Every Feeling Everyone Every Day

โคบุตร




โคบุตร เป็นนิทานคำกลอนที่คาดกันว่า ท่านสุนทรภู่ได้ประพันธ์ขึ้นเป็นเรื่องแรก สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่า "ลองพิเคราะห์ดูหนังสือกลอนของสุนทรภู่ที่ยังปรากฏอยู่จนบัดนี้ เห็นมีเค้าเงื่อนในทางสำนวนว่า จะแต่งก่อนนิราศเมืองแกลง แต่เรื่องโคบุตรเรื่องเดียว..." ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็แสดงว่าท่านสุนทรภู่ได้แต่งเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่อายุยังไม่ครบ ๒๐ ปี

โคบุตรเป็นโอรสพระอาทิตย์และนางเทพอัปสร ได้นางราชสีห์อุปการะเลี้ยงดูไว้จนเติบใหญ่ เมื่ออายุได้สิบปี พระอาทิตย์มามอบของวิเศษให้และชี้ทางให้เดินทางไปพบคู่ครอง โคบุตรเดินทางไปถึงเมืองพาราณสี ได้พบกับนางมณีสาครและพระอรุณกุมาร พระธิดาและพระโอรสของท้าวพรหมทัต เจ้าเมืองพาราณสี ได้ช่วยเหลือกษัตริย์ทั้งสี่พระองค์ไว้จากการปองร้ายชิงราชสมบัติของพราหมณ์ปุโรหิต ท้าวพรหมทัตเมตตารักใคร่โคบุตรประหนึ่งราชโอรสของพระองค์เอง และกุมารทั้งสามก็รักใคร่กันเช่นพี่น้อง

โคบุตรออกเดินทางต่อโดยมีพระอรุณกุมารร่วมทางไปด้วย จนถึงเมืองกาหลง โคบุตรได้พบกับนางอำพันมาลา พระธิดาเจ้าเมืองกาหลง จนได้นางเป็นชายา และพาหนีกลับมายังเมืองพาราณสี เมื่อกลับมาถึงได้พบนางมณีสาครที่เจริญวัยเป็นสาวงาม ก็เกิดหลงรัก โคบุตรจึงได้อภิเษกนางมณีสาครเป็นมเหสีฝ่ายขวา และนางอำพันมาลาเป็นมเหสีฝ่ายซ้าย

ต่อมา นางอำพันมาลาเกิดริษยา ว่าโคบุตรโปรดปรานนางมณีสาครมากกว่าตน จนหลงผิดคิดหาหมอเสน่ห์มาทำให้โคบุตรหลงรักตนแต่ผู้เดียว โคบุตรหลงนางอำพันมาลาจนถึงกับทารุณตบตีนางมณีสาคร ร้อนถึงพระอรุณกุมารต้องมาช่วย เมื่อพิสูจน์ได้ว่า นางอำพันมาลาทำเสน่ห์ โคบุตรกริ้วมาก จึงไล่นางอำพันมาลาออกจากเมือง ทั้งที่นางมีครรภ์อ่อนๆ

เนื้อความในฉบับ พ.ณ.ประมวญมารค ชำระไว้ และฉบับที่กรมศิลปากรพิมพ์เผยแพร่เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๙ จบเพียงเท่านี้ แต่นายเจือ สตะเวทิน ได้เล่าไว้ในหนังสือสุนทรภู่ ถึงเนื้อความต่อไปอีกดังนี้

"อำพันมาลาต้องรับทุกข์ระเหระหนไปในป่าดงจนไปเกิดบุตร เดชะบุญได้ราชสีห์ซึ่งเคยมีบุญคุณแก่โคบุตรมาช่วย และราชสีห์สามารถนำนางกลับไปมอบแก่โคบุตรได้ อนึ่ง ขณะนั้น มณีสาครก็มีบุตรแล้ว โคบุตรจึงจัดการสมโภช และให้นามตามชื่อบิดามารดาผสมกันว่า มณีสุริยัน และอำพันสุริยา"

