Napoleon iN spring!!! When I'm falling in LOVE ^___^
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
4 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
TMP 42

เช้าวันต่อมาไวเหมือนโกหก เสเส่โทรบอกชิแลมตั้งแต่เมื่อคืน อาฟารมก็โทรหาอาหมั่น ส่วนโยวโยว่ก็โทรบอกเควิน ว่าที่ลูกเขยบ้านฉินต่างทยอยกันมาบ้าน แต่ละคนแบกเอาหน้าตาหล่อเหลามาฝากพ่อตากันทั้งนั้น เควินดูเหมือนจะได้เปรียบเพราะเป็นลูกชายเพื่อนรักของพ่อ

“สวัสดีครับคุณลุง” ชายหนุ่มใส่แว่นกล่าวเสียงเรียบๆ เขาเอาของที่ซื้อมาให้ชายรุ่นเดียวกับบิดาเขาเอง

“ว่าไงสบายดีนะไม่เจอกันนานเลย เควินงานเป็นไงบ้าง”

“เรื่อยๆครับ เดือนหน้าผมก็จะขึ้นบอร์ดบริหารแล้ว นี้คงเป็นเพราะคุณลุงแท้ๆเลย จริงๆแล้วผมคิดว่า....” คนฟังยกมือห้าม

“เป็นความคิดของโจวเขาน่ะ ลุงเองก็ไม่เคยจะดูประวัติงานของพนักงานหรอกนะ แต่พอมาดูของเราแล้วมันก็เข้าท่าดี คุณแมกกี้เขาจะออกแล้วยังไงก็ถือว่าช่วยกันนะ” จากตำแหน่งรองผู้จัดการ บัดนี้เดือนหน้าด้วยร่มเกล้าพี่ชาย จะได้ขึ้นบอร์ดบริหารตำแหน่งพอๆกับรองประธานเลย ควบคุมฝ่ายกฏหมายทั้งหมด มันโก้ซะไม่มีใครจะหาว่าเกาะโยวโยว่กินก็ช่างเถอะเขาไม่สนอยู่แล้ว ในเมื่อท่านประธานจิ้งกล่าวเองเช่นนี้ก็โล่งใจเป็นที่สุด

“คุณพ่อคะเควินเนี๊ยเขาเป็นโรคขี้เกรงใจคนค่ะ เขาให้อะไรไม่มีเคยปฏิเสธเลยสักครั้งเดียว” โยวโยว่ยิ้มร่าพูดเล่นกัน

“มันก็ดีแต่ว่า ถ้ามีสาวๆมาก็ขอให้เห็นแก่หน้าลูกสาวลุงปฏิเสธไปหน่อยแล้วกันนะ” ชายหนุ่มพยักหน้า กลืนน้ำลายสองอึก โดนขู่ตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งงานกันเลยวุ๊ย

“คุณพ่อขู่หรือเปล่าคะเนี๊ย”

“พ่อเปล่านะก็แค่บอกๆไว้ ว่าแต่หาวันหมั้นกันได้หรือยัง อย่าช้านักนะปีนี้ปีดีซะด้วยพลาดไปน่าเสียดาย” ดูพ่อเถอะจะมาเร่งอะไรกับเธอเล่า โยวโย่วหน้าแดงช่าร้อนเหมือนกินมาม่าน้ำข้นเพิ่มพริกไปสองเม็ด

“ผมคิดว่าก็สักปลายปีครับ อากาศไม่ร้อนดีผมชอบหน้าหนาว หมั้นกันไว้ก่อนแล้วค่อยแต่งพร้อมกับพี่โจวก็ได้”

“อาโจวเขามีแฟนแล้วเหรอ”

“คุณพ่อไม่รู้อะไรคุณโจวน่ะเป็นกิ๊กกับเลขาพี่เส่ค่ะ” ได้ทีลูกสาวคนกลางฟ้องใหญ่เชียว

อาเส่รอชะเง้ออยู่หน้าบ้านเมื่อไหร่ชิแลมจะเดินเข้ามานะ ตะกี้ก็เห็นรถเข้ามาแล้วเห็นแต่อาหมั่นเดินเข้ามาคนเดียวได้ไง

“นี้อาหมั่นชิแลมล่ะ” หญิงสาวถามด้วยความร้อนใจนิดๆ

“จอดรถอยู่ไงคุณเสเส่ใจเย็นๆ”

“ถามดูเห็นไปนานจัง”

“แหม...ข้าวใหม่ปลามันไง มันเลยแบบว่าไปไหนสองสามวิก็เหมือนสองสามวันจริงมะ” ชายหนุ่มทำหน้าตากวนๆ หญิงสาวเบ้ปากให้เขา ทำเป็นมาแซวนายอาหมั่นบ้า..เขินนะยะ

