ตอนที่ 5


อายาโตะตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหนีบที่บริเวณขาและสะโพกจะว่าไปเขาก็ปวดร้าวไปหมดทั้งตัวนั้นและนะแต่ที่ปวดมากที่สุดคงจะเป็นช่องทางรักที่เพิ่งโดนดีแลนจัดการไปเมื่อคืนนี้

ร่างบางมองไปยังคนที่ทำให้ตัวเองเกิดอาการแบบนี้อย่างหมั่นเขี้ยวเพราะดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะหลับสบายเหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไรอายาโตะขยับร่างบางให้ออกจากอ้อมกอดของอีกฝ่ายอย่างช้าๆ

“โอ๊ย... เจ็บ...”

อายาโตะกุมสะโพกตัวเองแน่นแค่ขยับหน่อยเดียวก็เหมือนตายทั้งเป็นแล้ว แล้วนี้เขาจะไปเรียนได้อย่างไรอายาโตะหยิบนาฬิกาขึ้นดูก็พบว่าเป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้วดีนะที่เขามีเรียนตอนบ่ายทำให้ไม่ต้องรีบเร่งมากนัก อายาโตะรีบลุกจากเตียงทันทีเสียงขยับตัวทำให้ดีแลนตื่นขึ้นมาก็พบว่าคนร่างเล็กพยายามจะลุกจากเตียงร่างสูงจัดการรวบตัวร่างบางไว้ทันที

“จะไปไหนเหรออายาโตะ”ดีแลนหอมเข้าที่แก้มอีกฝ่ายอย่างรักใคร่

“จะไปอาบน้ำน่ะครับ” อายาโตะหันไปบอกอีกฝ่ายที่ไม่มีท่าทีจะปล่อยตัวเองเสียทีดีแลนเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะนึกได้ว่าวันนี้อายาโตะมีเรียนบ่ายอายาโตะหอมแก้มสากเล็กน้อยก่อนจะขอให้อีกฝ่ายปล่อยตน

“ตอนนี้กี่โมงแล้วล่ะ”

“เก้าโมงแล้ว ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ”

“เพิ่งจะเก้าโมงเอง เดี๋ยวสักสิบเอ็ดโมงค่อยเตรียมตัวก็ได้”

“แต่เดี๋ยวถ้าไม่รีบออกไปหลงกับอชิจะเป็นห่วงเอานะครับ” อายาโตะตอบเขาไม่อยากให้ทั้งสองมาเรียกเขาที่ห้องเองแล้วที่สำคัญต้องมารู้เห็นอะไรแบบนี้

“ถ้าอย่างนั้นฉันโทรไปบอกพวกนั้นสองคนดีกว่าไหมเมื่อคืนกว่าเธอจะได้พักก็เกือบตีสามแล้ว ที่สำคัญฉันเป็นห่วงสภาพร่างกายเธอนะอายาโตะ”

ดีแลนส่งยิ้มกรุ่มกริมอายาโตะหน้าแดงเรื่อเมื่อนึกถึงบทหนักที่เขาได้รับเมื่อคืนนี้ร่างบางตีที่แขนของอีกฝ่ายเบาๆ

“บ้าแล้ว... พอเถอะครับปล่อยให้ผมได้ไปอาบน้ำนะ”

“เอาก็เอา แล้วเธอเดินไหวเหรอ ให้ฉันพยุงไหม

อายาโตะส่ายหน้าถึงจะเจ็บขัดแถมขาก็เหมือนไม่มีแรงแต่เขาก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องถึงกับมาพยุงเขาเหมือนเป็นคนเจ็บสาหัสที่สำคัญมันอายแทบเอาหน้าซุกผ้าห่มเลยล่ะถ้าต้องเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น

ดีแลนปล่อยอายาโตะให้เป็นอิสระอีกฝ่ายพยายามลุกจากที่นอนอยากช้าๆ ทุกครั้งที่ขยับก็เหมือนเข็มนับพันเล่มคอยทิ่มแทงด้านหลังของเขาอายาโตะยังรู้สึกได้ว่าดีแลนยังอยู่ในกายเขาถึงแม้ว่าร่างสูงจะทำความสะอาดและเช็คตัวให้เขาหลังจากที่ผ่านพ้นบทรักอันหนักหน่วงจนเขาแทบสลบไปแล้วก็ตามที

เอิร์ลหนุ่มนอนมองร่างบางที่ค่อยๆลงจากเตียงอย่างช้าๆ อย่างขำขัน อายาโตะจะรู้ไม่ไหมว่าท่าทางนั้นอายาโตะมันทำให้อะไรหลายๆอย่างในตัวเขารุ่มร้อนจนแทบอยากจะกระชากร่างบางมาไว้ใต้ร่างของเขาเสียให้ได้แต่เมื่อนึกถึงบทรักเมื่อคืนนี้เขาก็คงต้องทำอะไรให้มันนุ่มนวลขึ้นมากเพราะเขายังไม่อยากให้คนร่างบางนั้นแตกสลายไปเสียก่อน

“อายาโตะ ฉันว่าเธอลาป่วยดีกว่านะ” ดีแลนนั่งเอนหลังมองอายาโตะที่พยายามฝืนสังขารลุกขึ้นไปอาบน้ำเพื่อเตรียมแต่งตัวไปเรียนอย่างสงสาร

“ไม่เอาอ่ะครับ เพิ่งจะเปิดเรียนเอง ผมไม่อยากขาดเรียน”

อายาโตะทำหน้าหงอยๆพยายามเดินไปที่ห้องน้ำดีแลนหัวเราะออกมากับท่าเดินแบบเป็ดของคนตรงหน้าอายาโตะหันมาค้อนขวับใส่ดีแลนจนดีแลนหยุดหัวเราะแล้วลุกจากเตียงก่อนช้อนร่างบางขึ้นแนบอก

“จะทำอะไรนะครับ” อายาโตะร้องขึ้นด้วยความตกใจ รีบยกมือขึ้นคล้องลำคอของอีกฝ่ายทันที

“ท่าเดินเธอมันก็เร้าใจดีอ่ะนะ แต่จะเร้าใจมากกว่านี้ถ้าอยู่ใต้ร่างฉัน”

“อย่านะครับ ผมจะไปเรียน”

“หึ... ถ้าเธอยังมีแรงละก็นะ...”

