*ขอบคุณ..ที่ผ่านมาให้กำลังใจกัน*
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
วัดเทพธิดาราม



วันนี้พาชมวัดในพระนครดีกว่า
วัดนี้หลายคนคงรู้จัก..แต่หลายคนอาจยังไม่เคยไป
นั่นคือ.....แต่น...แตน..แต๊นนนนนนนนนนนน



วัดเทพธิดาราม


วัดเทพธิดารามวรวิหาร ( วัดเทพธิดาราม ) ตั้งอยู่ริมถนนมหาไชยใกล้วัดราชนัดดา หันหน้าออกสู่คลองรอบกรุง หรือ กำแพงพระนครด้านทิศตะวันออกในสมัยก่อน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาเจษฎาบดินทร์ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ แห่งพระบรมราชจักรีวงค์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดี (พระองค์เจ้าชายลดาวัลย์ ต้น ราชสกุล "ลดาวัลย์" พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาเอมน้อย) เป็นแม่กองในการสร้างวัดเทพธิดาราม วรวิหาร เมื่อปี พ.ศ.๒๓๗๙ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าหญิง วิลาส พระราชธิดาองค์ใหญ่ในรัชกาลที่ ๓ ซึ่งมีพระสิริโฉมงดงาม ทรงได้รับใช้เป็นที่โปรดปรานอย่างยิ่งของพระราชบิดา กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพทรงบริจาคทุนทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อร่วมในการก่อสร้างวัดเทพธิดารามด้วย
และสำเร็จเรียบร้อย เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๒ พระบาท สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระ ราชทานนามว่า " วัดเทพธิดาราม " ซึ่งหมายถึง " อัปสรสุดาเทพ " และพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็น องค์ประธานในพระราชพิธีผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๓๘๒




พระอุโบสถ สร้างขึ้นตามแบบพระราชนิยมตามแบบอย่างจีน ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมของไทยตัวอาคาร ก่อผนังหนามีเสารายรองรับพาไลหลังคาโดยรอบ ซึ่งเป็นเสาสี่เหลี่ยม ส่วนหลังคาได้รับการเปลียนแปลงมากที่สุด เป็นหลังคาจั่วก่อเป็นแผงทึบ ไม่มีคูหา ไม่มีไขรา กรอบหน้าบันไม่ติดช่อฟ้ารวยระกาและหงส์ แต่ขึ้นรูปเป็นรวยหน้า กระดานหน้าบันลักษณะนี้มีชื่อเฉพาะว่า “หน้าบันแบบกระเท่เซ” แบบของหลังคามีหลายลักษณะด้วยกัน คือ แบบ หลังคาไม่มีชั้นลด มีหลังคาปีกนกซ้อนด้านละ ๒ ชั้น และพาไลรอบด้าน หลังคามีชั้นลดหน้าหลังด้านละ ๒ ชั้น ซ้อนกัน ๓ ตับ มีพาไลเฉพาะด้านหน้าและด้านหลัง และแบบหลังคาไม่มีชั้นลดมีปีกนกคลุมระเบียงทั้ง ๒ ด้าน พาไล ด้านหน้าและด้านหลัง เป็นต้น รูปแบบของโบสถ์ตามแบบพระราชนิยมนี้ เป็นที่แพร่หลายอย่างมากทั้งในวัดที่สร้าง ในสมัยต่อๆ มานอกเหนือไปจากวัดที่สร้างขึ้นในสมัยรัชการที่ ๓ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากกว่ารัชสมัยอื่นๆ



ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาขาว ซึ่งหลวงพ่อขาวองค์นี้เป็นพระพุทธรูปที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์นับเป็นศิลปวัตถุที่งดงามและหาชมได้ยากไม่ปรากฏที่มา ทราบแต่เพียงว่าพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดฯ ให้อัญเชิญจากพระบรมมหาราชวังไปประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดเพทธิดารามอันเป็นวัดซึ่งสร้างพระราชทานกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ

หลวงพ่อขาวเมื่อพระราชทานมาเป็นพระประธานวัดเทพธิดารามประดิษฐานอยู่ในเวชยันต์บุษบกไม้จำหลักลายปิดทองประดับกระจกงดงามอย่างยิ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันถวายนามว่า พระพุทธเทววิลาส ซึ่งนอกจากจะมีความหมายอันแสดงถึงความงามแล้ว ยังเป็นนามที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพระนามเดิมของกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพคือ พระเจ้าลูกเธอพระองค์หญิงวิลาสอีกด้วย