“นั่นไงมาแล้วตายยากจริงๆเลย ไงผมเข้าไปทักทายท่านก่อนนะ” อาหมั่นช่างแสนรู้ดังกินเพ็ดดีกรีมา เขาเดินเข้าไปข้างในอย่างช้าๆมือนึงก็หอบเอาของที่ซื้อมาไปเคารพท่านด้วย

“อ้าวไม่เข้าไปข้างในเหรอ” หนุ่มแก้มบุ๋มกำลังจะถอดรองเท้าพร้อมทั้งถามเธอ

“ไม่ต้องถอดหรอกคุณบ้าเปล่า เข้ามาๆ” นี้นะคนรักกันเข้าทักกันแบบนี้เหรอไม่เคยเห็นจะได้ยินเลย คำหวานๆเลี่ยนๆนี้ไม่มีเลยใช่ไหม

ชิแลมเดินตามเสเส่เข้าไปในห้องอาหาร อาฟาร์มกับอาโยว่วันนี้ดูเหมือนจะเป็นแม่บ้านแม่เรือน ลงทุนตื่นตั้งแต่ตีสามมาหั่น สับ ซอยทำอาหารด้วยตัวเอง แม้รสชาติจะออกไดโนเสาร์อยากจะเบือนหน้าหนี แต่ด้วยฝีมือของแม่มามิกซ์ให้อะไรมันก็เข้าท่าไปหมด

เสเส่ยิ้มแฉ่งอายจริงๆเลย ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้กับเขา ท่านประธานจิ้งจ้องหน้าคนแก้มบุ๋มอยู่พักหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรได้แต่ยิ้มให้ เขาเองก็เช่นกันยิ้มตอบกลับคืน อย่าบอกนะว่าเขม่นกันไม่ได้นะพ่อตากับลูกเขย เสเส่แอบคิดในใจ

“สรุปว่าทุกคนนี้ทำงานที่ฉินเหมยหมดเลยใช่ไหม บังเอิญจริงๆนะ”ท่านประธานจิ้งหัวเราะแก้เขิน

“จะว่างั้นก็ได้ครับ” อาหมั่นเสนอหน้าตอบสักหน่อย

“อืมกินกันเถอะนะ ลงมือกันเลยวันนี้โยวโยว่และอาฟาร์มลงครัวเองเลย” ทุกครั้งมองหน้ากัน เอ..มันจะได้กินได้เหรอ แต่เมื่อคุณแม่ผู้เปรียบเสมือนฮีโร่ของลูกๆเป็นหน่วยกล้าตายชิมมาแล้ว รับรองความอร่อยก็หายห่วงกันเป็นแถว

“ได้ข่าวว่าคุณชิแลมจบมหาวิทยาลัยเดียวกับแฝดพี่แล้วได้เกียรตินิยมด้วย” ท่านประธานจิ้งไม่แน่ใจถามขึ้นอีกรอบ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นแล้วพยักหน้า

“ครับคุณแมรแมร์เธอเป็นรุ่นน้องผมหลายรุ่นอยู่เหมือนกันแต่ก็พอจะรู้จักเธอ เพราะเธอเป็นลูกสาวท่านประธานจิ้งนิครับ” เขากล่าว อาเส่ทำเป็นหูทวนลมหึงๆนะยะ

“จบเศรษฐศาสตร์มาหรือ” บิดาเริ่มตั้งคำถามทีละข้อ

“ผมจบรัฐศาสตร์เอกบริหารครับ จบโทITครับ” อาเส่ตั้งใจฟังไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี๊ย ยังไม่รู้เลยว่าเขามาทำงานที่ฉินเหมยได้ยังไงกัน จะว่าไปแล้วเธอไม่ค่อยรู้เรื่องของเขาเลยนะ เป็นคู่รักที่แย่มากๆ (พูดคำว่าคู่รักซะเต็มปาก)

“อ่อเก่งจริงนะแล้วคิดยังไงถึงมาทำงานที่ฉินเหมย มีใครแนะนำหรือว่า...”