ดีแลนหัวเราะลั่นห้องก่อนพาร่างบางออกไปยังด้านนอกที่เป็นโซนบ่อน้ำร้อนบางทีมีอะไรกันนอกสถานที่ก็อาจจะเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศอย่างหนึ่งก็ได้นะ...ดีแลนคิด..

ดีแลนอุ้มอายาโตะที่ทำความสะอาดร่างกายเรียบร้อยแล้วลงมายังบ่อน้ำร้อนร่างบางรู้สึกแสบขัดที่ช่องทางหลังอย่างชัดเจนเมื่อโดนน้ำแต่แล้วก็เริ่มดีขึ้นเพราะน้ำร้อนทำให้อาการปวดกล้ามเนื้อของเขาบรรเทาลงดีแลนโอบรัดร่างบางไม่ยอมปล่อยจนอายาโตะต้องเป็นฝ่ายประท้วงเพราะมันไม่ใช่แค่โอบกอดธรรมดาเมื่อริมฝีปากของอีกฝ่ายวนเวียนอยู่ที่ซอกคอและใบหน้าของเขา

“ฮื้อ... ไหนว่าจะอาบน้ำไงครับ แล้วนี้มือนี้มันอะไรกัน”

อายาโตะพยายามแกะมือที่เกาะแกะเขาไม่ยอมปล่อยริมฝีปากของอีกฝ่ายยังรุกไล่เขาไม่ยอมหยุด เดี๋ยวก็จูบตรงโน้นเดี๋ยวก็กัดตรงนี้จนจะไม่เรียกว่าอาบน้ำแล้ว

“ก็เธอออกจะหอมหวานขนาดนี้ ให้แค่อาบอย่างเดี๋ยวได้อย่างไงล่ะหือ...อายาโตะ”

“โธ่ แต่ผมต้องไปเรียนนะครับแล้วเดี๋ยวถ้าไม่รีบออกไปพวกหลงก็มาตามหรอก”

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงฉันส่งไลน์ไปบอกพวกนั้นแล้วว่าเธอไม่สบายไม่ไปเรียนวันนี้”

“เอ๊ะ... คุณส่งไปบอกตอนไหน ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

“ก็ก่อนจะอุ้มเธอเข้ามาในนี้ไงล่ะ”

“แต่ว่า...”

“ไม่มีแต่... ฉันรักเธอนะอายาโตะ ให้ฉันได้ชื่นใจบ้างเถอะนะ”

ดีแลนพูดพลางซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นของอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละอายาโตะเริ่มจะมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างแล้วแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็ยังไม่พร้อมที่จะรับอีกฝ่ายเข้ามาในร่างเพราะตอนนี้มันเจ็บแทบจะทนไม่ไหวถ้าต้องรับอะไรที่ใหญ่โตขนาดนั้นเข้ามาสงสัยเขาคงได้ตายคาเตียงแน่

“อื้อ... เดี๋ยวสิครับ...”

“ทำไมล่ะ”

“ผมยังเจ็บอยู่เลยนะครับ” อายาโตะทำหน้าปริบๆ ก็มันเจ็บจริงๆ นี้ดีแลนไม่ได้มาเป็นฝ่ายรับอย่างเขาไม่รู้หรอกว่ามันทรมานขนาดไหนยิ่งเวลาเดินนะอย่าให้พูดเลย

“ฉันสัญญาว่าจะทำเบาๆ”

“แต่ว่า...”

“นะครับ... อายาโตะที่รัก”

สีหน้าว้าวอนของดีแลนทำเอาอายาโตะพูดไม่ออกก่อนรับริมฝีปากของอีกฝ่ายที่แนบลงบนริมฝีปากอุ่นสวยของตนเองอย่างช้าๆ

ดีแลนรั้งร่างอายาโตะให้เข้ามาแนบชิดกับเขามากขึ้นมือนั้นยังคงไล้ไปตามแผ่นหลังนวลเนียนในขณะที่ริมฝีปากยังคงสร้างริ้วรอยตามซอกคอและหัวไหล่ของเขาไม่หยุดหย่อนอายาโตะร้องครางอื้ออึงในลำคอเมื่อมือซุกซนนั้นไล้ไปจนถึงช่องทางลับก่อนเคล้าคลึงมันอย่างหิวกระหาย

“ตรงนี้ยังนิ่มอยู่เลยนะอายาโตะ”

ดีแลนแซวอายาโตะเล็กน้อยคนร่างเล็กหน้าแดงก่อนยกมือขึ้นทุบหัวไหล่ของอีกฝ่าย ก็จะไม่ให้นิ่มได้อย่างไรล่ะในเมื่อเมื่อคืนนี้คนตรงหน้าไม่ยอมให้เขาได้หยุดพักแถมยังมาอ้อนวอนอยากจะใช้แรงงานเขาต่ออีก

“ถ้าพูดอีกไม่ให้ทำแล้วนะ อ๊ะ...” อายาโตะสะดุ้งจนตัวโยนเมื่ออีกฝ่ายสอดปลายนิ้วเข้ามายังช่องทางลับนั้นราวกับจะกลั้นแกล้งเขา

“ดีไหม... หือ... ที่รัก”ดีแลนขยับเข้าออก อายาโตะขบริมฝีปากอย่างสะกดกลั้นใบหน้าเห่อร้อนด้วยความเสียวซ่าน

“ไม่ตอบอย่างนี้แสดงว่าชอบสินะ” ดีแลนเลื่อนริมฝีปากจรดยอดอกสีซากุระนั้นก่อนขบลงเบาๆ บัดนี้ร่างของเขาและอายาโตะคงร้อนกว่าบ่อน้ำร้อนที่กำลังแช่อยู่ในขณะนี้

“อื้อ... ยะ...”

