบบนี้เองอยู่แล้ว อิอิอิ โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 1 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:37:09 น.
ว่าจะไปเสียตังค์ดูเสียหน่อย บรรยายมาซะเก็บตังค์ไว้ในกระเป๋าดีกว่า ดีนะไม่ใช้คะแนนพันธุ์ทิพย์แลก เสียดายคะแนนแย่
โดย: patthanid วันที่: 2 พฤษภาคม 2552 เวลา:1:14:49 น.
มหาลัยในภูเก็ต
ก็คือ มหาวิทยาลัยสงขลานคริทร์ วิทยาเขตภูเก็ต จ้า โดย: Talent IP: 118.173.56.197 วันที่: 2 พฤษภาคม 2552 เวลา:8:33:23 น.
สุดยอดเลยครับท่าน จับผิดได้ทุกจุดเลย ผมดูยังไม่ขนาดนี้เลย แต่ยังไงก้อุดหนุนหนังไทยกันน่ะครับ
โดย: kindaeji IP: 124.121.146.76 วันที่: 2 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:13:08 น.
ไปดูมาแล้ว
ได้ความรู้สึกของนักแสดงเลย มันร้องไห้ เราก็ร้องไห้ตาม คุ้มๆแนะนำ 7871 โดย: 7871 IP: 125.26.119.183 วันที่: 2 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:32:57 น.
ไม่ดูแล้ว อิอิ
โดย: อู๊ด IP: 58.9.157.240 วันที่: 2 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:35:24 น.
เห็นด้วยเลยครับ
ไปรีวิวไว้ในพันทิปเหมือนกัน หนังไม่มีเหตุผลสุดๆ โดย: Branelay IP: 58.8.113.199 วันที่: 2 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:45:49 น.
อิๆ เหรอ..ไปดูเพราะปิ้งอะไรเข้าจริงๆอ่ะ
พี่หมดวัยแล้วว่ะ หมดความฝัน เหลือแต่ความจริงล้วนๆเลย ขอบคุณนะที่ทำให้เม้นท์ ง่ายเข้าน่ะ โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.92.220 วันที่: 2 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:12:29 น.
หนังเรื่องนี้สนุกมากนะ แล้วก็ทำดีมากๆด้วย
แต่ที่คุณเขียนนี่ ใส่ความอคติส่วนตัวไปมากกว่า คงจะหวังต้องการดิสเครดิตสุดๆ ไม่ใช่นักวิจารณ์ที่ดีเลย ถ้าคุณอยากเป็นนักวิจารณ์ควรไปฝึกมาใหม่นะคะ ไม่ได้เกรงเขียนแดกดัน แต่กลับไปพิจารณาตัวเองใหม่เถอะ โดย: ดูแล้ว IP: 58.8.209.9 วันที่: 2 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:55:44 น.
อ่านแล้วงงอ่ะเฮีย แต่อย่างที่บอกเฮียในเอ็ม ว่าหนูไม่ชอบหนังแนวนี้เลย
รักๆเนี้ย มัน..หยึยๆ อ่ะ 555 หนังรักออกแนวลูกกวาด .. ไม่รู้จิ ไปดูวูฟเวอรีนดิเฮีย ล่ำมากขอบอก หนุกมากกก สุดยอด สุโค้ยยย โดย: เทียนไขกับไฟแช็ก วันที่: 3 พฤษภาคม 2552 เวลา:2:34:06 น.