“คุณเหลียวเป็นผู้จัดการฝ่ายอิเรคทอนิคเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของผมเองครับเขาชักชวนให้มาทำงานด้วย ตอนแรกผมก็สมัครเป็นพนักงานธรรมดา แต่ตอนนั้นคุณฟ่านขอลาออกตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ว่าง คุณโจวหม่าก็เรียกผมไปคุยเพราะผมเคยทำงานให้กับแบงค์HSBCพอคุยกันรู้เรื่อง ผมก็ตัดสินใจมาทำนี้แหละครับ” คนหนุ่มไฟแรงท่านประธานจิ้งยิ้มไม่หุบ ตอบคำถามฉะฉานใช้ได้

“ผมก็ดีใจนะที่คุณมาทำตำแหน่งในบอร์ดผู้บริหาร ตอนแรกก็เถียงกันอยู่ว่าจะเอาคนไม่มีประสบการณ์มาได้ไง แต่ผมรู้ว่าโจวหม่าคงมองคนไม่ผิด”

“ขอบคุณครับผมชอบงานบริหารมันเป็นอะไรที่ท้าทายดี” เขาตอบแบบเรียบๆ คนใส่แว่นแอบมองเขานิดนึงแต่ก็รีบหันไปทันทีเมื่อเขาหันมาที่เธอ

“คุณนิหน้าเหมือนเพื่อนผมคนหนึ่งเลยนะ”

“ท่านประธานจิ้งอย่าได้เรียกผมว่าคุณเลยครับ เรียกว่าชิแลมก็พอแล้ว”

“เอางั้นเหรอก็ได้งั้นก็เรียกผมว่าลุงก็ได้”

“ได้ครับ..คุณลุงจิ้ง ว่าแต่ผมหน้าเหมือนใครหรือครับ” อาเส่ยิ้มไม่หุบเข้าทางๆ กรี๊ดๆไม่มีการเขม่นกันดังที่เธอคิดไว้

“เพื่อนเก่าน่ะ แล้วพ่อแม่ครอบครัวล่ะไม่เห็นพูดถึงเลย”

“ผมอยู่กับแม่กับอาหมั่นครับ พ่อแม่ของอาหมั่นเคยช่วยพ่อผมตอนนั้นครอบครัวเราเลยสนิทกัน พอดีว่าพ่อแม่กับพี่สาวของอาหมั่นเสียเราเลยมารวมกันครับ แม่ผมก็อยู่บ้านเล่นไพ่นกกระจอกเฉยๆ เรามีร้านดอกไม้เล็กๆอยู่ใต้คอนโดที่ผมอยู่”

“แล้วพ่อล่ะ”

“พ่อผมเสียไปนานแล้วครับ”

“เอ่อเสียใจด้วยนะ”

“ไม่เป็นไรครับ ผมชินซะแล้ว”น้ำเสียงคำหน้าตาของเขาช่างเย็นชาซะเหลือเกิน คนฟังเองได้ฟังแล้วก็อึ้งนิดหน่อย ผู้ชายคนนี้เหมือนมีอะไรหน้าค้นหาอยู่มากเลยทีเดียว เขาเหมือนคนมีความทุกข์และมีความสุขในเวลาเดียวกัน ไม่มีใครเดาอารมณ์เขาออกได้เลย

“เสเส่กินเยอะๆนะ” ชิแลมเปลี่ยนเรื่องคุยแล้วตักอาหารให้คนข้างๆ ตายแล้วนึกว่าจะลืมฉันซะแล้วพ่อแก้มบุ๋ม

“กินเยอะไม่ได้เดี๋ยวอ้วน” เธอแหย่เขาเล่นๆ

“ปกติก็ไม่ได้ผอมนิหน่า คุณฟารมฟารมอุตส่าห์ทำ” ชายหนุ่มทำเสียงร่าเริงใส่ อาเส่พยักหน้ารับอาหารไป กินก็ได้เพราะเธอก็ช่วยทำเหมือนกันไม่กินได้ไง

“อืม..พ่อคะฉินเหมยจะมีวันหยุดประจำปี คือว่าหนูจะขออนุญาติพาน้องๆไปเที่ยวได้ไหมคะ”

“ก็ไปสิไปกันหลายๆคนสนุกดีออก”บิดาตอบ

“จริงเหรอคะพ่อ งั้นหนูขอไปด้วยนะจะไปลาโรงเรียน” อาฟาร์มแทรกขึ้นมา

“แล้วเราเป็นน้องพี่เส่เขาหรือเปล่าล่ะ ถ้าเป็นก็ไปกับพี่เขาสิมาถามพ่อทำไม” อ้าวโดนย้อนเลยวุ๊ย

“ดีดีดีครับ” อาหมั่นพูดแทรกขึ้นมาสั้นๆ เขาประหม่ามากวันนี้พูดอะไรไม่ออกเลย ท่านประธานจิ้งก็เล่นจ้องหน้าซะอย่างนั้น นึกว่าเขาไม่กลัวหรือ ฉี่แทบจะราดออกมาอยู่แล้ว แต่ก็ต้องกลั้นไว้ไม่งั้นเสียหน้าอันหล่อเหลาแย่เลย


หลังจากรับอาหารและช่วงสัมภาษณ์ของท่านประธานจิ้งแล้ว เขาก็ขอตัวขึ้นไปพักผ่อนเมื่อคืนแทบจะไม่ได้นอนเพราะคิดหนักเรื่องลูกสี่ไม่มองหน้า ขนาดวันนี้กินข้าวด้วยกันแท้ๆยังคุยกันสักคำก็ไม่มีเลย ลูกไม่เข้าพ่อเลย...