“อย่าอะไรครับ อย่าช้าเหรอครับ”

เขาขยับปลายนิ้วกระแทกเข้าช่องทางนั้นอย่างรุนแรงอายาโตะเองก็ดูจะตอบสนองกับนิ้วของเขาเป็นอย่างดียิ่งเมื่อโดนจุดเสียวร่างบางก็ขยับประสานกับนิ้วของเขาจนเขาอยากจะเปลี่ยนจากนิ้วเป็นอย่างอื่นเสียให้ได้ดีแลนขยับมืออีกข้างหนึ่งสัมผัสที่ส่วนอ่อนไหวด้านหน้านั้นขึ้นๆ ลงๆเขาอยากให้อายาโตะได้ปลดปล่อยสักรอบหนึ่งก่อนที่จะเป็นตาเขากระแทกเข้าร่างอีกฝ่าย

“อ๊ะ... อ๊ะ... อ๊ะ...”

“จะออกแล้วสินะครับ”

“อื้อ... จะ... จะออก... แล้ว”

“งั้นก็ออกสิครับ”

“แต่... ใน...ในน้ำ อ๊ะ... อ่า... ไม่...ไม่”

อายาโตะสะบัดหน้าไปมาเมื่อนิ้วมือของอีกฝ่ายยังคงสร้างความเสียวซ่านไว้ให้ใบหน้าเห่อแดงนั้นน่าฟัดยิ่งนักดีแลนบดขยี้ริมฝีปากของคนเบื้องหน้าเขาอย่างหมั่นเขี้ยว ริมฝีปากร้อนที่ดูดดึงกันไปมานั้นทำเอาอายาโตะแทบจะหลอมละลาย

“รู้ตัวไหมครับว่าเธอทำให้ฉันอยากเข้าไปในตัวเธอเสียตอนนี้เลย อายาโตะ” ดีแลนกัดฟันพูดในขณะที่ปากยังขบที่ใบหูของอีกฝ่ายอย่างเร้าอารมณ์

อายาโตะมองใบหน้าของดีแลนพลางยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าตอนนี้เขาอยากปลดปล่อยเต็มทีแต่ก็อยากให้อีกฝ่ายปลดปล่อยไปพร้อมตัวเองด้วย

“ก็เข้ามาสิ” เพียงเท่านั้นและร่างทั้งร่างของอายาโตะก็ถูกดีแลนยกขึ้นก่อนที่ส่วนใหญ่โตนั้นจะเบียดเข้ามาในร่างอีกฝ่ายอย่างแรง

“อ๊าาาา” อายาโตะร้องเสียงหลง ความเจ็บปวดปนเสียวซ่านทำให้ร่างบางถึงกับจิกเล็บเข้าที่บ่าของอีกฝ่ายราวกับจะปลดปล่อยความเจ็บปวดนี้ให้อีกฝ่ายได้รับรู้

"เห็นไหมเข้าไปแล้ว..."

ดีแลนกัดฟันแน่นไม่ใช่ว่าเจ็บปวดอะไรกับแรงจิกของคนร่างเล็กหรอกนะแต่ที่ต้องกัดฟันเพราะข้างในของอายาโตะร้อนแผ่ว ยิ่งอยู่ในน้ำร้อนด้วยแล้วมันยิ่งเหมือนตัวเร่งปฏิกิริยาชั้นดีเลยที่ทำให้เขาเกือบปลดปล่อยออกมาในร่างของอีกฝ่าย

"ระ..แรง...ไปแล้ว...นะ.."

"แล้วชอบหรือเปล่าล่ะครับ... หือ..." อายาโตะไม่ตอบแต่ถึงไม่ตอบเขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไรดีแลนรอจนอีกฝ่ายเริ่มปรับตัวได้ก่อนจะขยับเข้าออกอย่างรุนแรงตามที่ใจต้อง การ

“อื้อ... อ่า... อ่า... ดีแลน... ดีแลน...”

“ดีไหมครับที่รัก... อ่าห์ อ่าห์...” ดีแลนถามเสียงพร่า

“ดี... ดี... อื้อ... แรงอีก...”

อายาโตะยกมือขึ้นคล้องไว้ที่ลำคอของอีกฝ่ายขณะที่ริมฝีปากยังคงคลอเคลียกับริมฝีปากของอีกฝ่ายดีแลนก้มลงจูบปากอีกฝ่ายมือหนานั้นรั้งร่างของอีกฝ่ายให้ยกขึ้นเล็กน้อยก่อนกระแทกส่วนสำคัญนั้นเข้าไปจนร่างบางสั่นคล่อนไปด้วยแรงรัก

“อื้อ..อ่ะ.. จะ.. จะออกแล้ว...อ่าห์...” อายาโตะครางเสียงกระเซ่าตอนนี้เขาอยากจะปลดปล่อยแล้วแต่ติดว่าอยู่ในน้ำ

“ฉะฉันด้วย... พร้อมกันนะ... ที่รัก... ซี๊ด...” ดีแลนกระแทกเข้าไปเน้นๆเขาอยากปลดปล่อยแล้วเหมือนกัน