"แต่โคบุตรมีกรรมเก่าอยู่ในคราวท่องเที่ยวผจญภัย คือเคยฆ่าหัสกัณฐ์มัจฉาตาย เป็นเหตุให้ตะวันนาคา สหายของหัสกัณฐ์มัจฉาคิดแก้แค้น มณีกลีบสมุทร ลูกสาวอายุ ๑๙ ปี อาสาพ่อไปใช้กลอุบายจับโคบุตร โดยยอมเสียสละพรหมจารีย์ของตน และในที่สุด ตามวิสัยเจ้าชู้ โคบุตรได้พานางมณีกลีบสมุทรเข้าวัง เป็นเหตุให้เกิดการหึงกันอย่างครื้นเครงอีกคราวหนึ่ง จะอย่างไรก็ตาม มณีกลีบสมุทรก็ไม่พ้นมือพระเอกของสุนทรภู่ พอมีครรภ์อ่อนๆ มณีกลีบสมุทรก็นึกถึงหน้าที่ของตัวตามที่บิดาใช้มา จึงใช้อุบายสะกดโคบุตรนำไปยังเมืองพ่อ แต่โคบุตรเป็นผัวเสียแล้ว จะปล่อยให้พ่อฆ่าไม่ลง นางจึงนำโคบุตรไปซ่อนไว้ก่อน..."

สุนทรภู่เขียนมาเพียงนี้ก็จบ ๙ เล่มสมุดไทย ต่อจากนั้นคนอื่นแต่ง จึงมิได้นำมากล่าวไว้




๏ แต่ปางหลังครั้งว่างพระศาสนา
เป็นปฐมสมมตินิทานมา ด้วยปัญญายังประวิงทั้งหญิงชาย
ฉันชื่อภู่รู้เรื่องประจักษ์แจ้ง จึงแสดงคำคิดประดิษฐ์ถวาย
ตามสติริเริ่มเรื่องนิยาย ให้เพริศพรายพริ้งเพราะเสนาะกลอนฯ

๏ จะร่ำปางนางสวรรค์เสวยสุข อยู่ปรางค์มุขพิมานสโมสร
เผยพระแกลแลดูแผ่นดินดอน เห็นไกรสรคลอดลูกในหิมวา
ผลกรรมนำจิตให้พิศวาส นุชนาฏจะใคร่มีโอรสา
เห็นพระสุริโยทัยเธอไคลคลา กัลยานึกไปดังใจปอง
แม้นสามีมิได้เหมือนพระอาทิตย์ ไม่ขอคิดสมสู่เป็นคู่สอง
ผลกรรมจำจากวิมานทอง นางก็ต้องจุติด้วยใจตน
เห็นสระศรีมีบัวระดาดาษ สุดสวาทจิตประหวัดเข้าปฏิสนธิ์
เกิดเป็นรูปนารีนิรมล กลีบอุบลหุ้มไว้ในสาคร
อยู่ประมาณนานมาในบัวหลวง สุดาดวงกำดัดชมสมสมร
จะกล่าวถึงสุริยาทิพากร เสด็จจรเลี้ยวเหลี่ยมพระเมรุมา
อรุณโรจน์โชติช่วงดวงจรัส ส่องจังหวัดภาคพื้นพระเวหา
พิศเพ่งเล็งแลในโลกา เห็นนางฟ้าอยู่ในพุ่มปทุมมาลย์
เพราะรักเราเจ้าต้องมาสิ้นชีพ เกิดในกลีบบุษบงน่าสงสาร
จำจะช่วยให้อนงค์คงวิมาน พระสุริยกาลโสมนัสสวัสดี
จึ่งแบ่งภาคจากรถระเห็จเหาะ ลงเฉพาะสระใหญ่ในไพรศรี
พระหัตถ์หักปทุมาจากวารี มานั่งที่ร่มไทรในไพรวัน
คลี่ปทุมอุ้มนางขึ้นวางตัก แม่ยอดรักปิ่นสุรางค์นางสวรรค์
กุศลเราเคยสมภิรมย์กัน บุญจึ่งบันดาลใจให้เจาะจง
พี่พึ่งรู้ว่าเจ้าอยู่ในโกเมศ จึ่งประเวศติดตามด้วยความประสงค์
จะช่วยเจ้าเยาวลักษณ์วิไลทรง ให้คืนคงเมืองฟ้าสุราลัยฯ

๏ ปางยุพินปิ่นเทพอัปสร ฟังสุนทรสุริยงคิดสงสัย
นางผลักพลางทางแลชำเลืองไป งามวิไลพูนสวัสดิ์ชัชวาล
ถึงเทพบุตรสุดสิ้นในอากาศ ไม่ผุดผาดผิวพรรณเทียมสัณฐาน
นางค้อนคมก้มพักตร์แล้วพจมาน ไม่ควรการช่างไม่เกรงข่มเหงกัน
เทพบุตรภุชงค์หรือวงศ์ยักษ์ มาหาญหักปทุมมาศขาดสะบั้น
เขาอาศัยได้สบายในบุษบัน ทำเช่นนั้นช่างไม่คิดอนิจจังฯ

