ตอนที่ 1




          แสงอาทิตย์ยามอัสดงความมืดที่เริ่มโรยตัวลงทำให้ ฟูวะ อายาโตะอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสลดหดหู่เขามองลอดหน้าต่างรถยนต์ที่ขับเคลื่อนเข้าสู่ใจเมืองอย่างไร้ซึ่งความสุขวันนี้เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มเดินทางมายังประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของบิดาซึ่งมีสัญชาติญี่ปุ่น

คุณฟูวะอาซากิผู้เป็นบิดาได้พบรักกับคุณพิณภิกาลอัครเสนีย์จนกระทั้งตกลงปลงใจแต่งงานกันและมีเขาออกมาดูโลกถึงทุกวันนี้แต่กระนั้นอายาโตะเองก็มิเคยได้มาเหยียบประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของบิดาแห่งนี้เลยเนื่องจากการที่บิดาและมารดาของเขาแต่งงานกันนั้น ไม่ได้รับความเห็นชอบจากครอบครัวใหญ่หรือก็คือไม่ได้รับอนุญาตจากบิดา มารดา วงษาคณาญาติของที่นี่แต่ด้วยความรักที่มากล้น คุณฟูวะ อาซากิ จึงเดินทางมาตั้งรกรากอยู่ ณประเทศไทยจวบจนทุกวันนี้

ครอบครัวของเขานั้นรักใคร่กันดีดีเสียจนมีแต่คนอิจฉาในตอนแรกที่มารดาของเขารู้ว่าเขาแอบไปสอบชิงทุนการศึกษาเพื่อเดินทางมายังประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของบิดาแห่งนี้เธอรู้สึกเศร้าเสียใจมากเนื่องจากไม่อยากให้ลูกชายเพียงคนเดียวของบ้านเดินทางไปยังประเทศที่มีคนไม่เห็นด้วยต่อการแต่งงานของเธอและสามีจนกระทั้งบิดาต้องปลอบโยนจึงยอมสงบลง และด้วยคำพูดที่ออกมาจากความรู้สึกของเขาทำให้คนในครอบครัวยอมรับกับการตัดสินใจนั้น

“ถึงโรงแรมเทตันแล้วครับ”

“ขอบคุณมากครับ”

“นายน้อยแน่ใจหรือครับว่าจะอยู่คนเดียวได้”

“ได้สิครับ.. คุณลุงไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกครับ”

“ขอรับนายน้อย”

สิ้นเสียงของอายาโตะรถเมอร์ซิเดสเบนซ์คันหรูแล่นออกไปสู่ถนนใหญ่ทันทีอายาโตะหันหน้าเข้าสู่โรงแรมเทตัน ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเขา ณ บัดนี้

ใครๆอาจจะสงสัยว่าเหตุใดนิสิตที่เพิ่งได้รับทุนการศึกษาอย่างเขาต้องมาอยู่โรงแรมระดับห้าดาวกลางใจเมืองโตเกียวแห่งนี้นั้นเพราะว่าโรงแรมแห่งนี้มิใช่มีเพียงในส่วนตัวโรงแรมเท่านั้นแต่ยังมีส่วนของห้องสูทเช่าพักซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของตัวตึกและเขาซึ่งเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลฟูวะนั้นเป็นเจ้าของโรงแรมกลางกรุงแห่งนี้นั่นเอง

และนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งในเงื่อนไขการมาศึกษาต่อณ ประเทศแห่งนี้

เรื่องที่เริ่มมาอาจจะฟังดูขัดๆว่าทำไมมารดาของเขาถึงได้ไม่ต้องการให้เดินทางมาศึกษาต่อยังประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้ทั้งที่มีโรงแรมซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวตั้งอยู่ ณ ที่ประเทศแห่งนี้นั่นเป็นเพราะว่ามารดาของเขาไม่ชอบให้คนในตระกูลใหญ่มายุ่งยามกับเขานั่นเอง

ตั้งแต่เด็กจนโตถึงแม้ว่าคนในตระกูลจะรับไม่ได้กับการแต่งงานของบิดาและมารดาแต่ก็ยังคงมีความพยายามที่จะให้เขาซึ่งเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูลขึ้นรับตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลหลัก อันเนื่องมาจากคนในตระกูลหลักและตระกูลรองไม่มีใครเลยที่จะมีบุตรเป็นผู้ชาย แต่ด้วยความดื้อดึงทำให้บิดาต้องยื่นเงื่อนไขมาว่าฟูวะ อายาโตะ จะต้องพักอาศัยอยู่ภายใต้การดูแลของโรงแรมเทตันแห่งนี้เท่านั้น!!

อายาโตะก้าวเข้าไปในตัวอาคารเบื้องหน้าอย่างรวดเร็วถึงแม้ว่าเขาจะโดนจำกัดอิสรภาพแต่นั้นก็ไม่ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเศร้าเสียใจแต่อย่างใดด้วยรู้ว่ามารดามีความเป็นห่วงต่อความปลอดภัยของเขาเป็นอย่างมากเพราะนอกจากคนที่อยากจะให้เขาขึ้นเป็นผู้นำตระกูลแล้วนั้นก็ยังคงมีกลุ่มที่ไม่ต้องการให้เขาขึ้นเป็นผู้นำตระกูลเช่นเดียวกัน

ให้ตายเถอะปฏิเสธไปสักเท่าไรก็ยังไม่ยอมแพ้สักที

อายาโตะบ่นพึมพำในใจเมื่อเห็นชายชุดดำยืนอยู่ข้างโรงแรมพร้อมกับโค้งศีรษะให้เขาขณะที่กำลังเดินผ่าน ก่อนจะปิดทางเดินของเขาไว้ อายาโตะได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างเบื่อหน่ายการเดินทางมาที่นี่เป็นเพราะว่าเขาอยากเรียนรู้และเติบโตเป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจไม่แพ้บิดาของเขาเองเพราะอย่างนั้นเลยจำต้องออกห่างจากมารดาซึ่งคอยแต่จะประคบประหงมเขาอยู่ตลอดเวลา

“นายน้อยอายาโตะครับ ได้โปรดเดินทางมากับพวกเราด้วยครับ”

“ผมไม่มีเวลาที่จะไปกับพวกคุณ ได้โปรดถอยไป”อายาโตะทำหน้าเคร่ง

“อย่าพูดแบบนั้นสิครับ พวกผมลำบากใจนะครับ”

“ผมบอกว่าไม่ก็คือไม่ หรือว่าอยากจะโดนลากตัวออกไป”

สีหน้าของกลุ่มชุดดำเริ่มละล้าละลังเมื่อเห็นร่างกำยำของชายในชุดสูทสองคนกำลังเดินมาทางจุดที่อายาโตะยืนอยู่ทั้งสองคนนั้นก็คืออีกเงื่อนไขหนึ่งที่เขาจำต้องทำตาม นั่นก็คือ บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่มีหน้าที่ดูแลเขาขณะที่ศึกษายังประเทศแห่งนี้

“เอ่อ.. คือ..”

