Bloggang.com : หลานตานี : ตับหวาน

ตับหวาน

เมื่อวานนี้อยากเมามาก ๆ หลังจากเมากับชีวิตมาหลายวัน (เด็กควรอยู่ในการดูแลของผู้ปกครอง อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะจ๊ะ) แต่เวลาดื่มไม่อยากให้ท้องว่าง ก็เลยทำกับแกล้มซะหนึ่งจาน หลังจากดูวัตถุดิบในตู้เย็นแล้วก็ได้ตับหวานจานนี้มาค่ะ

เครื่องปรุง ประกอบด้วย

1. ตับหมู 200 กรัม
2. หอมแดง 100 กรัม (ตุ๊กใช้หอมแขก 1/2 หัว กับ หอมแดงไทย 8-10 หัวค่ะ)
3. ต้นหอมซอย (แต่ในรูปตุ๊กลืมค่ะว่าจะทำตับหวาน เลยหั่นเป็นท่อน เดือดร้อนต้องมาซอยทีหลัง) 2 ต้น
4. ผักชีใบยาว (บางคนเรียก ผักชีใบเลื่อย ) 1 ต้น
5. น้ำมะนาว (จริง ๆอยากใส่น้ำมะขามเปียกผสม แต่ว่าที่บ้านหมดค่ะ)
6. น้ำปลา
7. พริกขี้หนูป่น
8. ข้าวคั่ว
9. น้ำซุบนิดหน่อย

หั่นผักเตรียมไว้แบบนี้นะคะ แต่ว่าต้นหอมน่ะ ซอยให้เล็กกว่านี้นะคะ คือ ว่า คนทำเบลอ ๆ อ่ะค่ะ

เตรียมผักพร้อมแล้ว เราก็เอาตับหมูที่ได้มาล้างให้สะอาดนะคะ แล้วก็หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ เน้นว่าให้ขนาดของชิ้นเท่า ๆ กันนะคะ เพราะเวลาสุกจะได้สุกพร้อมกัน

สิ่งที่ขาดไม่ได้ในวันนี้คือ เจ้าพริกขี้หนูแห้งป่น กับ ข้าวคั่วค่ะ (ข้าวคั่วเนี่ย ถ้าทำเองได้จะดีมาก ๆ เลยนะคะ เพราะว่ากลิ่นจะหอมกว่าที่ซื้อจากตลาดอ่ะค่ะ)

มาเริ่มกันเลยดีกว่า เริ่มแรกก็ตั้งน้ำซุบให้เดือดนะคะ น้ำซุบเนี่ยใช้สัก 1 ทัพพีก็พอ อย่าให้มาก เอามากันไม่ให้ตับติดไหม้ติดหม้ออ่ะค่ะ

พอเดือดได้ที่แล้ว ใส่ตับที่หั่นไว้ลงไปค่ะ (อย่าไปคนเขาแรง ๆ นะคะ พอเห็นด้านล่างสุกก็กลับเอาด้านบนลงไปค่ะ)

พอสุกได้ที่แล้ว ปิดไฟเลยค่ะ สุกมากหรือน้อยเนี่ย ตามความชอบเลยนะคะ จริง ๆ ตุ๊กอยากให้สุกน้อยกว่านี้ แต่คนที่กินด้วยเขากลัวพยาธิค่ะ ก็เลยได้มาแบบนี้

ปิดไฟเรียบร้อยแล้วก็เติมพริกป่นลงไปค่ะ มากน้อยตามความอดทนนะคะ

เติมหอมแดงที่ซอยไว้ลงไป คน ๆ ให้เข้ากัน แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา กับน้ำมะนาว (ถ้ามีน้ำมะขามนะคะ ก็ใส่ได้เลยค่ะ เพราะน้ำมะขามจะออกรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ กลมกล่อมกว่ามะนาวค่ะ แต่ที่บ้านวันนี้ไม่มีค่ะ)

