โยโย่ซะแล้ว ทำยังไงดี (ภาค1)

นั่งว่างๆ ระหว่างรอมื้อเย็นในกระเพาะย่อย แล้วค่อยไปปั่นจักรยานต่อ เลยนึกอยากจะเขียนอะไรสักหน่อยระหว่างรอเวลา คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ

เท่าที่สิงอยู่ในคลับลดความอ้วน ของพันทิพ.คอม มาหลายเดือน เราสังเกตุว่า ยังมีคนที่ลดความอ้วนด้วยความเข้าใจผิดๆ อยู่มากเลย ทั้งเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย ผลอันไม่พึงปรารถนาอย่างหนึ่งที่มักจะตามมาหลังจากการลดความอ้วน ก็คือ โยโย่ เอฟเฟค (ชื่อนี้คงเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนลดความอ้วนนะ)

เราเคยตอบกระทู้ไปหลายๆ กระทู้เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดโยโย่ เอฟเฟค แต่ยังไม่เคยพูดถึงทางแก้ สำหรับคนที่พลาดไปแล้ว อย่างละเอียดสักที วันนี้เลยอยากจะแบ่งปันความรู้กัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่ลดความอ้วนอยู่ และคนที่กำลังทุกข์ทรมานกับโยโย่ด้วย

ความเข้าใจที่ผิดๆ และความเป็นจริงที่น่ากลัว

ผู้ต้องการลดน้ำหนักส่วนใหญ่มักจะใช้วิธี อดอาหาร อดข้าวเช้า อดข้าวเย็น หรือไม่ก็เปลี่ยนไปรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ แต่สองในสามของผู้ที่ใช้วิธีนี้ จะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ภายในหนึ่งปีหรือเร็วกว่านั้น และ 97% จะมีน้ำหนักตัวกลับมาเหมือนเดิมภายใน 5 ปี -- ฟังดูน่ากลัวใช่ไม๊คะ

จริงๆแล้ว การลดน้ำหนัก คือ การลดไขมัน (body fat) ไม่ใช่ลดกล้ามเนื้อ (muscle tissue) การอดอาหาร หรือ บริโภคอาหารแคลอรี่ต่ำ เป็นทางตรงในการทำลายมวลกล้ามเนื้อ ไม่ใช่การเผาผลาญไขมัน

สำหรับคนที่พลาดไปแล้ว กำลังเจอโยโย่อยู่ สภาวะของร่างกายตอนนี้ คือ การเผาผลาญแคลอรี่ต่ำ ทางแก้ก็คือ ต้องเพิ่มอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ ส่วนคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ การเพิ่มอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ ช่วยให้การลดน้ำหนักง่ายขึ้น ไม่กลับมาอ้วนอีกในระยะยาว

metabolism คืออะไร

อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ เมตาโบลิซึม ก็คือ อัตราที่ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ เพื่อการดำรงชีวิต ร่างกายของเราเผาผลาญแคลอรี่ตลอด 24 ชม. ในแต่ละวัน โดยไม่สนว่าเราจะออกกำลังหรือไม่ ร่างกายของเราต้องใช้พลังงานตลอดเวลา แม้ในขณะหลับ (คุณยังต้องหายใจ หัวใจยังเต้น ต่อมต่างๆ ยังผลิตฮอร์โมน ฯลฯ) ดังนั้น การงดอาหาร มื้อใดมื้อหนึ่ง (หรือหลายมื้อ)จึงเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุด ถ้าเป้าหมายของคุณคือ การลดความอ้วน

อะไรบ้างที่มีผลกระทบต่อระบบ metabolism

มาลองเดากันเล่นๆ สิคะ ว่าอะไรที่ส่งผลกระทบมากที่สุด ต่อระบบ metabolism... ระดับความหนักของกิจกรรมที่ทำ? การทำงานของต่อมไทรอยด์? อายุ?