“ว่ายังไง จะไปหรือไม่ไป”

“ไปครับไป”

ทั้งสองคนรีบเดินจ้ำอ้าวเผ่นแนบไปอย่างรวดเร็วอายาโตะยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้าอย่างสมเพชคนในตระกูลหลักชอบส่งคนจำพวกนี้มาหาเขาอยู่เป็นประจำ ตั้งแต่อยู่ที่เมืองไทยแล้วแต่ก็มิเคยลงมือทำรุนแรงอะไรกับเขาเลยแม้แต่เพียงปลายเล็บ อาจเป็นเพราะคำสั่งคือพาตัวเขาไปยังตระกูลหลักโดยห้ามทำร้ายหรือลักพาตัวไปเด็ดขาดก็เป็นได้ทำให้ชอบส่งแต่พวกลูกกระจ๊อกมาหาเขาอยู่ร่ำไป

“นายน้อยอายาโตะ ไม่เป็นอะไรนะขอรับ”

“อื้อ ไม่เป็นไรครับ หลงไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกครับพวกนั้นแค่ขู่ด้วยร่างกายกำยำของคุณก็เผ่นแนบไปแล้ว”

“อย่างนั้นก็ดีสิครับนายน้อยเกิดพวกมันส่งคนที่ไม่หงอกลัวพวกเราจนวิ่งหางจุกตูดขึ้นมานายน้อยจะแย่เอานะครับ”

“เอาเถอะครับ ผมว่าคงไม่มีอะไรหรอก หลงกับอชิ มาถึงนานแล้วหรือครับ”

“สักพักแล้วครับ ผมตรวจสอบความเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรผิดปกติ เชิญนายน้อยขึ้นไปพักด้านบนได้เลยขอรับ”

อายาโตะส่งยิ้มให้หลงและอชิสองคู่หูที่ดูแลเขามาตั้งแต่งเขาเริ่มเข้ารับการศึกษาในระดับมัธยมปลายทั้งสองคอยเป็นทั้งเพื่อน พี่ และทุกๆ อย่างที่เขาอยากให้เป็นมาตลอด

ในวัยเรียนอายาโตะแทบจะไม่มีเพื่อนสนิทกับเขาเลยด้วยความแปลกแยกในสัญชาติและหน้าตาที่ราวกับหลุดออกมาจากวรรณคดีทำให้เขาถูกล้อมาตลอดว่าเบี่ยงเบน แถมยังมีผู้ชายมาสารภาพรักรายวันทำให้เพื่อนผู้หญิงไม่อยากเข้าใกล้ บางก็หาว่าเขาแย่งแฟนหนุ่มเธอไปทั้งที่แฟนของพวกเธอมาสารภาพรักกับเขาเองแท้ๆ

อายาโตะเดินตามทางเดินไปจนถึงบริเวณลิฟต์สำหรับวีไอพีเขาสอดส่องสายตาไปทั่วล็อบบี้ชั้นในบริเวณนี้หากไม่มีการ์ดที่ใช้ไปยังชั้นที่ต้องการได้ ก็จะไม่สามารถใช้ลิฟต์ได้นี้คือมาตรการหนึ่งในการรักษาความปลอดภัยรอบๆ ตัวเขา รวมถึงลูกค้าระดับวีไอพีอื่นๆที่เข้ามาพักและต้องการความปลอดภัยในบริเวณที่อยู่อาศัยของตนเอง

อายาโตะรอจนลิฟต์เลื่อนลงมาถึงจุดที่ตนยืนอยู่เขาละความสนใจสิ่งรอบข้างก้าวเข้าไปในลิฟต์ตัวนั้นอย่างมั่นคงโดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคมเข้มคู่หนึ่งกำลังจับจ้องเขาอยู่ตั้งแต่อายาโตะเดินเข้ามายังโรงแรมเทตันแห่งนี้มุมปากของชายหนุ่มเจ้าของสายตาคู่นั้นยกขึ้นอย่างพึงพอใจก่อนจะจางหายไปราวกับอากาศที่พัดผ่านมา

อเล็กซานเดอร์ไวท์ ดีแลน จับจ้องนาฬิกาข้อมือฝังเพชรอย่างเคร่งเครียดเขาเคาะนิ้วไปมาด้วยความเบื่อหน่าย อันที่จริงวันนี้เขาต้องได้นัดพบกับนักธุรกิจใหญ่ที่มีอสังหาริมทรัพย์มากที่สุดในประเทศแต่จนแล้วจนรอดอีกฝ่ายก็ยังคงไม่มาทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากกับความไร้ระเบียบและไม่ตรงต่อเวลาอันเกิดจากคู่ค้ารายนี้

“ยังไม่ติดต่อมาอีกเหรอ เอียน”ดีแลนถามคนข้างกายเป็นภาษาอังกฤษ

“ยังครับ”

เลขาหนุ่มที่มีนามว่าเอียนตอบคำถามของเจ้านายอย่างรวดเร็วเขาได้โทรศัพท์หาคู่ค้ารายนี้แล้วเมื่อครู่ แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบกลับเอียนมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างจากดีแลนนายจ้างของเขานัก เขารู้ว่าเวลาของอเล็กซานเดอร์ ไวท์ ดีแลนนั้น เป็นเงินเป็นทองด้วยความที่นายจ้างของเขามีบรรณาศักดิ์เป็นถึงเอิร์ลทำให้ชายหนุ่มตรงหน้ามักจะไม่มีเวลาว่างมากมายนัก

“ถ้ามาให้ไปตามฉันที่เลานจ์นะ”

“ครับ”

“อ้อ แล้วก็ถ้าจนแล้วจนรอดฝ่ายโน้นยังไม่มาภายในหนึ่งชั่วโมงให้โทรไปยกเลิกการเจรจาได้เลย ฉันไม่ชอบพวกไม่ตรงต่อเวลา”

“ครับท่าน”

เอียนรับคำสั่งของเจ้านายหนุ่มพร้อมทั้งโค้งศีรษะให้อย่างนอบน้อมเขารู้ว่านายท่านที่เขาทำงานด้วยนั้นมีนิสัยเป็นเช่นไร ดีแลน ไวท์ ดีแลนเป็นผู้ที่มีความอดทนต่ำและไม่ชอบการรอคอยเป็นอย่างมากหากไม่เป็นไปตามที่ต้องการแล้วทุกอย่างก็มักจะเป็นอันโมฆะไปเสียหมด

ทั้งที่ในโลกธุรกิจตามความคิดของเอียนแล้วคนที่มีลักษณะเช่นนี้มีแต่ทำธุรกิจให้เสียหายย่อยยับ แต่นั้นก็ไม่ใช่ทั้งหมดอเล็กซานเดอร์ ไวท์ดีแลนคนนี้กลับมีความสามารถทำให้ทุกอย่างที่เขาเข้าไปลงทุนลงนั้นมักจะมีกำไรเกิดขึ้นมหาศาลและเพราะเหตุนั้นเองทำให้ชื่อเสียงของคนเบื้องหน้าติดอันดับท็อปเทนของชายที่เป็นที่ต้องตาสาวในโลกมากที่สุดซึ่งนายจ้างเขาก็มิได้ให้ความสำคัญกับมันแต่อย่างใด

