lozocat
ใส่ข้อความที่ต้องการให้เลื่อนๆๆที่นี่
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
9 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
หนีแม่เที่ยว ไปเปรี้ยวอิตาลี ตอนที่สอง

....เป็นเวลาเกือบสามชั่วโมง บนขบวนรถไฟที่กำลังวิ่งฝ่าเม็ดฝนที่เริ่มโปรยปรายตั้งแต่ออกจากซูริคได้ไม่กี่นาที รถไฟยังคงวิ่งด้วยความเร็วสม่ำเสมอและคงจะชะลอความเร็วเมื่อใกล้ถึงสถานีในเมืองลูกาโน่ อีกสามสิบห้านาทีนี้ แต่แล้ว....

รถไฟชะลอเข้าจอดที่สถานีหนึ่ง จอดสนิทประมาณสิบนาทีแล้วก็ยังไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหน จะว่ารอรับผู้โดยสารก็ไม่น่าจะนิ่งสงัดขนาดนี้ ห้านาทีต่อมา เสียงประกาศจากเจ้าหน้าที่บนรถไฟดังขึ้นเป็นภาษาเยอรมัน ตามด้วยภาษาอิตาลี ว่าอะไรก็ไม่ทราบได้ ก็เลยทำหน้าตาใสซื่อให้เพื่อนร่วมขบวนแอบสงสาร แล้วยอมแปลข้อความประกาศเป็นภาษาอังกฤษให้ฟังด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง หญิงสาวผมบลอนด์ประบ่า วัยประมาณสามสิบห้า ท่าทางปราดเปรียวเป็นคนลูกาโน่ แต่ไปทำงานที่ซูริค แปลให้ฟังอย่างเซ็งๆ ว่า เนื่องจากฝนตกหนัก ทำให้เกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค ขบวนรถไฟจึงไม่สามารถไปต่อได้ ต้องหยุดอยู่แค่สถานีนี้ แม่เจ้า!!!!

“แล้วจะไปอย่างไรต่อละทีนี้” ประโยคนี้คิดในใจ แต่คงจะแสดงออกทางสีหน้า แม่หญิงผู้เป็นล่ามก็เลยรีบยิ้มให้ แล้วบอกต่อไปว่าไม่ต้องกังวล ทางบริษัทจะรับผิดชอบจัดหารถบัสมารับไปส่งที่สถานีข้างหน้า เพื่อขึ้นรถไฟขบวนใหม่ ได้ฟังดังนั้นก็ถอนใจเฮือกใหญ่ เฮ้อ....กรรม....ปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามธรรมชาติและตามลิขิตของดวงชะตา ทุกอย่างถูกกำหนดไว้หมดแล้ว ใช่แล้ว ทุกอย่างถูกกำหนดไว้หมดแล้วตั้งแต่เช้า!!! ซวย....

พอเข้าใจสถานการณ์แล้วก็เก็บสัมภาระ ลากสังขารลงจากรถไฟ เพื่อมายืนต่อแถวไปขึ้นรถบัส งานนี้ทำได้ดีที่สุดแค่เดินตามแม่นางผู้ช่วยชีวิตน้อยๆ อย่างไม่ลืมบุญคุณ

รถบัสสีแดงคันใหญ่ เลี้ยวมาจอดด้านหน้าสถานีรถไฟ ถึงสองครั้งและสองคัน แต่ก็ยังไม่ใช่ของบริษัทเดินรถที่เราต้องการจะไปสักคันเดียว ผู้คนเริ่มเดินไปเดินมา เพราะอากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ สาเหตุจากฝนที่ไม่ยอมหยุดตกทั้งที่เป็นหน้าร้อนของยุโรปแท้ ๆ แต่ก็ยังแอบมีฝนตกให้เบื่อเล่น โดยเฉพาะวันที่ต้องเดินทางไกลคนเดียว....เซ็งจิต

รถบัสสีแดงคันใหญ่ แล่นมาเป็นคันที่สาม คราวนี้จอดนิ่งสนิทเพื่อรอให้ผู้โดยสารรถไฟเสีย เรียงแถวกันขึ้น พร้อมสัมภาระอันมากมายของแต่ละคน และรถบัสก็เต็มภายในห้านาที ต้องรอคันต่อไปอีกสิบนาทีอย่างหนาวเหน็บ และเมื่อรถคันใหม่มา ก็ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป เดินเร็วแซงฝรั่งตัวโตไปอยู่หน้าสุด แล้วก้าวขึ้นรถอย่างสง่าผ่าเผย จากนั้นก็หาที่นั่งโดยเร็ว เพราะยืนรอมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ....เมื่อยขา...

รถบัสวิ่งไปเรื่อยๆ ตามถนนที่คดเคี้ยว นั่งมองภูมิประเทศอันสวยงาม ภูเขาลูกใหญ่เบื้องหน้า อยู่ใกล้เสียจนอยากจะเอามือยื่นออกไปสัมผัส ทิวทัศน์ข้างทางสวยงามยิ่งกว่าภาพถ่ายโปสการ์ดหรือในภาพยนตร์ต่างประเทศที่เคยได้พบเห็น ผู้คนต่างชาติต่างภาษาที่ต้องมาอยู่รวมกันบนรถคันนี้ กลับกลายเป็นเพื่อนใหม่ไปโดยไม่รู้ตัว จากการได้ผ่านสถานการณ์เดียวกัน ทำให้โลกที่มันดูกว้างขวางใบนี้กลับแคบลงถนัดตา เมื่อทุกคนบนรถคันนี้ คือ เพื่อนร่วมชะตากรรม