“มะ... มะ... ได้... ใน... ในน้ำ... อ่า...”อายาโตะบอก ดีแลนพยักหน้ารับ

เขาเองก็ไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ต้องลำบากจัดการทำความสะอาดบ่อน้ำร้อนในห้องนี้ ดีแลนจัดการอุ้มอายาโตะขึ้นทั้งที่ส่วนสำคัญยังคงแนบชิดติดกันอยู่อายาโตะหน้าแดงที่ถูกอุ้มทั้งอย่างนี้แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ทำได้แต่ยกมือขึ้นคล้องคออีกฝ่ายเพื่อไม่ให้ตกลงไปกับพื้นใบหน้าแดงซ่านนั้นทำเอาเอิร์ลหนุ่มอดไม่ได้ที่จะกระแทกตัวเข้าไปในร่างของอีกฝ่ายอย่างถือดี

“อ๊ะ... อย่าสิ... อื้อ...” แรงกระแทกระหว่างเดินทำเอาอายาโตะรู้สึกเสียวแบบแปลกๆดีแลนเห็นว่าอายาโตะมีอารมณ์ร่วมด้วยเขายิ่งกระแทกร่างเข้าไปอย่างเป็นจังหวะ

“อื้อ... อย่า... อย่า...”

“เสียว หรือไงครับ... แบบนี้นะ”

ไม่พูดเปล่าจัดการกระแทกเข้าไปในร่างอีกครั้งอายาโตะต้องทุบที่หัวไหล่อีกครั้งดีแลนหัวเราะในลำคอ เขาจัดการกดอายาโตะลงกับเตียงห้องพักความจริงข้างนอกมันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่กระแทกได้ไม่ถึงใจพอ อย่างไงบนเตียงก็ดีกว่า

ดีแลนจัดการขยับร่างเข้าออกทันทีที่แผ่นหลังนวลเนียนนั้นสัมผัสลงกับเตียงนอนคิงไซส์ของเขา เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นระงมเต็มห้องอายาโตะกำผ้าปูที่นอนแน่นขณะที่ดีแลนขยับเอวสอบเข้าออกอย่างรวดเร็วก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลงก็เป็นเวลาพลบค่ำของวันนี้แล้ว...

สามวันต่อมาหลังจากที่อายาโตะโดนดีแลนสูบแรงไปเยอะ เขาก็มีแรงลุกขึ้นมาแต่งตัวดีแลนทำให้คนร่างเล็กถึงกับนอนเป็นไข้เพราะการใช้แรงงานอย่างหนักในที่สุดอายาโตะก็ออกกฎเหล็กขึ้นมาว่าสามารถมีอะไรกันได้แค่ในวันที่เขาไม่มีเรียนเท่านั้น !

ก็ถ้าไม่ออกกฎออกมาแบบนี้มีหวังไม่ต้องเป็นอันเรียนหนังสือกันพอดี

อายาโตะมองภาพตัวเองที่หน้ากระจกรอยคิสมาร์กที่คนร่างสูงได้ทำไว้มันเด่นชัดมากจนเขาต้องหาผ้าพันคอมาพันไว้แน่นอนว่าตามลำตัวด้วยเช่นกันอายาโตะกลัดกระดุมที่แขนเสื้อดูเหมือนว่าเสื้อแขนยาวและผ้าพันคอจะช่วยพลางร่องรอยที่ดีแลนทำไว้ได้เป็นอย่างดี

"เอาน่าถ้าไม่มองดีๆ ก็ไม่เห็นหรอก"อายาโตะหันไปก็ต้องผงะเมื่อเห็นดีแลนยืนซ้อนกายอยู่ด้านหลัง

"จะไปเรียนแล้วเหรอครับ... อายาโตะ"ดีแลนส่งยิ้มหวานให้พลางจุมพิตที่หน้าผากมนอายาโตะบู่หน้าใส่พยายามแกะมือที่ทำท่าจะลวนลามเขาออก

"อื้อ...อย่าสิครับผมต้องไปเรียนแล้วนะ"

"ก็ใครบอกล่ะว่าจะไม่ให้ไป"

"ก็คุณไม่ปล่อยผมแบบนี้แล้วผมจะไปเรียนได้ไงละครับ"

"ก็ฉันอยากขอกำลังใจก่อนไปเจรจาธุรกิจด้วยนี้"

ดีแลนทำเสียงอ้อนวันนี้เขาต้องไปเจรจาธุรกิจกับคู่ค้ารายใหม่ที่หามาแทนรายเก่าที่เบี้ยวนัด เขาความจริงเจ้ารายเก่าก็เดินกลับมาหาเขาอยู่หรอกนะแต่ด้วยความที่ไม่ชอบคนผิดนัดและไม่มีเหตุผลดีๆ ที่จะมาบอกที่สำคัญไม่โทรมาแจ้งด้วยเรื่องอะไรเขาจะให้โอกาสอีกล่ะ คนอยากทำงานร่วมกับเขามีอยู่มากมาย

อายาโตะทำหน้าเข้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายพูดแบบนี้ก่อนจะถอนหายใจราวกับเบื่อหน่ายกับอาการเป็นเด็กของอีกฝ่ายอย่างแกล้งทำ

"นิดหน่อยนะครับ"

"ครับ"ดีแลนตอบว่าแล้วก็เอียงแก้มให้ อายาโตะหัวเราะในลำคอก่อนเขย่งตัวจุมพิตที่คางสากของอีกฝ่ายดีแลนบู่หน้าใส่เขาชี้ไปที่แก้ม

"ที่แก้มสิครับ"

"ได้คืบจะเอาศอกนะครับ"

"นะครับ...อายาโตะที่รัก"

พอพูดว่าที่รักทีไรอายาโตะเป็นต้องหน้าแดงทุกทีเขาขยับนิ้วชี้เล็กน้อยเป็นเชิงให้คนร่างสูงย่อตัวลงมาจะให้เขาเขย่งตัวอีกเขาก็คงได้แค่ที่คางเท่านั้นและ

ผมไม่ได้เตี้ยนะแค่ดีแลนสูงไปต่างหาก

ดีแลนส่งยิ้มให้ก่อนโน้มตัวลงมาคราวนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ที่แก้มอย่างที่ตนหวังเพราะอายาโตะให้โบนัสเป็นที่ริมฝีปากของเขาแทน ดีแลนเบิกตากว้างไม่คิดว่าเขาจะได้รับโบนัสแบบนี้

ถ้าได้โบนัสแบบนี้ทุกๆวันสงสัยเจรจาธุรกิจฉลุยแน่เลย...