“พี่คุณเขาเป็นอะไรไปเหรอ” อาหมั่นเมื่อได้โอกาสอยู่กับอาฟาร์มสองคนก็ถามขึ้นมาอย่างแปลกใจปกติเธอจะชอบยิงมุกอันไฮโซใส่เขาเสมอ วันนี้หน้าหงิกยังกับกินเพ็ดดรีกีไม่พออย่างไงอย่างงั้น

“พี่แมร์เขาทะเลาะกับป๊านิดหน่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอกนายก็รู้นิพี่ฉันเป็นยังไงโกรธแป๊บเดียวนั่นแหละ เขาชอบเอาเหตุผลมาเหนือความรู้สึกเสมอ”น้องสาวเล่าหน้าเครียดเหมือนกัน

“อืม..ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละนิเป็นครั้งแรกนะที่ผมได้มาอยู่ต่อหน้าพ่อคุณ ต่อไปก็คงจะไม่ประหม่าแล้ว”

“วันนี้ฉันเห็นขาคุณสั่นซะ พ่อฉันไม่ใช่ผีนะยะถึงจะได้ต้องกลัวขนาดนั้น”

“ใครจะไปรู้เล่าคนมันกลัวนิหน่า เอาน่าผมจะพยายามไม่กลัว ดูพี่ชิแลมสิกลัวจนหน้าซีดตัวสั่นกว่าผมซะอีก”

“บ้าเขาไม่เห็นจะหน้าซีดตัวสั่นเลย ตอบคำถามพ่อฉะฉานขนาดนั้น”

“เหมือนเขาหงุดหงิดใครมานะ ปกติถ้าโกรธงอนใครก็เป็นแบบนี้แหละทำท่าแบบนั้นเลย”

“บ้าอีกแหละนายจะบอกว่าเขาโกรธใครล่ะ หน้าเขาออกจะยิ้มแย้มปานนั้น โด่ไม่รู้จริงว่ามั่วย่ะ”

“ผมก็ไม่รู้นะ เดี๋ยวก็ถึงครบรอบวันตายคุณลุงแล้ว ต่อมาก็เป็นพ่อแม่และพี่จิจิ้ผมอยากให้คุณไปด้วยนะ ไปคำนับพ่อแม่สามีในอนาคตไง” เขาหัวเราะ อาหมั่นจริงๆแล้วก็เป็นเก็บความรู้สึกได้ดีเหมือนกัน เขาอยากจะร้องไห้เวลาพูดถึงคนสามคนที่เขารักมากในชิวิต แต่เขาก็พูดให้มันเป็นเรื่องน่าขำได้

“ใครบอกฉันจะแต่งกับนาย”

“คุณบอกผมเองนะ อาฟาร์มอย่าเล่นตัวนักเลย ได้ผมเนี๊ยบุญถือว่าทำกรรมดีมาเยอะนะรู้ไหม” เขาพูดติดตลก

“เชอะทำบาปมาเยอะสิไม่ว่า”

“ผู้ชายก็มีสองแบบ อย่างแรกรวยแต่ไม่หล่อ อย่างที่สองก็หล่อแต่ไม่รวย ของผมนิมีเป็นพันธ์ใหม่ไม่รวยแถมไม่หล่อแต่ขยัน ซื่อสัตย์ มีวินัย ใฝ่ความรู้ สู้งานนะ” ตายแล้วท่องมาเป็นคำขวัญคนอะไรมุขเยอะซะจริงๆพ่อคุณมหาเฮีย

“ฉันชอบแบบซื่อบื้อๆ”

“ผมนิไงซื่อไม่พอเหรอ ซื่อนะแต่ไม่บื้อบางอย่างมันยอมกันได้ก็ต้องยอมนั่นแหละ จริงมะชีวิตมันไม่สำเร็จรูปเหมือนเกี๊ยวน้ำใส” เกี๊ยวน้ำใสพูดได้มาได้ไงยะเคยได้ยินแต่บะหมี่ อุตส่าห์ทำอารมณ์อิโรติกเคลิ้มตามเชียวนะ

“ความรักในหัวนายมันเหมือนอะไรเหรอ”

“ความรักเหรอรักของผมเหมือนรองเท้าไปกันเป็นคู่ มากันเป็นคู่ ไม่สามารถเดินข้างหน้าไปข้างเดียวได้ คู่กันตลอดเวลา” ดูเปรียบเข้าสิแต่ก็เข้าท่าดีนะ อาฟาร์มย่นจมูกหมั่นไส้คนพูดยิ่งนัก แต่ก็ประทับใจเลยล่ะ