ผิดหมดค่ะ ..คำตอบก็คือ "กล้ามเนื้อ (musle tissue)" นั่นเอง จริงอยู่ที่คำตอบทั้งหมดที่ว่ามาก็มีผลต่อระบบ metabolism แต่อะไรก็ไม่มีผลมากไปกว่า กล้ามเนื้อ เพราะกล้ามเนื้อจะเผาผลาญแคลอรี่ โดยไม่สนใจว่า คุณจะทำกิจกรรมมาก หรือ น้อยแค่ไหน หรือ คุณอายุเท่าไหร่ กล้ามเนื้อ เป็นเนื้อเยื่อที่ทำงานเผาผลาญแคลอรี่ให้คุณ ต่ลอด 24 ชม. ทุกวันไม่มีวันหยุด! กล้ามเนื้อเผาผลาญแคลอรี่ มากกว่าเนื้อเยื่ออื่นถึง 5 เท่า

เรามาดูกันว่าสิ่งที่มีผลกระทบต่อระบบ metabolism มีอะไรบ้าง ตามลำดับความสำคัญ

1. กล้ามเนื้อ
2. ความถี่ของมื้ออาหาร
3. ระดับการใช้พลังงานของกิจกรรมที่ทำ
4. อาหาร
5. ภาวะขาดน้ำ
6. พันธุกรรม
7. การผลิตฮอร์โมน และ การทำหน้าที่ของฮอร์โมน
8. ความเครียด

มาดูละเอียดๆ กันเป็นข้อๆ ไปเลยดีกว่า

อันดับแรก "กล้ามเนื้อ"

มักจะมีคนพูดว่า "สามสิบแล้ว จะลดความอ้วนยาก" หลายๆคนมักจะคิดว่า มวลกล้ามเนื้อของคนเรา ลดลงไปตามวัย จึงทำให้ metabolism ลดลง ซึ่งทำให้ลดความอ้วนยาก จริงๆ แล้วนั่นไม่ใช่สาเหตุหลัก แต่เกิดจาก

1.กล้ามเนื้อหย่อนประสิทธิภาพลง
2.ร่างกายจะทำลายกล้ามเนื้อทิ้ง เมื่อมันต้องการพลังงาน แต่คุณไม่กินอาหารเข้าไป เนื่องจากคุณกำลัง"ไดเอ็ต" ด้วยการอดมื้อเย็น ฯลฯ
3.เมื่อคนเราอายุมากขึ้น มีแนวโน้มจะทำกิจกรรมน้อยลง และเบาลง

แล้วจะทำอย่างไรล่ะให้กล้ามเนื้อทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้มากขึ้น --
คำตอบคือ การยกน้ำหนัก หรือ การออกกำลังต้านแรง

การออกกำลังกายด้วยวิธีนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อซึ่งเผาผลาญอาหารได้ดีแล้ว ใครที่มีปัญหาห่วงยางรอบเอวหนา ลองหันมาออกกำลังกาย ด้วยการยกน้ำหนัก จะช่วยลดพุงได้ดีเป็นพิเศษ นอกเหนือจากการลดไขมันโดยรวมทั้งตัว แพทย์ในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษา เพื่อยืนยันผลการวิจัยนี้

อาจารย์ ดร.เทรซี สทีเวนส์ อายุรแพทย์โรคหัวใจ แห่งโรงพยาบาลเซ็นต์ลุกส์ เมืองแคนซัส สหรัฐอเมริการายงานผลวิจัยในผู้หญิงน้ำหนักเกินและอ้วน 164 คน

ท่านแบ่งอาสาสมัครออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้ยกน้ำหนัก หรือออกกำลังต้านแรง และแนะนำให้ค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักทีละน้อย มีการฝึกยกตุ้มน้ำหนัก และใช้เครื่องมือออกกำลังกายคราวละ 1 ชั่วโมง

อีกกลุ่มหนึ่งแจกเอกสารแนะนำ (brochure / โบรชัวร์) ให้ออกกำลังกายวันละ 30 นาที ติดตามไป 2 ปี

