|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ความรักที่ผ่านพ้นไปไม่มีอะไรที่น่าจดจำ
13-11-11 อดหัวเราะไม่ได้นะ นานๆทีตัวเองจะเขียนบันทึกกับเขา พอๆกับการปัดฝุ่นบล็อก ตอนเปิดเข้าหน้าบันทึกนี่เหลือบไปเห็นหัวข้อบันทึกเก่าๆที่เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความรักครั้งเก่า และเรื่องของเขาที่เราเคยเพ้อ ตอนนี้ก็กลับมาเขียนเรื่องความรักอีกเช่นกัน แต่เป็นเรื่องของความรักที่จบไปแล้ว เป็นความรักครั้งที่ 3 ถ้าไม่นับปั๊ปปี้เลิฟแบบรักเขาข้างเดียวสมัยมัธยม และเป็นคนที่ตกลงเป็นแฟนคนแรกที่ได้เห็นหน้าและจับมือกัน ไม่สิ เป็นแฟน แต่ไม่ใช่คนรัก มันแบบว่าบอกไม่ถูก... เพราะเนเองเป็นคนที่ตั้งมาตรฐานความรักไว้สูงมากกกกก จะรักใครสักคนนี่คิดหนัก คิดแล้วคิดอีก คิดจนเหนื่อยเลยทีเดียว แต่กับเขาเหมือนกับว่าเราเพิ่งตัดใจกับความรักครั้งเก่าไปหมาดๆ ใจเปิดกว้าง และเป็นจังหวะที่เขาเข้ามาพอดี... ด้วยความซนๆแก่นๆ ชอบอ่านนิยาย ชอบจิ้น คิดอะไรไปคนเดียว เจอเขาก็แอบคิดขำๆไปตามประสา ใครจะรู้ล่ะว่าจู่ๆเขาก็กระโดดเข้ามาทำให้ความคิดเราเป็นจริงเป็นจังจนเราเองก็ตกใจ แอบขำๆมึนๆ แต่ก็คบไปนะ ฮา ตอนแรกก็โทรคุยบ้าง ไปดูหนังด้วยกันบ้าง มีจับมือบ้าง แต่มันก็แค่นั้น เพราะเราค่อนข้างวางตัว แต่ถามว่ารักไหม ไม่นะ แต่แค่อยากลองเปิดโอกาสให้หัวใจตัวเองบ้าง แต่ตอนนั้น ยังหวนคิดถึงคำของหมอดูที่เคยบอกเราเมื่อตอน ต.ค.53 ว่าความรักของเราจะมีเลข 7 มาเกี่ยวข้อง เนื้อคู่อายุห่างประมาณ 7 ปี และเราจะได้พบเนื้อคู่ตอนอายุ 20 และ 22 ตอนนั้นไม่เชื่อคำหมอดูเลยบอกว่าไร้สาะ แต่ไม่นานก็มีเหตุให้ต้องเลิกกับแฟนคนที่ 2 ที่ได้แต่คุยกันผ่าน Internet และ โทรศัพท์ ไม่เคยเจอตัวจริงๆซะที และตอนที่ดูหมอ มีรุ่นพี่คนนึงไปกับเราด้วย อายุห่างกันประมาณ 6 - 7 ปี แถมเขายังเคยบอกว่าชอบเราอีก ตอนนั้นก็แทบจะกระโดดหนีและหลอนไปเลย กลัวความรักจัด ฮา ...กลับมาถึงคนที่เพิ่งเป็นอดีตไป ยอมรับว่าคำของหมอดูเข้ามามีอิทธิพลบ้าง แต่มันก็ไม่ทั้งหมด คือในบางมุมของเขาเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ แต่ก็ไม่ได้แย้ง และบางครั้ง รู้สึกว่ามีหลายๆอย่างเยอะเกินไปทำให้เราอึดอัด แต่เพราะทำลายน้ำใจใครไม่เป็นเลยต้องยอมๆไป และมีทางที่เห็นว่าเข้ากันไม่ได้หนักคือ เขารักเพลงร็อค ในขณะที่เราเป็นอินดี้ ที่มันเป็นอะไรที่ไม่ใช่มากๆ และมีบางครั้งที่เขาบอกว่าแนวนั้น(ที่เราชอบ)ไร้สาระ ไม่ได้เรื่อง แอบปรี๊ดเหมือนกันแต่เก็บในใจ ขณะที่เราไม่ชอบฟังเพลงแนวของเขาเรายังไม่พูดเลย ไปร้านหนังสือด้วยกัน เราแวะไปมุมนิยาย เขาแวะไปมุมประวัติศาสตร์จีน แล้วหันมาพูดว่า "นิยายพวกนี้เพ้อฝัน ไร้สาระ" ทำเอาเราสะอึก "ไม่ไร้สาระนะ นิยายบางทีก็เขียนมาจากชีวิตจริงทั้งนั้น นี่ๆเล่มนี้เรารู้จักคนเขียนด้วยล่ะ น่ารักเป็นกันเองมากๆเลย" "ถ้ารู้จักก็ไม่เห็นต้องซื้อเลยนี่ ขอเขาเอาก็ได้" เจอคำนั้นของเขาเข้าไปทำเอาอึ้งและเดินหนีมาในโซนนิยายแทบจะไม่คุยด้วยแถมคะแนนติดลบ เพราะในบางมุมเขาไม่เข้าใจมุมไม่เข้าใจโลกของเรา และมองอะไรแคบๆ เพราะอยู่ในช่วงดูใจเลยให้คะแนนติดลบ และนานวันเข้าๆ ทำไมคะแนนมันไม่เพิ่ม แต่ติดลบ จนนิ่งเฉย เขาบอกรักเราทุกวัน แต่เราแทบจะไม่บอกเขาเลย เพราะตั้งใจไว้ว่าจะไม่โกหกความรู้สึกตัวเองเด็ดขาด แต่บางครั้งสงสารเขาเลยพูดไปบ้าง แต่ก็แอบสะอึกในหัวใจ ใช่หรอ เรารู้สึกแบบนั้นหรอ ทำไมรู้สึกว่าไม่ใช่ เขาบอกว่าเราคือ รักแรกพบของเขา ...แต่สำหรับเราแบบนั้นไม่มีจริงหรอก แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป คำพูดทุกคำของเขาที่เล่าให้เราฟัง ทุกอย่างที่เขาบอก อนาคตที่เขาอยากให้เป็นแทบจะมีเราในทุกๆเรื่อง แต่ในใจเราทำไมกลับมองไม่เห็นอนาคตนั้น... ได้แต่เก็บเงียบคิดไว้แล้ว แย็บๆกับเขาก็บ่อย ว่า ถ้าวันนึงไม่มีเรา จะทำยังไง เขาก็บอกว่าไม่สิ มันต้องมี เขาจะไม่ทำให้เราเสียใจ แน่ล่ะว่าเราเป็นผู้หญิงติสส์ๆมีมุมอ่อนไหว ก็แอบเอียงเอนไปกับคำพูดของเขาบ้าง แต่ด้วยความเป็นคนคิดมาก เลยเบรคความสุขนั้นไว้ทุกที ใช่ว่าอยู่กับเขา มันจะแย่นะ แบบว่า "สุขใจ แต่ ไม่สบายใจ" อย่างที่่เคยขึ้น Status ใน FB แต่เพราะระยะหลังนี่เขาเปลี่ยนไป ติดเพื่อน ไม่ค่อยมีเวลาให้เรา และอะไรหลายๆอย่างจนเรารู้สึกว่า เราเดินตามเขาอยู่ฝ่ายเดียว ในขณะที่เขาเดินห่างออกไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่า โอเคเราเหนื่อย เหนื่อยก็สมควรหยุดแล้วนะ แต่จะหยุดยังไงล่ะเราเองก็ทำร้ายจิตใจใครไม่ลง เลยคิดว่าเอาเถอะลองทนอีกสักหน่อย และวันนั้น ก่อนที่จะเลิกกันเพียงวันเดียว เป็นวันหยุดของเราและเขา เลยชวนเขาออกมาเดินเที่ยวศาลเจ้าด้วยกัน เราปวดท้องมากแต่ก็ยังฝืนไป ทั้งๆที่ไปด้วยกัน แต่เดินห่างกันไกล เขาเดินนำหน้าเรา แทบจะไม่รอเรา จนเราต้องเร่งฝีเท้าให้ทัน แต่พอเดินทันกันเขากลับชะลอฝีเท้าเอาแต่จ้องโทรศัพท์ จนเราต้องหยุดรอเขา แต่ก็ไม่ได้เป็นระยะที่มองแล้วเป็นคนที่มาด้วยกันเลย ตอนกลับจากที่เคยไปส่งเราที่รถเหมือนเคย