Group Blog
 
 
ตุลาคม 2555
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
13 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 

เซี่ยงไฮ้ - ซูโจว Tiger Hill






บล๊อกนี้เก่าดองเป็นบล๊อกเก็บตกพาเที่ยวเมืองซูโจว จะทิ้งไปก็เสียดายรูป
อีกอย่างเคยเขียนบล๊อกโจวจวงซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซูโจวไปแล้ว
เลยต้องเอามาปัดฝุ่นอัพซูโจวให้จบ หลังจากทำบล๊อกเสร็จรู้สึกว่ามันยาวมาก
แถมรูปก็แยะ ถ้าขี้เกียจอ่านก็ดูรูปผ่านๆ ไปก็ได้นะคะ
ที่เขียนยาวๆ ก็ทำเผื่อไว้ให้กับคนที่มาค้นหาข้อมูลสำหรับไปเที่ยว
หวังว่าคงมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย ^^

เมืองซูโจวมีสุภาษิตจีนกล่าวไว้ว่า “ในฟากฟ้ามีสวรรค์ ในแผ่นดินมีซูโจว”
ซึ่งก็หมายความว่าซูโจวคือสวรรค์บนดิน เป็นเมืองแห่งสาวงาม
เป็นเมืองที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1997
เป็นเมืองที่มีโบราณสถานมากที่สุดเมืองหนึ่งของจีน
รองจากกรุงปักกิ่งและเมืองซีอาน
โดยมีโบราณสถานที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดีถึง 489 แห่ง
ในจำนวนนี้มี 15 แห่งที่เป็นไฮไลท์ใหญ่ๆ ของการมาเยือน
เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องผ้าไหมและงานปัก





ถึงจะมีสถานที่เที่ยวแยะแต่เราแพลนไปแค่วันเดียวคือเช้าไปเย็นกลับ
การเดินทางจากเซี่ยงไฮ้จะซื้อทัวร์ไปหรือจะไปกันเองก็ได้ง่ายจัง
เพราะเมืองนี้อยู่ห่างจากเซี่ยงไฮ้แค่ 80 กิโลเมตร
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาทีด้วยรถไฟความเร็วสูง
จากสถานี Shanghai Railway Station ขอบอกว่าในสถานีคนแยะม๊ากกก
เราว่าใช้เวลาที่สถานีรถไฟก่อนขึ้นรถนานกว่าเวลาในการเดินทางซะอีก
ค่าโดยสารรถโดยสารชั้นหนึ่งประมาณ 300 บาทต่อเที่ยว





ในสถานีรถไฟนอกจากมีฟาสฟู๊ดอย่าง KFC
ก็จะร้านขายของชำแบบ local เห็นร้านแบบนี้เรางี้ชอบนัก
ไม่ได้ซื้อก็ขอเข้าไปดูว่าเค้ามีขายอะไรกันบ้าง
สินค้าขายดีก็คือกองที่เห็นข้างหน้าเป็นพวกไส้กรอก
เนื้อไก่ไข่ต้มสีคล้ำเหมือนต้มพะโล้ซีลสูญญากาศ
แล้วก็ขนมปังที่ดูแห้งๆ เครื่องดื่มที่ไม่แช่เย็น





ถึงซูโจว ด้านหน้าสถานีรถไฟมีรถรับจ้างบริการรอเรียกแขกเพียบ
ทั้งแท็กซี่ป้ายเขียวป้ายดำ สามล้อถีบ รถเมล์
สำหรับเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างมากมาย
จึงมีรถเมล์บริการสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ
โดยผ่านสถานที่เที่ยวที่สำคัญดูตามลิงค์ข้างล่างนี้เลยค่ะ
"เส้นทางรถเมล์สำหรับนักท่องเที่ยวในซูโจวคลิ๊กที่นี่"

