วิธีเลี้ยงบัวหิมะธิเบต   วิธีเลี้ยงบัวหิมะ บัวหิมะ 2 ช้อนโต๊ะครึ่ง ใช้นมสดรสจืดพาสเจอร์ไรส์ 1 กล่อง ประมาณ 250 c.c (8 1/2 ออนซ์) นมไม่ต้องแช่ตู้เย็น ไม่ UHT (ใช้ดัชมิลล์ ถูกที่สุด) 1. แช่บัวหิมะไว้ในนมสดประมาณ 24 ชั่วโมง บัวหิมะจะเปลี่ยนนมสดให้เป็นโยเกิร์ต 2. ใช้กระชอนกรองน้ำนมนั้นมาดื่ม ควรดื่มทันที ไม่ควรตั้งทิ้งไว้นาน กระชอนห้ามเป็นโลหะเด็ดขาด (ใช้กระชอนที่ช้อนปลา หรือกระชอนพลาสติกได้) น้ำนมที่ได้จะค่อนข้างเหนียว  ให้ใช้ช้อนพลาสติกช่วยคนด้วยจะกรองได้เร็ว 3. ดื่มก่อนนอนขณะท้องว่าง โดย ไม่ดื่มรวมกับเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ นำโยเกิร์ตที่เหลือมาพอกหน้า ประมาณ 30 นาที (หรือรอจนหน้าแห้ง) ทุกคืนก่อนนอน แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า (ไม่ต้องล้างด้วยสบู่) จะทำให้หน้าเนียน ขาว ใสขึ้น รู้สึกผิวเรียบเนียนละเอียดขึ้น สิวก็หาย เนื่องจากโยเกิร์ตบัวหิมะมีคุณสมบัติช่วยรักษาแผลและสมานผิว 4.หลังจากกรองแล้ว เอาบัวหิมะเดิม ใส่ภาชนะเดิม ล้างถ้วยให้สะอาดก่อน แล้วใส่นมปิดผ้าขาวบาง รัดหนังสติ๊กไว้ อากาศจะได้ถ่ายเทได้ดี ใช้ผ้าเช็ดหน้าบางๆ เก่าๆ ก็ได้ ** บางครั้งหากใช้โยเกิร์ตบัวหิมะพอกหน้าแล้วรู้คันยิบๆ ในบางจุด ไม่อันตราย แสดงว่าผิวหนังบริเวณนั้น เป็นสิว แห้งลอก ซึ่งอาการคันนี้หมายถึงการที่กรดผลไม้และวิตามินต่างๆกำลังเข้าไปช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และสมานผิวให้หายเป็นปกติ เมื่อสิวหายแล้วอาการคันนี้จะหมดไป ใช้แล้วหน้าใสมาก เตรียมนมจากบัวหิมะ 1 ถึง 2 ถ้วย 1 ถึง 2 ช้อนโต๊ะของตัวบัวหิมะ (Kefir grains) โถแก้ว หรือพลาสติคพร้อมฝาปิด ปริมาตรประมาณ 3-4 ถ้วย (1 ถ้วยเท่ากับ 200 cc) ช้อน และ กระชอน (Strainer) สำหรับกรองที่ทำจากไนลอน (Nylon) หรือสเตนเลสสตีล (stainless steel) ชามปากกว้างหรือถ้วย สำหรับใช้รองน้ำนมบัวหิมะ นมสด 1 ถึง 2 ถ้วย [นมส่วนใหญ่จะสามารถใช้ได้ including whole milk, fat-reduced, non-fat, pasteurized and homogenized. Although I personally prefer and enjoy fresh, Certified bio-dynamic whole cow's milk or Goat's milk to culture kefir]. วางขวดโหลอย่าให้โดนแสงตรงๆ หรือแสงแดด เพื่อให้บัวหิมะสามารถย่อยนมได้ดี พอครบเวลา ก็เทนมที่อยู่ในโหลลงในกระชอน แล้วกรองนมที่ได้ออกจากตัวบัวหิมะ แล้วแยกตัวบัวหิมะเก็บไว้ น้ำนมที่ได้คือนมที่สามารถจะใช้ดื่มได้เลยซึ่งมีรสชาดเปรี้ยวเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องล้างบัวหิมะด้วยน้ำทุกวัน เพราะคลอรีนจะทำลายการเจริญเติบโตของบัวหิมะ ไม่จำเป็นต้องล้างน้ำเลย พอกรองโยเกิร์ตออก ก็เทนมใหม่ ใส่ต่อได้เลย (แต่ควรล้างภาชนะที่ใส่) จะทำให้บัวหิมะโตเร็วมาก หากต้องการล้างจริงๆ ให้ใช้น้ำกลั่น หรือน้ำที่ปลอดสารคลอรีน หากต้องการหยุดใช้ หรือไม่อยู่บ้าน 2-3 วัน ให้ใส่นมแค่พอปิดท่วมเม็ดบัวหิมะ แล้วแช่ตู้เย็นช่องแช่เย็นธรรมดาไว้ หากต้องการหยุดใช้ หรือไม่อยู่บ้าน เกินกว่า 4-5 วันขึ้นไป ให้ล้างบัวหิมะด้วยน้ำให้สะอาด ผึ่งให้แห้งหมาดๆ ไม่ต้องใส่นม แล้วแช่ช่องฟรีซ (ช่องแช่แข็ง)ในตู้เย็น เพื่อหยุดการเจริญเติบโตของบัวหิมะชั่วคราว และเป็นการป้องกันไม่ให้เสียด้วย หากแช่เย็นแล้ว เมื่อกลับมาใช้อีกครั้ง ให้นำไปล้างน้ำเพื่อให้หายแข็ง (ใช้น้ำอุ่นนิดๆได้ แต่ห้ามใช้น้ำร้อนเด็ดขาด) ทิ้งไว้ให้อุณหภูมิอุ่นขึ้น แล้วค่อยใส่นม นมโยเกิร์ตที่กรองออกมาแล้ว ที่ดีที่สุดควรดื่มทันที แต่ถ้าอยากเก็บไว้ดื่มตอนหลัง สามารถนำไปแช่เย็นเก็บไว้ได้ 2-3 วัน หากใครกินแล้วท้องไส้ปั่นป่วน นั่นไม่ได้แปลว่าคุณแพ้บัวหิมะ แต่แสดงว่าร่างกายของคุณมีโรคหรือสารพิษตกค้าง ซึ่งอาการปั่นป่วนคืออาการที่บอกว่า บัวหิมะนี้กำลังช่วยให้ร่างกายคุณขับไล่สารพิษนั้น / เพื่อให้รู้สึกดีขึ้นให้ลดปริมาณการกินในช่วงแรกไปก่อน เพราะร่างกายของแต่ละคนอาจต้องใช้เวลาปรับตัวไม่เท่ากัน                      ข้อควรจำ - ห้ามแช่เย็น ห้ามเก็บในอุณหภูมิที่เย็นจัด รสนมจะมีรสเปรี้ยว  บัวหิมะจะโตขึ้นเป็น 2 เท่าทุกๆ 18 วัน - ห้ามไม่ให้บัวหิมะโดนโลหะโดยเด็ดขาด  การดูแลรักษาบัวหิมะได้ดี ให้สะอาด ย่อมจะทำให้สุขภาพของผู้ดื่มนมที่แช่บัวหิมะดีตามไปด้วย  เนื่องจากจะได้นมที่สะอาดและมีคุณภาพสำหรับดื่ม   สรรพคุณ 1. สร้างความสมดุลของภูมิต้านทานในร่างกาย 2. ช่วยให้ตับ  ม้ามแข็งแรง 3. ช่วยรักษากระเพาะ และลำไส้ 4. ทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ 5. ป้องกันการขยายตัวของมะเร็ง 6. ทำให้ร่างกายเป็นปกติ ลดความเครียด ช่วยบรรเทาความเหนื่อย 7. ช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ และช่วยลดคอเรสเตอรอล 8. ช่วยละลายนิ่ว 9. สร้างสารปฏิชีวนะในร่างกาย เพื่อช่วยให้การซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ 10. รักษา ช่วยให้ตับ และระบบการขับถ่ายดีขึ้น 11. ประกอบด้วยสารต่างๆ ที่ร่างกายต้องการ link วิธีเลี้ยงบัวหิมะ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=dharma&month=08-2006&date=01&group=5&gblog=11 //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=dharma&month=07-2006&date=10&group=5&gblog=12   Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2553 13 comments Last Update : 2 พฤศจิกายน 2553 9:23:26 น. Counter : 7158 Pageviews. Share Tweet