ภายในพระวิหาร ด้านข้างพระอุโบสถ..ประดิษฐานรูปหล่อหมู่พระอริยสาวิกา (ภิกษุณี) ที่ส่วนหนึ่งเป็นเอตทัคคะ หล่อด้วยดีบุก ลงรักปิดทอง หน้าตัก ๑๑ นิ้ว สูง ๒๑ นิ้ว จำนวนถึง ๕๒ องค์ ประดิษฐานบนแท่นหน้าองค์พระประธาน โดยแต่ละองค์จะมีใบหน้าและอิริยาบถที่แตกต่างกัน โดยตรงกลางเป็นรูปหล่อของ “พระนางปชาบดีโคตมี” (เอตทัคคะด้านรัตตัญูญู) พระน้านางของพระพุทธเจ้า และถือเป็นภิกษุณีองค์แรกที่มีส่วนในการช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาในหมู่สตรี


>



และในอดีตวัดนี้เคยเป็นที่พำนักของสุนทรภู่กวีเอกแห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๘๓ - ๒๓๘๕ เมื่อคราวบวชเป็นพระภิกษุ ปัจจุบันยังมีกุฏิหลังหนึ่ง เรียกว่า "บ้านกวี" เปิดเป็น พิพิธภัณฑ์
แต่วันนั้นไปเย็นแล้ว..ทางวัดปิดกุฏิไปเรียบร้อย..อดดูไปตามระเบียบ...










ข้อมูลจาก....
//watthepthidaram.freehostia.com
http//.dhammajak.net



Create Date : 22 มกราคม 2552
Last Update : 22 มกราคม 2552 9:46:13 น. 22 comments
Counter : 1969 Pageviews.

 
จิ้มๆๆๆ



โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:9:44:26 น.  

 
เดี๋ยวนี้เข้าวัดเข้าวาเป็นอาชีพหลักเลยวุ้ย

สงสัยจะเข้าสู่วัยทองงงงงงงงงงงงง



emo


โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:9:54:46 น.  

 



โดย: LooKPat วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:10:22:03 น.  

 
งามเจง เจง


โดย: eath IP: 203.209.78.109 วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:10:45:40 น.  

 
emo



โดย: เป๋อน้อย วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:10:46:34 น.  

 
อยากไป ยังไม่เคยไปเลยอ่ะemo
ที่อยู่ใกล้ๆ ผัดไทยประตูผีใช่ป่ะemo


โดย: butbbj วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:12:34:43 น.  

 
ผ่านไป ผ่านมา ไม่เคยเข้าวัดนี้ซะที

สร้างวัดเพื่อพระองค์เจ้าหญิงที่งดงาม มิ น่าล่ะ วัดถึงได้ออกมางามวิลาส สมชื่อพระองค์เจ้าหญิงจริงๆ





โดย: Shallow Grave วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:13:03:07 น.  

 
ทำไมภิกษุณีนั่งยองๆหยั่งงั้นหนอ


โดย: ซซ วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:13:10:58 น.  

 
ชื่อวัดเพราะจังเลยค่ะ

...งานหลักเข้าวัดกับอัพบล็อกหรือไงเนี่ย


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:13:29:06 น.  

 
emo...ว่างนิดส์นึง...ตอบบล๊อกดีฝ่า...


+++เกรียมศรี...พักนี้จิตตก..เข้าวัดทำใจซ๊ากหน่อย..เผื่อไอ้ที่ผวาๆหวาดๆจากรถคว่ำมันจะพอทุเลาเบาบางได้มั่ง...
ตอนเน้ดีขึ้นนิดสสสสสสนึงแระ...


+++คุณลูกพัด...สาธุ..สาธุ..emo



+++เพ่อี๊ด...ของจริงสวยงามมากมาย..ตากล้องฝีมือมันป๋องแป๋ง..ถ่ายทอดความงามออกมาได้ไม่ดี...



+++ซาซ่า..งงไรฟระ...มะเคยเข้าวัดอ่ะดิ...emo



+++อาบรูดตูดหมึก...แถวนั้นแหล่ะน้องสาว...วัดสวยมากเลยนะ...
หลอกล่อให้เด็กพาไปกินผัดไท แล้วข้ามถนนไปดูแด่ะ....emo


+++แม่นู๋ปุ๋ย...สมควรอย่างยิ่งแก่การแวะชม..ไม่ผิดหวังเจงเจงครับพี่น้อง...


