|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
(ทำ)ฟันคนท้อง!!!
ตั้งหัวเรื่องซะ...ติดเรทไปเลยนะเนี่ย อันที่จริงไม่มีอะไรดอกครับ เนื่องมาจากมีคำถามประจำที่คุณแม่ตั้งครรภ์มักจะมาถามสูติแพทย์ว่า"ตั้ง ครรภ์อยู่...จะทำฟันได้ไหม" เรื่องนี้เป็นที่ยืนยัน...ประมาณว่า "ฟันธง" จากทั้งสูติแพทย์และทันตแพทย์ว่า การทำฟันไม่ได้มีอันตรายต่อการตั้งครรภ์แต่อย่างใด แต่...(แต่อีกแล้ว) แต่ก็มีข้อควรพิจารณาไว้ดังต่อไปนี้ 1. ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะทำฟัน ส่วนใหญ่จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ และไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์ นั่นก็คือช่วงเวลาที่เหมาะสมคือทำฟันในช่วงไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์การ ที่ทันตแพทย์ไม่อยากจะทำฟันในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์นั้น เป็นเหตุผลทางอ้อมครับ เพราะการแท้งบุตรส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์(12 สัปดาห์แรก) การแท้งกับการทำฟันไม่เกี่ยวข้องกันก็จริง แต่หากเกิดการแท้งขึ้น...คุณแม่หรือคนรอบๆข้างก็คงอดคิดไม่ได้ ดังนั้นเพื่อตัดปัญหาดังกล่าว หากไม่ได้จำเป็นมากมากจริง ก็ควรไปทำฟันในช่วงไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์ดีกว่า สำหรับช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์นั้น คุณแม่ที่ตั้งครรภ์หลายๆท่านจะมีการอึดอัดมากเวลานอนหงาย หรือบางรายอาจเกิดอาการหน้ามืดเวลานอนหงาย ทำให้ลำบากเวลาที่ต้องนอนทำฟันนานๆ(อึมมมม...คงไม่มีใครนอนคว่ำ นอนตะแคงทำฟันอยู่แล้วครับ) อีกทั้งการที่ท้องโตๆก็อาจจะทำให้คุณหมอฟันขยับเขยื้อนเครื่องมือต่างๆ ลำบากด้วย 2. พิจารณาทำฟันเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ข้อนี้คงต้องให้เป็นหน้าที่ของทันตแพทย์ครับ ส่วนใหญ่ก็จะเห็นด้วยกันว่า ถ้าไม่ทำจะเกิดผลร้ายต่อคุณแม่ที่จะตั้งครรภ์ได้ ตัวย่างเช่น การอุดฟัน การครอบฟัน น่าจะค่อนข้างจำเป็น เพราะทิ้งไว้ฟันอาจจะผุจนกระทั่งมีปัญหาเกิดการติดเชื้อลุกลามไป หรือต้องสูญเสียฟันอันเป็นที่รักได้ แต่ถ้าเป็นอะไรที่ไม่ได้จำเป็นนัก เป็นเรื่องของความสวยงาม เช่น การเคลือบสีฟัน อย่างนั้นก็น่าจะรอไปทำหลังคลอดบุตรจะดีกว่า 3. หลีกเลี่ยงการได้รับรังสีหรือยาที่ไม่จำเป็น หรือให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งนี้ในการทำฟันบางครั้งจะต้องถ่ายภาพรังสีเอ็กซ์เรย์ของฟันด้วย ก็ต้องเป็นวิจารณญาณของทันตแพทย์ครับ หากจำเป็นก็ต้องทำแต่คุณหมอก็จะป้องกันโดยการ "Shield" ซึ่งก็คือการใช้แผ่นตะกั่วมาคลุมท้องเอาไว้ อันที่จริงปริมาณรังสีที่ได้รับนี่...น้อยมากมากครับ แต่ยิ่งน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีครับ ยาชาก็เหมือนกันไม่ได้เป็นอันตรายอะไรมากดอกครับ แต่ใช้น้อยที่สุดได้เท่าไหร่ได้ก็ยิ่งดี 4. อย่าลืมบอกทันตแพทย์ว่าคุณตั้งครรภ์อยู่ 5. หมั่นคอยดูแลและรักษาสุขภาพช่องปากและฟันอย่างสม่ำเสมอ เรื่อง อื่นๆที่มีคนถามถึงกันบ่อยๆก็มี...หลายคนสงสัยว่าการตั้งครรภ์ทำให้ฟันผุ เพราะว่าทารกในครรภ์ดึงแคลเซี่ยมไปจากฟันคุณแม่หรือเปล่า ขอบอกว่าเรื่องนี้เป็นเพียงข่าวลือ กล่าวคือไม่มีหลักฐานดังว่าดอกครับ หากฟันจะผุก็เพราะการดูแลสุขภาพฟันไม่ดีเป็นสาเหตุสำคัญครับ ดังนั้นในคุณแม่ที่เตรียมตัวพร้อมก็อาจจะจัดการปัญหาของฟันก่อนจะตั้งครรภ์ ครับ อีกเรื่องก็จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับเหงือกขณะตั้งครรภ์ อันนี้เกี่ยวกันโดยตรงกับการตั้งครรภ์ครับ เพราะการตั้งครรภ์จะทำให้เหงือกบวม แดงและอาจจะมีเลือดออกได้ง่ายขึ้นขณะแปรงฟัน ส่วนกรณีที่คุณหมอฟันหลายๆท่านไม่ยอมทำฟันให้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์นี่...อันนี้ก็เป็นความเห็นส่วนตัวของคุณหมอแต่ละท่านครับ โดยเหตุผลทางวิชาการก็อย่างที่กล่าวไปแล้วครับ หวังว่าบทความนี้คงจะให้ ความกระจ่างแก่คุณม่ตั้งครรภ์ทั้งหลายเกี่ยวกับเรื่องฟันนะครับ ขอให้เรื่องฟันกลายเป็นเรื่อง Fun Fun สำหรับคุณแม่ทุกท่านนะครับ อ้อ...หากต้องการอ่านเพิ่มเติมหรือต้องการ Reference ในเรื่องนี้ก็สามารถหาอ่านได้ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ //www.americanpregnancy.org/pregnancyhealth/dentalwork.html //www.ada.org/public/topics/pregnancy_faq.asp //www.webmd.com/oral-health/dental-care-pregnancy
Create Date : 23 มกราคม 2552 |
Last Update : 23 มกราคม 2552 15:06:17 น. |
|
6 comments
|
Counter : 3948 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: Minnie IP: 124.121.117.87 วันที่: 24 มกราคม 2552 เวลา:11:41:57 น. |
|
โดย: Naughtydoc IP: 58.8.60.186 วันที่: 24 มกราคม 2552 เวลา:12:33:29 น. |
|
โดย: IcyRose วันที่: 3 มิถุนายน 2552 เวลา:22:18:26 น. |
|
โดย: สุกี้ IP: 115.67.72.118 วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:10:17:34 น. |
|
โดย: 1 IP: 114.128.93.13 วันที่: 21 สิงหาคม 2553 เวลา:12:01:41 น. |
|
โดย: คุณแม่ IP: 101.108.141.176 วันที่: 10 ธันวาคม 2554 เวลา:9:39:18 น. |
|
| |
|
NaughtyDoc |
|
|
|
|