YESTERDAY is history, TOMORROW is mystery, TODAY is a gift ............that is why its called "PRESENT" from Kangfu Panda - June 2008
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2550
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
25 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
กู้ธนาคารซื้อบ้าน- ปัญหาข้อขัดข้อง 3 (ปฏิบัติการ"ล่า"บ้านในฝัน..)

ปฏิบัติการ"ล่า"บ้านในฝัน.. วิธีการกู้เงินสร้างบ้าน
โดยคุณล่า กระทู้นี้แตกประเด็นมาจาก R3173760
จากกระทู้เดิม

รบกวนช่วยอธิบายวิธีการกู้เงินสร้างบ้าน ค่ะ
//www.pantip.com/cafe/home/topic/R3173760/R3173760.html
คุณล่าได้กรุณามาแจกแจงวิธี"ล่า"บ้านในฝันโดยละเอียด
ตั้งแต่ขั้นตอนแรก - เลือกแบบบ้านที่ถูกใจ
จนมาถึง วิธีเลือกธนาคารเพื่อขอกู้แล้วนะคะ..
มาติดตามกันต่อเลยค่ะ
จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 16 ธ.ค. 47 10:47:40 ]
ความคิดเห็นที่ 1

ตอนนี้ปูเสื่อรอคุณล่ามาก่อนนะคะ
ใจเย็นๆค่ะ มีใครรับน้ำรับขนมไหมคะ อิอิ


จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 16 ธ.ค. 47 10:49:22 ]





ความคิดเห็นที่ 2

ขอโกโก้ร้อน กับขนมครับ

จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL - [ 16 ธ.ค. 47 11:02:40 ]




ความคิดเห็นที่ 3

อยากกินบัวลอยไข่หวานอ่ะ...แล้วก็ชามะลิร้อนๆ..please

จากคุณ : นายแพรว - [ 16 ธ.ค. 47 11:22:14 ]





ความคิดเห็นที่ 4

... เข้ามาดู

จากคุณ : Mr. Fusion - [ 16 ธ.ค. 47 11:35:16 ]





ความคิดเห็นที่ 5

"ปูเสื่อรอคุณล่ามา" แล้วอย่างนี้คุณล่าจะมีแรงอธิบายหรือครับ (ล้อเล่นน่า) เอ้ามาคอยด้วยคน ผมขอกาแฟร้อน ต้ำตาล3 พอนะครับ ขอบคุณ

จากคุณ : อ้วน - [ 16 ธ.ค. 47 13:03:32 A:61.90.57.141 X: TicketID:063596 ]




ความคิดเห็นที่ 6

ทีแรกคิดว่าจะกลับมาโพสต์รูปขนม+น้ำตามที่รีเควสกันมาให้ค่ะ
แต่คิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า เด๋วกระทู้โหลดช้าแง่ก..
จะผิดเจตนารมณ์ของคุณล่าที่อุส่าห์จะขึ้นกระทู้ใหม่ จะได้ไม่โหลดไปซะนี่..
.
เอาเป็นว่าใครหิว เชิญมากระทู้นี้ละกันนะคะ มีต่อเนื่องไปได้อีกหลายกระทู้ค่ะ อิอิ
*-*+*-* ว่านน้ำ in Nippon.. กินกระจายที่ญี่ปุ่น.. ภาคแรก Osaka - Kyoto *-*+*-*
//www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J3148207/J3148207.html
แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 47 13:12:14

จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 16 ธ.ค. 47 13:09:36 ]





ความคิดเห็นที่ 7

ต้องขอขอบคุณคุฯว่านมากครับ ที่ช่วยจัดแจงเป็นธุระให้

เพราะลำพัง ผมไใ่ค่อยได้เข้ามาบ่อยนักครับ ก่อนหน้านี้ ก็ได้แต่เข้ามาหาความรู้อยู่เนืองๆ แถมไม่ได้เป็นสมาชิกอีก ก็เลยไม่ค่อยประสีประสาเท่าไรนัก

แต่ช่วงนี้เข้ามาเช็คบ่อยขึ้น แถมมีคนคอยติดตามอีกด้วย
โห…เล่นเอาปลื้มไปเลยขอรับ


จากคุณ : lar - [ 16 ธ.ค. 47 13:11:36 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 8

พูดไว้ถึงการพิจารณาข้อมูลต่างๆ ที่เราจะได้รับจากพนักงานสินเชื่อที่หน้าเคาน์เตอร์ แล้ว ก็คงพอจะได้แนวทางในการเดินเข้าไปคุยบ้างนะครับ

มีเคล็ดลับอีกนิดหน่อยที่ผมใช้….เพื่อให้การเจรจา และการเก็บข้อมูล ประสบผลสำเร็จ พร้อมทั้งได้รับการบริการที่ดี

ถ้าพนักงานสินเชื่อเป็นผู้หญิง…เวลาเข้าไปคุย หรือติดต่อทางโทรศัพท์ผมจะติดต่อด้วยตัวเอง
แต่ถ้าพนักงานสินเชื่อเป็นผู้ชาย ผมจะให้แฟนผม ซึ่งหน้าตาน่ารักเอาการพอประมาณ ขาว สวย หมวย เซ็กซี่ เป็นคนติดต่อแทนครับ (ผมกับแฟน ปัจจุบันอายุ 27 เท่ากันครับ)

อย่าหาว่าผมเว่อร์นะครับ
แต่ของอย่างนี้ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่…..

ทีนี้ ก็ถึงคราวยื่นเอกสารครับ
หลังจากที่ยื่นไปแล้ว อาจจะต้องใช้เวลาพอประมาณ เพื่อให้ธนาคารประเมินความสามารถในการผ่อนชำระของเราครับ….


จากคุณ : lar - [ 16 ธ.ค. 47 13:18:01 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 9

ใช่ครับๆ เหมือนแม่เหล็ก ขั้วเดียวกันจะผลักกัน ถ้าคนละขั้วจะดูดกัน

จากคุณ : นิติบูน - [ 16 ธ.ค. 47 13:21:44 ]





ความคิดเห็นที่ 10

หลังจากที่พิจารณาเสร็จเรียบร้อย
เขาก็จะแจ้งผลให้เราทราบว่าให้กู้ผ่าน หรือไม่ผ่าน

ผมเองก็อยากจะขอพูดถึงกรณีที่ไม่ผ่านก่อนครับ..ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป
เพราะเห็นว่า หลายท่านในที่นี้ มักจะมีคำถาม ที่อุดมไปด้วยความกังวลว่า….