+++ป้าซวงซวง...ที่ท่านนั่งสองยองเนี่ย..สงกาสัยว่านั่งพับเพียบมานานมันเลยเมื่อย่อะป้า...



+++คุณน้องนาห์..งานหลักคือนั่งสับปะหงกพอหัวโขกโต๊ะก็ตื่นมาอัพบล๊อก....emo












ฝากข่าวประชาสัมพันธ์เล็กน้อย...
พักนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย...
เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว
จขบ.ก็เลยอารมณ์ขึ้นๆลงๆ..ตามสภาพอากาศ...
คาดว่าไม่เกินเมษา น้ำลายคงฟูมปาก..คอแข็ง ตาขวาง...
โปรดระมัดระวังหากเจอระยะประชิด....


emoemoemo


โดย: นายรถซุง วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:13:51:04 น.  

 


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:14:29:03 น.  

 
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์เล็กน้อย...
พักนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย...
เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว
จขบ.ก็เลยอารมณ์ขึ้นๆลงๆ..ตามสภาพอากาศ...
คาดว่าไม่เกินเมษา น้ำลายคงฟูมปาก..คอแข็ง ตาขวาง...
โปรดระมัดระวังหากเจอระยะประชิด....
^
^
^
รีบไปฉีดยาไว้เสียเนิ่นๆท่านพี่

...ขอบคุณกลอนที่บล็อกมาก
นานๆทีท่านพี่จะมีอะไรดีๆฝากไว้
มามะมาจุ๊บทีนึงemo


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:15:54:33 น.  

 
เชื่อๆๆๆว่าคอแข็ง


หรือเปล่า

ว่าแต่เชื่อเรื่องสีจริงง่ะ ไม่ต้องเอาเรามาอ้างเลย


โดย: butbbj วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:16:11:57 น.  

 
สวยจัง ได้ความรู้ประวัติศาสตร์ด้วย


โดย: REX-REX วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:16:44:15 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ถ่ายรูปสวยมากค่ะ


โดย: Artagold วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:19:21:02 น.  

 
หัวบล็อก...ซุงกิกี้ เหมือนป้ายคณะยี่เกเลยอ่ะ...555+


แล้วอ้ายเด็กเสื้อเหลืองเข้าวัดทำมายไม่ถอดหมวกล่ะ...เดี๋ยวตบเลย...


โดย: ป้าคนงาม IP: 58.8.240.76 วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:19:21:09 น.  

 


..


พาเข้าวัดซะจนซึมซาบ
เตรียมเอาโลงมาใส่พี่ได้แระ ..


..


โดย: ทิ .. (Ka - Ti ) วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:21:01:34 น.  

 
ยังไม่มีโอกาสได้ไปเยือนเลยค่ะ แต่ว่า
เห็นแล้วน่าไปเยือนมาก เพราะว่า
เห็นด้านในของพระอุโบสถแล้ว
ชอบความกว้างขวางและภายใจให้ความรู้สึก
สงบนะคะ ..


โดย: JewNid วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:21:22:51 น.  

 
ผ่าน ไป ผ่านมาบ่อย ครั้ง ไม่เคยได้ เข้าไป ชม ไม่รู้ว่า ข้างใน สวย ขนาดนี้

เห็นรูปแล้วทำให้รู้ว่า พลาด อะไรดีๆไปอีกอย่าง


โดย: OFFBASS วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:22:52:26 น.  

 
รูปสวยจังเลยครับ

ขอลอกมุมกล้องไปถ่ายบ้างนะครับ



โดย: จอมยุทธเฮง วันที่: 22 มกราคม 2552 เวลา:23:16:55 น.  

 
+ แวะตามมาแอ่ว วัดเน้พ้มก็ยังมิเคยเข้าไปเยี่ยมกรายเหมือนกันอ่ะครับ งามแต๊ๆ เน้อ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:13:18:37 น.  

 

เข้ามาดูหนุ่มเสื้อเหลือง จากบล๊อกที่เพิ่งอัพ(เหงาๆๆๆ)


โดย: yyswim วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:13:22:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นายรถซุง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




หัวใจดวงน้อย
ที่คอยจะมอบความรัก
ให้กับใครซักคน..หมดหัวใจ

(โอ้ว..น้ำเน่าคอด..คอด..)


* ข้อควรระวัง *

เจ้าของบ้านสันดานเสีย
ไม่ค่อยชอบตอบบล๊อกนะครับ


start 8 Dec.08
free counters คุณชลอ ครับผม

Friends' blogs
[Add นายรถซุง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.