นอกจากรถบัสสำหรับนักท่องเที่ยวสาย 1 กับ 2
ยังมีรถเมล์ธรรมดาสาย 146, 949 วิ่งผ่าน
เราขึ้นรถเมล์ธรรมดาจำไม่ได้ว่าสายอะไร ค่าโดยสารคนละ 5 บาท





สถานที่แรกที่เราแพลนจะไปคือ Tiger Hill หรือเขาเนินเสือ
มีชื่อภาษาจีนว่าหู่ชิว เป็นสถานที่ที่มีประวัติยาวนานถึง 2500 ปี





ซูโจวเป็นเมืองที่ใช้เส้นทางทางน้ำเป็นทางสัญจรในอดีต
42% ของเมืองคือน้ำ เป็นเมืองที่มีสวนมีแม่น้ำ มีทะเลสาบ มีคลองต่างๆมากมาย
ทำให้มีชื่อเรียกว่าเป็นเมืองเวนิสแห่งเอเซียอีกเมืองหนึ่ง





หลังจากซื้อตั๋วเสร็จก่อนเข้าไปในบริเวณ Tiger Hill มีตรอกเล็กๆ เหมือนตลาด
หมายมั่นว่าตอนขากลับจะต้องมาเดินเล่น เพราะเรากับตลาดเป็นของคู่กัน
ไปเที่ยวที่ไหนเห็นตลาดไม่ได้ต้องขอแวะเข้าไปดูว่าเค้าขายอะไรกันบ้าง





ค่าบัตรผ่านประตูจะมีช่วงไฮซีซั่นกับช่วงโลว์ซีซั่น
60 หยวน ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. - 30 ตุลา
40 หยวน ตั้งแต่ 31 ตุลา - 15 เม.ย.
ชื่อของ Tiger Hill มาจากภูเขาที่ดูไกลๆ แล้วเหมือนเสือหมอบ
บ้างก็ว่าสถานที่นี้ฝังพระศพพระเจ้าเหอหลีว์ซึ่งเป็นบิดาของพระเจ้าฟูชา
ในตำนานกล่าวว่าในวันที่สามหลังจากที่ฝังพระศพแล้ว
ได้มีเสือขาวปรากฏขึ้นจึงเป็นที่มาของชื่อนี้





ด้านในมีไกด์บริการฟรีสำหรับนักท่องเที่ยว
จะมาคนสองคนสามคนสี่คนก็ให้นั่งรอจนได้เป็นกลุ่มแล้วค่อยพาออกทัวร์
วันที่เราไปคนไม่ค่อยแยะมาก พอไกด์มาก็ไม่ต้องรอคนอื่นไปได้เลย
ไกด์ที่กลับมาเป็นไกด์ภาษาจีน ไม่อยากรอไกด์ที่พูดอังกฤษได้
เลยให้เพื่อนที่ไปด้วยเป็นคนแปลให้ฟังอีกที
....แต่ความที่บล๊อกนี้ดองนานหาสมุดที่จดข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ไม่เจอ
มีบางจุดที่จำไม่ค่อยได้ว่าตรงไหนเป็นอะไรบ้าง
เอาเป็นว่าเดินเที่ยวบล๊อกดูรูปเพลินๆ แล้วกันเนาะ





ด้านหน้าสำนักงานปลูกดอกโป๊ยเซียนกับหลายๆ ดอก(ที่จำชื่อไม่ได้ )
ลานดอกไม้ตรงนี้จะมีดอกไม้ต่างๆ หมุนเวียนอยู่ตลอดทั้งปี
ถ้ามาในหน้าหนาว ดอกไม้ทั้งแปลงก็จะกลายเป็นดอกทิวลิปหลากสี





บริเวณโดยรอบของ Tiger Hill กว้างมากและมีสวนมากมาย
โดยมีพื้นที่ทั้งหมดรวมกัน 14,100 ตารางเมตร
มีจุดไฮไลท์สำหรับแวะชมทั้งหมด 10 จุดด้วยกัน
....เราไปไม่ครบทุกจุด