“จะผ่านไม่๊ครับ/คะ”

บอกให้ก็ได้ว่า ถึงจะไปจุดธูป 276 ดอก เชิญวิญญาณขงเบ้งให้มาเข้าสิงผม ผมก็ตอบให้ไม่ได้ หรอกครับ….ผมเอง…ก็อย่างที่บอกล่ะครับที่พอบอกได้ก็คือ “ความน่าจะเป็น” และแนะนำวิธี หลังจากคำขอยื่นกู้เราถูกปฎิเสธ อันนี้พอไหวครับ…

สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องรายได้ ไม่มีปัญหาเรื่องหนี้สิน หรือบางคนกู้ผ่านไปแล้ว มารออ่านในสเต็ปต่อไป….โปรดใจเย็นนิดนะครับ ตอนนี้ขอเอาใจคนจนก่อน…เพาะไหนๆ ก็เข้ามาพล่ามได้ซะตั้งนานแล้ว…คงจะพยายามครอบคลุมให้หมดนะครับ

เริ่มกันเลยครับ
สำหรับผู้ที่ไม่ผ่าน…อันดับแรก และเป็นขั้นตอนที่ทำยากที่สุดคือ “ทำใจ” ครับ

เข้มแข็งไว้ครับ..มันไม่ใช่ The end of the world ครับ ไหนๆ คุณก็ลงทุนลงแรงเตรียมเอกสารมาถึงขนาดนี้แล้วครับ…..ตั้งสติให้ดี

ถ้าเป็นไปได้….สิ่งที่ผมอยากให้ทำมากที่สุดคือ…ติดต่อพนักงานสินเชื่อคนเดิมอีกครั้ง….
ถามถึงสาเหตุที่เรากู้ไม่ผ่านครับ..

เพราะอะไรน่ะหรือ

คนส่วนใหญ่มักคิดว่า…
“ก็เพราะรายได้เราน้อยเกินไปน่ะสิ”

ผมบอกได้เลยครับว่า ถูก…แต่ไม่ทั้งหมดครับ
เพราะนั่นเป็นเพียง 1 ในแสนล้านเหตผลเท่านั้นครับ



จากคุณ : lar - [ 16 ธ.ค. 47 13:34:25 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 11

และเมื่อคนส่วนใหญ่คิดเช่นนั้น มันก็มักจะไปจบลงที่ว่า
“เงินเดือนตรูก็มีเท่านี้แหละ จะไปเอาที่ไหนมาอีก…ขนาดแบงคืนี้ยังไม่ได้…แล้วแบงค์อื่นจะได้หรือวะ”

พูดจบ หลายคนก็คงจะจบการต่อสู้ของตัวเองลงเพียงแค่นั้น…แล้วหันไปดำเนินการด้าน ธุระปะปังต่างๆ เพื่อขอเงินจอง เงินมัดจำ ฯลฯ คืนจาก ผู้รับเหมา หรือโครงการ

และนี่ก็เป็นเหตุผลส่วนใหญ่ ที่เราจะได้รับจากพนักงานสินเชื่อเวลาเขาโทรมาปฎิเสธ คำขอสินเชื่อ เพราะมัน “ง่าย”

ง่ายต่อการพูด และ เขาแน่ใจว่า ถ้าเขาพูดแบบนี้ จะทำให้เราไม่มีคำถามอื่นต่ออีก และสามารถจบการสนทนาลงได้โดยเร็ว….

แต่ใจเย็นครับ
ลองถามกลับไปซักคำสิครับว่า

“แล้วถ้าพี่ลดสเป็คบ้านลงให้ถูกกว่านี้ล่ะ พอจะได้ไหม”…

หรือแบบว่า

“ถ้าพี่หาโครงการอื่นที่มันถูกกว่านนี้ล่ะ”

อะไรประมาณนี้แหละครับ

ดูซิ…อะไรจะเกิดขึ้น


จากคุณ : ล่า - [ 16 ธ.ค. 47 13:51:15 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 12


เพราะถ้าลองคิดกันดูให้เป็นเรื่องเป็นราว
เราอาจจะพบว่า..ที่เรากู้ไม่ได้นั้นเป็นเพราะ…
1. เราซื้อบ้านราคาแพงเกินไป------อันนี้ผมขอหมายรวมถึง ราคาบ้านสำหรับบ้านจัดสรร หรือ ราคาสป็ควัสดุที่ผู้รับเหมาจัดมาให้ตามความต้องการของเรา

แหม…ก็ของอย่างนี้ มันก็ต้องมีกำรี้กำไรกันบ้างสิขอรับ

และนั่นก็หมายถึงว่า มันอาจจะลดเพิ่มกันได้ครับ

แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ผมอยากให้รอฟังเหตุผลจากพนักงานสินเชื่อก่อน ว่าเขจะว่าอย่างไร หลังจากที่เราถามคำถามอย่างที่ผมแนะนำไปแล้ว

นอกจากนี้ อาจจะต้องถามให้แน่นอนเลยว่า
สรุปแล้ว ความสามารถของเรา สามารถกู้ได้ที่เท่าไหร่ แล้วผ่อนชำระได้ที่เท่าไหร่

เพราะถึงตอนนี้ พนักงานสินเชื่อจะสามารถตอบตัวเลขทุกอย่างให้คุณได้เป๊ะๆ แน่นอนครับ

ถ้าเขาบอกว่า
“ก็อาจพอเป็นไปได้ครับคุณพี่ก็ลองปรับเปลี่ยนสป็คบางรายการ แล้วค่อยยื่นใหม่ก็ได้ครับ”

อะไรประมาณนี้ ก็ลุยเลยครับ……


จากคุณ : ล่า - [ 16 ธ.ค. 47 13:58:41 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 13

แต่อย่างไรก็ตาม

การปรับเปลี่ยนสเป็ครายการวัสดุก่อสร้าง เพื่อลดต้นทุน ก็ไม่ใช่เรื่อง่าย และไม่แนะนำให้ทำเป็นอันดับแรกครับ