ตอบคุณดูแล้ว
ผมไม่มีอคติกับหนังเรื่องนี้เท่าไหร่นะครับ ถ้าผมมีอคติ ผมไม่เสียเงินไปดูหรอกครับ โหย...นางเอก 2 คนน่ารักขนาดนี้ จะไปมีอคติได้ไง ถ้าอคติเนี่ย เรื่อง 5 แถวเลยครับ อันนั้นอคติสุด ๆ แค่ตัวอย่างหนังผมยังไม่อยากดูเลย ถ้าถามผมว่าหนังสนุกมั๊ย...สนุกครับ ผมยังหัวเราะและเศร้าตามเนื้อเรื่องตลอดเวลาที่ดูเรื่องนี้นะ แต่ผมไม่ชอบความ "บังเอิญแบบไม่มีเหตุผล" ที่หนังเรื่องนี้พยายามยัดเยียดเข้ามาในหนังมากเกินไปก็เท่านั้นเอง พอมันยัดเข้ามามาก ๆ หนังมันเลยไม่สมเหตุสมผลไปโดยปริยาย การทำหนัง เขียนบทละคร บทหนัง ผมว่าสิ่งที่ควรระลึกถึงคือความสมเหตุสมผลของตัวบทนะครับ คือ ปมประเด็นหลักของเรื่องอาจจะเว่อร์แบบไม่สมเหตุผลได้ แต่ส่วนประกอบอื่น ๆ ควรจะให้มันสมเหตุสมผลมากหน่อย เพราะนี่เป็นหนังรัก เป็นหนังที่มีการดำเนินเรื่องตามชีวิตจริงที่อาจเกิดกับใครก็ได้ ไม่ใช่ 007 ที่สามารถเขียนบทให้เว่อร์แบบไหนก็ได้นี่ครับ แล้วยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ สมควรทำให้ดี ไม่งั้นมันดูแล้วให้ความรู้สึกว่า "คนทำไม่มีการเก็บข้อมูลทำการบ้านก่อนทำหนังเลยรึไง" ถ้าที่คุณพูดมา หนังสนุก...ผมไม่เถียง...ทำดีมาก ๆ ด้วย...ถ้าดีมากแล้วยังมีข้อบกพร่องมากขนาดนี้ผมว่าต้องกลับไปทำการบ้านกันอีกเยอะครับ หนังที่ผมดูแล้วรู้สึกว่าดีจริง ๆ ก็นี่เลยครับ มหา'ลัยเหมืองแร่ หรือ เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย นี่เลยครับทำดีจริง ๆ ทำได้ประทับใจมาก ๆ ผมเคยดู 2 เรื่องนี้มาก่อน พอมาดูเรื่องนี้ผมรู้สึกว่าเหมือนมืออาชีพกับมือสมัครเล่น ยังไงยังงั้นเลย ถ้าผมจะดิสเครดิตสุด ๆ ล่ะก็ผมคงไม่ใส่ข้อดีลงไปหรอกครับ ผมพยายามมองให้กลาง ๆ ที่สุด ถึงได้เขียนทั้งข้อดีและเสียลงไปทั้งสองส่วน เพียงแต่ข้อเสีย ผมรู้สึกว่ามันมากกว่าข้อดีก็เท่านั้นเอง แล้วว่ากันตามเหตุผล ผมจะดิสเครดิตทำไมครับ หนังจะได้รายได้ 10 ล้าน หรือจะเจ๊งขาดทุน เงินในบัญชีธนาคารหรือเงินในพอร์ตหุ้นของผมก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นจากการดิสเครดิตหนังเรื่องนี้แม้ซักสตางค์ ที่ผมเขียนเนี่ย ก็แค่อยากบรรยายสิ่งที่มันทำให้หนังดูด้อยค่าลงไป แล้วถ้าเกิดฟลุคทีมงานที่ได้ทำหนังได้มาอ่าน ก็อยากให้เขาเอาข้อเสียเหล่านี้ไปปรับปรุงแก้ไขกับหนังเรื่องต่อไปบ้าง แต่เรื่องตัดตัวละครในเรื่องตายเนี่ย ยอมรับว่าอคติส่วนตัวจริง ๆ ไม่น่าตัดบทแจนออกไปเลย อันนี้อคติส่วนตัวสุด ๆ 555555 แต่ยังไงผมก็ชอบหนังเรื่องนี้อย่างนึงคือเรื่องการเอาโทนสีมาเล่นนี่แหละ หนังเล่นโทนสีสร้างอารมณ์แบบนี้ที่ผมเคยดูก็มี Hero เท่านั้นเองที่ใช้โทนสีต่างกันออกไปตามแต่อารมณ์ของตัวละคร อันนี้ผมว่ายอดเยี่ยมทีเดียว โดย: DarthTrowa วันที่: 3 พฤษภาคม 2552 เวลา:3:09:42 น.
อยากไปดูอยู่มากๆเลยค่ะ เเต่ตอนนี้เหลือโอกาสอย่างเดียว หาโอกาสที่จะออกไปดู อยากดูมากๆ
โดย: yopathum วันที่: 3 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:14:13 น.
ลองไปดูรูปที่ลิงค์นี้นะคับ
//www.uppicweb.com/show.php?id=9d480c3db5c49d3483848606cc18d270 มะต้องดูรูปนัทนะ ดูผู้ชายที่นั่งข้างหลังนัทอ่ะ ก็เสื้อขาว กางเกงน้ำเงิน ก็ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล นี่นา ถ้าผิดยังไง ก็ขอโทดด้วยนะค้าบบบบ ^_____^ โดย: มิก IP: 112.142.243.132 วันที่: 3 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:25:24 น.