ด่านที่สองที่จะขึ้นไปยัง Tiger Hill
อาคารที่เห็นสีเหลืองคือ Beam Broken Hall
สร้างขึ้นเมื่อ 600 ปีที่แล้ว (1206-1367) ในราชวงศ์หยวน
คานของโถงของอาคารนี้ได้หักครึ่งแต่ก็ยังอยู่ได้ไม่มีทรุด
เพราะโครงสร้างที่ซัพพอร์ทกันในสี่มุมเลยทำให้คานรับน้ำหนักอยู่ได้
เวลาเดินผ่านลอดโถงเข้าไปก็จะได้เสียงเอี๊ยดอ๊าดเบาๆ อยู่บนหลังคาตลอดเวลา





บ่อน้ำ Han Han Spring
บ่อน้ำนี้คนพบโดยชายคนหนึ่งชื่อ Han Han ซึ่งเป็นต้อกระจกมองเห็นไม่ชัด
ซึ่งบวชเป็นพระในวัดและเป็นมีหน้าที่หาบน้ำสำหรับวัด
ซึ่งระยะทางระหว่างแม่น้ำไปยังวัดเป็นระยะทางไกล
มีอยู่วันหนึ่งเขาเกิดง่วงนอนอย่างหนักและหลับไป
เขาฝันว่ามีพระเจ้าอาวาศองค์หนึ่งมาบอกว่า
ข้างใต้ที่เขานอนอยู่เป็นปากบ่อน้ำซึ่งไหลมาจากทะเล
พอตื่นขึ้นเขาก็เริ่มสังเกตุเห็นพืชประเภทตะไคร่น้ำซึ่งแน่นอนว่า
น่าจะมีน้ำข้างใต้ เขาจึงเริ่มขุดดินบริเวณนั้น หลังจาก 49 วัน
ได้เจอตาน้ำผุดขึ้น เมื่อเขานำน้ำนั้นมาล้างหน้าได้เกิดปาฏิหารย์
ว่าสายตาของเขากลับมาเป็นปกติ
...แต่ปัจจุบันบ่อน้ำนี้ได้ถูกปิดตายไปแล้ว




หินทดสอบกระบี่ หรือ ซื่อเจี้ยนสือ (ซื่อ = ทดสอบ เจี้ยน = กระบี่ สือ = หิน)
ใช้ชื่อนี้เพราะเล่ากันว่า ฉินสื่อหวงตี้เคยใช้กระบี่ของพระองค์ฟันหินก้อนนี้
เพื่อทดสอบว่ากระบี่จะกล้าแข็งกว่าก้อนหินหรือไม่




Thousand Workman Stone
หลังจากพิธีฝังพระศพพระเจ้าเหอหลีว์ได้สิ้นสุดลง
พระโอรสพระเจ้าฟูซาได้เชิญคนงาน 1000 คนมาเลี้ยงฉลองให้เมาไม่มีสติ
และได้ให้ทหารฆ่าทุกคนที่ลานแห่งนี้เพื่อที่จะปิดปากไม่ให้แพร่งพรายว่า
สุสานอยู่หนใด เนื่องจากเกรงว่าจะมีคนงานเอาความลับไปบอกต่อ
เพราะนอกจากพระศพแล้วยังมีดาบและทรัพย์สมบัติ
มูลค่ามหาศาลอีกมากมายที่ฝังไว้ด้วยกัน