กลับแยกจากกันตรงทางแยกแล้วเดินหันหลังไป ไม่มองผู้หญิงที่ปวดท้องจนหน้าซีดแทบจะเป็นลมจนต้องยืนพิงป้ายจราจรด้วยซ้ำ นั่นทำให้เราตัดสินใจแล้วว่า เราเหนื่อยมาก และควรหยุดได้แล้วจริงๆ เลยส่งข้อความไปหาเขา Me "เรื่องระหว่างเราจะจบลงแค่นี้ไหม" T "ทำไมครับเบื่อแล้วหรอ" Me "ไม่หรอกแต่เราเหนื่อยมาก แล้วคุณล่ะ" T "ไม่ไหวก็หยุดก็ได้ครับ ไม่เป็นไรเค้าอยู่คนเดียวได้ เค้าไม่ใช่ อต่อาจจะเจอคนที่ดีกว่าเค้าก็ได้" Me "ยังรักเราเหมือนเดิมรึเปล่าอยากรู้แค่นั้น" T "ยังรักเหมือนเดิมครับ แต่ช่วงนี้ขออยู่คนเดียวก่อนได้ป่าว เค้ามีแต่เรื่องให้ปวดหัวมากมายเลยครับ " Me "อื้มๆ อยากคุยเมื่อไหร่ก็บอกนะ" T "ครับผม ดูแลตัวเองด้วยนะ เป็นห่วง" เพราะข้อความสุดท้ายที่ทำให้น้ำตาแทบไหล เป็นห่วงเราแต่ไม่หันมามองคนที่ป่วยจนแทบจะเดินต่อไปไม่ไหวเลยเนี่ยนะ นาทีนั้นทำใจไว้แล้ว ไม่สิ ทำใจไว้ก่อนหน้านั้นแล้วว่ามันต้องจบเข้าสักวัน แต่ไม่คิดว่าต้องจบจริงๆในวันถัดมา และจบแบบที่เราเกลียดที่สุด คือการโกหก! สถานะใน FB ของเขาเปลี่ยนเป็นโสด เปลี่ยนชื่อจากชื่อเดิมที่เขียนว่ารักเราเป็นชื่อผู้หญิงอีกคนในฐานะภรรยาด้วย และคนที่เล่น FB ของเขาก็เป็นภรรยาเก่าของเขาที่กลับมาขอคืนดี ในวินาทีที่เห็นช็อค น้ำตาไหลราวทำนบแตก หูอื้อ ตาลาย ตัวร้อนผ่าว จึงโทรไปหาเขาแต่เขาไม่รับสาย เลยกลับมาคุยกับคนของเขา และเข้าใจอารมณ์ของคนที่โกรธมาก แทบไม่คิดว่าตัวเองพิมพ์อะไรตอบไปบ้าง แต่สิ่งที่เราตกใจไม่คิดว่า คนที่แทบจะไม่เคยมีปากเสียงกับใครจะกล้าใช้คำว่า "ไม่ทราบว่าคุณไปทำคุณไสย์ที่ไหนมาคะเขาถึงกลับไปหาคุณได้ ดิฉันจะได้ไปทำบ้าง" ตอนที่สงบสติอารมณืได้คิดถึงตรงนั้นก็แอบขำ ว่าเราทำไปได้ยังไง ฮา ประมาณ 5 ทุ่มโทรไปหาเขาใหม่เขาจึงได้รับสาย ตอนแรกเขาก็ชวนคุยปกติ แล้วเราก็เริ่มถามถึงคนเก่าของเขาที่ได้คุย เขาตอบรับกลับมาสั้นๆว่า "ครับ" และ "ขอโทษนะ ไม่โกรธกันนะ" เท่านั้นจึงเป็นอันวางสายไป น่าแปลกที่น้ำตาไม่ไหลเลยสักหยด แถมแยกเขี้ยวใส่โทรศัพท์ ไม่โกรธหรอกค่ะ แต่มันเกินจุดนั้นมามาก เข้าข่ายขึ้นบัญชีดำไปเลย คือเคยบอกเขาแล้วว่าถ้ามีใหม่ บอกกันตรงๆไม่ว่า แต่อย่าให้รู้เองอันนั้นรับไม่ได้ แต่เขากลับทำ ดังนั้น นอกจากไม่รักแล้ว ไม่เหลือเหตุผลให้ต้องกลับไปทำดีด้วยได้เลย ของที่เขาเคยให้ก็เอาให้คนอื่นไปแทบหมด ส่วนที่เหลือก็ฝากเพื่อนไปคืนเขา ถือเป็นการตัดเยื่อใย ไม่เหลืออะไรให้ต้องจำ ถามว่า ณ จุดนี้เป็นยังไงบ้าง ตอบได้เลยค่ะว่า สบมยห. สบายมากอย่าห่วง