เสื้อกับกางเกงไม่ผิดหรอกครับ พอจะอนุโลมว่าเป็นเด็กเซนต์คาเบรียลได้
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เด็กพวกนั้น (รวมถึงนัท) อยู่โรงเรียนอะไร ประเด็นมันอยู่ที่ว่าถ้าเรียนที่โรงเรียนเซ็นคาเบรียล แล้วฉากเปิดตัว ไปนั่งเล่นเน็ทที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากนั้นก็มีเสียงบอก 8 โมง โรงเรียนเข้าแล้ว เหมือนกับว่าร้านเน็ทอยู่หน้าโรงเรียนยังงั้นอ่ะ ถ้าอยู่เซนต์คาเบรียลจริง 1. ไปเข้าแถวไม่ทันแน่นอน เพราะตอนเช้ารถแถบนั้นติดนรกมาก (เด็กที่ผมไปสอนพิเศษก็เรียนโรงเรียนนี้) 2. ถ้าอยู่เซนต์คาเบรียลจริง จะมานั่งเล่นเน็ทที่นั่นทำไมครับ แถวโรงเรียนนั้นมีร้านเน็ทตั้งเยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องนั่งรถมาไกลขนาดนั้นเพื่อจะมาเล่นที่นั่นเลยนะ 3. ถ้าไม่ได้อยู่เซนต์คาเบรียล ในย่านนั้นก็ไม่มีโรงเรียนอะไรที่ใส่ชุดแบบนี้แล้วครับ เผอิญผมใช้ชีวิตอยู่แถบนั้นมาตลอดอ่ะครับ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนี่ก็ผ่านประจำเวลากลับบ้าน แถวเซนต์คาเบรียลสมัยก่อนผมก็ไปเล่นการ์ดแถวนั้นบ่อย ๆ ก็เลยรู้จักแถบนั้นพอสมควร มันถึงได้ขัดความรู้สึกไงครับ โดย: DarthTrowa วันที่: 3 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:20:53 น.
ผมผิดเองอ่ะ 5 5+
ขอโทดด้วยนะคร้าบบบ ต้องมานั่งตอบเม้นผม เลยง่ะ ระวังน้า ผู้กำกับ ผ่านมาเห็น เด๋วเค้าจะร้องไห้ T^T อิอิ โดย: มิก IP: 112.142.243.132 วันที่: 3 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:44:05 น.
555 ไม่เป็นไรครับ พอดีผมเปิดมาเห็น เลยอยากชี้แจงให้เข้าใจกันครับ
แต่ผมก็ยังยืนยันว่าเรื่องนี้เขียนเนื้อเรื่องมาสนุกดี ภาพสวย แต่ไม่เนียนเท่าไหร่เท่านั้นเอง -*- //www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7817790/A7817790.html มีคนคิดเหมือนผมด้วย แต่อันนี้บรรยายที่ภูเก็ตครับ โดย: DarthTrowa วันที่: 3 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:47:56 น.
ดีคร๊า
สบายดีมั๊ยค่ะ พักนี้ไม่ได้คุยกันเลย พอดีเนตที่บ้านหลุดบ่อยมากๆ เข้าบล๊อคใครก็ไม่ได้ แง๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ วันนี้..เลยหอบความคิดถึงมาฝากค่ะ โดย: โบว์ริ้ง (INGING777 ) วันที่: 3 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:32:35 น.
ไปอ่านอีกกระทู้
เรื่องสนามบินก้จิงอ่ะ พี่ผมเค้าอยู่ อ.กะทู้ ภูเก็ต เค้าขี่มอเตอร์ไซต์ ไปสนามบิน เค้าก็บอก 45 นาทีเหมียนกัลล์ จูนทำได้ไงอ่ะ ปั่นซะไกลเลย โซ่จักรยานก็ทนเกินไป อีกอย่าง สงสารเป็ด รึ ไก่สองตัว ที่ไปกะจูนด้วยอ่ะ ขนร่วงหมดเล้ย T^T โดย: มิก IP: 112.142.241.101 วันที่: 4 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:07:59 น.
พลอยกะว่าจะไปดูพอดีเลยพี่ ... ไม่ไปเเละเปลี่ยนใจ อิอิ
โดย: Phannaploy วันที่: 4 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:48:18 น.