Sword Pool หรือสระกระบี่
เป็นทางเข้าสุสานฝังศพของพระเจ้าเหอหลีว์ที่ชื่นชอบกระบี่
ตอนที่มีชีวิตอยู่ได้ให้ช่างตีกระบี่ไว้มากหลายพันด้าม เป็นกระบี่ไร้เทียมทาน
และเก็บสะสมไว้ที่เนินเสือ ฉินสื่อหวงตี้ (จิ๋นซีฮ่องเต้)
ได้ยินเรื่องเล่าขานนี้ จึงมาสืบเสาะหากระบี่ของพระเจ้าเหอหลีว์ด้วยพระองค์เอง
เมื่อมาถึงเนินเสือพบเสือโคร่งหมอบบนสุสานจึงกระชากกระบี่ออกแทงเสือ
แต่แทงไม่ถูก เสือเลยวิ่งหนีหายสาบสูญไปตั้งแต่นั้น
ฉินสื่อหวงตี้ค้นหากระบี่ไม่พบ แต่สถานที่ที่ฝังกระบี่นั้นดินได้ถล่มลงมา
กลายเป็นสระน้ำจึงได้ชื่อว่า สระกระบี่ น้ำในสระนี้ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์
ใครใช้ล้างหน้าจะสวยไม่สร่าง หนุ่มสาวขึ้น 18 ปี
(ข้อมูลจาก...บันทึกการเยือนจีนของสมเด็จพระเทพฯ)

เพิ่มเติม: ลูอวี้นักปราชญ์ของจีนที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับชา
"ชาชิง Cha Ching" เป็นเล่มแรกของโลกในปี 800
ซึ่งได้เคยมาใช้ชีวิตและทำไร่ชาอยู่ใกล้กับเนินเสือนี้
ได้ค้นพบว่าน้ำในบ่อนี้ใสและมีความหวาน
เป็นน้ำที่ดีที่สุดในการชงชา 1 ใน 5 ของประเทศ





Twin Bridge Wells
บนสะพานที่อยู่เหนือสระกระบี่จากรูปข้างบน
จะเห็นช่องกลมๆ อยู่สองช่องเป็นปากบ่อน้ำที่ชักน้ำขึ้นมาจากด้านล่าง
มีเรื่องเล่ากันว่าที่ปากบ่อนี้ เมื่อใดที่นางไซซีพระสนมของพระเจ้าฟูซา
ได้ตามเสด็จมายังที่นี่ นางจะชอบมานั่งหวีผมที่ช่องนี้
ด้วยว่าน้ำในบ่อข้างล่างนี้ใสกิ๊กมากจนสะท้อนภาพขึ้นมาเหมือนกับกระจก
ความงามของนางงามจนทำให้ฝูงปลาต้องตะลึงมองจนหยุดว่ายน้ำ
...ถ้าใครชอบดูหนังจีนหรืออ่านประวัติศาสตร์จีน คงจะเคยได้ยินชื่อนางไซซี
ซึ่งเป็น 1 ใน 4 หญิงงามแห่งแผ่นดินจีน เป็นสาวงามที่พระเจ้าโกวเจี้ยนแห่งแคว้นเย่ว์
ส่งมาถวายเป็นพระสนมของพระเจ้าฟูชาตามแผนการใช้สาวงามมาล่มเมือง





Yunyansi Pagoda เป็นเจดีย์สูง 7 ชั้น
เป็นส่วนหนึ่งในวัดหยุนหยานที่อยู่ภายใน Tiger Hill
สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่งระหว่างปี 959-961
เป็นเจดีย์ 7 ชั้น 8 เหลี่ยม มีความสูง 48 เมตร
หลังจาก 400 ปีผ่านไปเจดีย์ได้ทรุดตัว ดินแถวนี้ทรุดทำให้เจดีย์เอียง
เหมือนกับหอเอนเมืองปิซ่า โดยเอียงไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 359'
เขาพยายามหาวิธีที่จะพยุงเจดีย์นี้ไว้ เช่น ฝังเสาเข็มเพิ่มเติม
แต่ก็ไม่สำเร็จ ขณะนี้เอียงไป 2.3 เมตรแล้ว
(ข้อมูลจาก...บันทึกการเยือนจีนของสมเด็จพระเทพฯ)





ทางขึ้นไปบนเจดีย์มีทางขึ้น 2 ทาง เดินวนเป็นวงกลมกลับไปที่เดิม
ตอนขากลับเราลงอีกทางหนึ่งลงมายังหอพระ





