จอมโจรยูเจนิดิส... ราชินีแห่งแอตโทเลีย... ราชันแห่งแอตโทเลีย และ...หน้าปกของเล่ม 4
จอมโจรยูเจนิดิส
ข้าขโมยได้ทุกอย่าง
หลังจากที่เจ็นคุยโม้โอ้อวดถึงฝีมือการขโมยของตนจนต้องถูกจองจำอยู่ในคุกใต้ดินของกษัตริย์ โอกาสหลบหนีของเขาก็ริบหรี่เต็มที แต่แล้วราชครูผู้เป็นที่ปรึกษาขององค์ประมุขกลับต้องการทักษะของเจ้าขโมยในการปฏิบัติภารกิจบางอย่างที่ดูเหมือนจะยากเกินกว่าที่ใครจะทำได้สำเร็จ
.(ขออนุญาตไม่พิมพ์เรื่องย่อช่วงนี้ เนื่องจากสปอยล์เนื้อหาค่ะ)
ราชินีแห่งแอตโทเลีย
เมื่อยูเจนิดิสพบว่าดินแดนภูเขาของตนกำลังทำสงครามกับแอทโทเลีย เขาก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ยากยิ่งที่สุดในชีวิต นั่นคือ เขาจะต้องขโมยบุรุษคนหนึ่งและขโมยองค์ราชินีมาให้ได้ ทว่าความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่สุด รวมถึงความสูญเสียที่หนักหนาสาหัสที่สุดของเขา ก็คือการได้มาซึ่งบางสิ่งบางอย่างที่ราชินีแห่งแอทโทเลียทรงคิดว่าได้เสียสละมันไปเมื่อนานแสนนานมาแล้ว...
ราชันแห่งแอตโทเลีย
ยูเจนิดิสช่วงชิงบัลลังก์ราชันแห่งแอตโทเลียมาได้ แต่ก็ต้องเผชิญกับพวกขุนนางที่รังเกียจเดียดฉันท์กษัตริย์องค์ใหม่ และวางแผนลอบทำร้ายต่างๆ นานา แม้ว่ายูเจนิดิสจะไม่ได้ปรารถนามงกุฎเลยแม้แต่น้อย แต่เขาก็ไม่อาจดิ้นหลุดจากสิ่งที่ตนเป็นผู้ขโมยมาได้ เมื่อคอสติส ทหารราชองครักษ์นายหนึ่งหมิ่นประมาทยูเจนิดิส เขาก็ถูกกษัตริย์ลากเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ทางการเมืองอันยุ่งเหยิง คอสติสผู้น่าสงสารรู้ดีว่าตนได้ตกเป็นเหยื่อขององค์ประมุขผู้ชอบทำอะไรตามอำเภอใจ แต่ความเหยียดหยามที่เขามีต่อยูเจนิดิสก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเคารพนับถืออันน่าหงุดหงิดใจไปพร้อมๆ กัน องค์กษัตริย์ที่กำลังต่อสู้ฝืนชะตากรรมของตนเององค์นี้ มีอะไรแอบซ่อนไว้มากกว่าที่ทรงแสดงให้เห็นยิ่งนัก และไม่ช้าไม่นานราชสำนักแอตโทเลียที่ชอบออกอุบายชั่วร้ายก็ได้ค้นพบว่า ตนเองไม่ใช่คู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อกับยูเจนิดิสเลยสักนิดเดียว
ผู้เขียน : เมแกน วาเลน เทอร์เนอร์
ผู้แปล : ปัทมา อินทรรักขา
สำนักพิมพ์ : แพรวเยาวชน