๏ โอ้เจ้าพี่ศรีสวัสดิ์กำดัดสวาท นุชนาฏแม่อย่าลืมเนื้อความหลัง
หรือชอบใจอยู่ที่ในอุบลบัง สมบัติทั้งเมืองฟ้าไม่อาวรณ์
พี่หรือคือสุริยงดำรงทวีป ทุเรศรีบมาด้วยการสงสารสมร
จะชูช่วยนางฟ้าสถาวร พะงางอนนุชน้องอย่าหมองนวล
มานั่งนี่เถิดพี่จะเล่าเรื่อง แม่เนื้อเหลืองนพรัตน์กำดัดสงวน
พลางประโลมโฉมนางไม่ห่างนวล หอมรัญจวนเกสรขจรจายฯ

๏ สาวสวรรค์ครั้นสดับอภิวาท สุดสวาทแสนรักพระสุริย์ฉาย
แต่มารยาทกษัตรีทำทีอาย ค้อนชม้ายตอบสนองทำนองใน
ถึงดินฟ้าสาครภูเขาขุน เมื่อสิ้นบุญถึงกรรมทำไฉน
แต่ชาติก่อนใครห่อนประจักษ์ใจ ระลึกได้หรือจะรู้ในเรื่องราว
ซึ่งโปรดน้องจะให้ครองวิมานสวรรค์ พระคุณนั้นล้ำฟ้าเวหาหาว
มิได้สนองครองคุณให้สิ้นคราว ด้วยเปลี่ยวเปล่าเอ้องค์ในดงแดนฯ

๏ แสนเสนาะเพราะล้ำหนอน้ำเสียง ช่างกล่าวเกลี้ยงเชิงฉลาดนั้นเหลือแสน
พี่เมตตาจะช่วยพาไปเมืองแมน ถึงมิแทนคุณได้เป็นไรมี
เหมือนมัจฉาสาครเป็นที่พึ่ง บุญแล้วจึ่งได้พบประสบศรี
ต้องประสงค์อยู่ตรงไมตรีดี ถึงแม้นมีสิ่งของไม่ต้องการ
นี่แน่เจ้าเยาวลักษณ์วิไลศรี เสียแรงพี่จงรักสมัครสมาน
อย่าพูดนักชักเยิ่นให้เนิ่นนาน จะเสียการไมตรีที่เรียมวอน
จงแย้มเยื้อนเบือนพักตร์รับรักบ้าง ประโลมนางแนบกายสายสมร
แสนสำราญอยู่ในร่มนิโครธร พระกางกรประดิพัทธ์วัจนา
อัศจรรย์บรรดาสาคเรศ อรัญเวศหวั่นไหวไพรพฤกษา
เทพทั้งตั้งโห่เป็นโกลา สนั่นป่าลั่นเสียงสำเนียงดัง
บรรดาฝูงเทพาวลาหก ก็ตื่นตกใจวิ่งไม่เหลียวหลัง
อึกทึกกึกก้องฆ้องระฆัง ด้วยกำลังพระอาทิตย์ฤทธิรงค์
สมสนิทพิศวาสนางสวรรค์ เกษมสันต์สบเชิงละเลิงหลง
แบ่งกำลังตั้งครรภ์ให้โฉมยง แล้วเอื้อนโองการตรัสกับกัลยา
อีกเจ็ดวันขวัญเข้าเจ้าคลอดบุตร เจ้าจะจุติไปสวรรค์ด้วยหรรษา
พี่อยู่ด้วยเจ้าไม่ได้ต้องไคลคลา ถึงเวลาเลี้ยวเหลี่ยมพระเมรุทอง
จะเร่งรีบไปทวีปข้างโน้นแล้ว แม่ดวงแก้วนพเก้าอย่าเศร้าหมอง
กลับชมพูจะมาอยู่ด้วยนวลละออง แม่อย่าหมองอารมณ์อยู่ร่มไทร
ประโลมลูบจูบสั่งสายสวาท จะนิราศแรมมิตรพิสมัย
ด้วยร้างรักหักจิตไปจำไกล คืนเวไชยันต์ถาวรเหมือนก่อนมา
เลี้ยวพระเมรุเผ่นเยี่ยมอุดรทวีป ดังประทีปส่องทั่วทุกทิศา
สาวสวรรค์สร้อยเศร้าเปล่าอุรา พระสุริยาเลี้ยวเหลี่ยมพระเมรุธร
สันโดษเดียวเปลี่ยวร่างอยู่กลางเถื่อน ไม่มีเพื่อนสาวสุรางค์นางอัปสร
ยินสำเนียงปักษาทิชากร ดวงสมรวังเวงวิเวกใจฯ