กลุ่มที่ยกน้ำหนักมีไขมันในช่องท้องเพิ่มขึ้น 7 % น้อยกว่ากลุ่มที่สองซึ่งเพิ่มขึ้น 21 % ไขมันส่วนลำตัว (body fat) ในกลุ่มที่ยกน้ำหนักลดลงเกือบ 4 % กลุ่มที่สองไม่พบการเปลี่ยนแปลง
ไขมันรอบพุง (tummy fat) จะพบเพิ่มขึ้นตามอายุ ทำให้ผู้หญิงอ้วนรอบพุงคล้ายแอปเปิ้ล ไขมันประเภทนี้มักจะหุ้มอยู่รอบๆ อวัยวะภายใน และมีความสัมพันธ์กับโรคเส้นเลือดอุดตัน นั่นคือ คนที่มีหุ่นแบบแอปเปิ้ล มีโอกาสเป็นโรคเส้นเลือดอุดตัน มากเป็นพิเศษ

ใครที่ไม่มีโอกาสเข้าฟิตเนส ดัมเบลที่บ้านก็ไม่มี ใช้วิธีวิดพื้น เดินขึ้นบันได ซิทอัพ ก็ใช้ได้ค่ะ จัดเป็นการออกกำลังกายในกลุ่มต้านแรงเหมือนกัน

นอกจากการออกกำลังในกลุ่มต้านแรงแล้ว การออกกำลังกายแบบแอโรบิค เช่น เดินเร็ว วิ่ง เต้นแอโรบิค ปั่นจักรยาน ก็ช่วยเพิ่มเมตาโบลึซึมได้ดี และยังช่วยลดความอยากอาหารด้วย

อันดับต่อมา "ความถี่ของมื้ออาหาร"

มีคำกล่าว่าว่า "You are when you eat." การรับประทานอาหารมื้อเล็กๆตลอดวัน ทุก 2-3 ชม. จะช่วยป้องกันไม่ให้คาร์โบไฮเดรต และ โปรตีน ถูกเปลี่ยนไปเป็นไขมัน ยิ่งเว้นระยะห่าง ระหว่างอาหารแต่ละมื้อมาก ระบบเมตาโบลึซึม จะยิ่งทำงานช้าลง เพื่อเก็บรักษาพลังงาน

วัฒนธรรมการรับประทานอาหาร 3 มื้อต่อวัน ทำให้ร่างกายต้องเก็บสำรองพลังงานเป็นช่วงๆ มื้อเช้า เป็นมื้อที่สำคัญที่สุด ในการเร่งการเผาผลาญตลอดทั้งวัน หลังจากที่ร่างกายไม่ได้รับอาหาร เป็นระยะเวลาหลายชั่วโมง ในช่วงที่คุณหลับ หากคุณไม่ทานมื้อเช้า ยิ่งทำให้ร่างกายไม่ได้รับอาหาร นานขึ้นไปอีก จนกว่าจะถึงมื้อกลางวัน ร่างกายจึงต้องเก็บสำรองพลังงาน ด้วยการปรับระดับการเผาผลาญ ให้ต่ำลง นี่จึงเป็นสาเหตุว่า การงดอาหาร มื้อใดมื้อหนึ่ง (หรือหลายมื้อ)จึงเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุด ถ้าเป้าหมายของคุณคือ การลดความอ้วน

หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน ต้องรออีกหลายชั่วโมง อย่างน้อยก็ 5-6 ชม. กว่าจะถึงอาหารเย็น บางคนกลับค่ำ ก็ยิ่งกินช้าลงไปอีก ระยะห่างเช่นนี้ ทำให้ร่างกายต้องเก็บรักษาพลังงาน ด้วยการเปลี่ยนสารอาหาร ไปเก็บเป็นไขมันมากขึ้น และปรับการเผาผลาญให้ต่ำลง ลองสังเกตุตัวเองดู ประมาณสัก 4 โมงเย็น เราก็จะเริ่มรู้สึกหิว นั่นเพราะร่างกายต้องการพลังงานแล้วนั่นเอง จึงส่งสัญญาณบอกเรา

สำหรับคนที่ทำงานออฟฟิศ อาจจะหาผลไม้สักถุง-สองถุง ไว้ทานคั่น ระหว่างมื้อกลางวัน กับมื้อเย็น เพื่อลดช่องว่างระหว่างมื้อ และป้องกันไม่ให้ร่างกายปรับระดับเมตาโบลึซึมให้ต่ำลง


Create Date : 16 มีนาคม 2549
Last Update : 20 มีนาคม 2549 13:58:04 น. 41 comments
Counter : 29591 Pageviews.