ดีแลนลุกขึ้นอย่างหมดความอดทนเขาขยับชุดสูทสีดำให้เข้าที่ก่อนจะก้าวเท้าออกไป แต่ยังไม่ทันไปได้เท่าไรเอิร์ลหนุ่มก็ต้องสะดุดหยุดอยู่กับที่เมื่อสายตาของเขาแลไปเห็นร่างบอบบางหนึ่งที่ก้าวพ้นประตูเข้ามาภายในโรงแรมเทตันแห่งนี้

ใบหน้าสวยนั้นเชิดรั้งขึ้นอย่างไม่สนใจใครดีแลนมองตามร่างบอบบางนั้นไปอย่างหลงใหล และใคร่รู้เขาเดินตามร่างบอบบางไปจนถึงล็อบบี้ชั้นใน ซึ่งเป็นโซนของแขกวีไอพี

นับตั้งแต่อายาโตะเดินเข้ามาภายในโรงแรมเทตันแห่งนี้ประสาทของเขาก็ตื่นตัวขึ้นมาในทันทีเหมือนมีลางสังหรณ์ว่าเขาและเด็กหนุ่มตรงหน้าจะต้องได้พบกันอีกแน่และถึงจะไม่ได้พบกัน เขาก็จะต้องพยายามเข้าใกล้ให้ได้ดีแลนกระตุกริมฝีปากตัวเองอย่างหมายหมาดก่อนจะออกตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

อายาโตะทรุดตัวลงนั่งกับเตียงนอนหนานุ่มห้องชุดขนาดสามร้อยตารางวาแห่งนี้นอกจากจะมีห้องนอนของอายาโตะที่เป็นห้องใหญ่สุดแล้วยังมีห้องนอนเล็กที่อยู่ติดกับห้องนอนของเขาอีกหนึ่งห้องและห้องน้ำกว้างขวางในตัวทั้งสองห้องอีกด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีห้องครัวและห้องสันทนาการซึ่งอยู่โซนถัดไปแต่นั้นก็ไม่ทำให้อายาโตะรู้สึกสนใจแต่อย่างใด

อายาโตะถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้านับตั้งแต่ที่เขานั่งเครื่องบินมาจนกระทั่งถึงสนามบินนาริตะและลากยาวจนมาถึงโรงแรมเทตันแห่งนี้นั้น เขายังไม่ได้พักเลยแม้แต่น้อยถึงแม้ว่าขณะอยู่ในเครื่องจะพอหลับได้ไปสักชั่วโมงสองชั่วโมงแต่มันก็ไม่ทำให้อาการเหนื่อยล้าของเขาบรรเทาลงเลยอายาโตะเอนกายลงกับหมอนถึงแม้ว่าสติของเขาบอกให้ไปอาบน้ำก่อนนอนแต่อาการเหนื่อยล้าที่รับมาทั้งวันทำให้อายาโตะผล็อยหลับไปในที่สุด

เสียงเคาะประตูดังขึ้นปลุกให้อายาโตะที่หลับใหลอยู่นั้นตื่นขึ้นมาเขามองนาฬิกาพรายที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงด้วยความงุนงง เวลานี้ยังเป็นเวลาตีสามอยู่เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครมาปลุกอายาโตะเดินไปดูที่ประตูแมวเขาทำสีหน้าสงสัยเมื่อพบว่าคนที่มาคือหลงและอชิ อายาโตะเปิดประตูออกอย่างรวดเร็ว

“มีอะไรหรือหลง อชิ”

“คือว่าคุณพิณโทรมาขอรับ”

“แม่น่ะเหรอ? ทำไมล่ะ”

“นายน้อยลืมโทรไปบอกท่านว่าถึงแล้ว ท่านเลยเป็นห่วงโทรมาน่ะขอรับ”

อายาโตะถอนหายใจกับความเป็นห่วงเขาจนเกินเหตุของมารดาแต่ก็ยังรับโทรศัพท์มือถือที่หลงยื่นมาให้ ก่อนจะโบกมือให้ทั้งสองไปพักผ่อนได้ หลงกับอชิโค้งตัวลงและเดินจากไปในเวลาต่อมาเขาเอื้อมมือปิดประตูทันที

“สวัสดีครับคุณแม่”

“อายะจัง ทำไมลูกไม่โทรบอกแม่ว่าถึงแล้ว”

“โธ่คุณแม่ครับ เลิกเรียกผมว่าอายะจังสักทีสิครับ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ”

“ทำไมล่ะ ชื่อออกจะน่ารักดีออก แล้วถึงอายะจังจะไม่ใช่เด็กแล้ว แต่สำหรับแม่ก็ยังเป็นเด็กอยู่เหมือนเดิมและเอาล่ะ ทำไมไม่โทรบอกแม่หือ..” คุณพิณภิกาลคาดคั้น อายาโตะทำสีหน้าอ่อนใจ

“ผมเพิ่งถึงน่ะครับ ว่าจะโทรไปรายงานคุณแม่ แต่ก็ง่วงจนเผลอหลับไป”

“แม่โกรธแล้วนะ เราไม่สนใจแม่เลย”

“โธ่คุณแม่ครับ ผมจะไม่สนใจคุณแม่ได้ไงล่ะครับผมแค่เผลอหลับไปเท่านั้นเอง แล้วก็คิดว่าจะโทรไปรายงานคุณแม่แต่เช้าด้วยอีกอย่างนี้ก็ดึกมากแล้ว ผมไม่อยากรบกวนเวลานอนของคุณแม่น่ะครับ นะๆเลิกงอนผมนะครับ”

“ก็ได้ แต่เราต้องโทรหาแม่บ่อยๆ นะ แม่เป็นห่วง”

“ครับผม ผมจะโทรหาคุณแม่บ่อยๆ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับผมมีทั้งหลงทั้งอชิอยู่ใกล้ๆ ไม่มีเหลือบไรที่ไหนมาตอมได้หรอกครับ” อายาโตะพยายามหว่านล้อม

“เฮอะ ขอให้มันจริงเถอะ ถ้างั้นแม่ก็ไม่กวนเราแล้วล่ะ ไปนอนเถอะลูก”

“ครับแม่ ราตรีสวัสดิ์ครับ”

อายาโตะกดวางสายคุณพิณภิกาลทันทีเขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า ดูเหมือนว่าคุณแม่ของเขาจะจิตตกเข้าขั้นรุนแรงทั้งที่มาถึงที่นี่แล้ว อายาโตะก็ไม่เห็นว่าจะมีภัยที่ไหนมากล้ำกรายเลยแม้แต่น้อยแต่ในเมื่อเป็นความต้องการของมารดา อายาโตะก็ไม่สามารถขัดอะไรได้อย่างน้อยก็คงต้องโทรรายงานตัวสัปดาห์ละสองถึงสามครั้งแทนละมั้ง

“จะประคบประหงมผมไปถึงไหนครับแม่เพราะแบบนี้ลูกแม่ถึงได้โดนดูถูกอยู่ทุกวัน”

อายาโตะตื่นมาอีกครั้งในเวลาประมาณสิบโมงเช้าวันนี้เขาสามารถตื่นสายได้เพราะมหาวิทยาลัยที่เขาได้รับทุนการศึกษานั้นจะเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในอาทิตย์หน้าหรือก็คืออีกสามวันนับจากนี้