เพราะอะไรน่ะหรือครับ………

ทุกท่านรู้หรือไม่ว่า การสร้างบ้านขายแต่ละหลัง เขาได้กำไรกันเท่าไหร่ครับ
บอกได้ตรงนี้เลยว่า….มากกว่า 30% ครับ ที่สามารถพูดได้เต็มปากก็เพราะว่า…บ้านของผมถึงแม้ว่าจะจ้างผู้รับเหมามาสร้างก็จริง แต่ผมจะสืบราคาค่าวัสดุ และค่าแรง เกือบทุกรายการครับ

จนทำให้ผมรู้…….รู้ว่าถ้าเรามีเงินถุงเงินถัง และมีความรู้ประสบการณ์มากพอ

การสร้างบ้านขาย…จะเป็นธุรกิจอันดับแรก..ที่ผมจะทำ

ดังนั้น กลับไปคุยกับผู้รับเหมาได้เลยครับ…แต่ก็อย่างที่บอกไม่อยากให้เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนสเป็ควัสดุ
อยากให้เริ่มที่บอกความจริงกับเขา ว่าตอนนี้สถานการณ์เราเป็นอย่างไร และต้องการให้เขาช่วย โดยการ……

ลดในส่วนของกำไร……ลงหน่อยได้ไหม

ทำใจยากครับ…สำหรับผู้รับเหมา
และคำตอบแรกที่ได้ก็ค่อนข้างแน่นอนครับว่า …..ลดไม่ได้

แต่อย่างน้อย ผมก็อยากให้ลองคุยดูก่อนครับ คุยกับเขาแบบตรงไปตรงมา จริงใจไม่จริงโจ้
ถ้าเขายอม ก็เซ็นต์สัญญากันใหม่ แล้วยื่นไปใหม่ ก็ยังไม่สายครับ

ที่ผมแนะนำให้คุยเรื่องกำไรเป็นอันดับแรก ก็เพราะว่า………..


จากคุณ : ล่า - [ 16 ธ.ค. 47 14:20:36 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 14

ถึงค่าของจะแพง……แต่ค่าแรงยังลดได้ครับ

และอีกอย่างซึ่งเป็นประเด็นสำคัญสำหรับเราที่เป็นเจ้าของบ้าน คือ…ไหนๆ ก้มีบ้านทั้งทีแล้ว…..เราก็อยากให้บ้านมันออกมาดี…ออกมาสวยเหมือนอย่างที่เราต้องการ
อยากได้บ้านแบบเล่นระดับ พื้นเป็นหินแกรนิตดำอาฟริกา ตารางเมตรละหลายพันบาท สมดังใจฝัน การที่จะให้มาเปลี่ยนเป้นปาร์เก้ ตารางเมตรละ 400 กว่าบาท

…..มานทำจายลำบากง่ะ….

อันนี้เข้าใจครับ
“ทำใจ” อีกแล้วครับ

เบี้ยน้อยหอยใหญ่ เอ๊ยย…หอยน้อย ก็ต้องทำใจกันบ่อยหน่อยครับ
ของแบบนี้ มันเพิ่ม มันเติม กันภายหลังได้ครับ ถ้าในอนาคตข้างหน้า…ยังไม่ตาย ก็หากันเอาใหม่ครับ
แต่ถ้าเขายังยืนยันที่จะไม่ลดจริงๆ

ก็คงต้องมาดูกันที่การปรับเปลี่ยนรายการวัสดุครับ

….อ๊ะๆๆๆ…

ช้าก่อนครับ

ผมบอกไว้ก่อนเลยว่า…..เปลี่ยนอะไรเปลี่ยนได้ครับ
แต่อย่าเปลี่ยนสเป็ควัสดุ ที่เกี่ยวกับ

1. โครงสร้าง ความแข็งแรงของบ้าน---เช่น เสาเข็ม จาก 22 เมตร เป้น 18 เมตร, เหล็กเส้น จาก 4 หุน เหลือ 2 หุน อะไรอย่างนี้้ห้ามเด็ดขาดครับ ดอกจันไว้หลายๆ ดอกเลย

2. วัสดุเกี่ยวกับระบบต่างๆ
ระบบไฟ, ระบบประปา, ระบบสุขาภิบาล ฯลฯ
เพราะพวกนี้ เขามีวิศวะกรคำนวนมาให้ครับ….ไปเปลี่ยนของเขา ตัวเรานั่นแหละครับ…ที่จะบรรลัย


จากคุณ : ล่า - [ 16 ธ.ค. 47 14:34:45 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 15

สิ่งที่พอจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกันได้ก็คือพวก วัสดุก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับการตกแต่งครับ เช่น

พื้นหินแกรนิต เป็น ปาร์เก้หรือ ลามิเนต
อิฐมวลเบา เป็น อิฐมอญ
สุขภัณฑ์ อ่างจากุ๊ดซี่ ตัดทิ้งไปก่อนครับ
วงกบ, ประตู, หน้าต่าง
บันได
กระเบื้อง จาก โมเสก เป็น ตราช้างกล่องละร้อยกว่าบาท
รั้ว จาก อลูมิเนียมอัลลอย ประตูอัตโนมัติ เป็น อัตโนมือ

เหล่านี้เป็นต้นนะครับ

ยึดหลักไว้อย่างเดียวครับว่า….
พยายามเปลี่ยนวัสดุอุปกรณ์ที่มีส่วนต่างๆ ระหว่างราคามากๆ หน่อย
อย่างที่ผมยกตัวอย่างให้ดุข้างต้น (ยกเว้นอิฐมวลเบา เพราะแว่วๆ มาว่าตอนนี้ ราคาก็พอๆ กันแล้วขอรับ)
อย่าไปเปลี่ยนอย่างพวก ลูกบิด กลอนประตู โคมไฟ (ยกเว้นพวกระย้าแพงๆ) อะไรเหล่านี้เลยครับ
มันไม่ได้ทำให้ต้นทุนลดลงซักเท่าไหร่เลยครับ…..