สถานที่ต่างๆ เช่นวังหรือวัดจะเห็นว่าบริเวณส่วนกลางของบันได
จะมีปูนปั้นเป็นลวดลายแนวนี้ซึ่งเป็นทางเดินสำหรับกษัตริย์เท่านั้น
....สถานที่บางแห่งจะมี 3 ช่อง ช่องซ้ายขวาจะสำหรับฮองเฮากับพระโอรส





พระพุทธรูปของวัด Yunyan จะเป็นพระมหาวีระของนิกายหินยาน





ด้านข้างจะมีกลองกับระฆังใบใหญ่ให้คนที่มาไหว้พระได้ตีเพื่อเป็นสิริมงคล





บันได้ 53 ขั้นที่มีความแปลกอยู่อย่าง ไกด์บอกให้ลองทำดู
เมื่อลงบันไดไปไม่ว่าจะอยู่ตรงบันไดขั้นไหน
เมื่อหันขึ้นไปมองจะเห็นพระพุทธรูปได้เต็มองค์ชัดเหมือนกันทุกขั้น
แต่ถ้าเดินขึ้นบันไดปกติก็ไม่มีอะไรแปลกเหมือนตอนเดินลง




Wanjing Villa (Wanjing Shanzhuang)
เป็นสวนกระถางจัดตกแต่งในสไตล์บอนไซ
ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1700 ตารางเมตร
ทั้งหมดของการจัดสวนกระถางนั้นมีจุดประสงค์เพื่อ
ทำให้เกิดทัศนียภาพที่งดงามของภูเขาและทิวทัศน์ของป่า
ต้นบอนไซบางต้นนำมาจากประเทศญี่ปุ่นเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว





คนทำสวนแต่งต้นบอนไซบอกว่ามีบอนไซต้อนเก่าแก่อายุเป็นพันปีด้วย
ส่วนบอนไซต้นใหญ่ 2 ต้นนี่ก็เป็นบอนไซต้นที่มีความสำคัญของสวน
จำไม่ได้แล้วว่ามีที่มาที่ไปยังไง แหะ..แหะ..
....สวนนี้มีคนทำสวนสำหรับการตัดเล็มต้นบอนไซอยู่ 2 คน
การรับคนมาทำสวนนี้ต้องเป็นคนสวนที่มีความรู้เกี่ยวกับบอนไซ
ไม่ใช่ว่าใครก็ได้ คนสวนคนที่ไปคุยด้วยเป็นรุ่นลูกของคนทำสวนเดิม






ใกล้กันจะเป็นสวน
ที่มีประตูเปรียบเสมือนกรอบรูป
วิวที่เห็นด้านหลังประตูแลดูเหมือนรูปวาดอยู่ในกรอบ
....ในสวนจะมีประตูแบบนี้หลายประตู บางประตูก็จะเป็นกรอบวงกลม





เราเดินวนกลับมาตรงทางเข้า Tiger Hill ไกด์สาวของเราจบหน้าที่พาทัวร์ที่ตรงนี้
....เรามีให้สินน้ำใจเธอเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ยอมรับบอกว่าเป็นหน้าที่ของเธออยู่แล้ว





ไกด์แนะนำให้เราเดินไปดูไร่ชากับสถานที่อีก 2-3 แห่งอีกด้าน
แต่ถ้าไม่อยากเดินก็สามารถใช้บริการรถม้าวนดูรอบๆ





ไร่ชา....ลูอวี้นักปราชญ์ของจีนที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับชา
"ชาชิง Cha Ching" เป็นเล่มแรกของโลกในปี 800
หนังสือที่รวบรวมเกี่ยวกับชาอย่างครบถ้วน ตั้งแต่ลักษณะของต้นชา
การปลูก การเลือกเก็บ การผลิต อุปกรณ์และวิธีการชง
จนถึงวัฒนธรรมการดื่มชาของชาวจีนโบราณ
ได้เคยมาทำไร่ชาอยู่ที่นี่และค้นพบว่าน้ำจากบ่อ Sword Pool
เป็นน้ำที่ดีที่สุดในการชงชา 1 ใน 5 ที่ของประเทศจีน
.....ชาที่ปลูกและสร้างชื่อเสียงให้กับที่นี่คือชาเมฆขาว
ความที่เดินเหนื่อยกันมาไกลเลยขี้เกียจไปถามหาว่ามีขายตรงไหน