อายาโตะบิดขี้เกียจไล่อาการเมื่อยขบออกไปจากร่างกายเขาสะบัดลำคอเล็กน้อย เสียงกระดูกที่กระทบกันทำให้นิสิตหนุ่มอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วนับตั้งแต่ที่อายาโตะต้องเดินทางมายังประเทศญี่ปุ่นเขาไม่มีเวลาที่จะไปออกกำลังกายตามฟิตเนตเลยทั้งที่ปกติแล้วอายาโตะชอบเข้าออกไปฟิตเนตเป็นว่าเล่น

เด็กหนุ่มลุกจากเตียงอย่างเกลียดคร้านเมื่อคืนนี้เขาไม่ได้อาบน้ำก่อนนอนแต่ด้วยอากาศที่เย็นสบายทำให้ไม่รู้สึกว่าเหนียวตัวแบบตอนที่อยู่ประเทศไทยเลยแม้แต่น้อยแต่ถ้าจะไม่อาบก็ไม่ได้ เพราะนอกจากจะโดนหลงตำหนิแล้วเขาเองก็ไม่ชอบที่ปล่อยตัวเองไว้แบบนี้เช่นกัน ขณะที่อายาโตะแกะกระดุมเสื้อผ้าออกอยู่นั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกระลอก

อายาโตะถอนหายใจคงจะเป็นหลงหรือไม่ก็อชิที่ตรวจสอบความเรียบร้อยของเขาก็เป็นแน่อายาโตะคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำห่มทับเสื้อตัวในไว้และเดินไปเปิดประตูและนั้นก็เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเขาที่ไม่ยอมตรวจสอบให้ถี่ถ้วนก่อนชายชุดดำเปิดประตูพร้อมกับใช้ผ้าที่มีกลิ่นหอมบางอย่างโป๊ะที่จมูกของอายาโตะอย่างรวดเร็วสติสัมปชัญญะทั้งหมดของเขาหลุดลอยพร้อมกับความรู้สึกสังหรณ์ใจ

แย่แล้ว!!

อายาโตะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งก็พบว่าตัวเองอยู่บนเตียงนอนหนานุ่มอาการปวดที่ศีรษะเริ่มครอบงำสงสัยเป็นเพราะยาที่เขาได้รับตอนถูกลักพาตัวจะเล่นงานเอาเสียแล้วอายาโตะพยายามปรับสายตาให้เข้าที่ เขามองสภาพรอบๆ ห้องที่ถูกลักพาตัวมา

การจัดตกแต่งห้องนั้นเป็นแบบสไตส์โมเดิร์นผสมวิคตอเรียนที่มีกลิ่นอายของความเป็นยุโรปทำให้เด็กหนุ่มขมวดคิ้วอย่างสงสัยเขาจำลางๆจากที่ได้ยินบิดาเล่าให้ฟังได้ว่าคนในตระกูลหลักไม่ชอบอะไรที่ไม่ใช่วัฒนธรรมของประเทศตนเองเพราะฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ที่เขาโดนลักพาตัวมาจะเป็นคฤหาสน์ของตระกูลหลักแน่นอน

ถ้าอย่างนั้นพวกไหนกันล่ะที่ลักพาตัวเขามา

แต่ไม่ว่าจะเป็นพวกไหนก็ตามเขาก็ต้องรีบแจ้งให้หลงและอชิมาช่วยเขาโดยด่วนอายาโตะลืมนึกไปเลยว่าเขาได้วางอุปกรณ์ป้องกันตัวรวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้แจ้งพิกัดจีพีอาร์เอสของเขาไว้ภายในห้องนอนตั้งแต่ตอนที่เขามาถึงโรงแรมเทตันแล้วเด็กหนุ่มพยายามจะลุกขึ้นแต่แล้วก็เริ่มรู้สึกได้ว่าแขนทั้งสองข้างของเขาถูกผูกมัดไปด้วยเชือกไนล่อนสีขาวขนาดใหญ่

“โธ่เว้ย..”

อายาโตะหัวเสียพยายามขยับข้อมือเพื่อให้เชือกที่ผูกไว้นั้นหลุดออกแต่ก็ไม่สามารถทำได้ยิ่งขยับมันก็ยิ่งรัดแน่นมากขึ้นจนเด็กหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่ได้ดังใจเขาพยายามขยับแล้วขยับอีกจนข้อมือทั้งสองข้างเสียดสีกันเกิดเป็นรอยแดง

“เจ็บ...”

อายาโตะร้องออกมาเมื่ออาการเจ็บแสบที่เกิดขึ้นจากการเสียดสีของเชือกกับข้อมือเริ่มทำพิษเขาถอนหายใจอย่างหมดแรง ดูเหมือนว่าอะไรๆ ก็ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้เลยสักอย่าง

ยิ่งเมื่อคิดถึงหลงและอชิที่ปานนี้คงตามหาตัวเขาให้ควักแล้วก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกกลัวว่าหากทั้งหลงและอชิหาตัวเขาไม่เจอแล้วอะไรจะเกิดขึ้นที่สำคัญหากบิดาและมารดาของเขารู้เรื่องท่านทั้งสองจะรู้สึกอย่างไรกันนะที่ลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลมาประเทศญี่ปุ่นได้วันเดียวก็โดนลักพาตัวเสียแล้ว

“ขอโทษนะครับ เป็นเพราะผมไม่ระวังตัวเองแท้ๆ”

อายาโตะอดโทษความสะเพร่าของตนเองมิได้ถ้าหากเขามองลอดตาแมวเสียก่อน เรื่องนี้ก็คงไม่เกิด เขาก็คงจะไม่โดนลักพาตัวยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นตัวเอง เป็นเพราะความสะเพร่าของตัวเองแท้ๆ ทำให้ทุกๆคนต้องเดือดร้อน อายาโตะเริ่มรู้สึกสลดหดหู่กับเรื่องที่เกิดขึ้น

“ไม่ได้ เราจะมาหดหู่อย่างนี้ไม่ได้ถ้าไม่ทำอะไรเลยก็จะหนีออกไปจากที่นี่ไม่ได้ จะรอให้หลงกับอชิมาช่วยก็ไม่รู้จะเกิดอะไรบ้างเราต้องช่วยตัวเอง”

เด็กหนุ่มพยายามปลอบใจตัวเองมือน้อยๆ ค่อยๆ ขยับเพื่อให้เชือกหลุดออกจากข้อมือเขาพยายามไม่สนใจกับอาการเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นจากการเสียดสีถึงแม้ว่ามันจะทำให้น้ำตาแทบเล็ดออกมาก็ตามที

“เริ่มหลุดแล้ว...”