 
เอ... จะมีใครอ่านป่าวเนี่ย ถ้ามีคนรออ่านจะได้ต่อภาคสองอ่ะ


โดย: ณัฏฐา วันที่: 19 มีนาคม 2549 เวลา:22:53:20 น.  

 
ขอบคุณมากสำหรับสาระดี ๆ

จะรออ่านภาคต่อไป นะจ๊ะ


โดย: ไอโกะจัง IP: 202.129.57.5 วันที่: 20 มีนาคม 2549 เวลา:11:27:50 น.  

 
รออ่านอยู่นะคะ
ช่วยเราที โดนโยโย่ของแท้เลยค่ะตอนนี้ T T

เรา ลด นน. อย่างผิดวิธีมาประมาณ 6 เดือนได้แล้วอะค่ะ
(พลาดไปแล้วถึงค่อยรู้ว่ามีคลับลดความอ้วนในพันทิพ)
ช่วงที่เราลดกินน้อย มาก มาก มาก
เช้าไม่ค่อยได้กิน
เที่ยงข้าว 1/4 จาน
เย็นผลไม้ 1 ถุง
จะมีบางวันขนมระหว่างวันนิดๆหน่อยๆ

น้อยมั้ยล่ะคะ? แย่มากๆเลย เมตาบอลิซึ่มเราตอนนี้เลยทำงานน้อยมากกก
ตอนนี้กินเยอะกว่านั้นแล้วกินทุกมื้อ แต่ยังคงต้องกินของแคลอรี่ต่ำๆอยู่ เพราะกลัวว่า นน จะขึ้นน่ะค่ะ
กำลังจะไปซื้อวีซีดีเต้นแอโรบิค Taebo กับ ซินดี้ มาเต้น + ค่อยๆเพิ่มปริมาณอาหาร
เฮ้อออ ไม่น่าเลย ตอนนี้เครียดจริงๆ
ยังไงช่วยเขียนต่อเถอะนะคะ จะรออ่านค่ะ


โดย: Firenze IP: 202.28.181.10 วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:16:17:01 น.  

 
มาอ่านแล้วครับ เขียนได้เยี่ยมมากครับขอบคุณครับ


โดย: tAkeShI iTo IP: 58.64.103.32 วันที่: 4 เมษายน 2549 เวลา:20:23:04 น.  

 
มารออ่านค่า ขอบคุณมากสำหรับบทความนะคะ


โดย: PCh 05 IP: 125.24.65.81 วันที่: 5 เมษายน 2549 เวลา:9:07:28 น.  

 
รออยู่คร้าบ ดูมีหลักการมากเลยคร้าบ(ไม่ได้ประชดน้าพูดจริงๆ)


โดย: k1 IP: 195.158.147.101 วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:0:42:01 น.  

 
มารออ่านเหมือนกันค่ะ มีประโยชน์มากเลย ต่อภาค 2 เร็วๆนะคะ


โดย: Norsk jenta IP: 80.202.92.142 วันที่: 6 เมษายน 2549 เวลา:17:28:09 น.  

 
ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์มากเลยเพราะปฎิบัติผิดหลักมาตั้งหลายอย่าง ต้องปรับใหม่ละเรา


โดย: คลีโอ IP: 58.8.117.196 วันที่: 8 เมษายน 2549 เวลา:12:38:02 น.  

 
ต่อเลยครับ เรื่องดีดีแบบนี้ มีคนอ่านแน่นอน


โดย: npn IP: 203.113.80.13 วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:5:07:26 น.  

 
อ่านครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับที่มีบทความดี ๆ


โดย: yut IP: 124.121.171.128 วันที่: 26 สิงหาคม 2549 เวลา:1:32:41 น.  

 

ดีจังค่ะ
มีความรุ้เพิ่มมากเลย


โดย: now IP: 125.26.151.20 วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:21:30:15 น.  