ถนนเล็กๆ รอบ Tiger Hill





Green Xi Xi สร้างขึ้นในปี 1787
เพื่อเป็นศาลเจ้าของตระกูลเศรษฐีตระกูลหนึ่ง
ที่มีอาคารและสวนที่สวยงาม ตอนหลังได้มีการปรับปรุง
และไว้ใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดงานและการแสดงในเทศกาลต่างๆ





มีอาคารภายในหลายหลัง รูปวิวเปล่าๆ ไม่ค่อยได้ถ่ายไว้
มีแต่รูปที่มีนางแบบที่ตอนนี้เริ่มหมดสภาพแล้วติดอยู่ด้วย ^^





เดินกันจนหมดแรง กลับออกมาอีกประตูหนึ่ง เลยไม่ได้ไปเดินตลาด
ที่หมายตาไว้แต่ทีแรก วิวและบรรยากาศตรงทางออกด้านนี้เป็นคลองกว้าง
สวยงาม แต่ขี้เกียจตอนนั้นรู้สึกเหนื่อยและขี้เกียจแม้แต่ยกกล้องขึ้นถ่าย
เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกัน ^^





รูปเริ่มแยะเกิน
ไว้บล๊อกต่อไปซึ่งยังไม่รู้เมื่อไรเพราะยังไม่ได้ทำรูปไว้
จะพาไปเที่ยวสวนบ้านเศรษฐีในสมัยโบราณที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก


Songhe Lou 松鹤 楼 - ร้านอาหาร @ เมืองซูโจว คลิ๊กที่นี่




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2555
18 comments
Last Update : 13 กรกฎาคม 2557 1:01:51 น.
Counter : 11794 Pageviews.

 

เจิม  

 

โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ 13 ตุลาคม 2555 2:14:38 น.  

 

มาข้ามทวีปไปเที่ยวด้วยค่าคุณแหม่ม
ตลาดสดเนี่ย อยากไปเดินด้วยค่ะ เดินได้ทั้งวันไม่เบื่อ
ถ้าไปห้าง ก็ได้แค่แผนกอาหารกับเครื่องครัวค่ะ อิอิ

มาชวนไปเที่ยวต่อจ๊า

 

โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ 13 ตุลาคม 2555 2:49:36 น.  

 

เมืองซูโจว Tiger Hill น่าไปเที่ยวจังเลยค่ะพี่แหม่ม
มีโบราณสถานตั้งสี่ร้อยกว่าแห่ง โอ้โหหห
อ่านตำนานสระกระบี่ น่าสนใจมาก ท่านจิ๋นซีฮ่องเต้ออกตามหากระบี่ไร้เทียมทานเอง
น้ำในสระล้างหน้าแล้วสวยใส อร๊าย งานนี้ไม่ต้องพึ่งครีมราคาแพง 55+
อยากเห็นแม่นางไซซีจังเลย เธอต้องสวยน่าดู
นึกภาพนางเอกหนังจีนกำลังภายใน สวยใส ปิ๊งๆๆๆๆๆ

ปล.ไว้รอชมบ้านเศรษฐีโบราณ เรื่องเที่ยวชอบมาก ไม่พลาดค่ะ

 

โดย: diamondsky 13 ตุลาคม 2555 3:33:12 น.  

 

เมืองจีนนี่ ต้องแข็งแรงนะคถึงไปได้ เดินกันขาลากเลย..เล่นให้เข้าทางนึง ลง อีกทางนึง..