สาวผมบลอนด์ผู้ช่วยชีวิต ตามมานั่งข้างกันด้วยความห่วงใย กลัวเราจะเหงา แล้วบอกกับเราว่า รถจะวิ่งไปสถานีหน้า ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นแต่ละคนก็แยกย้ายกันขึ้นรถไฟไปตามจุดหมายของแต่ละคน ซึ่งเราสามารถใช้ตั๋วรถไฟใบเก่าได้ ไม่ต้องเสียค่าตั๋วเพิ่ม จากนั้นไม่นาน ทั้งเธอและฉัน เรานั่งพักสายตากันสิบห้านาที

สถานีเบื้องหน้าคือสถานีที่สวยที่สุดเท่าที่เราเคยเห็น จำไม่ได้ว่าชื่อสถานีอะไร เพราะมัวตะลึงและตื่นเต้นกับการฟังเจ้าหน้าที่บอกทางและเดินไปหาขบวนรถไฟ สถานีที่ว่านี่เรียกได้ว่า เป็นสถานีรถไฟขนาดเล็ก อยู่ด้านหลังของภูเขาขนาดใหญ่ ซึ่งมีน้ำตกตามธรรมชาติโปรยปรายเป็นสายลงมาจากด้านบนอย่างสวยงาม เสียงน้ำตกลงกระทบก้อนหินและลำธารเบื้องล่าง ดังกึกก้องไปทั่วทั้งสถานีรถไฟ เรียกความสนใจจากผู้คนให้เหลียวหันกลับไปสัมผัสความสวยงาม และความเย็นฉ่ำของบรรยากาศที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวผลัดถิ่นอย่างเรา

ได้ชื่นชมความงามของน้ำตกด้วยตาจนอิ่มก็อยากเก็บภาพประทับใจนี้ไว้เผยแพร่ แต่...ขบวนรถเริ่มเคลื่อนตัวออกจากชานชลา ในขณะที่มือยังควานหากล้องดิจิตอลขนาดเล็กไม่เจอ เฮ้อ...ได้แต่เก็บเธอไว้ในความทรงจำ พร้อมกับนั่งคิดทบทวนถึงเรื่องเมื่อเช้าจนกระทั่งบัดนี้ว่า หรือฟ้าประทานให้เราซื้อตั๋วรถสองรอบ เพื่อนั่งรถไฟสองขบวน กับทัวร์รถบัสเพื่อมาชมสถานีน้ำตกที่สวยที่สุด เอาเป็นว่าขอบคุณโชคชะตาวันนี้ก็แล้วกันที่อย่างน้อย ในยามที่มีปัญหา ก็ยังมีคนคอยช่วยเหลือ สาธุ...

การเดินทางเริ่มขึ้นอีกครั้ง หวังว่าคราวนี้คงไม่มีอุปสรรคใดๆ มาขวางอีก ครึ่งชั่วโมงต่อมารถไฟจอดที่สถานีลูกาโน่ แล้ววิ่งต่อไปยังด่านชายแดนประเทศสวิสเซอร์แลนด์กับอิตาลี เพื่อปิดประตูตีแมว!!!

Border ทำการตรวจคนเข้าเมืองด้วยการส่งเจ้าหน้าที่หกคนทั้งในและนอกเครื่องแบบ ขึ้นมาวิ่งเล่นบนขบวนรถไฟ สิ่งที่เจ้าหน้าที่ขอดูและต้องการทราบก็แค่ พาสปอร์ตที่มีวีซ่าเข้าประเทศของเขา และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เจ้าหน้าที่ต้องการทักทายเรา เมื่อเราทำทุกอย่างตามขั้นตอนก็ไม่มีอะไรน่าวิตก เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่เรียบร้อยก็ลงจากรถไฟไป เพื่อปล่อยให้ขบวนรถได้ออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง มิลาโน่ ในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้านี้







Create Date : 09 พฤษภาคม 2553
Last Update : 9 พฤษภาคม 2553 0:44:54 น. 8 comments
Counter : 566 Pageviews.

 
ตามไปเทียวด้วยคน บลอคน่ารักดีค่ะ



โดย: Sweetiepinkberrie วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:1:28:09 น.  

 
Were you on your own? Woww...I'm impressed!


โดย: yr_naughty_annie วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:3:39:03 น.  

 
เล่าเรื่องได้น่าติดตามมากเลยค่ะ
จะรอติดตามตอนต่อไปนะคะ


โดย: genio วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:5:00:36 น.  

 


โดย: ceacar salad วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:31:35 น.  

 
เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ขอขอบคุณ


โดย: ชาวกรุงเก่า วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:43:54 น.  

 
..ติดจาย..ตามมาอ่านต่อ..โห..เหมียนด้ายเปงแมลงเต่าทอง..ตัวน้อย ..ตามปายด้วยเรยจร้า


โดย: อ๋อซ่าส์ วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:48:57 น.  

 

^
^
คนซ่าส์ๆบนหัวอีชั้นไปตามมาอ่าน
ดีนะที่มะช่ายรถไฟที่ประเทสไทย
วันนั้นจอดสนิทเหมือนกัน
ต่างคนต่างลง ต่างคนต่างไปทางใครทางมัน สาธุ หุ หุ


แอมอร


โดย: peeamp วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:30:00 น.  

 
สวัสดีค่า ดีจังที่มีคนมาอ่าน ยินดีต้อนรับนะคะ


โดย: naririn วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:20:51:40 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

naririn
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




..ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันนะคะ.....

lozocat

ข้อความและรูปภาพทั้งหมดในBlog นี้ขอสงวนลิขสิทธิ์นะคะ ไม่นำออกเผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตนะคะตัวเอง

เพลง
MusicPlaylistView Profile
Create a playlist at MixPod.com
Friends' blogs
[Add naririn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.