หนังสือชุดนี้ท่าน kiria แนะนำและเชียร์ ให้อ่านสุด ๆ โดยในงานอัมรินทร์บุ๊คแฟร์ (ครั้งที่ 8 เมื่อ 27 ก.ค. 2 ส.ค. ที่ผ่านมา) ลดเหลือเพียงเล่มละ 90 บาทเท่านั้น เราก็เลยซื้อมาในราคาถูกด้วยประการฉะนี้แล
เล่มหนึ่ง เนื้อหาช่วงแรก ๆ น่าเบื่อมาก ถึงมากที่สุด บรรยายสภาพภูมิประเทศละเอียดยิบ ไอ้เราก็ตกภูมิศาสตร์ซะด้วย นึกภาพอะไรไม่ค่อยจะออก เลยจินตนาการไปถึงเรื่อง The lord of the rings ซะงั้น แล้วก็คิดว่าเจ้าเจ็นกับพวกราชครู เป็นพวก โฟรโด้แอนด์เดอะแก๊ง เท่านี้เรียบร้อยแล้ว แต่รำคาญเจ็นมาก ๆ เลย ไม่เห็นจะเก่งตรงไหน พูดมาก ปากหาเรื่อง กินจุยังกะยัดทะนาน ไม่ไหว ไม่ไหว ไม่เก่งแถมยังขี้โม้ด้วยว่า ข้าขโมยได้ทุกอย่าง แต่ไม่ยักกะสามารถขโมยตัวเองออกจากคุกได้ แล้วความจริงก็ปรากฏเมื่อ.....ช่วง 30% หลังของเล่มนี่สิ สุดยอด สนุกสุด ๆ วางไม่ลงเลย ปมปัญหาทุกอย่างคลี่คลายทุกจุด และอึ้งกับเจ้าโจรคนนี้เลยล่ะ
เขตสปอยล์
ชอบตอนที่เจ็นมันบอกว่ามันต้องฝืนกินเหล้าห่วย ๆ ทำตัวสกปรก คุยโตโอ้อวด (อันนี้นิสัยเดิมของมัน) พูดมาก เพื่อให้ถูกจับขังคุก นึกภาพออกเลยว่า มันเป็นคุณชายหัวขโมยจริง ๆ เล้ย แต่ก็ตงิด ๆ ตั้งแต่ตอนที่เดินไปถึงถิ่นเอ็ดดิสแล้วมันได้รับการต้อนรับนั่นแหละ โพลตายแล้วจริงเหรอ น่าเสียดายอ่ะ แต่เราก็เอะใจอยู่แล้วว่าเจ้าแอมบิอาดิสมันทะแม่ง ๆ อยู่นา ดูมีพิรุธ ตอนจบถึงได้รู้ความจริง มันเป็นสายลับนั่นเอง
สงสารเจ็นตอนถูกแส้ลงหลังเพราะถูกหาว่ากินเสบียงอาหารจนหมดอ่ะ มันพูดมาก กินจุ และเป็นหัวขโมย เลยตกเป็นจำเลยสังคมซะงั้น คุณชายโซฟอสก็น่าร้าก น่ารัก ไร้เดียงสาแต่อุตสาหะดีจัง แล้วก็นะ แหม เป็นองค์รัชทายาทแห่งซูนิสก็ไม่บอก นึกว่าเป็นแค่ลูกของท่านดยุค
ชอบตอนที่เจ็นเข้าไปขโมยของขวัญแห่งฮามิอาธิสในวิหารอ่ะ ดูลึกลับดี แล้วยิ่งฉากที่เจอกับเทพเจ้าทั้งหลาย อ่านแล้วขนลุกดีจัง ตกลงแล้วเจ้าเจ็นมันได้เจอเทพเจ้าจริง ๆ เหรอ
เล่มสอง วางไม่ลง คือนิยามของเล่มนี้ เพราะเราอ่านมาราธอนมาก งานการไม่ทำเล้ย (แหะ ๆ) โหนรถเมล์ รถไฟฟ้าก็อ่าน สนุกทุกหน้าทุกตอนเลยล่ะ ยิ่งตอนจบเฉลยปมทุกอย่างของช่วงแรก ๆ ยิ่งร้องอ๋ออออ มิน่าล่ะ มันถึงเป็นแบบนี้ ทุกอย่างมีเหตุมีผลกันทั้งนั้น
เขตสปอยล์