๏ ฝ่ายพระสุริยงผู้ทรงรถ เที่ยวเลี้ยวรถส่องสัตว์จำรัสไข
ส่องตรีภพจบทวีปแล้วรีบไป สว่างในภพโลกชมพูพลัน
ระลึกถึงโฉมงามทรามสวาท ออกจากราชรถชัยลงไพรสัณฑ์
ถนอมแนบแอบนางไม่ห่างกัน เกษมสันต์พิศวาสไม่คลาดคลาย
แต่เช้ามาสายัณห์แล้วคืนกลับ กำหนดนับเจ็ดวันเหมือนมั่นหมาย
ยุพาพินสิ้นกรรมประจำกาย จะคลอดสายสุดที่รักโอรสนาง
พอรุ่งแสงสุริยาพระอาทิตย์ มานั่งชิดโลมน้องอย่าหมองหมาง
สงสารนวลป่วนปั่นพระครรภ์คราง นาภีนางเพียงจะพังประทังทน
บรรดาเทพธิดาลงมาพร้อม เข้าแวดล้อมอรไทในไพรสณฑ์
บ้างนวดครรภ์ผันแปรให้นิรมล พระสุริยนเคียงน้องประคององค์
ถึงยามปลอดนางคลอดโอรสราช เสียงพิณพาทย์ก้องฟ้าป่าระหง
เป็นชายเหมือนพระอาทิตย์ไม่ผิดทรง สำอางค์องค์นวลละอองดังทองทา
สาวสวรรค์รับขวัญโอรสรัก พิศพักตร์ลูกน้อยละห้อยหา
นางกางกรช้อนอุ้มกุมารา เจ้าเกิดมามิได้อยู่ด้วยแม่แล้ว
ไม่เห็นใครที่จะให้นมเสวย เจ้าแม่เอ๋ยสุดอาลัยนะลูกแก้ว
เจ้าอยู่เถิดมารดาจะลาแล้ว กอดลูกแก้วโศกาด้วยอาลัย
แล้วก้มกราบสุริยันรำพันสั่ง พระระวังลูกยาในป่าใหญ่
พอสิ้นสั่งสุดสวาทก็ขาดใจ กลับคืนไปสู่สวรรค์ชั้นวิมานฯ

๏ ปางพระสุริย์ใสวิไลลบ ให้ปรารภด้วยบุตรสุดสงสาร
ไม่เห็นใครที่จะได้พยาบาล พระสุริยกาลกอดบุตรเข้าโศกา
แล้วผันแปรแลไปเห็นไกรสร แม่ลูกอ่อนสถิตอยู่ในคูหา
พระอุ้มโอรสราชแล้วยาตรา ถึงพญาสิงหราชประกาศพลัน
ว่าดูราราชสีห์อันมีศักดิ์ โอรสรักเราเกิดในไพรสัณฑ์
กำพร้าแม่แต่คลอดออกจากครรภ์ จะให้ท่านเลี้ยงไว้ดังใจจง
เป็นบิดามารดาของทารก เราจะยกให้ตามความประสงค์
เวลาจวนเราจะด่วนไปอัสดง ต่อนานนานจึงจะลงมาเชยชมฯ

๏ ราชสีห์ปรีดิ์เปรมเกษมสันต์ บังคมคัลพระอาทิตย์อิศยม
ไว้ธุระสิงหราอย่าปรารมภ์ จะส่งนมเลี้ยงดูให้อยู่เย็น
แม้นโตใหญ่ได้พึ่งซึ่งพระเดช ช่วยปกเกศราชสีห์ไม่มีเข็ญ
อันลูกข้าทารกแม้นอยู่เย็น จะได้เป็นข้าไทเหมือนใจปอง
พระสุริยงทรงฟังไกรสรสัตว์ โสมนัสยินดีไม่มีสอง
ส่งลูกให้สิงหราน้ำตานอง อวยพรสองราชสีห์อย่ามีภัย
พระกอดจูบลูกยาน้ำตาหยด อุ้มโอรสเศร้าสร้อยละห้อยไห้
พระสงสารราชบุตรสุดอาลัย แล้วลาไกรสรไปเวไชยันต์ฯ