จากคุณ : ล่า - [ 16 ธ.ค. 47 14:49:09 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 16

และก็อย่างที่บอกครับ
ว่า ส่วนที่จะสามารถลดกันได้เป็นกอบเป็นกำ แบบเห็นน้ำเห็นเนื้อ ก็คือ “กำไร” ของผู้รับเหมาครับ
ส่วนจะลดได้หรือไม่
มากหรือน้อยนั้น….คงต้องขึ้นอยู่กับศิลปะการเจรจา ของเจ้าของบ้านแต่ละคนครับ

หลังจากที่สรุปออกมาเรียบร้อย
ลดสเป็คกันเรียบร้อย ก็ให้เปรียบเทียบครับว่า อยู่ในของเขตที่เราจะสามารถกู้ได้หรือยัง
ถ้าพร้อมแล้ว ก็แก้ไขสัญญาให้เรียบร้อยเซ็นสัญญากันใหม่

ฮึดอีกเฮือก….ยื่นเอกสารไปกับพนักงานสินเชื่อคนเดิม ที่เคยลั่นวาจาไว้ได้เลยครับ
หรือใครบางคน อยากจะเปลี่ยนสถาบันการเงิน ก็สุดแท้แต่ความต้องการขอรับ

ตัวใครตัวมันล่ะครับทีนี้……….


จากคุณ : ล่า - [ 16 ธ.ค. 47 14:54:27 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 17

สำหรับท่านผู้มีเกียรติที่ทำสัญญาซื้อบ้านจากโครงการ

อันนี้น่าเห็นใจมากๆ ครับ
เพราะคงไม่มีโครงการไหน
ใจพระถึงขนาดลดราคาบ้านให้หรอกครับ
แม้นแต่ซักบาทเดียวก็ไม่ลดครับ……เชื่อผมเถอะ

ทางดิ้น ที่พอจะเป็นไปได้มากที่สุดคือ
หากยังปีกใจกับบ้านในฝันหลังนี้…และมีความมุ่งมั่นว่า “มันต้องเป็นของฉันให้ได้”
ออกมาตั้งหลักก่อนครับ

คุยกัยเซลคนสวยคนเดิม…ว่า พอที่จะขยายเวลาที่ระบุในสัญญาให้เราซักนิดได้ใหม เพราะเรามีปัญหาเรื่องเงินกู้กับธนาคาร เราต้องการเวลาเพื่อ ยื่นกับธนาคารแห่งใหม่

แต่เชื่อขนมไข่เต่ากินได้เลยครับว่า แทบจะทุกโครงการ เซลมักจะถูกเสี้ยมสอนให้ร่งรัดให้ลูกค้าจ่ายเงินให้เร็วที่สุด

ดังนั้นคำตอบที่น่าจะพบบ่อย อาจจะทำนองที่ว่า

“คงไม่ได้นะครับ/ค่ะ เพราะมีลูกค้าอีกท่านหนึ่งสนใจ…..พร้อมที่จะวางเงินดาวน์แล้วค่ะ…เอาอย่างนี้ไม๊คะ
คุณพี่มาทำสัญญาผ่อนดาวน์ไปก่อนก็ได้ค่ะ เราให้ผ่อนได้ถึง 12 งวดค่ะ ช่วงนี้พี่ก็ทำเรื่องยื่นกู้ไปก่อนงัยคะ”

ฮั่นแน่………อย่าเชียวนะครับ…อันตรายมากๆ

สุดท้ายถ้าไม่ไหวจริงๆ ก้ต้องทำใจ..ครับ ขอเงินจองคืน ถ้าเขากรุณาก็อาจจะคืนให้ครับ แต่โดยทั่วไปแล้วยากครับ เพราะตามกฏหมายก็ดี ที่ระบุในสัญญาจะซื้อจะขายก็ดี หากเราเป้นฝ่ายยกเลิกสัญญา เงินจำนวนนี้เขากินเปล่าไปเลยก็ได้ครับ ถือเป็นค่าเสียเวลาของเขา

นี่แหละครับ ข้อจำกัดของคนที่ซื้อบ้านจัดสรร ซึ่งไม่เหมือนกับการสร้างเอง ซึ่งอาจพอมีช่องให้ดิ้นได้บ้าง

ลุยต่อเลยครับ
หาโครงการใหม่ที่ถูกกว่า แล้วยื่นใหม่

หรือ…ถ้ายังปักใจกับบ้านในฝันหลังนี้

ก้ต้องใช้เวลาซักระยะครับ
อย่างน้อย 1 ปี เพื่อทำงานให้หนักขึ้น ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ตกแต่ง statement ให้ดูสวยงามน่ารักน่าชัง


จากคุณ : ล่า - [ 16 ธ.ค. 47 15:12:19 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 18

2. สาเหตุที่สองที่ธนาคารปฏิเสธการขอกู้เงินของคุณอาจเนื่องมาจากนโยบายของธนาคารเองครับ
กล่าวคือ เขาอาจจะเลือกลูกค้าก็ได้ครับ
เลือกเอาแต่ฐานเงินเดือนและรายได้ที่มีศักยภาพในการจ่ายดอกเบี้ยให้เขาอย่างเหลือเฟือ
ไอ้พวกที่ประเภท ก้ำกึ่งๆ จะรอดไม่รอดแหล่ หรือประเภทต้องมาซิกแซกกัน หรือลุ้นกันจนเหงื่ออกตูด…เขาไม่รับ…อย่างนี้ก็เป็นไปได้ครับ
ถ้าเป็นเพราะสาเหตุนี้ล่ะก็…ไม่ต้องเรื่องมากเลยครับ ลองยื่นแบงค์อื่นดูครับ….


จากคุณ : ล่า - [ 16 ธ.ค. 47 15:20:39 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 19

โธ่เอ๊ย…จะว่าก็ว่าไปเถอะครับ…ถามจริงเหอะ ถ้าตรูมีเงิน แล้วตรูจะมาขอกู้หาพระแสงดาบคาบค่ายอะไรฟระ….ก็เพราะไม่มีเงินน่ะสิ ถึงต้องแบกหน้ามาให้เขาดูถูกอยู่นี่ไง……

เอาล่ะครับ
ขอพักซักเดี๋ยว

ตอนหน้า จะมาเอาใจคนรวยบ้าง…หลังจากที่ยื่นกู้ผ่านเป็นผลสำเร็จแล้ว
ถึงคราวต้องมาดูจำนวนเงินที่ได้ และราคาประเมินกัน

อันว่าด้วยเรื่องราคาประเมินนั้น…มันส์แท้แน่นอน…
เดี๋ยวมาครับ


จากคุณ : ล่า - [ 16 ธ.ค. 47 15:24:06 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 20