ร่างสูงตอบสนองโบนัสที่อายาโตะให้อย่างร้อนแรงจนอายาโตะรู้สึกว่าการให้โบนัสแบบนี้เสี่ยงต่อการโดยจับกดมาก สงสัยว่าต่อไปคงไม่ต้องให้โบนัสเสียแล้ว

ดีแลนนั่งรถมาส่งอายาโตะที่มหาวิทยาลัยในเวลาต่อมากว่าที่อายาโตะจะหลุดพ้นจากโบนัสที่ตัวเองเป็นคนให้เอิร์ลหนุ่มก็แทบจะเลยเวลาเข้าเรียนคาบแรกมาแล้วอายาโตะโบกมือลาดีแลนที่เขาบังคับไม่ให้ลงมาส่งและยังบังคับไม่ให้จุมพิตเขาก่อนจะไปเรียนอีกด้วยดีแลนได้แต่ทำหน้าไม่พอใจเมื่อไม่ได้ดังใจแต่ก็ยอมทำตามที่เด็กหนุ่มห้ามอายาโตะมองตามรถที่แล่นออกสู่ถนนใหญ่ก่อนกระชับกระเป๋าเป้ข้างตัวและเดินเข้าไปในตัวอาคารเรียนทันที

“ไงเพื่อน วันนี้มาเรียนได้นะ”

วากาชิตบไหล่อายาโตะเป็นเชิงทักสีหน้ายิ้มแย้มของร่างสูงทำให้อายาโตะอดยิ้มตามไม่ได้วากาชิดึงอายาโตะให้ไปนั่งอยู่ตรงกลางห้องเรียนที่มีลักษณะเป็นขั้นบันใดเมื่ออายาโตะนั่งลงอาจารย์ประจำภาควิชาก็เดินเข้ามาพร้อมกับเอ่ยทักทายนักศึกษาในห้องเรียน

“สวัสดีครับอาจารย์ยาโตะ”

“สวัสดีนักศึกษา วันนี้อย่าลืมเอางานที่อาจารย์สั่งมาส่งท้ายคาบด้วยนะ” อาจารย์ยาโตะทานากะเป็นถึงรองศาสตราจารย์ด้านวิชาภาษาศาสตร์พูดขึ้นพลางมองไปที่อายาโตะที่ขาดเรียนไปในคาบที่แล้วอย่างไม่คุ้นตา

“เราชื่ออะไรน่ะ” อาจารย์ยาโตะชี้ไปที่อายาโตะที่นั่งอยู่ข้างวากาชิอายาโตะหันซ้ายหันขวาด้วยยังไม่เข้าใจว่าหมายถึงตนเองจนวากาชิต้องกระซิบบอก

“อาจารย์หมายถึงนายนั่นและ”

“เอ่อ ผมชื่อ ฟูวะ อายาโตะครับ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1”อายาโตะลุกขึ้นแนะนำตัวอย่างประหม่า

“คาบที่แล้วเราไม่ได้มาเรียนสินะ เดี๋ยวค่อยถามงานกับเพื่อนละกัน” อาจารย์ยาโตะบอกอายาโตะรับคำพลางนั่งลงก่อนที่อาจารย์จะเข้าสู่บทเรียนประจำคาบ

“ดีนะที่อาจารย์แกไม่เล่นงาน” วากาชิตบบ่าอย่างหายเป็นห่วง

“อื้ม โชคดีไป”

อายาโตะยิ้มรับและหันไปฟังที่อาจารย์สอนอย่างตั้งใจวิชาที่อายาโตะลงเรียนนอกจากวิชาภาษาศาสตร์ศาสตร์ที่เน้นไปในด้านภาษาญี่ปุ่นแล้วยังลงเรียนในสาขาด้านวรรณคดีโบราณอีกด้วย

หลังจากหมดคาบเรียนของอาจารย์ยาโตะแล้วอายาโตะก็ขอข้อมูลจากวากาชิเพื่อทำรายงานส่งอาจารย์ยาโตะดีหน่อยที่เป็นงานที่ไม่ยากเกินความสามารถของเขาและวากาชิเองก็เป็นคนที่สอนคนรู้เรื่องพอสมควรทำให้อายาโตะทำงานเสร็จตั้งแต่วันไม่พักเที่ยงอายาโตะรวบรวมรายงานส่งอาจารย์ยาโตะที่ห้องพักรองศาสตราจารย์เนื่องจากเขาเป็นคนทำเสร็จคนสุดท้าย ในตอนแรกวากาชิจะมาเป็นเพื่อนแต่ก็ถูกอาจารย์อีกท่านดึงตัวไปเสียก่อน

“งั้นเราไปหาอาจารย์เหมียวหง่าวก่อนนะ”

วากาชิเรียกอาจารย์สาวประจำสายภาควิชาสังคมศาสตร์ว่าเหมียวหง่าวเพราะหล่อนมีเอกลักษณ์เด่นตรงที่ชอบวิ่งเข้าใส่แมวทุกสายพันธุ์

“อื้อ ไปเหอะ”