พอปรุงรสได้ดังใจแล้ว ก็ใส่ข้าวคั่วลงไปค่ะ ตุ๊กใส่ประมาณ 2 ช้อนแกง ชอบค่ะ หอมดี แต่มีข้อแม้นะคะว่าเวลาใส่ข้าวคั่วเนี่ย อย่าเอาไปตั้งไฟเป็นอันขาด ไม่งั้นมันจะหนืด ๆ ข้น ๆ ไม่น่ากินค่ะ

ใกล้จะได้กินแล้วค่ะ ถึงตอนนี้แล้วก็เติมผักชีกับต้นหอมที่เราซอยไว้ลงไปเลยค่ะ คนให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จจ้า

พร้อมเสริฟแล้วค่ะ

ลองทำกันดูนะคะ

Create Date : 01 มิถุนายน 2549

Last Update : 20 กันยายน 2549 9:58:38 น.

9 comments

Counter : 1007 Pageviews.

ได้ลองทำแน่ๆค่ะ

โดย: PADAPA--DOO

วันที่: 1 มิถุนายน 2549 เวลา:17:38:39 น.

คนไม่เมายังชอบเลย

โดย: ป้ามด

วันที่: 1 มิถุนายน 2549 เวลา:19:08:02 น.

มาเยี่ยมบลอคหนูตุ๊กค่ะ

โดย: Amber IP: 195.186.158.247 วันที่: 1 มิถุนายน 2549 เวลา:19:47:20 น.

เดี๋ยวจาลองไปทำดูนะ

โดย: --- IP: 124.120 IP: 203.188.60.70 วันที่: 1 มิถุนายน 2549 เวลา:20:25:12 น.

เมรีมากินตับแล้วจ้า น่ากินมากเลย ท่าทางจะแซ่บนะคะ

โดย: being there (being there

) วันที่: 1 มิถุนายน 2549 เวลา:22:09:12 น.

มาแอบชิมตับหวานตอนดึกๆ....โอ้ยน้ำลายจะหยดเพราะความอยากแล้วค่ะ.......อาหร่อยมากเลย...เดี๋ยวกลับไปเอาข้าวเหนียวมากินก่อนนะ

โดย: Willkommen

วันที่: 2 มิถุนายน 2549 เวลา:5:13:03 น.

ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมบล็อกนะคะ

คุณ PADAPA--DOO ลองทำดูนะคะ รับรองติดใจแน่ ๆ จ้า

ป้ามดจ๋า พอดีตุ๊กฟิวส์หลุดไปนิดนึงค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มาววววววววแล้ว เอิ๊กกกกก

พี่แอมเบอร์จ๋า ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

แฮ่ะ ๆ คุณ --- ลองดูนะคะ

คุณ being there แซ่บจ้า แซ่บมากจนปากพองเลยอ่ะ

คุณ Willkommen ได้ข้าวเหนียวหรือยังเอ่ย ถ้ายังไม่ได้ตุ๊กเสริฟไว้ที่เมนูไก่อบสมุนไพรนะคะ

โดย: ตุ๊กจ้า IP: 203.159.0.10 วันที่: 2 มิถุนายน 2549 เวลา:8:09:22 น.

ฮือๆๆ มาช้าไป

ได้แต่สูตร

อดเห็นรูป

หง่าวๆๆ

โดย: เหมียวหล่อ (myth

) วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:23:03:45 น.

จริงๆแล้วน่ะตับไม่ต้องสุกมากเพราะจะหยาบๆ อีกอย่างถ้าตับสุกน่ะนั่นมันลาบแล้วนะ
แต่ไม่ได้บอกว่าอย่าทำสุก แค่เกือบสุกก้อพอ คนอีสานเค้าใช้ลวกนะ20วินาที(นับช้าๆ 1...2...3...)ก็อร่อยเหาะแล้ว

โดย: อีสานแต้แต้ IP: 222.123.52.121 วันที่: 16 มกราคม 2552 เวลา:13:49:29 น.