๏ ราชสีห์มีจิตพิศวาส ด้วยองค์ราชโอรสพระสุริย์ฉัน
รักเสมอลูกยาไม่อาธรรม์ เกษมสันต์อยู่ในถ้ำอันอำไพ
กุมาราชันษาได้สิบทัศ งามจำรัสเหมือนองค์พระสุริย์ใส
กำลังเจ็ดช้างสารอันชาญชัย เพราะว่าได้กินนมนางสิงหราฯ

๏ จะกล่าวถึงพระอาทิตย์บิตุเรศ พูนเทวษคิดถึงโอรสา
เสด็จจากรถชัยแล้วไคลคลา ถึงคูหาถ้ำแก้วอันแพรวพราย
เห็นโอรสลดองค์ลงโอบอุ้ม ประจงจุมพิตพักตร์พระโฉมฉาย
พระโลมลูบรับขวัญบรรยาย โอ้พ่อสายสุดที่รักของบิดร
พ่อมิได้อยู่เลี้ยงไว้เคียงพักตร์ เอาลูกรักฝากไว้กับไกรสร
ชนนีนางฟ้าสถาวร นั้นม้วยมรณ์แต่เจ้าคลอดออกจากครรภ์
พระกุมารฟังสารให้สงสัย จึงถามไถ่ราชสีห์ขมีขมัน
ไกรสรเล่าความหลังให้ฟังพลัน แจ้งสำคัญพระอาทิตย์เป็นบิดา
ศิโรราบกราบบาทบิตุเรศ ชลเนตรพรั่งพรายทั้งซ้ายขวา
พระสุริยันกันแสงด้วยลูกยา ทั้งสามสัตว์สิงหราก็โศกี
ครั้นเคลื่อนคลายวายโศกกันแสงศัลย์ พระสุริยันตรัสประภาษกับราชสีห์
จะให้นามตามวงศ์สวัสดี แทรกชนกชนนีเข้าในนาม
ชื่อโคบุตรสุริยาวราฤทธิ์ จงประสิทธิ์แก่กุมารชาญสนาม
ทั้งตรีโลกโลกาสง่างาม เจริญความเกียรติยศปรากฏครันฯ

๏ พระอาทิตย์นิรมิตเครื่องประดับ ให้เสร็จสรรพล้วนเทพรังสรรค์
เป็นเครื่องทิพสาตราสารพัน ให้ป้องกันอยู่ในกายกุมารา
รณรงค์คงทนด้วยกายสิทธิ์ พระอาทิตย์จึ่งสั่งโอรสา
อันเครื่องทรงที่ในองค์พระลูกยา ล้วนเทพสาตราอันเกรียงไกร
จะรบราญรณรงค์เข้ายงยุทธ์ ไม่พักหาอาวุธอย่าสงสัย
เครื่องประดับรับรบอรินทร์ภัย เหาะเหินได้รุ่งเรืองด้วยเครื่องทรง
จงคิดอ่านไปผ่านพิภพโลก มาวิโยคอยู่ไยในไพรระหง
สิงหราชชาติเชื้อเขาชาวดง เจ้าเป็นพงศ์จักรพรรดิสวัสดี
พ่อจะบอกมรคาไปหาคู่ นางนั้นอยู่บูรพาพาราณสี
จงลาแม่ลาพ่อจรลี ถ้าได้ดีแล้วจงกลับมารับกัน
แม้นเคืองเข็ญจงคิดถึงบิตุเรศ ถ้าแจ้งเหตุจะมาช่วยอย่าโศกศัลย์
พระกอดจูบลูกยาเฝ้าจาบัลย์ พระรำพันร่ำไรแล้วให้พร
พ่อจะลาแก้วตาไปส่องโลก อย่าแสนโศกจงสุขสโมสร
ครั้นเสร็จสั่งสิงหราสถาวร พระทินกรเหาะไปเวไชยันต์ฯ

๏ พระโคบุตรสุริยาน้ำตาไหล ด้วยอาลัยสุริย์ฉายนั้นผายผัน
ยิ่งแลลับพระบิดายิ่งจาบัลย์ สะอื้นอั้นกำสรดระทดกายฯ