อายาโตะพยักหน้ารับก่อนหอบเอกสารรายงานของตนและเพื่อนๆไว้ในอ้อมแขน ซึ่งพอดูๆไปมันก็เยอะเหมือนกันทำให้วากาชิอยากไปส่งอายาโตะก่อนไปพบอาจารย์สาว

“เราว่าเราช่วยนายก่อนดีกว่า ดูมันจะเยอะไปหน่อยนะ” วากาชิทำท่าจะหอบเอกสารในอ้อมแขนของอายาโตะมาไว้ที่ตัวแต่อายาโตะเบี่ยงตัวเองเสียก่อน

“เฮ้ย ไม่เป็นไร มันอยู่มือแล้วไปเหอะเดี๋ยวอาจารย์เหมียวหง่าวจะกริ้วเอา”

อายาโตะหัวเราะเขาเคยได้ยินกิติศัพท์ว่าถ้าอาจารย์คนนี้โกรธล่ะโลกแตกแน่วากาชิทำท่าละล้าละลังจนอายาโตะต้องรีบวิ่งไปยังห้องพักอาจารย์ทันทีวากาชิจึงยอมไปหาอาจารย์สาวได้

อายาโตะเดินมาจนถึงห้องพักรองศาสตราจารย์สาขาภาษาศาสตร์พลางใช้ขาเปิดประตูเลื่อนแต่ยังไม่ทันได้เปิดดีประตูก็ถูกเปิดจากด้านในเสียก่อนแล้วก่อนจะมีร่างเล็กของเด็กหนุ่มวิ่งออกมาจากห้องพัก เสื้อผ้าดูจะหลุดลุ่ยเล็กน้อยแก้มของเขาแดงเรื่อก่อนเอ่ยขอทางอายาโตะอย่างรวดเร็ว

“อ้าวมาแล้วเหรอ”

อาจารย์ยาโตะพูดขึ้นขณะมองร่างเล็กที่วิ่งจากไปอย่างเป็นห่วงเสื้อผ้าของอาจารย์เองก็กระดุมหลุดเกือบทุกเม็ดอายาโตะไม่ต้องเดาให้เสียเวลาเลยว่าในห้องเกิดอะไรขึ้นก่อนที่เขาจะมาอาจารย์ยาโตะถอนหายใจก่อนเปิดทางให้อายาโตะถือเอกสารรายงานเข้ามาในห้อง

“วางไว้แล้วมานั่งคุยกันหน่อยได้ไหม” สายตาแน่วแน่นั่นทำเอาอายาโตะปฏิเสธไม่ออกเขาพอจะรู้ว่าอาจารย์คงจะพูดเรื่องเมื่อครู่เป็นแน่ร่างบางพยักหน้าก่อนเข้าไปในห้องทันที

“นั่งลงสิ” อาจารย์ยาโตะบอกอายาโตะให้นั่งลงบนโซฟาเบสสีขาวที่อยู่ตรงมุมห้องซึ่งอายาโตะก็ทำตามเป็นอย่างดีจนอาจารย์ยาโตะรินกาแฟมาให้และวางมันตรงหน้าอายาโตะพร้อมกับทรุดตัวลงนั่ง

“ดื่มสิ”

“ขอบคุณครับ” อายาโตะหยิบแก้วกาแฟขึ้นดื่มอย่างประหม่าอาจารย์ยาโตะมองท่าทางของเขาพลางถอนหายใจ

“เฮ้อ... ฉันคงไม่ต้องอธิบายมากกับเรื่องเมื่อกี้ แต่ฉันขอให้เธอปิดเป็นความลับได้ไหม”

“เด็กคนนั้นสมยอมอาจารย์ใช่ไหมครับ” อายาโตะยังไม่รับคำแต่ขอถามในส่วนที่ตนเองสงสัยเสียก่อนเพราะถ้ามันเป็นการบังคับจิตใจเขาก็อาจจะต้องพูด

“อื้อ เราสองคนเป็นแฟนกันน่ะ” อาจารย์ยาโตะพูดยิ้มๆแต่มันดูเป็นยิ้มที่ค่อนข้างเศร้าในความคิดของอายาโตะ

“งั้นผมก็ไม่พูด ขอให้อาจารย์มีความสุขนะครับ”

ไม่รู้ว่าอะไรทำให้อายาโตะพูดแบบนั้นออกมาสำหรับคนที่มีแฟนเป็นผู้ชายด้วยกันก็อาจจะอยากจะให้อีกฝ่ายมีความสุขเหมือนตัวเองก็เป็นได้

“ขอบใจมาก เอาเถอะตอนนี้ก็เป็นเรื่องของเวลาแล้วล่ะนะว่าทางโน้นจะยอมรับได้เมื่อไหร่”

“ยอมรับ

อายาโตะทำสีหน้างงงวยเพราะไม่เข้าใจว่าอาจารย์พูดอะไรในเมื่อเป็นแฟนกันแล้วทำไมต้องยอมรับด้วยล่ะ ไม่เข้าใจอาจารย์ยาโตะมองสีหน้าราวเด็กน้อยขี้สงสัยของอายาโตะก็หัวเราะออกมาพลางบอกในสิ่งที่อายาโตะอยากรู้ทันที

“ก็ยอมรับว่าเป็นของฉันทั้งเรื่องเป็นแฟนแบบเปิดเผยและเรื่องบนเตียงไง”

อายาโตะถึงกับอึ้งไปเลยใบหน้าของร่างบางขึ้นสีระเรื่อก่อนเสไปหยิบแก้วกาแฟดื่มแก้อาการเขินอาจารย์ยาโตะหัวเราะร่วนก่อนเล่าเรื่องหลายๆ เรื่องให้อายาโตะฟังอย่างเพลิดเพลินโดยไม่รู้ว่ากำลังถูกใครแอบฟังอยู่บ้างและคนแอบฟังก็ดูจะอมยิ้มอย่างสนุกสนานกับเรื่องที่กำลังจะทำ