อายาโตะร้องออกมาอย่างดีใจเขายิ่งขยับข้อมือมากขึ้นดูเหมือนว่าเชือกที่ถูกมัดไว้จะเริ่มหลวมขึ้นจนมือข้างหนึ่งออกมาได้แต่ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะได้ชื่นชมในความสำเร็จของตนเองประตูห้องสไตส์โมเดิร์นแห่งนี้ก็ถูกเปิดออกพร้อมกับชายร่างกำยำที่เดินเข้ามาภายในห้อง

ร่างสูงกำยำเดินเข้ามาในห้องอย่างสง่าผ่าเผยดวงตาสีน้ำเงินเข้มจับจ้องใบหน้างดงามของฝ่ายตรงข้ามเขม็งมือที่ถือถาดอาหารประคองเข้ามาในห้องอย่างมั่นคง เขาไม่นึกเลยว่าเพียงแค่ออกไปเดินเล่นนอกโรงแรมเพียงครู่เดียวจะเจอเด็กหนุ่มที่เขาหมายปองโดนกลุ่มชายชุดดำลักพาตัวเสียนี้แน่นอนเอิร์ลหนุ่มไม่รอช้า เขาไม่รอช้ารีบตาม บอดี้การ์ดประจำกายมาช่วยอย่างทันท่วงที ก่อนจะพาร่างบอบบางมายังที่พักของตนเอง

ในตอนแรกดีแลนคิดว่าเมื่อเขาช่วยเด็กหนุ่มตรงหน้าแล้วจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่โรงแรมทราบแต่แล้วชายหนุ่มก็เปลี่ยนใจเพราะคิดว่าโรงแรมนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถลักพาตัวคนๆ หนึ่งออกมาได้ง่ายดายหากมิใช่มีใครบางคนช่วยเหลืออยู่อย่างลับๆ

ดีแลนวางถาดอาหารลงบนหัวเตียงก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้ร่างบอบบางที่มองเขาพร้อมกับถอยร่างของตนเองให้ชิดกับหัวเตียงอย่างหวาดกลัวขณะที่เขาย่อกายนั่งลงบนเตียงนอนหนานุ่มพร้อมกับยื่นมือไปแกะเชือกที่ผูกไว้กับหัวเตียง อายาโตะมองอย่างมึนงงเขาสลัดข้อมือไล่อาการเมื่อยขบที่ข้อมือ ก่อนจะโดนเอิร์ลหนุ่มดึงมือของตนเองไป

“เป็นไงบ้าง ดูสิ ไม่น่าดิ้นเลยนะ”

ดีแลนยกข้อมือขึ้นจุมพิตอายาโตะรีบชักข้อมือออกอย่างรวดเร็ว ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อเกิดมาไม่เคยมีใครมาจุมพิต หรือทำอะไรกับเขาแบบนี้เลยยิ่งเป็นผู้ชายด้วยกันแล้วยิ่งไม่มีใหญ่ ดีแลนมองใบหน้าที่ขึ้นสีระเรืออย่างหลงใหลเขาอยากจะจับคนข้างหน้ากดเสียให้รู้แล้วรู้รอดอยากจะสัมผัสเรือนร่างภายใต้ร่มผ้าและฟังเสียงครางอันอ่อนหวานของอีกฝ่ายยิ่งนักแต่เขาก็ต้องอดทนเป็นครั้งแรกที่เขาเกิดความคิดอยากครอบครองจนทนไม่ได้เช่นนี้

“คุณเป็นใคร ลักพาตัวผมมาทำไม”อายาโตะถาม

“ฉันไม่ได้ลักพาตัวเธอมาหรอก”

“แต่คุณมัดผมไว้”

“ก็ถ้าไม่มัด เวลาเธอตื่นขึ้นมาเธอก็คงจะโวยวายหรือหนีฉันไปน่ะสิ”

อายาโตะทำหน้าสงสัยถ้าไม่ได้ลักพาตัวเขามาที่นี่ แล้วคนตรงหน้าเป็นใคร เขาไม่เคยรู้จักคนตรงหน้าเลยยิ่งเป็นฝรั่งด้วยแล้วยิ่งไม่รู้จักใหญ่เด็กหนุ่มนึกไปถึงตอนที่เขาเปิดประตูเพราะมีเสียงเคาะที่ห้องเขานึกว่าเป็นหลงหรือไม่ก็อชิมาเคาะห้อง แต่แล้วเขาก็พลาดโดนโปะยาอะไรสักอย่างที่จมูกจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยอายาโตะกัดริมฝีปากตนเองนึกเสียใจกับความสะเพร่านั้น

“ฉันชื่ออเล็กซานเดอร์ ไวท์ ดีแลน เธอจะเรียกฉันว่าดีแลนก็ได้นะแล้วเธอล่ะ”

“ผมชื่อ ฟูวะ อายาโตะครับ คุณบอกว่าคุณไม่ได้ลักพาตัวผมแล้วทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับ แถมคุณยังมัดผมไว้อีก”

“ฮึ ถ้าฉันลักพาตัวเธอมา ฉันคงไม่แกะเชือกให้เธอหรอกนะ อายาโตะ”

ดีแลนถือวิสาสะเรียกชื่ออีกฝ่ายโดยไม่รอให้อีกฝ่ายอนุญาตถ้าตามปกติแล้วสำหรับคนประเทศนี้อาจเป็นการเสียมารยาทที่ไม่ได้สนิทอะไรกันมากมายกลับมาเรียกชื่อห้วนๆแทนการเรียกนามสกุลตามธรรมเนียม แต่สำหรับอายาโตะที่เติบโตมาจากประเทศไทยแล้วเขาไม่คิดจะใส่ใจมันเลยแม้แต่น้อย อายาโตะขมวดคิ้วอย่างสงสัยแต่เมื่อนึกถึงว่าคนตรงหน้าไม่มีท่าทีจะทำร้ายเขาก็ชักจะเชื่อที่ชายหนุ่มพูดขึ้นมาหน่อยๆ แล้วสิ

ร่างสูงมองคนตัวเล็กกว่าขมวดคิ้วอย่างสงสัยเขาก็ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูปกติแล้วหากเจอเรื่องแบบนี้กับตัวเป็นคนอื่นคงจะหวาดกลัว หวาดระแวงไปเสียแล้วแต่คนตรงหน้าเขานี้สิ กับใช้สมองวิเคราะห์ทุกอย่าง ราวกับว่าเจอเรื่องแบบนี้มาบ่อยหรือไม่ก็อาจเป็นเพราะอายาโตะฝึกฝนตัวเองให้รับกับปัญหาจำพวกนี้ไว้ล่ะมั้ง

“แล้วคุณพาผมมาที่นี่ได้ยังไง”

“ฉันเจอเธอที่ด้านนอกโรงแรมตอนนั้นฉันกำลังเดินเล่นอยู่แล้วก็เห็นพวกคนชุดดำกำลังหิ้วร่างเธอโยนขึ้นรถน่ะ”

“คุณก็เลยช่วยผม”

“ใช่ ฉันก็เลยช่วยเธอ”

“แล้วทำไมคุณไม่แจ้งให้คนที่โรงแรมทราบล่ะครับ แทนที่จะพาผมมาที่นี่”อายาโตะยังคงไม่เข้าใจ

“ตอนแรกฉันก็ว่าจะทำอย่างนั้นหรอกนะ แต่ว่ากลัวเธอจะเป็นอันตรายน่ะสิ”

“อันตราย

“ใช่แล้ว เธอก็ลองคิดดูเองละกันโรงแรมที่มีระบบป้องกันภัยดีออกขนาดนั้น แต่กลับลักพาตัวเธอออกมาได้โดยง่ายไม่คิดว่ามันแปลกเหรอ”

ใช่ มันแปลก

อายาโตะคิด ดีแลนไม่ปล่อยให้คนตรงหน้าคิดอะไรมากมายเขาหันมามองถาดอาหารที่ชายหนุ่มลงมือทำเองทันที

“ฉันว่าเธอหยุดคิดแล้วมาทานข้าวก่อนดีกว่านะ ฉันคิดว่าเธอคงจะหิวแล้ว”

“ผมยังไม่...”