ขอเสริมนิดนึง ครับ คุณล่า
กรณีที่ ซื้อบ้านจัดสรร วิธีที่ดีที่สุด ที่ไม่เสี่ยงคือ
ยื่นเอกสารให้ bank ทำการ pre approve ก่อน ทำการจอง หรือทำสัญญา
ยื่นอย่างเดียวไม่ได้นะครับ เดี๋ยวจะแห้ว
ต้องคุยกับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายด้วย ว่าช่วยติดตามเรื่องให้ด้วย เพราะเค้าก็อยากขายคุณ คุณก็อยากได้บ้านเขา
และก็คุยกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อที่รับเรื่องคุณด้วยครับ แล้วย้ำว่า ให้ pre approve แบบว่า ถ้าอนุมัติแล้ว ถึงจะจอง+ทำสัญญา ในกรณีนี้ หมายถึง ให้ bank เขาพิจารณาเหมือนจริงเลยครับ แบบนี้ หลายโครงการเขาก็ทำกัน
ถ้าไม่ผ่าน ผู้จะซื้อก็ไม่เสียหายอะไร เพราะยังไม่ได้เสียเงินสักบาท.......
แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 47 15:40:49

จากคุณ : malldeff - [ 16 ธ.ค. 47 15:38:00 ]





ความคิดเห็นที่ 21

ขอบคุณ คุณ malldeff ที่มาเสริมให้ครับ
จริงแท้ทีเดียวครับ
เดี๋ยวนี้ หลายโครงการ มีหลายธนาคารให้ความร่วมมือ
สามารถให้ส่ลหลักฐานเพื่อ pre approve ได้ หลังจากนั้นค่อยทำสัญญา

แต่บางโครงการก็ไม่มีครับ
ต้องแนบสัญญา เพื่อดูราคาและเงื่อนไขการซื้อขายกันก่อน..
เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวครับ ถ้าจะเลือกโครงการที่มีบริการแบบนี้

ปลอดภัยแท้แน่นอนครับ

จากคุณ : ล่า - [ 16 ธ.ค. 47 15:46:56 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 22

อย่างหนุกหนานมากค่ะ คุณล่า ( คุณmalldeffด้วย.. )
มารออ่านต่อค่ะ..

จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 16 ธ.ค. 47 15:55:42 ]





ความคิดเห็นที่ 23

ดันครับดัน..........

จากคุณ : BBQ - [ 16 ธ.ค. 47 16:00:16 ]





ความคิดเห็นที่ 24

กรณี ยื่นเรื่อง เพื่อปลูกสร้างบ้านเอง จะยุ่งยากมากกว่า ซื้อบ้านจัดสรร
จะยุ่งยากมาก หรือน้อย ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละbank แต่เท่าที่สัมผัส เจ้าของจะเหนื่อยมาก ถึงมากที่สุดก็คือ bank ธอส.ครับ
ยังมีอีกหลายเรื่องครับ คุณล่า ที่คุยกันยาววว

เรื่องประเมินราคาบ้านนี่ ยังคุยกันได้อีก เพราะแต่ละที่ มาตรฐานไม่เท่ากัน ขอย้ำนะครับ ไม่เท่ากันจริงๆ

1.เรื่องการตรวจงานระหว่างก่อสร้าง
2.การส่งมอบงาน เพื่อรับเช็คจาก ธนาคาร
3.การปิดงาน เพื่อส่งมอบให้เจ้าของ อันนี้ สุด ๆ

3 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น เกี่ยวพันกันทั้ง เจ้าของ ธนาคาร และผู้รับเหมาด้วยครับ ปวดหัวตายเลย ทั้งประสานงาน ตรวจงานคุมงาน มันพันกันไปหมด ยุ่งครับ ยุ่งมากมาก
ใครไม่เป็นเรื่องนี่อาจ เสียรู้ได้ครับ...

จากคุณ : malldeff - [ 16 ธ.ค. 47 16:30:02 ]





ความคิดเห็นที่ 25

มาว่ากันด้วยเรื่องราคาประเมินกันต่อเลยครับ….

บางธนาคาร ก็โฆษณาว่า 80% ของราคาประเมินบ้าง 85% ของราคาประเมินบ้าง

แล้วไอ้ราคาประเมินนี่มันคืออะไรล่ะนี่…….

ราคาประเมินสินทรัพย์ที่คุณต้องการจะขอกู้เพื่อไปซื้อ…ซึ่งก็คือบ้านนั่นเองครับ

ทำไมต้องมีราคาประเมิน…..
ธนาคารไม่โง่ครับ…ไม่ใช่ว่าขอกู้มาร้อยล้าน ก็ให้ทั้งร้อยล้าน..เพราะทรัพย์สิน มันก็มีมูลค่าในตัวของมันครับเกิดเขาอนุมัติให้คุณไปทั้งหมดร้อยล้าน แล้วคุณเกิดผ่อนไม่ไหวมันเกิดกลายเป็นหนี้เน่าขึ้นมา

ธนาคารต้องเอาสินทรัพย์นี้บังคับออกขาย เพื่อเอาเงินมาปิดบัญชีหนี้เน่าของคุณครับ แล้วถ้าเกิดบ้านหลังนั้น ณ เวลา นั้นราคาจริงมันไม่ถึงร้อยล้าน ธนาคารก็แย่สิครับ…..


โดยทั่วไป ทั้งบ้านจัดสรร และบ้านที่ปลูกสร้างเอง การประเมินราคาก็จะไม่แตกต่างกันมากนัก มาว่าสิ่งที่เหมือนกันก่อน

สินทรัพย์ทั้งสองประเภท ราคาประเมินจะอิงจากราคาที่ดินเป็นหลักครับ ส่วนราคาที่ดินก็จะขึ้นอยู่กับทำเลที่มันอยู่ และความเจริญที่เข้าไปถึงครับ แบบภาษาทางการเงิน เขาก็เรียกว่า ที่ดินมี “สภาพคล่อง”

อาจมีคำถามว่า..อ้าว…แล้วตัวบ้านล่ะไม่มีส่วนทำให้ราคาประเมินเพิ่มขึ้นเลยหรือ

มีครับ…แต่ไม่มากเท่าทำเลของที่ดินนั้นๆ



จากคุณ : ล่า - [ 16 ธ.ค. 47 16:30:27 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 26