อายาโตะเดินออกจากห้องพักอาจารย์ก็พบว่าวากาชิกำลังนั่งรออยู่หน้าห้องพักในมือถือหนังสืออ่านเล่นอยู่เมื่อวากาชิเห็นว่าอายาโตะเดินออกมาแล้วจึงวางหนังสือลง

“เสร็จแล้วเหรอ” วากาชิถาม อายาโตะพยักหน้า

“อื้อ เสร็จแล้ว แล้วนี้มารอนานยังอ่ะ”

“สักพักน่ะ” วากาชิตอบตามความจริง

สักพักของเขาคือหลังจากที่แยกกับอายาโตะอาจารย์เหมียวหง่าวโทรมาบอกเขาว่าไม่ต้องไปหาแล้วนั่นเองแต่วากาชิเลือกที่จะไม่บอกหมด

“อ้าวแล้วทำไมไม่เข้าไปข้างในล่ะ” อายาโตะสงสัย

“ไม่เป็นไรอ่ะ เราอยากนั่งอ่านหนังสือ” อายาโตะพยักหน้าไม่สงสัยอะไรวากาชิยิ้มให้ก่อนลุกขึ้นยืนโอบบ่าอายาโตะอย่างเป็นกันเองอายาโตะถึงจะสงสัยแต่ก็มองอย่างไม่คิดอะไร

“แล้วนี้หิวหรือยัง ไปหาไรกินไหม”

“อื้อ ไปสิ เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน”

อายาโตะรับคำกว่าดีแลนจะมารับก็ประมาณตอนเย็น และคาบต่อไปเขาก็ไม่มีเรียนแล้วส่วนชมรมยูโดที่ลงไว้ก็ยังไม่เปิดทำการเนื่องจากวันนี้รุ่นพี่ทั้งหลายยังอยู่ระหว่างการเก็บตัวแข่งอายาโตะเพิ่งจะมารู้หลังจากที่โดดชมรมเพราะดีแลนทำเขาป่วยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

อายาโตะและวากาชิเดินไปยังแคนทีนของมหาวิทยาลัยตามจริงก็อยากจะออกไปทานข้างนอกบ้างอะไรบ้างแต่ด้วยความขี้เกียจจึงคิดว่าที่นี่และดีแล้ว

“หว่า... คนเยอะมาก” วากาชิร้องครางเมื่อเห็นคนจำนวนมากในแคนทีนดูท่าคงจะต้องรอนานกว่าจะถึงคิวตนสั่งอาหาร

“เราว่าเราออกไปหาไรกินข้างนอกแทนดีกว่าไหม” วากาชิเสนอ อายาโตะทำปากพองลมความจริงก็ขี้เกียจเดินแต่เห็นจำนวนคนแล้วถอยทัพดีกว่า

“อื้อ เอางั้นก็ได้ ว่าแต่จะไปที่ไหนล่ะ”

อายาโตะถามพลางนึกในใจว่าต้องโทรหรือไลน์ไปบอกดีแลนเอียน หลงและอชิเสียแล้ว ถ้าไม่บอกให้ครบองค์ประชุมมีหวังโดนเล่นงานหนัก

“แล้วนายอยากไปแถวไหนล่ะ” วากาชิถามกลับ สำหรับเขาไม่มีที่ไหนเป็นพิเศษแต่สำหรับอายาโตะเขาคิดว่าคนร่างเล็กคงไม่ได้ออกไปไหนมาไหนเองบ่อยแน่ๆ

“งั้นก็ย่านอากิฮาบาระละกันบอกตามตรงตั้งแต่มาโตเกียวเรายังไม่ได้ไปที่ไหนเท่าไรเลย”

อายาโตะบอกสถานที่ที่อยากไปวากาชิพยักหน้ารับพลางนึกถึงเส้นทางที่ต้องไปความจริงเขาจะเรียกรถมารับก็ได้แต่ก็เปลี่ยนใจเขาอยากให้อายาโตะได้สัมผัสกับรถไฟฟ้าของที่นี่บ้างเพราะให้เดาอายาโตะนอกจากรถยนต์ส่วนตัวและรถแท็กซี่แล้วคนร่างเล็กคงไม่เคยขึ้นอะไรแบบนี้แน่

“งั้นไปรถไฟฟ้าละกัน”

วากาชิเสนอและก็ต้องอมยิ้มเมื่อเห็นอายาโตะทำตาโตด้วยความตื่นเต้นตั้งแต่มาที่นี่เขายังไม่ได้ขึ้นเลยรถไฟฟ้าเพราะไม่ว่าจะไปไหนดีแลนก็จะใช้แต่รถยนต์ส่วนตัวตลอด

“เอาสิๆ เราอยากขึ้นรถไฟฟ้า”

อายาโตะพยักหน้ารับรัวๆวากาชิหัวเราะพลางยกมือขึ้นลูบหัว สำหรับวากาชิอายาโตะเหมือนน้องชายตัวเล็กมากกว่าเพื่อนร่วมห้องเสียอีก

“ทำยังกะไม่เคยขึ้นรถไฟฟ้านะเรา”

วากาชิแซวอายาโตะทำปากพองลมอย่างงอนๆ ถ้าคนเป็นผู้ชายตัวใหญ่ขนดกทำหน้าอย่างนี้อาจไม่น่ารักแต่เพราะอายาโตะน่ารักเลยยิ่งส่งให้หน้ามองเข้าไปอีก

“รถไฟฟ้าน่ะเคยขึ้น แต่เป็นที่ไทยนะ ส่วนที่ญี่ปุ่นน่ะยังไม่เคยก็ไม่มีคนยอมให้ขึ้นนี่น่า” อายาโตะบอกเหตุผลพร้อมทำเสียงงอนๆวากาชิหัวเราะพลางโอบบ่าอายาโตะและพาเดินไปยังประตู