“ตอนนี้ผมก็เหมือนรองเท้าข้างเดียว ถ้าได้ข้างหนึ่งอย่างคุณมาข้างๆมันก็จะดีเลยล่ะ”

“ได้เอาไปเลย แชแนลเลยนะยะเนี๊ย ว่าแต่เอาข้างในดี” อาฟาร์มถอดรองเท้าออกมาให้อาหมั่น ชายหนุ่มขำแทบจะตกเก้าอี้ไม่ได้แบบนั่นแฝดต๊องเอ๊ยคนกำลังจะทำโรแมนติกนะ เขาหัวเราะคิดเล่นๆในใจว่าเอาวะทางข้างหน้าจะเป็นยังไงก็ช่างเถอะ วันนี้ได้มีความสุขฮาหัวเราะตับแข็งก็พอใจโดยที่สุดแล้ว นี้แหละชิวิตลูกผู้ชายหัวใจลูกทุ่ง......

................................................................................


“อะไรนะครับแม่อาแต๋มกำลังเมามาก” เสียงเควินดังทำให้โยวโยว่และแมรแมร์หันหน้าไปทางเขาพร้อมกัน

ได้ยินชื่อนี้แล้วหัวใจมันสั่นแปลกๆ โยวโยว่ไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าทำเป็นอ่านหนังสือ ถึงหน้าตาจะไม่บอกว่าอยากรู้แต่ใจนั้นมันเต้นตุ๊บๆ อยากรู้ใจแทบขาดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเควินทำท่าอย่างนั้น

“ครับแม่ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ” เขาพูดพร้อมลุกขึ้น

“แต๋มเมามาก เพื่อนแม่เขาโทรบอกแม่น่ะ เธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว........” เขาพยายามจะพูดให้เหมือนปกติแต่อีกคนหน้าออกไปอิรักซะแล้ว

“อืมไปเถอะไม่เป็นไรหรอกนะ” โยวโยว่กลั้นใจยิ้มให้ เขาถอนหายใจเหมือนๆจะรู้ว่าเธออาจจะไม่พอใจก็ได้

“ไม่หรอกไปด้วยกันนะ” เขามองหน้าอีกคน พยายามจะสบตาตาเธอให้ได้

“ไปด้วยทำไมเหรอ คุณไปคนเดียวก็ได้มั๊ง”

“ผมไปคนเดียวได้ไงล่ะ แต๋มเขาตัวใหญ่คนเดียวคงไม่ไหวหรอก แม่ผมก็แก่แล้วนะ” เขายิ้ม

“แต่ว่า........”

“ผมบริสุทธิ์ใจนะเราเป็นอะไรกันใครๆก็รู้ ไปเถอะน่าเดี๋ยวกลับมาส่งนะ” ไม่มีลีลาจะได้เล่นชายหนุ่มก็ดึงมือหญิงสาวไปด้วย อาแมร์นั่งยิ้มอยู่ในใจ แหม..อะไรจะหวีดหวานแหววดังบัวลอยไข่เค็มได้เช่นนี้ แต่ก็ดีนะเควินเขาเป็นคนเปิดเผยดี แฟนเก่าก็แฟนเก่าสิทำไมต้องกวนใจกันไม่จบไม่สิ้นนะ โยวโยว่โชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้คนอย่างเขามาเป็นคู่ใจ...ชิอิจฉาวุ๊ย T^T



เควินอย่างเร็ว ไม่นานก็ถึงผับพอเข้าไปเห็นหญิงสาวเต้นอยู่บนโต๊ะหัวใจเขาก็แทบหล่นไปที่ตาตุ่ม แม่เจ้าโว๊ยนั่นคุณหนูแต๋มซี่เหรอนั่นทำไมถึงได้เมาไม่รู้เรื่องอย่างนี้ ชายหนุ่มเดินเข้าไปอุ้มเธอลงมาจากโต๊ะ

“กลับบ้านกันเถอะนะ”

“ฉันไม่กลับทำไม....ฉันจะดื่มคุณมาทำไม คิดถึงฉันหรอยังไงหือฉันบอกแล้วว่าคุณน่ะไม่มีทางหนีฉันพ้นหรอก”

“ที่จริงผมก็ไม่ได้อยากมาหรอกนะ พอดีว่าแม่ผมสั่งมายังไงเราก็คนเคยรู้จักกัน แล้วผู้หญิงดีๆที่ไหนเขามาเต้นๆล่อผู้ชายอย่างนี้ ดูแต่งตัวสิดูได้ที่ไหนล่ะ” เขาสั่งสอนเป็นชุดๆ แต่ดูเหมือนว่าคนฟังจะไม่กระทบกระเทือนเลยแม้แต่น้อย เธอยังยิ้มอย่างได้ใจ