๏ สิงหราว่ากล่าวเล้าโลมปลอบ ตามระบอบโศกเศร้าบรรเทาหาย
พระโคบุตรสุดจิตคิดเสียดาย ค่อยน้อมกายเกศก้มประนมกร
ลูกขอลาชนนีอย่ามีเหตุ เที่ยวประเวศตามคำพระร่ำสอน
ว่าคู่สร้างนางอยู่ในสาคร พเนจรไปในป่าพนาวัน
แม้นบุญช่วยได้สมอารมณ์คิด ให้ต้องจิตดังคำพระสุริย์ฉัน
กุศลส่งคงพบประสบกัน ครองเขตขัณฑ์ได้คู่อยู่สำราญ
ถึงลูกไปใช่จะลืมพระคุณแม่ ถ้าเว้นแต่ชีวังสิ้นสังขาร
แม้นบุญส่งคงสบายไม่วายปราณ จะเวียนมามัสการพระมารดาฯ

๏ ราชสีห์สุดที่จะทานทัด กลัวจะขัดเคืองลูกเสน่หา
จึงอวยพรสั่งสอนกุมารา แล้วให้ยาล้ำเลิศประเสริฐครัน
ถ้าเคี้ยวพ่นคนตายแล้วคลายรอด ไม่ม้วยมอดมรณาชีวาสัญ
พระรับยาอาลัยใจผูกพัน กันแสงศัลย์กราบบาทสิงหราฯ

๏ โอ้แม่เจ้าคราวนี้จะนานแล้ว จงอยู่ครองห้องแก้วถ้ำคูหา
ไม่ปลดปลงลูกคงจะกลับมา แล้วอำลาราชสีห์ผู้พี่ชาย
ตั้งอารมณ์ข่มใจอาลัยรัก ค่อยหาญหักอาดูรให้สูญหาย
เสด็จจากห้องแก้วอันแพรวพราย พระทัยหายกลับมาโศกาลัย
เป็นหลายครั้งตั้งร่ำรำพันรัก แล้วหวนหักเสน่หาน้ำตาไหล
พระชุบเช็ดชลนาด้วยอาลัย แล้วหักใจจำทิศพระบิดา
เหาะละลิ่วปลิวคว้างมากลางเมฆ ลอยวิเวกมาในท้องพระเวหา
พระลอยลมแลชมอรัญวา ประมาณมาหลายคืนชื่นอารมณ์ฯ






จุดประกายให้ไปหาอ่านต่อนะครับ ขอให้มีความสุขกับบทกลอนสุนทรภู่




 

Create Date : 18 มีนาคม 2551
10 comments
Last Update : 20 มีนาคม 2551 16:53:33 น.
Counter : 4541 Pageviews.

 

 

โดย: นายแจม 18 มีนาคม 2551 19:49:41 น.  

 

คร่อกกกกก ...อ่านกลอนจบหลับ อุอุ

 

โดย: -*-Superbaker 18 มีนาคม 2551 21:15:05 น.  

 

เนื้อหาดีมากเลยค่ะ

 

โดย: flower IP: 125.25.206.96 19 มิถุนายน 2551 15:58:41 น.  

 

ดีมากเลยครับ

จะทำรายงานพอดีเลยอิอิ

 

โดย: Tiekykong IP: 118.174.152.239 24 มิถุนายน 2551 21:43:30 น.  

 

9

 

โดย: 9 IP: 125.25.199.126 6 ตุลาคม 2551 8:27:19 น.  

 

8685645454654654564564545645646546545646545645645648489748489485564894561448489441458489

 

โดย: 123 IP: 58.8.145.42 31 กรกฎาคม 2552 18:29:02 น.  

 

Thank cub

ต้องทำรายงานเรื่องนี้อยู่พอดีเลย

 

โดย: bambam IP: 118.173.174.247 20 มิถุนายน 2553 13:44:15 น.  

 

ฮิฮิ55+

 

โดย: กิตติมา IP: 117.47.32.149 30 มิถุนายน 2553 9:12:22 น.  

 

ฮิฮิ55+

 

โดย: กิตติมา IP: 117.47.32.149 30 มิถุนายน 2553 9:12:49 น.  

 

โคบุตรนี่เจ้าชู้ซะไม่มีเลย

 

โดย: เหอๆ IP: 118.173.150.229 4 กรกฎาคม 2553 21:36:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ณธีร์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




๏ กลั่นความรู้สึกวันละนิด
กรองความคิดวันละหน่อย
คั้นอารมณ์วันละน้อย
เรียงร้อยรอยลักษณ์อักษรา ฯ

Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
18 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ณธีร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.