โอว์….ดีจริง ครับ ขอบคุณมากๆ
มีคนมาช่วยเพิ่มความรู้ให้…ทำให้ดูคึกคักดีครับ
ทำให้มีกำลังใจที่จะพิมพ์ต่ออีกบานตะไทเลยครับ…หากยังมีประเด็นไหนที่ผมยังตกหล่น หรืออยากให้ขยายความ บอกมาได้เลยครับ ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องหลังไมค์ให้ยุ่งยาก ตอบกัน on air หน้าไมค์นี่แหละครับ

สำหรับธนาคารอาคารสงเคราะห์นี่ ผมไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไหร่ ถ้าคุณ malldeff
จะช่วยเล่าให้ฟัง ก้จะเป็นประโยชน์ไม่น้อยครับ

ถ้าท่านใดมีคำถาม แทรกมาได้เลยนะครับ

มาว่ากันต่อ…

ผมค่อนข้างมั่นใจว่าทุกท่านที่กำลังคิดจะซื้อบ้าน หรือปลูกบ้าน
คงเคยซื้อหนังสือพวกโฆษณาขายบ้าน ที่เป็นเล่มใหญ่ๆ เล่มละ 30 บาท มาอ่านกันบ้างไม่มากก็น้อยครับ

เคยเห็นกันบ้างนะครับ บ้าน เก่าๆชั้นเดียว 53 ตรว. แต่อยู่แถวสีลม ประกาศขายราคา 12 ล้านบาท
เคยเห็นกันบ้างไหมครับ คฤหาสน์ 120 ตรว. แต่อยู่แถวบ้านกล้วย-ไทรน้อย ประกาศขายราคา แค่ 8.5 ล้านบาท

นั่นแหละครับ คำตอบ

เพราะที่ดินนั้นสภาพของมัน ไม่เหมือนกับสินทรัพย์ทั่วไปครับ
กล่าวคือ มันไม่มี “ค่าเสื่อม” เหมือนกับสินทรัพย์อื่นๆ ในทางตรงกันข้าม ยิ่งนานไป มันยิ่งแพงครับ ยิ่งถ้ามันเกิดการเปลี่ยนแปลง มีความเจริญเข้าไปถึง มันจะแพงขึ้นไปอีกครับ

ส่วนตัวบ้านนั้น ถือว่าเป็น “ส่วนควบ” ของที่ดินครับ มันไม่สามารถมีมุลค่าและยืนอยู่บนตัวมันได้ เพราะมันต้องอยู่บน “ที่ดิน” ครับ

นั่นก็เป็นเหตุผลว่า ทำไม
ราคาประเมิน ถึงอิง ราคาที่ดินเป็นหลัก แถมด้วยราคาของสิ่งปลูกสร้างอีกเล็กน้อยครับ


จากคุณ : ล่า - [ 16 ธ.ค. 47 16:45:27 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 27

และก็มีข้อสังเกตุอีกประการหนึ่งว่าทำไมตัวบ้านถึงไม่ค่อยมีความสำคัญมากเท่ากับที่ดิน ก็เพราะตอนจดจำนองกับธนาคาร เราจำนองที่ดินนะครับ โฉนดที่ดินต้องไปอยู่กับเขาเลย เราไม่สาสมารถจดจำนองเฉพาะตัวบ้านได้ครับ

ทีนี้ มาถึงคำถามว่า..ราคาประเมิน…มาจากไหน

หลังจากที่ทางธนาคารได้รับเรื่องยื่นกู้ของเราเรียบร้อยแล้ว มองเห้นความเป็นไปได้ในการปล่อยกู้ ทางธนาคารเขาก็จะส่งทีมไปประเมินราคาสินทรัพย์ครับ

…มีความจริงมาบอกอีกแล้วครับ…ว่า

วีธีการประเมิน และหลักเกณฑ์ในการประเมินนั้น ไม่เหมือนกันทุกธนาคาร…กล่าวคือ
1. บางธนาคาร มีทีมประเมินสินทรัพย์เป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นพนักงานธนาคารที่มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างดี
2. บางธนาคาร จ้างบริษัทเอกชน ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้ประเมินให้ แล้วส่งข้อมูลราคาประเมินมาที่ธนาคารเพื่อทำการพิจารณา

อันนี้ผมหมายรวมถึง ประเมินทั้งราคาที่ดิน และแบบบ้านด้วยนะครับ


จากคุณ : lar - [ 16 ธ.ค. 47 16:59:13 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 28


ถามว่าแล้วเขารู้ได้อย่างไรว่าราคาประเมินเราเป็นเท่าไหร่ มั่วหรือเปล่า
อันนี้จนปัญญาที่จะตอบจริงๆ ครับ เพราะบอกได้เลยว่า 10 ธนาคาร ก็มี 10 หลักเกณฑ์ในการประเมินครับ
โดยที่ราคาประเมิน เขาจะคิดออกมาเป็น ราคาต่อตารางวาครับ อย่างเช่น ตารางวาละ 30000 บ้าง 50000 บ้าง เป็นต้น

ทีนี้…..มันก้มีคำถามเกิดขึ้นอีกว่า
“แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ได้ประเมินมามั่ว..เพราะมันมาประเมินให้อิชั้นตารางวาละวา 25000 แต่ทำไมอีที่ดินข้างๆ ถัดไปอีกซอย มันประกาศขายตั้งตารางวาละ 30000”

อันนี้มันก็แล้วแต่เขาจะตั้งราคาล่ะครับ อันนี้ไปห้ามเขาไม่ได้ เขาจะตั้ง 40000 หรือ 50000 ก็ได้ครับ สุดแท้แต่เขา แต่จะขายได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง

แต่ก็ยังพอมีทางที่จะรู้ราคาประเมินที่ดินจริงๆ ของเราได้ครับ ว่าจะเป็นเท่าไหร่ แต่มันอาจจะเชื่อถือไม่ได้ 100 % หรอกครับ…นั่นคือ

….ราคาประเมินของทางราชการ…ไงครับ

เปิดไปเลยครับที่เวปไซต์ของกรมที่ดิน อะไรจำไม่ได้แล้ว…ใครรู้ช่วยบอกทีครับ
เอาเลขที่ฉโนดใส่ลงไปได้เลยครับ แล้วราคาประเมินจะขึ้นมาให้ทันทีครับ

แต่บอกไว้ก่อนครับ…ประเดี๋ยวจะตกใจ
เพราะราคาประเมินของทางราชการส่วนใหญ่นั้น ราคาต่อตารางวา จะต่ำกว่าราคาตลาดจริงอยู่พอประมาณ
ยกตัวอย่างของผมเลยก็ได้ครับ