ยังไม่ทันที่อายาโตะจะพูดจบอาการท้องร้องก็ดังขึ้น เด็กหนุ่มหน้าแดงทันที ตอนแรกเขาอยากจะโทรศัพท์หาหลงและอชิว่าเขาปลอดภัยดี แต่สงสัยว่าเขาคงต้องจัดการกับอาหารตรงหน้าให้หมดเสียล่ะมั้งดีแลนอมยิ้มกับทางท่านั้นร่างสูงเอื้อมมือไปหยิบถาดอาหารที่วางไว้เตรียมพร้อมทันที

“เป็นไงรสชาติพอทานได้มั้ย”

“ได้ครับ อร่อยมาก”

“ดีแล้ว ฉันกลัวไม่ถูกปากเธอ พอดีพ่อบ้านที่ฉันจ้างไว้ยังไม่มาน่ะ”

“เอ๊ะ คุณทำเองเหรอครับ”

“ใช่ ไม่ค่อยบ่อยนักหรอก แต่ถ้าเธอบอกว่าอร่อยฉันก็ดีใจแล้ว”

“ขอบคุณมากครับ ความจริงไม่เห็นต้องดูแลผมขนาดนี้เลยก็ได้นี่ครับแค่ผมโทรบอกคนที่โรงแรม เขาก็จะมารับผมทันที”

“ไม่หรอก ฉันอยากทำน่ะ”

ดวงตาสีน้ำเงินเข้มจับจ้องมาราวกับสื่อความหมายอายาโตะก้มหน้างุดๆเขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคิดอะไรยังไงถึงได้จ้องมองเขาด้วยดวงตาแบบนั้นอายาโตะวางชามลงบนถาด ดีแลนไม่รอช้าหยิบแก้วน้ำคริสตัลส่งให้เด็กหนุ่มทันที

“ฉันเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้เธอแล้วนะ เดี๋ยวทานข้าวเสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำได้”

“เอ่อ... ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ครับแค่ขอใช้โทรศัพท์เรียกหลงกับอชิมาก็พอแล้ว”

“หลง อชิ? คนที่โรงแรมเหรอ”

“เปล่าครับ ทั้งสองคนเป็นคนดูแลผมเอง เรียกง่ายๆ ก็ บอดี้การ์ด น่ะครับ”

“อ้อ บอดี้การ์ด เอาเถอะ ไว้หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จก่อนละกันดูท่าเธอคงจะเหนื่อยมาทั้งคืน ชุดที่ใส่ก็ยังเป็นของเมื่อวานด้วย”

เขาจำได้ว่าอายาโตะใส่ชุดนี้ตอนเดินเข้าล็อบบี้มาอายาโตะขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าทำไมเขาถึงรู้ว่ามันเป็นชุดของเมื่อวานดีแลนหัวเราะกับท่าทางสงสัยนั้นของเด็กหนุ่ม แต่เขาเลือกที่จะไม่ตอบว่าเขาสนใจคนตรงหน้าตั้งแต่แรกเห็นแล้วและเหตุนี้เองอายาโตะเลยต้องจำใจเดินไปอาบน้ำหลังจากนั้นไม่กี่นาทีโดยมีคนร่างสูงยืนคอยกำกับและดูแลเขาทุกฝีก้าว

ห้องอาบน้ำที่ดีแลนพามานั้นอยู่เยื้องกับห้องนอนของเขา ภายในโล่งโปร่งสบายมีบ่อน้ำร้อนขนาดย่อมอยู่กึ่งกลางห้อง เขาวางเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนลงบนตะกร้าที่อยู่บนชั้นวางในตอนแรกอายาโตะคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอาบน้ำอาบท่าอะไรเพียงแค่โทรศัพท์แล้วรอหลงกับอชิมารับก็น่าจะพอแล้วแต่ดูเหมือนว่าดีแลนจะเตรียมทุกอย่างไว้ให้เขาแล้วแถมเสื้อผ้าที่เขาเตรียมมาก็ดูจะพอดีกับร่างของเขาไปเสียหมด แสดงให้เห็นถึงการเอาใจใส่เขาเป็นอย่างดี

ถึงตอนนี้แม้แต่อายาโตะเองก็ไม่เข้าใจคนร่างสูงมากนักว่าเหตุใดจึงเอาใจใส่เขาถึงเพียงนี้ ตั้งแต่อาหารเช้าที่เป็นฝีมือของเขาเองจนกระทั่งเสื้อผ้าที่อีกฝ่ายเตรียมมาให้ การดูแลที่ราวกับเขาเป็นคนรักก็ไม่ปานเด็กหนุ่มเม้มริมฝีปากตนเอง หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนยิ่งนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายแล้วใบหน้าของเขาก็ขึ้นสีระเรืออย่าบอกนะว่าเขามีความรู้สึกวาบหวามกับอีกฝ่ายที่เป็นผู้ชาย

“ไม่ๆ อีกฝ่ายเป็นผู้ชายนะ จะไปรู้สึกอย่างนั้นได้ไง”

อายาโตะส่ายศีรษะอย่างรุนแรงไล่ความคิดแปลกๆออกไป พร้อมกับถอดเสื้อผ้าของตนเองออกและลงไปแช่น้ำในบ่อน้ำร้อนขนาดเล็กความร้อนจากน้ำทำให้อายาโตะรู้สึกผ่อนคลาย เด็กหนุ่มหลับตาลงช้าๆเขาชอบเวลาที่อยู่ในบ่อน้ำร้อนเสียจริงๆ มันทำให้รู้สึกเหมือนมีเวลาเป็นของตัวเองอายาโตะคิดเช่นนั้น

อายาโตะลุกขึ้นจากบ่อน้ำร้อนขณะที่เขาหันหลังกำลังจะเดินขึ้นนั้นคนร่างเล็กสะดุ้งขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นร่างสูงของดีแลนกำลังยืนมองเขาอยู่ดวงตาคู่นั้นแฝงอะไรบางอย่าง อารามตกใจอายาโตะรีบทรุดตัวลงในบ่อน้ำทันที ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความเขินอายที่มีคนเห็นเรือนร่างของตนเองถึงแม้ว่าในใจของเขาจะประท้วงว่า

ทำไมเขาจะต้องไปเขินอายกับการมองของคนตรงหน้าด้วยนะ แต่ถ้าจะให้เขาลุกขึ้นจากน้ำตอนนี้เขาก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากว่าร่างกายของเขามันไม่ทำตามคำสั่งของเอาเสียเลยอายาโตะได้แต่เม้มริมฝีปากอย่างขัดใจ ยิ่งหัวใจที่เต้นแรงดวงนี้ด้วยแล้วหรือว่าเขากำลังจะป่วย

เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขากันนะ?