โดย: Elbereth 17 มีนาคม 2553 17:02:43 น.

mimi-oo-oo@hotmail.com   โดย: มีมี่ IP: 124.122.135.114 1 เมษายน 2553 13:41:57 น.

jengtia@gmail.com   โดย: Korn IP: 119.160.216.34 7 มิถุนายน 2553 15:50:50 น.

โดย: Elbereth 27 สิงหาคม 2553 15:35:23 น.

โดย: Elbereth 27 สิงหาคม 2553 15:58:48 น.

โดย: Elbereth 1 กันยายน 2553 13:00:25 น.

เยี่ยมเลย นำของแต่งบล๊อคมาใช้ได้ดีมาก ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบ่อยๆ แต่ยายเก๋ากลับไม่ค่อยมาเยี่ยม เพราะใต้ข้อความคอมเม้น คลิกที่ชื่อคุณแล้วไม่ไปที่บล๊อคคุณ จนต้อง เสิชค้นหา ขอ ADD ชื่อคุณไว้เพื่อติดต่อกันเร็วขึ้น   โดย: ชมพร 3 กันยายน 2553 23:18:13 น.

อยากได้บัวหิมะคราบ จะเอาไปไห้หลานทานนะคราบ ขอบคุณคราบ   โดย: ruddeen_7630@hotmail.com IP: 125.24.115.108 2 ตุลาคม 2553 9:52:19 น.

ทดสอบย่อรูปค่ะ   โดย: Elbereth 5 ตุลาคม 2553 13:12:24 น.

.   โดย: Elbereth 7 ตุลาคม 2553 17:45:29 น.

Work like you don't need the money. Love like you've never been hurt. Dance like nobody's watching. Sing like nobody's listening. Live like it's Heaven's on Earth. Mark Twain   โดย: Elbereth 13 ตุลาคม 2553 12:21:18 น.

Good and bad things ... The most destructive habit......................Worry The greatest Joy...............................Giving The greatest loss......................Loss of self-respect The most satisfying work...............Helping others The ugliest personality trait.............Selfishness The most endangered species.........Dedicated leaders Our greatest natural resource...............Our youth The greatest "shot in the arm"..........Encouragement The greatest problem to overcome.................Fear The most effective sleeping pill........Peace of mind The most crippling failure disease............Excuse The most powerful force in life..................Love The most dangerous pariah..................A gossip The world's most incredible computer........The brain The worst thing to be without................... Hope The deadliest weapon.......................The tongue The two most power-filled words..............."I Can" The most worthless emotion..................Self-pity The most beautiful attire......................SMILE! The most prized possession................Integrity The most powerful channel of communication.....Prayer The most contagious spirit.................Enthusiasm The most important thing in life..................GOD   โดย: Elbereth 13 ตุลาคม 2553 12:24:37 น.

โดย: Elbereth 2 พฤศจิกายน 2553 9:27:01 น.