“ไม่ต้องมาพูดดีหรอกนะ พูดมาคำเดียวว่าคิดถึงฉัน”

“กลับบ้านกันเถอะ”

“ฉันไม่กลับ”

“ไม่กลับก็ต้องกลับ” คนใส่แว่นอุ้มเธอออกมาอย่างทุลักทุเล พอถึงรถโยวโยว่ก็รีบเข้าไปประครองช่วย เธอมองหน้าคนรักอย่างหนักใจ

“คุณแต๋มคงเมามากนะ”

“อืม...ไม่เห็นเคยดื่มขนาดนี้เลย”

“แล้วเราจะไปที่ไหนกันเหรอเควิน” อีกฝ่ายถามขึ้น

“ก็ไปบ้านผมสิ เธอเปลี่ยนคอนโดใหม่ผมไม่รู้ว่าอยู่ไหน ไม่คิดจะรู้ด้วยไงก็ไปบ้านผมก่อนนะ แม่ก็อยู่ที่นั้นคนบางคนจะได้สบายใจ” ชายหนุ่มพูดพร้อมอมยิ้มหน่อยๆ อีกคนมองเขาตาขวาง อะไรเธอเปล่าหึงนะแคอยากรู้เฉยๆ

“ฉันเปล่าหึงนะ”

“ผมก็ยังไม่ได้ว่าอะไร”

“แล้วมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นทำไมเล่า” เธอตบเขาที่แขนเบาๆ

“ก็แค่อยากรู้ผู้หญิงน่ะสวยตอนที่หึงที่สุดเลยนะรู้ไหม” บ้า...เวลาหน้าสิ่วหน้าหมาเช่นนี้ยังมีเวลามาเป็นหมาหยอกงู โยวโยว่ยิ้มแล้วขึ้นรถไป

ถึงแม้ว่าทางข้างหน้ามันจะลำบาก แต่ถ้ามีเขาอยู่ข้างๆเธอก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เรื่องแฟนเก่าของเขา ทำไมเธอจะต้องสนใจด้วยล่ะ ในเมื่อมันเป็นอดีตมาแล้ว พรุ่งนี้คืออนาคตเธอจะต้องคิดถึงแต่อนาคตเท่านั้น เขาเคยรักกันมากยังไงก็ไม่ต้องแคร์ เพราะวันนี้เขาอยู่ข้างๆเธอไม่ได้อยู่ข้างคนที่นอนอยู่หลังรถสักหน่อย...เอาล่ะวะโยวโยว่ขอสู้ตาย!


เสเส่พาชิแลมเดินเที่ยวรอบบ้าน พอได้ยินเสียงเปียโนสองคนก็เดินเข้าห้องนั่งเล่น แฝดพี่กำลังเล่นเปียโนส่วนแฝดน้องยืนอยู่ข้างๆเล่นฟรุ๊ตไปพร้อมกัน อาหมั่นนั่งกินขนมฟังเพลงเพราะๆพร้อมทั้งดูหนังไปในตัว (มีความสามารถเยอะ สามารถทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน)

“อ้าวพี่ชิแลม คุณเสเส่มาๆนั่งครับไม่ต้องเกรงใจ” อ่อ...นี้มันบ้านฉันไม่ใช่หรือยะนายอาหมั่น เสเส่คิดในใจ

“เพลง so much in love เพราะดีนะคุณชอบหรือเปล่า” ชิแลมก้มหน้าไปถามหญิงสาวที่นั่งลงกินขนม

“ชอบสิ”อาเส่ยิ้มให้เขา อยากจะสบตาเขานานๆจะได้สปราค์กันเร็วๆโหะๆ

“ผมก็เล่นเปียโนได้นะ”

“จริงเหรอ ว๊าวไม่นึกเลยนะว่าคุณจะเล่นเป็น”

“แน่สิผมเป็นประธานชมรมดนตรีที่มหาลัยด้วยนะ ผมเคยไปดูน้องสาวคุณเล่นเปียโนด้วยนะ” คนใส่แว่นได้ยินพอเพลงจบก็รีบหันมามองหน้าเขา

“คะ....อาฟาร์มเขาเป็นแชมป์เปียโนนิคะ น้องเล่นแล้วพี่ไม่เล่นก็ยังไงอยู่ แต่ฝีมือยังคนละขั้น” พี่สาวชมคนข้างๆ อาฟาร์มหน้าเป็นกระด้งนานๆจะได้คำชมจากแฝดพี่

“ก็ดีครับ ว่าแต่ไม่เล่นต่อแล้วเหรอครับ”