ไม่เสียใจเลยอ่ะ? - ไม่เสียใจเลยค่ะ แค่เสียความรู้สึกมากกว่า เสียเขาไปได้ชีวิตเราโล่ง มีเวลาให้ตัวเองขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องคอยห่วง คอยคิดถึงใคร 19 ปีที่ผ่านมาเคยมีชีวิตยังไง ต่อไปก็จะเป็นอย่างนั้น แต่แอบขำขิดนึง เมื่อเกือบ 3 เดือนก่อน ตอนที่ยังคบกับเขา เคยคุยกับเพื่อนเล่นๆว่า "อีกไม่นานเดี๋ยวฉันก็โสดเป็นเพื่อนแก" "แน่นะ สัญญาแล้วนะ" "เออน่ะ" ถึงตอนนี้ก็ได้โสดจริงๆซะที แล้วก็จะเกาะคานอย่างน้อย 8 ปีตามที่ตั้งใจไว้ 21 ปี เรียนจบ 22 - 25 ปี ทำงาน(หรืออาจจะเรียนต่อด้วย) เก็บเงิน ไล่ตามความฝัน 26 - 27 ปี สร้างบ้านให้พ่อแม่ในที่ดินของตัวเอง 28 ปี สะพายเป้เดินสายเที่ยวพร้อมกล้องคู่ใจ 29 ปี ทำความฝันของแม่ให้เป็นจริงได้บ้างด้วยการเปิดร้านงานฝีมือเล็กๆ รับสอนงานฝีมือ และมีมุมภาพถ่าย โปสการ์ดที่แปะติดโลโก้ของตัวเอง "A'tist" 30+ >>> ค่อยมองหาลู่ทางลงจากคาน ถ้าหาไม่ได้ เกาะคานอยู่ก็ไม่ตาย ฮา ขอบคุณทุกคนที่คอยเป็นกำลังใจให้เสมอมานะคะ จุ๊บๆ > รัก เน ปล. เข้าใจแล้วล่ะทำไมผู้หญิงอกหักถึงต้องตัดผม เพราะผมเป็นสิ่งที่ผู้หญิงรักมากที่สุด ถ้าทำใจตัดผมได้ สิ่งอื่นก็ไม่ง่ายเลย มันทำให้โล่งขึ้นนั่นเอง
Create Date : 13 พฤศจิกายน 2554 |
|
11 comments |
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2554 0:00:58 น. |
Counter : 431 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: narilin 13 พฤศจิกายน 2554 9:17:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: **mp5** 13 พฤศจิกายน 2554 12:48:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: narilin 13 พฤศจิกายน 2554 13:18:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: chai IP: 171.7.120.33 3 ธันวาคม 2554 11:08:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: nay narilin IP: 223.204.101.200 11 ธันวาคม 2554 0:57:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: ช๊อกโกแล็ตมูส IP: 27.55.0.215 13 ธันวาคม 2554 23:53:49 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เน นริลิน สาวใต้วันเสาร์ ราศีกรกฎผู้มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย บทจะเย็นก็เย็นเป็นภูเขาน้ำแข็ง บทจะร้อนก็ปะทุเป็นภูเขาไฟ
ติสส์แตกเป็นพักๆ
วิ่งไล่ตามความฝันไม่ย่อท้อ
เหนื่อยก็แค่นั่งพัก ก่อนจะวิ่งตามฝันต่อ
บ้าๆบ๊องไปนิด... แต่ความจริงใจก็มีเต็ม 100 นะเออ^^
|
|
|
|
|
|
|