ปัญหาการเมืองนี่มันซับซ้อนและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมกันจริง ๆ เลย พวกมี้ดส์ที่มาแทรกแซงเนี่ยร้ายกาจมาก ๆ เลย ค่อย ๆ ฮุบกลืนกินอำนาจของราชินี ไอ้เราก็ลุ้นแทบตาย แอตโทเลียไม่ใช่คนโง่ ทำไมไม่ทำอะไรสักที ปล่อยให้เจ้าหนวดแบะ มันจูงจมูกอยู่ได้ ... โชคยังดีที่นางแค่แกล้งโง่เท่านั้น เฮ้อออ ลุ้นจนเหนื่อย
ปวงเทพเจ้าก็นะ ช่างทำกันได้ มือของเจ็นที่สูญเสียไปก็นับว่าคุ้มค่า เพราะอาจจะเรียกได้ว่า มันคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างในเรื่องนี้เลยมั้ง เพราะท้ายที่สุดเทพเจ้าก็ถามเจ็นว่า เจ้าอยากได้มือคืนมา แล้วยอมสูญเสียแอตโทเลียไป ยอมให้แอตโทเลียตกเป็นของพวกมี้ดส์หรือ ช่างเป็นคำตอบสุดท้ายจริง ๆ
ตอนที่แอตโทเลียมองดูเจ็นหลับแล้วคิดว่า เขาต้องการแม่นมมากกว่าเจ้าสาว ฮามาก ชอบอ่ะ นึกภาพเจ้าเจ็นเป็นเด็กน้อยที่พลัดหลงกับพ่อแม่เลย แต่ก็นะ เจ้าเจ็นมันเฝ้ามองนางมากตั้งนานนมแล้วนี่เนอะ รักฝังใจจริง ๆ จนเข้าขั้นหลงใหลเลยทีเดียว ขนาดตอนลักพาตัวยังตะลึงอึ้งกับความงามของนางด้วย
ฉากที่เจ็นเดินเข้าไปในกระโจมของแอตโทเลียเพื่อดูว่านางยังปลอดภัยดีหรือไม่อ กรี๊ดดดด แสดงความรู้สึกสุด ๆ เลยนะเจ้าหัวขโมย มือไว ปากไว้จริง ๆ ด้วย
แอตโทเลีย อายุมากกว่าเจ็นเท่าไหร่น้อ คำนวณคร่าว ๆ จากเนื้อหาในเล่มฉากที่ แอตโทเลียคิดในใจว่านางอายุมากกว่าเอ็ดดิสไม่กี่ปี ก็ตีความไปว่า 3 ปี ส่วนเอ็ดดิสอายุเท่ากับพี่ชายของเจ็น (ในเล่ม 1) ประมาณต่อไปว่าเจ็นกับพี่ชายห่างกันแค่ 1 ปี เอาเป็นลูกหัวปีท้ายปีแล้วกัน ดังนั้น แอตโทเลียก็จะแก่กว่าเจ็น 4 ปีเป็นอย่างน้อย
คำผิดที่เสียอารมณ์สุด ๆ
ช่วงที่เจ็นขโมยตัวแอตโทเลียมาได้ และจะคืนมีดสั้นที่แอบขโมยมาให้แอตโทเลีย หน้า 213
กระหม่อมอยากให้ส่งรู้ไว้ว่ากระหม่อมรักฝ่าบาท
เอ่อ เจ้าเจ็นมันเหน่อเลยเหรอไงเนี่ย โฮๆๆๆๆ มาผิดเอาประโยคสำคัญแบบนี้
เล่มสาม ช่วงแรกตะกรุมตะกรามอ่านอย่างเอาเป็นเอาตายมาก ๆ อยากรู้ตอนจบไว ๆ แต่พอช่วงหลังใกล้จบ กลับไม่อยากให้จบ กลัวจะไม่มีอะไรสนุก ๆ แบบนี้อ่านอีก จึงค่อย ๆ ละเอียดอ่านทีละนิด อ่านวันละหน่อย แต่สุดท้ายก็ทนไม่ได้ อ่านมันจนจบเลย แล้วค่อยมาอ่านฉากที่ชอบ ๆ อีกครั้ง