ที่แถวนนทบุรีของผม
เวบไซต์กรมที่ดินบอก 17000 บาท/ตารางวา….ที่ทั้งหมด 50 ตารางวา เป็นเงิน 850,000 บาท…แต่ไปทำสัญญาซื้อที่ดินกับเขาในราคา 21000 บาท/ตารางวา เป็นเงิน 1,050,000 บาท….หงอยอยู่หลายวัน เพราะเงินออมที่มีไว้จ่านส่วนต่างไม่พอ

ที่ไหนได้ ธนาคารประเมินออกมาได้ 23000/ตารางวา ครับ เป็นเงิน 1,150,000 ได้ส่วนต่างเพิ่มมาอีกแสนนึงครับ ยิ้มแก้มแทบปริ



จากคุณ : lar - [ 16 ธ.ค. 47 17:23:17 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 29

แต่บอกไว้ก่อนนะครับว่า

นี่เป็นเพียงกรณีตัวอย่างของผมเท่านั้นนะครับ
ไม่ได้เป็นบรรทัดฐานที่จะเชื่อถือหรือปฎิบัติได้กับทุกกรณี เพราะอย่างที่บอกตั้งแต่ต้นครับ ว่าแหล่งข้อมูลราคาประเมินของสถาบันการเงินแต่ละที่นั้น ไม่เหมือนกัน



จากคุณ : lar - [ 16 ธ.ค. 47 17:30:16 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 30

1,500,000 บาท

จากคุณ : lar - [ 16 ธ.ค. 47 17:49:32 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 31

โอย...ใครช่วยลบ 30 ออกทีครับ ผมกดผิด

ขออำภัยครับ

จากคุณ : ล่า - [ 16 ธ.ค. 47 17:52:27 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 32

แจ้งลบให้แล้วนะคะ คุณล่า

ต่อๆ...

อ่านอย่างเมามัน อยู่เลยค่ะ

จากคุณ : ascha - [ 16 ธ.ค. 47 18:07:06 ]





ความคิดเห็นที่ 33

1. สำหรับบ้านที่สร้างบนที่ดินของตัวเอง หรือกู้ซื้อทั้งที่ดินพร้อมกู้เพื่อปลูกสร้างบ้าน
การประเมินจะแยกต่างหากระหว่างราคาประเมินที่ดินกับแบบบ้าน

ส่วนราคาประเมินสำหรับบ้านจัดสรรนี่ค่อนข้างง่ายครับ ประเมินพร้อมกันไปเลย
ระบุไปเลยว่าหลังนี้ราคาประเมินเท่าไหร่ และราคาประเมินจะเหมือนกันหมดทุกหลัง ถ้ามีพื้นที่ เท่ากัน และแบบบ้านเหมือนกัน

ผมขออนุญาตใช้เวลาอีกนิดในการยกตัวอย่าง เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น

ตัวอย่างที่ 1
นาย เอ มีโฉนดที่ดิน..มีชื่อเป็นของตัวเอง ปลอดภาระ
ต้องการจะสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเอง โดยยื่นโฉนดและแบบ้านเพื่อขอกู้ ราคารับเหมาก่อสร้าง ระบุในสัญญา 1,500,000 บาท
ในกรณีนี้เจ้าหน้าที่จะประเมินทั้งราคาที่ดินและแบบบ้านของนายเอ ประกอบกันไปครับ โดยจะเน้นที่ราคาประเมินของที่ดินเป็นหลัก เพราะในการจดจำนอง จะจดจำนองตัวที่ดินครับ (สาหตุอย่างที่ผมเรียนไว้ข้างต้น)หากเขาดูแล้วที่ดินของนายเอ มีสภาพคล่องดี หากเกิดวันดีคืนดี กลายเป็นหนี้เน่า ก็สามารถนำออกขายได้ไม่ยาก ในราคาที่จะสามารถชำระหนี้ได้ เขาก็มีโอกาสที่จะอนุมัติได้ครับ…สมมติว่าราคาประเมินที่ดินของนายเอ ราคา 2 ล้านบาท เขาก็จะพิรณาได้ง่ายขึ้นครับ เงิน 1,500,000 บาท คงจะอนุมัติได้ไม่ยาก เพราะลำพังแค่ราคาที่ดินก็สามรถจะชำระหนี้ได้แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ประเมินแบบ้านเลยนะครับ เขาก็ต้องประเมินอีกเช่นเดียวกัน เพื่อดูว่า ไอ้ที่เขียนแบบมา ล้านห้าเนี่ย มันเหมาะสมหรือไม่ หรือให้ได้เท่าไหร่….ส่วนจะให้เต็ม 1,500,000 บาท หรือเปล่านั้น คงต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาครับถ้าเขาเห็นว่านายเอ มีรายได้ประจำที่เหลือเฟือ ไม่มีปัญหาเรื่องหนี้สิน อาจะจะเป็นไปได้ครับ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะไม่เกินราคาขายในสัญญา หรือ 100% หรอกครับ สาเหตุก็เหมือนอย่างที่ผมบอกไว้ตอนแรกๆ

แต่ถ้าหากที่ดินของนายเอ อยู่ในชนบทที่ห่างไกล หรือมีสภาพคล่องน้อย ทางธนาคารก็จะพิจารณาลดหลั่นไปตามส่วนของราคาประเมินครับ ซึ่งมีความเป็นไปได้มากที่นายเอ จะได้เงินกู้ไม่ถึงล้านห้า ครับ

แต่สะกิดนิดเดียวครับว่า
โดยทั่วไป ธนาคารเขาจะไม่แจกแจงให้เราทราบหรอกนะครับว่า ราคาประเมินของเราเท่าไหร่ คิดเป้น 80 หรือ 85 เปอร์เซ็นต์ แล้วเป็นเท่าไหร่

เขาจะโพล่งออกมาเลยครับ ว่าเขาพิจารณาให้เรากู้ได้เท่าไหร่ ผ่อนเดือนละเท่าไหร่ครับ…ถึงเราถาม เขาก็บอกไม่ได้ครับ



จากคุณ : ล่า - [ 16 ธ.ค. 47 18:28:28 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 34

