สำหรับกล้วยไม้ดินในสกุล Sirindhornia ได้รับการค้นพบโดยนักพฤกษศาสตร์แห่งสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ เมื่อราวปีพุทธศักราช 2543 แต่ได้รับการบอกเล่าจากคนพื้นที่ว่าเจอมาราว 10 ปีมาแล้ว ทว่าตามรายงานได้มีการสำรวจพบมาก่อนหน้านี้แล้วโดยหมอคาร์ (A.F.G. Kerr) นักพฤกษศาสตร์ชาวไอริช เมื่อราวปีพุทธศักราช 2464 และเมื่อตรวจสอบแล้วเห็นว่าเป็นชนิดที่ใกล้เคียงกับที่เจอในประเทศจีน คือ Habenaria monophylla Collett & Hemsl.
เมื่อนักพฤกษศาสตร์แห่งสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ ค้นพบกับกล้วยไม้ชนิดที่หมอคาร์เก็บได้ และ ทำการศึกษาอย่างละเอียดแล้วพบว่าชนิดที่เจอแตกต่างออกไปจากของจีนแน่นอน รวมทั้งมีลักษณะต่างๆ ไม่เหมือนกับกล้วยไม้ในสกุล Habenaria
หลังจากทำการตรวจสอบและศึกษาร่วมกับ H.A. Pedersen ผู้เชี่ยวชาญกล้วยไม้เขตร้อนแห่งสวนพฤกษศาสตร์โคเปนเฮเกน และพบว่าเป็นชนิดใหม่และสกุลใหม่ จึงได้ขอพระราชทานนามจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ตามหนังสือประกาศสำนักราชเลขาธิการ ที่ รล ๐๐๐๘/๑๘๖๐ ลงวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๔๖ ได้พระราชทานพระราชานุญาต ให้ใช้ชื่อพันธุ์กล้วยไม้ว่า “Sirindhornia” เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนฯ โดยตีพิมพ์ในวารสาร Nordic Journal of Botany 22 : 391 – 403 โดย Pedersen, H.A. ,P. Suksathan and S. Indhamusika. 2003
สำหรับกล้วยไม้ที่ได้รับการตั้งชื่อสกุลใหม่ซึ่งเจอในประเทศไทย มีอยู่ด้วยกันสามชนิดจากสองจังหวัด พื้นที่สุดแสนพิเศษ และไม่น่าเชื่อว่าจะได้เจอกับกล้วยไม้งามๆ ขนาดนี้ ซึ่งรายละเอียดของแต่ละชนิดมีดังที่จะกล่าวต่อไปครับผม โดยภาพนี้เป็นถิ่นอาศัยของพวกเธอครับ
เอื้องศรีประจิมSirindhornia mirabilis H.A. Pedersen & P. Suksathanกล้วยไม้ดินสูงราว 15 – 45 ซม. ใบรูปไข่ปลายแหลมมีเส้นใบและมีจุดประสีแดงอมม่วงเข้ม ช่อดอกสูงกว่า 30 ซม. ในช่อดอกไม่แน่นนักมีตั้งแต่ 10 – 50 ดอก สีของดอกออกชมพูกลีบดอกและกลีบเลี้ยงด้านนอกสีอมเขียว กลีบปากสีชมพูส่วนโคนขยายออกไปเป็นปีก 2 ข้างส่วนกลางคอดกิ่ว ส่วนปลายแผ่หยักเว้าเป็น 2 พู งวงน้ำหวานส่วนโคนเป็นหลอดส่วนปลายงอโค้ง
สำหรับกล้วยไม้ชนิดนี้มีจำนวนประชากรน้อยมาก หากเทียบกับชนิดอื่นๆ และจำเพาะขึ้นอยู่ในพื้นดินหินปูน หรือบนพื้นดินตื้นๆ บริเวณภูเขาหินปูน ซึ่งน่าเป็นห่วงมากและมีการรายงานการพบเฉพาะที่นี่และในประเทศไทยเท่านั้น
เอื้องศรีอาคะเนย์Sirindhornia monophylla (Collett & Hemsl.) H.A. Pedersen & P. Suksathanกล้วยไม้ดินขนาดราว 10 – 40 ซม. ใบรูปรีแกมขนานปลายใบแหลมมีเส้นใบขนานตามยาว และมีจุดประขนาดใหญ่สีแดงอมม่วง ใต้ใบสีม่วงเข้ม ช่อดอกสูง 10 – 30 ซม. ดอกในช่อแน่น ดอกสีชมพู มีจุดประสีชมพูเข้ม กลีบดอกและกลับเลี้ยงสั้นค่อนข้างกลม สีชมพูแกมเขียว กลีบปากขนาดใหญ่มีจุดประสีแดงแกมชมพู ส่วนปลายแยกออกเป็น 3 พู งวงน้ำหวานเป็นหลอดตรงหรือโค้งลงเล็กน้อย
สำหรับกล้วยไม้ชนิดนี้พบขึ้นบนดินปนหินมีจำนวนประชากรค่อนข้างเยอะกว่าชนิด Sirindhornia mirabilis H.A. Pedersen & P. Suksathan ทว่าน่าเป็นห่วงมากกว่าเพราะขึ้นอยู่ใกล้ๆ กับทางเดินของคนและในพื้นที่มีการนำวัวมาปล่อยให้หากินอยู่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งในจุดนี้หากยังไม่มีการป้องกันที่ดีน่าเป็นห่วงมาก รวมถึงการนำลงมาขายในอนาคตด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเห็นแก่เงินก็ตาม เพราะในปัจจุบันมีการนำลงมาบ้างแล้ว รวมถึงออกไปยังญี่ปุ่นแล้วด้วย จึงควรช่วยกันรักษานะครับ