 
ดีจังค่ะ

ได้ความรู้เพิ่มขึ้นด้วย

จะเอาไปทำรายงานด้วยดีกว่า

จะรออ่านภาคต่อไปนะคะ


โดย: itim IP: 202.28.77.32 วันที่: 15 มิถุนายน 2551 เวลา:10:11:57 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะพี่โอ๋... ที่เขียนบทความนี้ขึ้นมาเป็นประโยชน์ให้คนได้อ่านกัน



โดย: คุณหนูเอ๊าะอ๋อ วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:17:21:09 น.  

 
มีประโยชน์มากๆเลยคะ เขียนอ่านง่าย ขอบคุณมากๆเลยนะคะ :))


โดย: พลอย IP: 183.89.130.194 วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:06:03 น.  

 
รออ่านภาค 2 อยู่ค่ะ ได้ความรู้มากค่ะ เป็นเวลาเกือบ 10ปีแล้ว ที่วนเวียนกับยาลดความอ้วน
คือ เดี๋ยวผอม เดี๋ยวอ้วน เวสาอ้วนก็อ้วนมากกว่าเดิม คือโยโย่แล้ว
ตอนนี้เลิกทานแล้ว หันมาออกกำลังกายแทน โยคะกับวิ่งค่ะ น้ำหนักยังไม่ลด มีแต่เพิ่ม
แต่ร่างกายกระชับขึ้นมาก แล้วก็จะหิวบ่อยมาก ทุกๆ 3 ชั่วโมง สงสัยมาตลอดว่ามาถูกทางหรือเปล่า
วันนี้ก็ได้คำตอบแล้ว แต่อยากรู้อีกอย่างนึง ว่าถ้าร่างกายสร้างกล้ามเนื้อใหญ่ขึ้น แล้วจะผอมลงหรือเปล่าค่ะ
ขอบคุณนะค่ะที่ช่วยแบ่งปันความรู้


โดย: Daochan IP: 1.47.222.105 วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:8:34:58 น.  

 
ดีจังเลย ชอบชอบชอบ


โดย: มีมี่ IP: 118.172.0.221 วันที่: 18 ตุลาคม 2553 เวลา:7:59:29 น.  

 
ยังไม่ได้อ่านแต่ขอลงชื่อไว้ก่อนจ้า ตามมาจากลิ้งค์ที่พันติ๊บ


โดย: hyperple IP: 110.49.205.39 วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:19:04:41 น.  

 
ตามมาอ่านจ้า


โดย: เทวดามิคาเอล วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:11:00:36 น.  

 
ติดตามนะคะ รอภาค2 นี่ไม่กินสักมื้อเลยมาปีนึงแล้ว กินผลไม้กับขนมนิดหน่อย น้ำหนักลดเยอะมากก ผอมไปเลย ตอนนี้กลับมากินแค่วันละมื้อ อาทิตเดียวขึ้น8โล ช่วยด้วยค่ะ


โดย: อ้วน IP: 27.55.32.45 วันที่: 20 ธันวาคม 2553 เวลา:12:06:41 น.  

 
เราอยากลดน้ำหนักมาก มีความรู้ดีๆๆเเบบนี้ดีจัง


โดย: ซีเเกรม IP: 223.206.166.70 วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:12:26:10 น.  

 
เราผิดพลาดมาแล้ว และเกิดโยโย่ด้วยอ่ะทำไงดี แต่ทุกวันนี้เราไม่คิดจะกินยาลดอีกเลยนะ ไม่ว่าอาหารเสริมเอย กาแฟลดอ้วนต่างๆ เอย เราเข็ดแล้ว เรากำลังหันมาหาโภชนาการที่ถูกต้องและก้เริ่มออกกำลังกาย เราเน้นกินผักเยอะน่ะ แต่ไม่อดข้าวกับเนื้อสัตว์นะแค่ลดมันลงเท่านั้น แบบนี้จะดีไหม และก็กินสามมื้อเหมือนเดิมแล้วแหละ ถ้าไม่ลดก็ไม่ขึ้นก้พอเนาะ


โดย: nana IP: 110.49.241.226 วันที่: 3 กันยายน 2554 เวลา:23:06:49 น.  