“เอาเพลงอะไรดีละคะ เพลงสำหรับคนอย่างคุณชิแลมนี้คิดไม่ออกเลยว่าชอบเพลงแนวไหน” คนใส่แว่นยิ้มๆ

“เอาเพลงอะไรก็ได้ครับ”

“งั้นก็เอาเพลง women in love แล้วกันง่ายดีเนอะ” คนพูดหันหน้าไปเล่นต่อ อาเส่ก็เคลิ้มทำหน้าซึ้งเชียว เฮ้อ...มีความสุขแบบแปลกๆแต่ดูหน้าชิแลมสิ ถึงเขาจะยิ้มก็เหมือนไม่ยิ้มมีอะไรข้างใจหรือเปล่า ไม่ยอมบอกกันเลยคนใจร้าย ปากก็บอกว่าอยากได้เราแต่ใจนั่นน่ะคิดอะไรอยู่หรือเปล่า น่ากลัวเดาอยากจริงๆคนแบบนี้

เวลาล่วงมากระทั่งดึกแล้ว ชิแลมและอาหมั่นขอตัวกลับก่อน ลมเย็นโชยพัดผ่านตัวเบาๆให้ใจหวิวเล่นๆ เสเส่เดินไปส่งชายหนุ่มทั้งสองคน เวลาคนมีความสุขนี้มันผ่านไปเร็วจริงๆเลย แต่เวลาคนเรามีความสุขหนึ่งนาทีก็เหมือนกับหนึ่งปีแปลกจริงเชียว

“วันนี้สนุกมากนะ ฝากขอบคุณคุณพ่อคุณด้วยแล้วกันนะ” คนแก้มบุ๋มเงยหน้าขึ้นมาบอกเธอเป็นการบอกลา

“ได้เลยฉันจะบอกให้นะ”

“ดีงั้นผมกลับแล้วนะ ฝันดีนะ” ชิแลมก้มลงจุ๊บแก้มเสเส่ครั้งหนึ่ง เขาไม่สนใจใครที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยหรอก เสเส่หน้าแดงกร่ำเข้าใจอยู่หรอกว่าเขาหัวฝรั่งแต่ว่ามาทำกันแบบนี้มันก็...เขินนะยะ ตายจริงแล้วจะกล้ามองหน้าน้องๆได้ยังไง


รถแล่นไปแล้วแต่อีกคนยังไม่หุบยิ้ม สร้างความปั่นป่วนในท้องให้แฝดเป็นอย่างมาก แฝดพี่และแฝดน้องมองหน้ากัน สองคนได้แต่ถอนหายใจ ไม่น่ามาเห็นสภาพของเส่เจ๊แบบนี้เลย รับไม่ได้ยิ้มกระล่องกระแล่งนึกว่าเป็นเด็กสิบห้าสิบหกหรือยังไงกันนะ สองคนเดินเข้าไปข้างไหนทิ้งให้เสเส่ยืนยิ้มโดนยุงกัดอยู่คนเดียว...หายใจเข้าก็เฮ้อ..เธอ
..........................................................



หลังจากเควินแบกกระสอบทรายอาแต๋มขาโก๋มาถึงบ้านแล้ว มารดาและแฟนสาวก็ช่วยกันเปลี่ยนชุดให้อีกคน โยวโยว่เองก็ไม่ได้อยากจะช่วยเท่าไหร่หรอก แต่มันก็ต้องทำเพราะสถาณการณ์มันบังคับดูเหมือนว่าคุณแม่ของเควินจะสนิทกับแฟนเก่าลูกชายไม่น้อย

“เอาน้ำอุ่นๆมาสิลูก” ผู้เป็นแม่บอกลูกชาย อีกคนเริ่มวิ่งไปเอาน้ำจากกาทันที

“เมามากเลยนะเนี๊ย โธ่..ไม่น่าเลยอาแต๋ม”

“แม่ครับเธอก็เป็นแบบนี้แหละครับ ผมเองก็ห้ามไม่ได้” คนใส่แว่นบอก

“ที่จริงแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องของเราใช่ไหมที่จะต้องมาดูแลเขา แต่แม่ก็อดไม่ได้คนเราเคยเห็นๆกันอยู่” มารดาเหมือนๆจะเข้าใจว่าที่ลูกสะใภ้ที่นั่งอยู่ข้างๆ ดูเธอไม่ร่าเริงเอาซะเลย

“แม่ครับยังไงเขาก็ยังเป็นเพื่อนผมอยู่”

“มันก็จริง”