พี่แหม่ม ได้ขึ้นเกี้ยวมั้ยคะ ไม่รู้ค่าจ้างแพงมั้ยนะคะ..
เมืองน่าเที่ยวจังค่ะ..

 

โดย: simplyusana 13 ตุลาคม 2555 6:33:13 น.  

 

ตามคุณแหม่มมาเที่ยวค่า

 

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา 13 ตุลาคม 2555 8:46:01 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยคน....ได้ความรู้ดีครับ

 

โดย: wildbirds 13 ตุลาคม 2555 8:46:11 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยค่ะคุณแหม่ม
เป็นเมืองน่าเที่ยวนะคะ เราเคยเกือบได้ไปแล้ว
ตอนนั้นเพื่อนชวนไปซูโจว หังโจว อะไรนี่แหละ
แต่พอดีเกิดโรคระบาด ไม่แน่ใจว่าใช่ไข้หวัดซาหรือเปล่าน๊า เลยอดค่ะ

โหวตให้กับนางแบบด้วยค่ะ อิอิ..

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Tristy Food Blog ดู Blog
narellan Travel Blog ดู Blog

 

โดย: เนินน้ำ 13 ตุลาคม 2555 11:18:46 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่แหม่ม
ดีจังเลยค่ะ กำลังเล็งๆไว้ว่าอยากไปเที่ยวจีน
อยู่เหมือนกัน มาอานบล๊อกนี้วันนี้
ได้ข้อมูลไว้เพียบ
นานๆพี่แหม่ม จะออกสื่อซักที
ว่าไปนั่น พี่แหม่มยังน่ารักอยู่เลย
ลงรูปเยอะๆ เรื่องเยอะๆ ชอบค่ะพี่

 

โดย: hellojaae (hellojaae ) 13 ตุลาคม 2555 13:21:01 น.  

 

กำลังอ่านเพลินๆ จบแล้วหรือคะพี่แหม่ม
เห็นแค่สถานที่ท่องเที่ยวก็น่าจะเที่ยวซัก 5 วัน อิอิ
ที่เที่ยวเยอะจริงๆค่ะ เอาไว้ตามรอยพี่แหม่มดีกว่า
หนึ่งยังไม่ไปเมืองเลยซักครั้งค่ะ
หวั่นใจเรื่องห้องน้ำนี่แหละ

 

โดย: AdrenalineRush 13 ตุลาคม 2555 14:14:34 น.  

 

เมืองจีนเป็นที่ๆ อยากไปมากๆ ค่ะ
เค้ายังมีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ อีกเยอะเลยนะคะที่ยังไม่เปิดให้เข้าชม
กลัวอย่างเดียวค่ะเรื่องห้องน้ำ

 

โดย: PrettyNovember 13 ตุลาคม 2555 19:43:57 น.  

 

ตามคุณแหม่มไปเที่ยวด้วยคนค่ะ
ได้ความรู้เรื่องเก่าๆดี อย่างนี้ชอบมากเลยค่ะ
เคยอ่านเรื่องนางไซซีตอนเด็กๆ ในห้องสมุดโรงเรียน ยังจำชื่อได้อยู่ค่ะ

 

โดย: little mouse in big apple 13 ตุลาคม 2555 22:12:33 น.  

 


ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ....แหล่มเลยค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 13 ตุลาคม 2555 23:06:50 น.  

 

ขอบคุณนะคะ คุณแหม่ม

 

โดย: kapeak 14 ตุลาคม 2555 18:08:19 น.  

 

สวัสดีครับคุณแหม่ม

ดีใจที่ได้เจอตัวจริง เสียงจริงนะครับ ขอบคุณสำหรับของฝากด้วยนะครับ แล้วจะตามมาอ่านเรื่องอีกรอบนะครับ
ตอนนี้กำลังต้มมาม่าใส่ซีอิ๊วหย่งเหอ อยู่ครับ

 

โดย: multiple 14 ตุลาคม 2555 22:34:56 น.  