 
เพิ่งรู้ว่ามีแบบนี้ตามมาอ่านะคะ ป้าไม่ต้องการลดน้ำหนักเพียงต้องการคุมไม่ให้น้ำหนักเพิ่มก็ยากแล้ว มีอะไรดีๆเอามาอีกนะคะขอบคุณหนูล่วงหน่าค่ะ


โดย: Panoi IP: 183.88.72.176 วันที่: 17 มิถุนายน 2555 เวลา:8:14:00 น.  

 
ตามมาอ่านค่า


โดย: หลงผิด IP: 58.9.240.37 วันที่: 17 มิถุนายน 2555 เวลา:23:19:38 น.  

 
รออ่านนะคะ มีปัญหาอยู่อ่ะค่ะ


โดย: หญิง IP: 49.230.148.198 วันที่: 29 มิถุนายน 2555 เวลา:13:09:44 น.  

 
มี่่ขอนำความรู้ดี ๆ นี้ไปแบ่งปันในเวป "สลัดผัก" เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้ลดน้ำหนักกันอย่างถูกวิธีนะคะ

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ


โดย: มี่ IP: 171.98.64.22 วันที่: 10 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:10:06 น.  

 
ขอบคุณพี่โอ๋ค่ะ มาตามอ่านอยู่^_^


โดย: ตุ้ย (กระปุกกะน้ำชา ) วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:6:44:28 น.  

 
บล็อคใหนอ่านแล้วขอลงชื่อไว้เลยนะคะ ยิ่งอ่านเหมือนยิ่งมีไฟส่องทาง อิอิ
ขอบคุณมากนะคะ
อ่อ...คุณนัฐฐาคะ จะเป็นการรบกวนรึป่าว หากมีคำถามอะไรสงสัยอยากขอคำแนะนำนะค่ะ


โดย: นู๋มาริ วันที่: 25 กรกฎาคม 2555 เวลา:20:28:35 น.  

 
สวัสดีทุกคนค่ะ มีคำถามอะไร ถามทิ้งไว้ในบล็อกก็ได้ค่ะ ถ้าไม่ได้เข้ามาตอบ ก็หลังไมค์ได้เลยค่ะ


โดย: ณัฏฐา วันที่: 26 กรกฎาคม 2555 เวลา:17:38:07 น.  

 
ขอบคุณความรู้ดีๆครับ กำลังลดน้ำหนักเหมือนกัน


โดย: Hand dryer IP: 110.169.247.194 วันที่: 22 สิงหาคม 2555 เวลา:10:13:23 น.  

 
ได้ความรู้มากเลยคับ ขอบคุณมากคับ เข้าใจผิดๆอะไรมาหลายอย่าง


โดย: Gump IP: 58.64.80.230 วันที่: 26 กันยายน 2555 เวลา:23:16:01 น.  

 
ขอบคุณมากนะค๊ะ กำลังอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับการโยโย่อยู่พอดี
สิ่งทีุ่คุณเขียนมีประโยชน์มากมายเลยค่า


โดย: Pilkyo-Oilly (Pilkyo_Oilly ) วันที่: 3 ตุลาคม 2555 เวลา:11:36:41 น.  

 
เคยลดน้ำหนักมาแล้วค่ะ หลายครั้งด้วย โชคดีที่เป็นคนคำนวนแคลลอรี่ของอาหารได้ อาหารที่กินมักจะเป้นแคลลอรี่ต่ำๆ เลยไม่ค่อยโยโย่มากเท่าไร เคยลดอาหารอย่างเดียวโดยไม่ออกกำลังกายเป็นเวลา 6 เดือน น้ำหนักจาก 55 ก็เหลือ 47 ลด 8 กิโล เพราะ ไม่กิน แป้ง ไขมัน น้ำตาล จะลดได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย แต่ผลเสียคือ ผอมแบบ เนื้อเหลวๆอ่ะค่ะ ตอนนี้อายุ 45 สูง 158 น้ำหนัก 50 ก็ถือว่า พอใจแล้วค่ะ เพราะเมื่อก่อนตอนท้องเคยหนัก 181 กิโล ก่อนท้อง 50 กิโล..และทำการลดน้ำหนักด้วยทุกวิธี กินยา ลดอาหาร ออกกำลังกาย แต่ก้ได้ผลนะคะ ^^


โดย: tom IP: 124.122.55.14 วันที่: 7 ตุลาคม 2555 เวลา:6:27:24 น.  