ตัวอย่างที่สอง

นายบี
กู้เงินซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้าง (กรณีซื้อที่ดินต่อจากคนอื่นด้วย และปลูกสร้างเอง ไม่ช่บ้านจัดสรร)

อันนี้อาจจะยุ่งยากในการเตรียมเอกสารเล็กน้อยครับ เพราะ ต้องแยกเป็นกู้ซื้อที่ดิน โดยนายบีต้องมี สัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน และสำเนาโฉนดที่ดิน และสัญญาว่าจ้างก่อสร้าง เป็นเอกสารสำคัญในการยื่นกู้ครับ

ในกรณีนี้ ธนาคารจะประเมินดังนี้ครับ
1. ราคาประเมินของที่ดิน

สมุตว่าราคาประเมินของธนาคาร 20000 บาท/ตารางวา พื้นที่ทั้งหมด 100 ตารางวา เป็นเงิน 2 ล้านบาท
สินเชื่ออนุมัติให้ 80 เปอร์เซ็นต์ของราคาประเมิน เป็นเงิน 1 ล้าน 6 แสนบาท
ธนาคารจะกลับมาดูที่สัญญาที่เราทำกับเจ้าของที่ดินว่าตกลงไว้ในราคากี่บาท สมมุติว่าบังเอิญตกลงซื้อขายกันในราคา 1 ล้าน 6 แสนบาทพอดี และฐานรายได้ของนายบี ธนาคารคำนวนแล้วเหลือพอที่จะสามารถให้กู้ได้ 1 ล้า 6 แสนบาทเต็ม ก็ปล่อยได้เต็ม 1 ล้าน 6 แสนบาท ทันที

ขอกลับไปที่กรณีของผมนิดนึงครับ
อาจจะสงสัยกันว่าทำไม ผมซื้อที่ดินราคา 1ล้าน 5 หมื่นบาท แตธนาคาร อนุมัติให้ผม 1 ล้าน 1 แสน ห้าหมื่นบาท ทำให้ผมมีส่วนต่างที่ได้เพิ่ม จากธนาคาร 1 แสนบาทมันมีเทคนิคครับ นั่นคือการระบุราคาในสัญญาให้มากกว่าความเป็นจริงครับ ซึ่งหลายคนอาจจะเคยทำกันมาบ้างแล้ว แต่มันก้มีความเสี่ยง และสิ่งที่ควรรู้ก่อนทำครับ

แต่ขอยกยอดไปต่อ อีก 2 วัน จะได้ไหมเนี่ย

ต้องไปแล้วครับ ไป ตจว. ด้วย เดี๋ยววันอาทิตย์จะกลับมาโม้ต่อครับ
ช่วงที่ผมไม่อยู่นี่ ฝากคำถามไว้ก็ได้นะครับ

หรือมีใครอยากจะทักท้วง หรือเพิ่มเติมให้ ก็ยินดีครับ
ผมเองก็ไม่ได้รู้ไปทุกอย่าง และอาจจะผิดในบางอย่างก็ได้ครับ

สรุปว่า เรื่องของนายบี ยังไม่จบนะครับ
แล้ววันอาทิตย์เจอกันครับ



จากคุณ : ล่า - [ 16 ธ.ค. 47 18:46:25 A:203.152.9.158 X: TicketID:081990 ]




ความคิดเห็นที่ 35

ติดตามอ่านตั้งแต่เช้าจนค่ำเลิกงาน..สงสัยต้องไปเปิดอ่านต่อเน็ตที่บ้าน
มีหลายคำถามที่อยากถามแต่เกรงว่าจะเป็นการขัดจังหวะ
รอให้คุณล่า.เล่าจนจบก่อนครับ...
ขอขอบคุณ..สำหรับบทความอันมีค่านี้..
ที่ช่วยจุดประกายมนุษย์เงินเดือนไร้เงินออม..อย่างผม
จะต้องเตรียมตัวอย่างไรต่อไป..
ถ้าในชีวิตอยากมีบ้านเล็กๆ สักหลังครับ

จากคุณ : kumta - [ 16 ธ.ค. 47 18:47:40 ]





ความคิดเห็นที่ 36

มันจริงๆ
มันน่ารวมเล่มเป็นคัมภีร์กู้เงินซื้อบ้านซะเลย
แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 47 19:10:48

จากคุณ : John Luc - [ 16 ธ.ค. 47 19:09:41 ]





ความคิดเห็นที่ 37

บุญรักษา เดินทางปลอดภัยค่า.. อิอิ

จากคุณ : ว่านน้ำ - [ 16 ธ.ค. 47 19:31:05 ]





ความคิดเห็นที่ 38

พี่ทำหนังสือขายเลยครับ ขายดีแน่ๆ ได้ทั้งพี่ได้ทั้งพวกผม



ขอบคุณมากๆเลยครับ รู้สึกหัวโตมาอีก 5มม.

จากคุณ : Alien From Mars - [ 16 ธ.ค. 47 22:10:45 ]





ความคิดเห็นที่ 39

ขอบคุณครับ คุณล่า ยังไงผมจะเรียบเรียงบางส่วนมาเสริมเพิ่มเติมให้นะครับ ตอนนี้รู้สึกเบลอ ๆ นิดหน่อย
เรื่องขอ เทคนิคการปรับแต่งตัวเลข แต่ละขั้นตอน ต่าง ๆ มันเรียนรู้กันได้ไม่จบครับ
case แต่ละ case ไม่เหมือนกัน จึงอาจทำให้เทคนิคแต่ละขั้นตอนต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน อย่างที่คุณล่าอธิบายมา
เอาเป็นว่า เดี๋ยวจะเสริมเท่าที่นึกได้ละกันนะครับ

จากคุณ : malldeff - [ 17 ธ.ค. 47 10:31:50 ]





ความคิดเห็นที่ 40

-ขอขอบคุณทั้ง 2 ท่านที่ได้ให้ความรู้กับกับผู้รู้(น้อย)อย่างผมครับ

จากคุณ : MR.FROG (MR.FROG) - [ 17 ธ.ค. 47 22:43:36 ]





Create Date : 25 มิถุนายน 2550
Last Update : 31 พฤษภาคม 2552 18:07:56 น. 0 comments
Counter : 857 Pageviews.

gijane
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




รักสายลม แสงแดด เกลียดการดูถูกคนจน ชอบทั้งหมาและแมว
Friends' blogs
[Add gijane's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.