เล่มนี้จะเกี่ยวกับเจ้าเจ็นอีกเช่นเคย เพียงแต่บอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครใหม่ คือ คอสติส ซึ่งเป็นทหารราชองครักษ์ หมอนี่แน่มาก กล้าชกหน้ากษัตริย์องค์ใหม่แห่งแอตโตเลีย แต่ไม่ถูกตัดหัว แต่ถูกเจ็นปั่นหัวแทน (หมอนี่เกิดมาเพื่อเป็นของเล่นของเจ็นจริง ๆ) ในเล่มนี้เจ็นต้องฝ่าฟันกับพวกแอนตี้กษัตริย์ต่างถิ่นสุด ๆ ถูกแกล้งต่างๆ นานา ทั้งซึ่ง ๆ หน้าและลับหลังเลยล่ะ แต่เจ็นก็ใช้วิธีการที่แยบยลกว่าทำให้พวกข้าราชบริหารเหล่านั้น ยอมรับเขาในฐานะกษัตริย์จนได้ โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อแถม ได้ใจไปเต็ม ๆ เชียวล่ะ
แอตโทเลียกับเจ้าเจ็นออกมาทีไร มีฉากกุ๊กกิ๊กแบบไว้เชิงน่ารัก ๆ มาให้อ่านกรี๊ดกร๊าดทุกทีเลย ชอบตอนมันบาดเจ็บแล้วอ้อนออเซาะ จนแอตโทเลียจูบปลอบมันอ่ะ น่ารักซะไม่มีเลย
ในเล่มนี้จะมีกล่าวถึงโซฟอสด้วย ว่าเขาหายสาบสูญไประหว่างสงครามกลางเมืองของซูนิส และ.... เขาจะปรากฏกายในเล่ม 4 ค่า แต่น แตน แต๊นนนน
ข้อมูลจาก wiki บอกว่า เล่มสี่จะตีพิมพ์ในเดือนมีนาคมปี 2010 โดยมีชื่อตอนว่า A Conspiracy of Kings ตามลิงค์นี้จ้า
//en.wikipedia.org/wiki/A_Conspiracy_of_Kings
รอ ร้อ รอด้วยความหวัง อยากอ่านอ่ะ อยากมาก ๆ เลยด้วย แต่ถ้าซื้อมาอ่านเอง สงสัยชาติหน้าถึงจะอ่านจบแหง ๆ เลย และถ้าซื้อเล่ม 4 มา ก็ต้องไปตามเก็บสามเล่มแรกด้วย เพื่อให้ครบเซ็ท แต่ก็เป็นการลงทุนที่ไม่รู้สึกเสียดายเลย แม้จะซื้อมาตั้งโชว์ไว้เฉย ๆ เพราะอ่านไม่ออกก็เหอะ มันสนุกอ่ะ ควรค่าแก่การเก็บสะสมยิ่งนัก เอาน่า ยังไงก็วรรณกรรมเยาวชน เยาวชน ย้ำเข้าไว้ เราแก่แล้ว คงจะอ่านออกหรอกน่า (ทั้ง ๆ ที่ความรู้ด้านภาษาอังกฤษที่อยู่ในวัยแบเบาะ)
ข้อมูลจากอีกแหล่งค่ะ //1.bp.blogspot.com/_gZW10xq-pDs/SjBAt6yHsDI/AAAAAAAAB74/Yp7Lsbc4mTY/s1600-h/a
ภาพปกนี้คงจะเป็นโซฟอสแหง ๆ เลย เพราะเนื้อหาในเล่มนี้ เขาเป็นตัวนำ โฮะๆๆๆ เด็กชายเติบโตเป็นชายหนุ่มอีกคนหนึ่งแล้ว อ่านหนังสือชุดนี้แล้วรักเด็ก (หนุ่ม) จัง
Create Date : 22 กันยายน 2552 |
|
9 comments |
Last Update : 15 เมษายน 2553 17:11:28 น. |
Counter : 1098 Pageviews. |
|
|
|
ดีใจมาก ๆ ว่าจะออกแล้ว นึกว่าจะต้องรออีก 6 ปีเหมือนที่คนเขียนทิ้งช่วงระหว่างเล่ม 2 กับเล่ม 3 เสียอีก
โอ๊ย...ดีใจ ชอบเจ็นกับไอรีนสุด ๆ
ขอบคุณเจ้าของบล็อกที่แจ้งข่าวนะคะ