“เอาน่า ตอนนี้เดี๋ยวเราพาขึ้นเอง ไหนๆ ก็ต้องพาเด็กน้อยไปทั้งทีว่าไงเอาไอติมด้วยไหมจ้ะ อายาโตะจัง”

วากาชิรีบวิ่งหนีอายาโตะทันทีที่จบประโยคเพราะอายาโตะกำลังวิ่งไล่เตะวากาชิเช่นกันเสียงหัวเราะของทั้งสองดังขึ้นจนคนที่หันมามองถึงกับหัวเราะตามราวกับว่าทั้งสองเป็นเด็กน้อยไม่ได้อยู่ในวัยระดับปริญญาตรีก็ไม่ปาน

วากาชิพาอายาโตะขึ้นรถไฟเจอาร์สายยามาโนเตะไลน์จากชินากาวะไปยังอากิฮาบาระทันทีทุกครั้งที่เห็นอายาโตะเกาะกระจกดูทัศนียภาพแล้วก็ยิ่งทำให้วากาชิอมยิ้มทุกครั้งอายาโตะเหมือนเด็กมากจริงๆจนเขาต้องเตือนเด็กหนุ่มบ้างเป็นบางครั้งและอายาโตะก็ยอมอยู่นิ่งบ้างแต่ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกจนกระทั้งอายาโตะรู้สึกเหมือนโดนมองอยู่ตลอดเวลาจึงระงับอาการของตนเองลงได้และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาส่งไลน์ถึงตนแบบไม่พูด

‘เรารู้สึกเหมือนโดนมองเลยวะ’อายาโตะพิมพ์และเงยหน้ามองวากาชิวากาชิที่นั่งอยู่อีกฝั่งจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเมื่อเห็นว่ามีข้อความเข้า

‘คิดมากไปป่าว’ วากาชิพิมพ์ตอบ

‘ไม่คิดมากนะ เนี่ย กำลังมองเลย ตรงหน้าทางเชื่อมอีกโบกี้น่ะ’

อายาโตะเหลือบไปมองชายกลุ่มหนึ่งที่กำลังมองตนก่อนรีบหันกลับในมือเปิดไลน์ของดีแลนอยากจะพิมพ์บอกสถานการณ์หลังจากที่ตนได้บอกองค์ประชุมไปแล้วว่ากำลังจะไปไหนและก็ได้รับความเป็นห่วงอย่างยิ่งยวดจากดีแลนและบอดี้การ์ด ทั้งหลาย แต่อายาโตะก็เลือกที่จะบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงเพราะไปกับวากาชิและถ้าตนบอกดีแลนว่ากำลังเจอสถานการณ์แบบไหนมีหวังดีแลนได้ห้ามเขาไม่ให้ออกไปไหนแน่ๆ

ดูสถานการณ์ไปก่อนดีกว่า

อายาโตะตัดสินใจได้ก็พิมพ์ข้อความในไลน์ของดีแลนว่าไม่มีปัญหากำลังจะถึงสถานีอากิฮาบาระแล้วพลางเปิดไลน์ของวากาชิที่ตอนแรกบอกให้รู้ว่าใครกำลังมองตนอยู่และก็เห็นวากาชิพิมพ์มาเมื่อรู้ว่ามีคนมองอายาโตะจริงๆแต่กลุ่มคนนั้นดูคุ้นตาเขามากจะไม่ให้เขาคุ้นตาได้ยังไงก็บรรดาลูกน้องของเขาเองนั้นและ

คิดไปเองแล้วล่ะนั่นไง หายไปแล้ว

วากาชิไล่กลุ่มคนดังกล่าวให้ไปอีกโบกี้หนึ่งเพื่อไม่ให้อายาโตะคิดมากตอนแรกลูกน้องจะไม่ยอมทำตามเพราะวากาชิเป็นถึงนายน้อยตระกูลทากะแต่เมื่อเจอสายตาพิฆาตเหล่าลูกน้องกลุ่มดังกล่าวจึงได้แต่ทำตามอายาโตะหันไปมองก็ไม่เห็นกลุ่มคนดังกล่าวแล้วจึงได้แต่เกาหัวตัวเอง

หรือว่าจะคิดมากไปจริงๆ

นั่นไงคิดมากไปจริงๆ สินะ

วากาชิแซวพลางถอนหายใจเขารู้ว่าอายาโตะเป็นใครและตัวเองเป็นใครแต่เรื่องของสองตระกูลกับความสัมพันธ์แบบเพื่อน ตระกูลก็ส่วนตระกูลเพื่อนก็ส่วนเพื่อน ชายหนุ่มไม่นำมาร่วมกันให้ปวดหัว

ยิ่งเมื่อเห็นอายาโตะแล้วก็รู้ในทันทีว่าอายาโตะแทบจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลฟูวะเลยแม้แต่น้อยแต่ด้วยความที่เป็นบุตรชายคนเดียวของฟูวะ อาซากิที่เป็นลูกชายคนโตของตระกูลและออกจากตระกูลไปทำให้อายาโตะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับการค้นหาผู้นำตระกูลฟูวะรุ่นต่อไปเลยก็ได้

‘เออๆ เหมือนจะคิดไปเองจริงๆ และ ขอโทษด้วยนะ’อายาโตะตอบไปก่อนจะลุกขึ้นเมื่อเห็นวากาชิบอกให้ลุกเพราะถึงสถานีอากิฮาบาระเรียบร้อยแล้ว




Create Date : 11 ธันวาคม 2559
Last Update : 11 ธันวาคม 2559 17:26:02 น.
Counter : 250 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ไลแลต..
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






- นิยายที่ผ่านการตีพิมพ์ -









ธันวาคม 2559

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
  •  Bloggang.com