ละเอียดไปป่่าวครับ คุณความจำดีสุด ๆ
ผมอ่านแค่ตอนที่คุณวิจารณ์ตอนหลังครับเผื่อจะไปดู โดย: mr.popsong วันที่: 4 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:29:18 น.
ไปดูมาแล้วเห็นด้วยกับท่านที่วิจารณ์ ถ้าไม่คิดอะไรหนังก้อสนุก แต่อย่างที่ท่านกล่าวผมไปดูเหมืองแร่มาแล้วกับเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หนังเรื่องนี้ก้อจะงั้นๆ แต่ก้อขอชมที่ยังมีหนังที่พอดูได้ดีดีช่วงเดือนนี้
โดย: ทหาร กกล.นเรศวร IP: 125.25.237.91 วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:31:00 น.
สวัสดีครับ
ชอบเรื่องนี้มากเช่นกันครับ ดูไปอมยิ้มไป มีความสุขมากเวลาดูหนังแล้วสบายใจ ใครอยากดู แนะนำเลยครับ อย่าลังเล ความน่าเชื่อถือ บท อาจจะไม่เท่าไหร่ แต่พอดูจบมันสบายใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ นะครับ ว่ามั๊ยคุณ DarthTrowa... โดย: The Academy Award Winner วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:22:45 น.
ถ้าดูจบแล้วสบายใจมั๊ย ก็ได้ระดับนึงครับ แต่ถามว่าอิ่มเอมใจมั๊ย...เทียบกับมหา'ลัยเหมืองแร่ หรือ เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ไม่ได้ครับ 2 เรื่องที่ว่าเนี่ยดูแล้วให้ความรู้สึกดีกว่ามากจริง ๆ ครับ
แต่ถามว่าพอดูได้มั๊ยในช่วงนี้ พอดูได้ครับ โดย: DarthTrowa วันที่: 5 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:05:17 น.
เข้าเว็บ maxnet ก็ไปเจอกับ โฆษณา เดอะ กิ๊ก 3อ่ะคับ
ก็แวะมาบอกเจ้าของบล็อค น่าจะอยากดู ^__________^ โดย: มิก IP: 112.142.240.186 วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:28:56 น.
เปลี่ยนใจแร๊ะค่ะ ตอนนี้อยากดู สาระแนมากกว่า หุหุ
โดย: Phannaploy วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:00:12 น.
ไม่อยากเด็ดขาดครับ ที่ดู 2 ภาค ภาคแรกผมลากเพื่อนไปดูเพราชอบไอซ์มาก ภาค 2 เพื่อน (คนเดิม) ลากไปดู เพราะมันเห้นตัวอย่างแล้วน่าจะดี...ในตัวอย่างอ่ะดี แต่ของจริงไม่มีดีแบบในตัวอย่างเลยล่ะ
โดย: DarthTrowa วันที่: 8 พฤษภาคม 2552 เวลา:1:46:21 น.
เราว่าไปดูกันเถอะ อุดหนุน หนังไทย เรื่องนี้ยังมีดีกว่าหนังนอกหลายๆเรื่องนะ เห็นหลายคนอ่านคำวิจารณืแล้วเปลี่ยนใจไม่อยากดูซะงั้น เราว่าไปดูเองดีกว่าแล้วจะรู้เอง สำหรับเรา เราชอบเรื่องนี้นะถ้ามองข้ามสิ่งที่เกินจริงออกไป รับรองเป็นหนังรักที่ดูแล้ว สนุก ซึ้ง และ เศร้า
โดย: เติ้ล IP: 203.156.4.137 วันที่: 11 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:35:41 น.
ดีคร๊า
แวะมาทักทาย อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูแลสุขภาพด้วยน๊า โดย: โบว์ริ้ง (INGING777 ) วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:18:33:28 น.
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมค่ะ
เป็นกำลังใจให้สำหรับการสอบพรุ่งนี้นะคะ โดย: be good girl วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:14:34 น.
ดีคร๊า
ช่วงนี้ไข้หวัดระบาด ดูแลตัวเองด้วยน่ะ โดย: โบว์ริ้ง (INGING777 ) วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:35:22 น.
อัพยังเด๋วพลอยไว้อัพหลัง 25 อิอิ ช่วงนี้เตรียวจบก่อนคิกๆๆ ฮ่องเต้
โดย: Phannaploy วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:04:44 น.
|
DarthTrowa
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ไม่ต้องไปดูเลย ประหยัดตัง นึกภาพออกได้หมด
แจ่มๆๆๆ