 


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
narellan Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


อิอิ บุ๊งตามไปเที่ยวด้วยคนค่าพี่แหม่มขา
เมืองนี้ยังไม่เคยไปค่ะ
เคยไปเมืองจีน แต่ไม่เคยไปเที่ยววัดของเค้าเลยค่ะ
เหมือนบุ๊งไปไม่ถึงจีนเลยนะคะพี่แหม่ม
แป่ววววววววววววววววววววว


เอามาแปะเรียกเรทติ้งค่า

 

โดย: Close To Heaven 15 ตุลาคม 2555 1:13:58 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ แม่บุญกับมิเชลอยากไปเที่ยวเมืองจีน แต่มิเชลกลัวคุยกับชาวบ้านไม่รู้เรื่อง เราเลยรอ...จังหวะ และโอกาส อาจจะไปกับทัวร์ ท่าจะง่ายที่สุด ..แต่ทัวร์ไหนจะจัดหนึ่งเดือนเต็ม..นี่สิปัญหา ?? เพราะเวลาไปเที่ยวไหน ๆ อย่างต่ำต้องสามอาทิตย์ แบบสะบักสบอมทัวร์ ตามสไตส์แม่บุญ อิ อิ

คิดถึงคุณแหม่มนะคะ แอบอิจฉาที่นัดทานข้าวกันค่ะ คราวหน้าขอร่วมด้วยคนนะคะ

 

โดย: maeboon IP: 85.201.230.251 15 ตุลาคม 2555 2:24:15 น.  

 

ไปแอบเห็นพี่แหม่มมาจากบล็อกน้องบุ๊ง เพิ่งรู้ว่ามีซิกเซ้นต์ อะจึ๋ย

วันนี้เอาต้มจืดมะระยัดไส้ เสิร์ฟพร้อมกระเพราหมูกรอบ & พริกน้ำปลา มาฝากด้วยหละคะ


 

โดย: We Are FroM BeLGiUM 15 ตุลาคม 2555 3:05:59 น.  

 

แหล่มเลยครับ สำหรับข้อมูลการเดินทาง ขอบคุณครับ

 

โดย: bluepiggy IP: 125.25.93.55 28 มีนาคม 2557 9:07:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


narellan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 325 คน [?]




รีวิวร้านอาหารในบล๊อกนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางร้าน สำหรับคนที่ไปมาชอบไม่ชอบอย่างไร มาเม้นท์ให้ความเห็นได้ แต่กรุณาใช้คำที่สุภาพ

เป็นลูกหลานยะหวา จีน ไทย(เชียงใหม่) นอกจากอาหารไทยเทศทั่วไปแล้ว ยังโตมากับอาหารยะหวาและอาหารเหนือ สูตรอาหารในบล๊อกบางส่วนเป็นอาหารเก่าแก่ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย บางอย่างเดี๋ยวนี้หาทานไม่ได้ จึงอยากเก็บสูตรไว้ บางอย่างเป็นอาหารความทรงจำในวัยเด็ก บางอย่างเพิ่งจะทำครั้งแรก สูตรต่างๆ ได้ความอนุเคราะห์วิธีทำจากแม่ ญาติผู้ใหญ่ เพื่อนต่างชาติ เพื่อนในบล๊อก และจากอากู๋บ้าง ขอขอบคุณเจ้าของสูตรมา ณ ที่นี้นะคะ

ป.ลิง เจ้าของบ้านชอบโม้ บางบล๊อกอาจจะโม้ออกนอกเรื่องไปบ้างก็อ่านผ่านไปแล้วกันนะค๊า ^^
สงวนลิขสิทธิ์ในการนำภาพและข้อความไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อก














ชวนไปกิน














ห้องอาหาร The Square
@Novotel Hotel Platinum

บุฟเฟต์อาหารนานาชาติ







ชวนไปเที่ยวไปช๊อป




ชวนเข้าครัว
















































Friends' blogs
[Add narellan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.