 
รออ่านต่ออยู่ค่ะ เพราะตอนนี้เป็นโรคโยโย่เอฟเฟคค่ะ น้ำหนักตีคืนกล้บมา 10 กว่าโลค่ะ กำลังหาวิธีกำจัดไขมันที่มันระเบิดจร้า ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำดีๆค่ะ รอภาค 2 อยู่ค่ะ


โดย: aey IP: 124.120.65.217 วันที่: 21 กันยายน 2556 เวลา:11:36:55 น.  

 
ภาคสองมียังครับ เพิ่งเข้ามาอ่าน เป็นประโยชน์มาก ขอบคุณครับ


โดย: ท๊อป IP: 90.237.234.194 วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:23:36:58 น.  

 
ตอนนี้กำลังโยโย่อยู่ค่ะ ช่วยบอกวิธีที่ช่วยให้ร่างกายกลับมาเผาผลาญแบบเดิมได้หน่อยค่ะ?? ข้อมูลเป็นประโยชน์มากค่ะ


โดย: เจี๊ยบ IP: 58.8.1.20 วันที่: 7 ธันวาคม 2556 เวลา:9:44:54 น.  

 
ขอบคุณมากนะคะ สำหรับความรู้ดี ๆ(ตามมาจาก pantipคร๊า)


โดย: ปาล์ม IP: 115.67.7.69 วันที่: 18 ธันวาคม 2556 เวลา:6:16:42 น.  

 
คือว่าไอ ลดน้ำหนักจาก52 จนเหลือ 37-39 ส่วนสูงประมาณ 150 อายุ19 ลดด้วยวิธีการทานอาหารเช้าเป็นน้ำเต้าหู้ไม่หวานแต่ใส่เครื่องกับผลไม้ 1ผล ตอนกลางวันทานข้าวกับอาหารแคลอรี่ต่ำ+ผลไม้ ตอนเย็นไม่ทานอะไรเลย มากสุดก็น้ำเต้าหู้ ลดอย่างนี้มาประมาณ 4-5 เดือนแล้ว ตอนนี้มีแต่คนทักว่าผอมเกินไป อยากรู้วิธีแก้อะค่ะว่าเราควรจะทานอย่างไรให้ไม่เกิดอาการโยโย่เอฟเฟค คืออยากเลิกไดเอทแล้วแต่ก็กลัว ใครรู้ช่วยบอกที


โดย: ไอลดา IP: 171.6.81.148 วันที่: 5 มีนาคม 2557 เวลา:22:45:16 น.  

 
ขอบคุณค่ะ...มีสาระดีมากเลยกำลังพบปัญหานี้อยู่ค่ะ


โดย: ณัฐพัชร์ IP: 58.10.183.66 วันที่: 6 ธันวาคม 2557 เวลา:20:18:30 น.  

 
กำลังรอภาค 2 อยู่คะ ก็เป็นคนหนึ่งที่โยโย่คะ อ่านแล้วมีสาระมากคะ ช่วยต่อภาค 2 ด้วยคะ เมื่อก่อนนำ้หนัก 56 หลังกินยาลด 50 ตอนนี้เลิกกินยา นำ้หนักเพิ่มอีก 55 คะ ช่วยทีคะ


โดย: พัช IP: 118.175.218.121 วันที่: 8 มีนาคม 2558 เวลา:11:42:43 น.  

 
ขอบคุณค่ะ


โดย: nan IP: 1.46.46.202 วันที่: 13 กันยายน 2558 เวลา:11:31:02 น.  

 
ดีมากๆคะ ขอตาม


โดย: Kibkae IP: 223.204.241.63 วันที่: 10 พฤษภาคม 2560 เวลา:23:23:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ณัฏฐา
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?]




คนธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากมีสุขภาพแข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดี ^^
New Comments
Group Blog
 
 
มีนาคม 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
16 มีนาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ณัฏฐา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.