8/01/2552 23.25น.
8/01/2552 ปีฉลู 1605น. ค่าแสดงการเต้นของหัวใจ 116 อ็อกซิเจน 87 ความดันโลหิต51/35 นับว่าแย่มากๆ ป๊า อยู่ได้ด้วย เครื่องช่วยหายใจ บวกยาเพิ่มความดันโลหิต ทำให้มองดูเหมือนคนกำลังนอนหลับ เนื้อตัวที่เคยเหลืองดุจทาด้วยขมิ้น เมื่อสองวันก่อนตอนนี้เหมือนปกติธรมดาแล้ว ป๊า เป็นคนที่แข็งแรงมากในวัย 79 ปีเลี้ยงดูพวกเรามา 5 พี่น้องเมื่อผมจำความได้ ผมมีพี่ชายคนโตและพี่สาวสองคน น้องชายหนึ่งคนผมจึงเป็นลูกชายคนกลาง ตามธรรมเนียมจีน ลูกชายคนโตจะเป็นหัวแก้วหัวแหวนของป๊า และพี่ชายก็ไม่เคยทำให้ป๊าผิดหวัง พี่ชายเก่งและขยันช่วยป๊า เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในกิจการโรงกลึงเหล็ก ของป๊าซึ่งตกทอดมาจากปู่อีกทีหนึ่ง แต่สุดท้ายบรรดาลูกของป๊าก็ไม่มีใครสืบทอดกิจการของป๊าเลยและเลิกกิจการ เมื่อลูกๆเรียนจบ และออกไปทำงานมีครอบครัวตามวิถีทางที่ตัวเองเลือก แต่สิ่งหนึ่งที่ลูกๆทั้ง 5ยึดปฏิบัติคือคำอบรมสั่งสอนที่ป๊ากับแม่เฝ้าอบรมสั่งสอน คือจะทำอะไรเช่นเป็นลูกจ้างใครต้องคิดว่ากิจการที่ทำนั้น เป็นของเราเองต้องทำให้ดีที่สุด ต้องไม่คดโกงผู้อื่น ยอมเสียเปรียบเขาบ้าง แต่จะไม่เอาเปรียบเขา ลูกๆก็ล้วนปฏิบัติตาม และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานของแต่ละคน ป๊ากับพี่ชายได้ช่วยกันผลิตเครื่องผสมปูนที่ทำจากเหล็กเหนียว(เข้าใจว่าเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย)แต่ก่อนเครื่องผสมปูนที่มาจากต่างประเทศจะทำมาจากเหล็กหล่อ ข้อเสียคือถ้าช่างปูนไม่ยอมล้างถังโม่ปูนเมื่อเลิกงาน พอรุ่งเช้าปูนจะจับตัวแข็งก็ต้องเอาฆ้อน ทุบปูนที่จับถังปูนออกผลคือถังผสมปูนจะแตก ป๊ากับพี่ชายเลยผลิตเครื่องผสมปูนที่ถังเป็นเหล็กเหนียวขึ้นทำให้เป็นเครื่องผสมปูนที่น้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายสะดวก และข้อสำคัญคือเวลาเคาะเอาเศษปูนออกง่ายและถังปูนก็จะไม่แตกง่าย เมื่อกาลเวลาผ่านมาเครื่องผสมปูนแบบรถลากก็เสื่อมความนิยม กลายเป็นรถผสมปูนขนาดใหญ่ดั่งที่เห็นในปัจจุบันที่อยู่บนรถหกล้อแล้ววิ่งไปเทปูนตามหน่วยงาน นั่นแหละ ป๊าเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่17/12/51 แล้วคือมีอาการหนาวสั่นสะท้านห่มผ้าเท่าไหร่ก็เอาไม่อยู่ ต้องส่งเข้าโรงพยาบาลเอกชลในห้อง ICU หมอทำการตรวจเช็คอย่างละเอียด ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่า อาการที่ป๊าเป็นเกิดจากอะไร จึงส่งต่อป๊าไปศิริราช ด้วยที่ว่าโรงพยาบาลมีเครื่องมือไม่พอในการรักษา เข้ามาอยู่ที่ศิริราช คุณหมอทำการตรวจทุกอย่าง เช่นเจาะเลือด ตัดผิวหนัง เจาะไขสันหลังแต่ก็ยังไม่รู้ว่า ป๊าป่วยจากสาเหตุอะไร ขณะเดียวกัน อาการหนาวสั่นของป๊าลดลง เป็นเวลาคือพอตกช่วงบ่าย 4 โมง ป๊าก็จะมีไข้สูงและสั่น พอกินยาแก้ปวดลดไข้ สักพักก็หายเป็นปกติ ระหว่างรอผลตรวจ คุณหมอก็อนุญาติให้ ป๊ากลับไปพักผ่อนที่บ้านเพื่อรอผลที่นำไปตรวจและนัดว่าวันที่ 5/01/2552 ให้กลับมาฟังผลตรวจเรากลับมาฉลองปีใหม่ที่บ้าน ป๊าก็อาการเป็นปกติแข็งแรงดี พอวันที่4/01/52 ป๊าหมดแรงไปเฉยๆเนื้อตัวเริ่มเหลืองเย็นวันรุ่งขึ้นก็พาป๊า ไปหาหมอตามนัดตอนนั้นป๊าก็ไม่ค่อยมีสติแล้ว แต่พี่น้องก็ยังหวังว่า ผลตรวจที่ออกมาจะสามารถรักษาป๊าได้ พอหมอที่นัดเห็นป๊า ว่าตัวเหลืองก็รีบหาเตียงให้ป๊านอนโรงพยาบาลทันที เพราะเกิดอาการตับวายเฉียบพลัน ตัวป๊าจึงเหลืองเหมือนทาขมิ้น หมอไม่สามารถเจาะเอาตับป๊ามาตรวจหาเชื้อได้เพราะเกร็ดเลือดต่ำ กลัวว่าเจาะเข้าไปแล้วเลือด ไม่ยอมแข็งตัวป๊า จะแย่ลงกว่าเดิม หมอสันนิฐานว่า ป๊าอาจติดเชื้อที่ตับจึงให้ยาฆ่าเชื้อและทำการฟอกเลือด ตอนนี้จากตับวายป๊าเริ่มมีอาการไตวาย แทรกเข้ามา ดูจากอาการแล้วป๊าทรมานมาก 8/01/2552ความดันป๊าต่ำลงมาก เวลา15.00น.หัวใจเต้น 114 อ๊อกซิเจน 69-70 แรงดันเลือด44/32 เรายังหาสาเหตุของโรคไม่เจอ ผมนั่งเฝ้าป๊าอยู่คนเดียว ป๊าไม่รับรู้อะไรมาสองวันแล้ว หมอเรียกลูกๆมาประชุมกัน แล้วบอกให้ทราบถึงอาการอย่างละเอียด เพื่อขอการตัดสินจของลูก พวกเราขอให้หยุดการรักษา และขอความกรุณาจากหมอว่าอย่าให้ป๊าต้องทรมาน เราขอแค่นี้แหละ ขณะนี้ผมนั่งดูป๊า ข้างๆเตียง ป๊านอนสงบ หลับให้สบายเถอะป๊า พวกเราจะดูแลแม่เอง ลูกๆทุกคนรักป๊า รักแม่ และพี่น้องทุกคนก็รักกัน ขอให้ป๊าหลับให้สบายไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว ป๊าเหนื่อยมามากแล้ว สีหน้าป๊าดูมีความสุข อยากบอกให้ป๊ารู้ว่า ผมรักป๊าครับ ขอบคุณครับ ที่เลี้ยงดูผมมาอย่างดี ถึงผมจะไม่ค่อยได้อยู่ใกล้ป๊า แต่ผมก็รักแม่และป๊า ครับ
Free TextEditor
Create Date : 09 มกราคม 2552 |
|
39 comments |
Last Update : 9 มกราคม 2552 1:29:53 น. |
Counter : 668 Pageviews. |
|
|
|