“มะ... มีอะไรเหรอครับ”

อายาโตะเริ่มหาเสียงของตนเองเจอดีแลน ตื่นจากภวังค์ เขาเห็นว่าอายาโตะเข้าห้องอาบน้ำไปนานแล้วด้วยความเป็นห่วงจึงได้ร้องเรียกอายาโตะหลายต่อหลายทีแต่ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มจะไม่ได้ยินที่เขาเรียกเลยคงเป็นเพราะเสียงน้ำของหัวสิงห์โตดังเกินกว่าจะได้ยิน

เขาจึงถือวิสาสะเปิดประตูไม้เข้ามาสิ่งที่ดีแลนพบเห็นกับทำให้แรงกระตุ้นจากเบื้องล่างของเขาเร่งเร้ามากขึ้นแผ่นหลังเนียนเรียบ ผิวที่ขาวอมชมพู ต้นคอเล็กที่แสนจะบอบบางนั้นทำเอาเขาเกือบกลายร่างเป็นสิงห์โตกระโจนเข้าไปผสมพันธุ์กับคนร่างเล็กเสียแล้วยิ่งเมื่ออายาโตะลุกขึ้นมาจากน้ำรูปร่างอันบอบบางที่ร่างสูงเคยลูบไล้ตอนเด็กหนุ่มกำลังสลบทำให้เขาแทบจะหยุดลมหายใจเลยทีเดียว

“เอ่อ... คือ... คุณดีแลนครับ”

“หือ...”

“มะ... มีอะไรหรือเปล่าครับ”

อายาโตะยังคงทรุดตัวอยู่ในบ่อน้ำใบหน้าแดงระเรื่อ ริมฝีปากจิ้มลิ้มชวนให้น่าลิ้มลอง ดีแลนทนความต้องการของตัวเองไม่ไหวขอแค่ได้ลิ้มลองและสัมผัสริมฝีปากนั้นเพียงเท่านั้นเขาก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วในโลกนี้ขอเพียงแค่ได้ครอบครองคนร่างเล็กก็พอ เอิร์ลหนุ่มเดินเข้าไปหาร่างบางตรงหน้าทันที

ดีแลนฉุดร่างบางขึ้นจากน้ำอายาโตะตกใจกับการกระทำนั้นของคนร่างสูงร่างบางเซซบร่างใหญ่ที่รอรับเขาอยู่เบื้องบนเสียงหัวใจที่เต้นระรัวของฝ่ายตรงข้ามทำให้อายาโตะถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัยดวงตาของทั้งคู่ประสานกัน

อายาโตะเป็นฝ่ายหลบสายตาของเอิร์ลหนุ่มทันทีเขาไม่กล้าสู้สายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการนั้นได้ หัวใจของอายาโตะเต้นเป็นกลองรัวราวกับว่ามันจะหลุดออกมานอกอกเด็กหนุ่มยกมือขึ้นดันร่างของตัวเองให้ออกห่างจากร่างสูงตรงหน้าเล็กน้อย

กลัว..กลัวเหลือเกินว่าคนตรงหน้าจะได้ยินเสียงหัวใจเขา

“อายาโตะ”

“คะ... ครับ”

“จะเป็นอะไรไหมถ้าฉันจะจูบเธอ”

“เอ๋

อายาโตะเงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกใจสีหน้าที่แสนจะเว้าวอนของคนร่างสูงทำให้คำพูดที่บอกออกมานั้นไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่นเป็นแน่ใบหน้าของอายาโตะแดงแล้วแดงอีกเด็กหนุ่มกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ริมฝีปากของเขาแห้งผากไปหมดยิ่งเห็นกระแสความต้องการที่ฝ่ายตรงข้าแสดงออกมาแล้วนั้น ยิ่งทำให้ปฏิเสธไม่ได้ใหญ่แต่ครั้นจะให้จูบไปเขาก็ไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นเสียหน่อยอายาโตะคิดหนักอย่างหาทางออกไม่ได้ผิดกับฝ่ายตรงข้ามที่ยืนอมยิ้มกับความเขินอายแล้วยิ่งทำให้ความต้องการของเขาประทุขึ้นมาเขาคงจะถือว่าความเงียบนี้เป็นการยินยอมของอีกฝ่ายแทนละกัน

“ถ้าเธอเงียบ ฉันจะถือว่าเธอตกลงแล้วนะ”

“เอ๋? ผมยัง..”

“ไม่รู้ล่ะ ต่อไปนี้เธอคือคนรักของฉัน ฉันต้องการเธอ อายาโตะ”

“ดะ... เดี๋ยว...”

ดีแลนไม่รอช้าโน้มหน้าลงจุมพิตที่ริมฝีปากของอายาโตะอย่างรวดเร็วดวงตาของเด็กหนุ่มเบิกกว้าง

จูบที่แสนจะอ่อนหวานดำเนินไปอย่างเชื่องช้า ก่อนจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่ออีกฝ่ายพยายามรุกรานเข้ามาภายใน โพรงปากของอายาโตะอย่างถือดีลิ้นของอีกฝ่ายดึงดันเข้าสัมผัสปลายลิ้นเล็กที่พยายามจะขยับหนีทำให้ดีแลนรู้สึกขัดใจกับการดิ้นรนของอีกฝ่ายเขาเอื้อมมือดันท้ายทอยอายาโตะไว้อย่างมั่นคง พร้อมกับบดจูบคนร่างเล็กอย่างช่ำชอง

“ฮื้อ...”

“อ้าปากสิ อายาโตะ” ดีแลนกระซิบแผ่วเบาขณะที่ยังคงวนเวียนสัมผัสใบหน้าละมุนด้วยความปรารถนา

“ฮื้อ ยะ-อย่าครับ...”

“ทำตามที่ฉันบอกสิ นะครับ” ไม่พูดเปล่าพลางซุกไซร้ซอกคอขาวผ่องอายาโตะรู้สึกสยิวและร้อนรุมไปทั่วทั้งร่าง โดยเฉพาะส่วนอ่อนไหวของตนเองดีแลนลูบไล้เรือนกายขาวผ่องของคนร่างเล็กก่อนที่นิ้วมือที่แสนจะช่ำชองจะกอบกุมส่วนอ่อนไหวที่สุดของอีกฝ่าย

“อ๊ะ... อื้ม... อย่า... ครับ”

อายาโตะพยายามหยุดการกระทำของเอิร์ลหนุ่มแต่ดูจะไม่เป็นผลเพราะอีกฝ่ายไม่ยอมให้ทำได้โดยง่ายร่างของอายาโตะถูกฉุดรั้งดันไปจนติดกับผนังห้องน้ำมือทั้งสองข้างที่พยายามจะหยุดการกระทำถูกรวบไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว

“ปากบอกว่าอย่าแต่ตรงนี้แข็งแล้วนะครับ”

“อะ... อะไร...”

“นี้ไงครับ”ดีแลนกอบกุมส่วนอ่อนไหวของอายาโตะอีกครั้ง ใบหน้าของอายาโตะขึ้นสีแดงเรื่อด้วยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพูดกับตนแบบนี้ดีแลนอมยิ้มก่อนลูบไล้เรือนร่างบางอีกครั้ง

“อย่า...”

“อย่าห้ามฉันเลยนะ อายาโตะ ฉันต้องการเธอ”

“ดะ... เดี๋ยว.... ”

ก่อนที่อายาโตะจะเอ่ยทักท้วงอะไรเอิร์ลหนุ่มก็จัดการปิดปากอุ่นสวยนั้นด้วยปากของตนเองพร้อมกับบดขยี้มันอย่างรุนแรงพลางคว้านหาความหอมหวานจากอุ้มปากน้อยเรียวลิ้นที่ชำแหละเข้ามาภายในโพร่งปากนั้นทำเอาสมองของอายาโตะคิดอะไรไม่ออก

“ฮื้อ... หวานมากเลยครับ อายาโตะ... เอาลิ้นออกมาสิครับ... นะครับ” ดีแลนเอ่ยเสียงพร่า

“ฮื้อ... อ๊ะ...”

อายาโตะทำตามคำเรียกร้องของอีกฝ่ายอย่างไร้เดียงสาอายาโตะเอาลิ้นออกมาจนดีแลนเกี่ยวกระหวัดลิ้นของอายาโตะพร้อมกับดูดดึงความหอมหวานนั้นอย่างไม่รู้เบื่อเสียงจ๊อกแจะที่ดังขึ้นในโพล่งปากนั้นฟังดูหยาบโลน แต่กับทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกนั้นทำเอาสมองของอายาโตะด้านชา

“ดีมากครับคนดี... อื้ม หวานหอมมาก” ดีแลนเอ่ยชมก่อนจะถอนปากตนเองออกและซุกไซร้ซอกคอพลางขบเม้มผิวสีมุกนั้นด้วยความกระหายเอิร์ลหนุ่มไล้ริมฝีปากจนกระทั้งถึงตุ่มไตน่าทานที่มีอยู่สองเม็ดประดับอยู่

เขาอดใจไม่ได้ที่จะครอบครองและบดขยี้มันจนคนร่างเล็กร้องออกมาด้วยความเสียวซ่านมือข้างหนึ่งกระตุ้นแกนกลางที่แสนจะอ่อนไหวของอีกฝ่ายอายาโตะมองการกระทำของเอิร์ลหนุ่มแต่ไม่ได้ห้ามปรามแบบครั้งแรกเพราะแค่พยายามสะกดกลั้นเสียงครางของตนเองก็แทบแย่แล้ว

ดีแลนเงยหน้าทั้งๆที่ปากยังคงโลมเลียยอดอกของอายาโตะอยู่พร้อมกับหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นว่าคนร่างเล็กกำลังพยายามสะกดกลั้นเสียงครางของตนเองอยู่

“จะส่งเสียงก็ได้นะ ฉันชอบเสียงของเธอ”

ดีแลนลูบไล้ส่วนอ่อนไหวเป็นการย้ำเตือนอายาโตะสะดุ้งจนเกือบจะหลุดเสียงครางออกมา เมื่อเห็นว่าร่างเล็กยังไม่ยอมส่งเสียงเอิร์ลหนุ่มจึงจัดการขยับมือขึ้นลงอย่างช้าๆ อายาโตะบิดกายไปมาอย่างเสียวซ่านใบหน้าของเด็กหนุ่มเหยเกราวกับได้รับความเจ็บปวดริมฝีปากเล็กนั้นพยายามปิดกั้นเสียงที่หลุดรอดออกมาเด็กหนุ่มยกมือขึ้นปิดริมฝีปากตนเองไม่ให้มันเล็ดรอดออกมา ดีแลนรั้งมือของอีกฝ่ายขึ้นเหนือศีรษะอีกครั้งหลังจากปล่อยให้เป็นอิสระชั่วครั้งชั่วคราวเขาอยากได้ยินเสียงหวานของฝ่ายตรงข้ามริมฝีปากหน้าขบเม้มใบหูของอายาโตะอย่างปลุกเร้าก่อนจะส่งเสียงแหบพร่าเร่งเร้าให้อีกฝ่ายส่งเสียงหวานให้เขาฟัง

“อ๊ะ... อ่ะ...”

“ยอมแพ้แล้วใช้ไหมครับ ที่รัก”

“มะ-ไม่ไหวแล้วครับ”อายาโตะกัดฟันสะกดกลั้นความอยากเอาไว้ แต่ดูจะไม่เป็นผล

“อะไรนะครับ” ดีแลนแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

“ระ-เร็ว... อึก... อีก...”

“ต้องพูดว่ายังไงครับ อายาโตะ”

“กะ-กรุณา... อ๊า... กรุณาช่วย... ด้วย... ครับ... อื้อ...”

“ดีมาก เด็กดีอย่างนี้ต้องให้รางวัล”ดีแลนขยับส่วนอ่อนไหวของอายาโตะอย่างรวดเร็ว

“อ๊ะ... อ๊า... อ่าห์...”

“ดีไหมครับอายาโตะ”

“ดะ-ดี... อื้อ...”

ดีแลนจัดการปิดปากอีกฝ่ายด้วยปากของตัวเองลิ้นของเขาสอดแทรกดูดดึงลิ้นของอายาโตะอย่างรวดเร็วดูเหมือนอายาโตะเองก็ยินยอมให้ทำเช่นนั้นด้วยการส่งลิ้นของตนเองเข้ามาในปากของเขาเช่นกันมือทั้งสองข้างคล้องเข้าที่ลำคอของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

“อื้อ... อ๊า... ดี... ดี...” ใบหน้าเงกเกกับเม็ดเหงื่อที่พุดออกมาตามไรผมนั้นทำเอาคนร่างสูงอดจุมพิตที่ขมับไม่ได้

“รู้สึกดีไหมครับ อายาโตะ...”

“ดี... อื้อ... รู้สึกดี... อ่าห์...”

อายาโตะปลดปล่อยทุกหยาดหยดลงบนมือของดีแลนพร้อมกับร่างที่หมดแรงและสลบไปจากกิจกรรมเข้าจังหวะที่เกิดขึ้นจนแทบจะกองลงไปกับพื้นถ้าไม่ได้ร่างสูงคอยประคองไว้เอิร์ลหนุ่มแทรกเข่าของตนเองรั้งร่างบางไม่ให้ลงไปกองกับพื้นพร้อมกับจุมพิตที่ริมฝีปากอีกครั้ง

ถึงแม้ว่าจะอยากจัดการอายาโตะมากเพียงใดแต่ก็ต้องอดทนไว้เพราะรู้ว่าคนร่างเล็กคงยังไม่พร้อมรับเขาเข้าไปในร่างเป็นแน่ดีแลนอมยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะช้อนร่างคนตัวเล็กขึ้นแนบอกเขาจุมพิตที่หน้าผากเปียกชื้นไปด้วยเหงื่ออย่างรักใคร่ ก่อนจะพาร่างของคนรักหมาดๆก้าวลงสู่บ่อน้ำร้อนอีกครั้งพร้อมกับร่างตัวของเขาเอง




Create Date : 11 ธันวาคม 2559
Last Update : 11 ธันวาคม 2559 17:21:07 น.
Counter : 384 Pageviews.

1 comments
  
สวัสดีนะจ้ะ แวะมาเยี่ยมนะจ้าาา sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4057910 วันที่: 23 สิงหาคม 2560 เวลา:18:19:04 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ไลแลต..
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






- นิยายที่ผ่านการตีพิมพ์ -









ธันวาคม 2559

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
  •  Bloggang.com