“โยวโยว่อยากกลับบ้านหรือยัง เดี๋ยวผมจะไปส่งนะ” คนฟังสะดุ้งนี้จะไล่เธอกลับบ้านแล้วเหรอ เธอยังไงก็ได้อยู่แล้ว อยากให้กลับก็กลับอยู่ไปมันก็ไม่ได้มีความหมายอะไร อยู่ไม่อยู่ก็มีค่าเท่ากันนั่นแหละ แต่ไปก็ดีกว่าจะมาเห็นภาพบาดตาบาดใจเช่นนี้

“ไม่ต้องหรอกนะ เดี๋ยวฉันกลับTaxiได้คุณดูแลคุณแต๋มเถอะ” หญิงสาวกล่าวแล้วยิ้ม แต่คนฟังรู้แน่ๆว่าเธอกำลังน้อยใจ

“งั้นก็ไม่ต้องกลับหรอก นอนด้วยกันนี้แหละ” หือเขาว่าอะไรนะ นอนที่บ้านเขางั้นเหรอ ไม่ได้หรอกใครรู้เข้าน่าเกลียดตายเชียว

“ดีเหมือนกันนะ นอนด้วยกันที่นี้แหละนี้ก็ดึกมากแล้ว เควินสายตาสั้นขับรถตอนกลางคืนน้าเป็นห่วงเขา” ดูแม่สิเป็นใจให้เหลือเกิน โยวโยว่พูดไม่ออกไม่รู้จะตอบยังไงดี

“คือว่า”

“เสื้อผ้าน้ามีเยอะนะแบบวัยซะรุ่นก็มี เดี๋ยวโทรไปบอกที่บ้านให้นะ”


มัดมือชกสองแม่ลูกนี้ช่างร้ายกาจเหมือนปิศาจมะขาม โยวโยว่ยิ้มพยักหน้า เอาวะให้อยู่ก็อยู่ไม่ได้มีอะไรเสียหายหรอก แม่เขาก็ยังอยู่ที่สำคัญเธอก็สบายใจไปกว่าครึ่งด้วย ไม่ต้องมัวกังวลเรื่องต๋อมแต๋มขี้เมา คอยดูเถอะตื่นขึ้นมาจะต้องเล่นเกมส์จิตวิทยาด้วยสักหน่อยแล้ว
.......................................................


อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบินออกหากินร่าเริงแจ่มใส..... ต๋อมแต๋มขาจรตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวตึ๊บๆ หญิงสาวกุมหน้าผากไว้แล้วเดินออกมา ที่นี้ที่ไหนที่นี้ที่ไหนหา...ทำไมไม่คุ้นเอาซะเลย บ้านกว้างสะอาดปราศจากมลพิษกระดาษ

“ตื่นแล้วเหรอจ๊ะอาแต๋ม มาๆกินโจ๊กก่อน” หญิงสาวหันไปตามคำเรียก มีอันตั้งอึ้งไป2.5วินาที นั่นเป็นพระมารดาของเควินนี้

“คุณป้าคะ...นี้...”

“เมามากล่ะสิจำอะไรไม่ได้เลย เมื่อคืนเพื่อนป้าเจอหนูที่ผับเข้าน่ะจ๊ะ ป้าเลยโทรเรียกเควินไปรับหนูมา รู้ไหมว่าไปทีแบบนั้นคนเดียวแล้วเมามันอันตราย” โดนคำสั่งสอนดังเจ้าแม่หัวซานมาเอง คนฟังได้แต่ยิ้มเห่ยๆ

“เควินไปรับหนูมาหรือคะ” เธอเบิกตากว้าง

“ใช่จ๊ะ”

“คุณป้าคะ หนูขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมานะคะ หนูรู้ว่าหนูไม่ดีคุณป้าให้โอกาสหนูสักครั้งได้ไหมคะ” ต๋อมแต๋มขาใหญ่จับมือหญิงอายุราวแม่ไว้ หญิงสาวเบ่งน้ำตาออกมาคล้ายทำคลอดกว่าน้ำตาแต่ละหยดมันจะออกมาได้ยากลำบากเหลือเกิน แต่drama queen อย่างเธอมีหรือจะทำไม่ได้ ให้จิจิ้ หลี่มาเองก็ต้องหลบให้

“อาแต๋มจ๊ะ ป้าน่ะไม่เคยโกรธหนูหรอกนะ รักกันเอ็นดูยังไงก็อย่างนั้น แต่เควินป้าก็คิดว่าหนูกับเขาก็เป็นเพื่อนกันได้ เควินเขามีโยวโยว่แล้วนะจ๊ะหนูน่าจะรู้ข้อนี้ แก้วที่มันแตกมันต่อกลับไม่ได้หรอกนะ ถึงจะหลอมแล้วมาทำใหม่รูปทรงมันก็ไม่เหมือนเดิม หวังว่าหนูจะเข้าใจที่ป้าพูดนะจ๊ะ” คำพูด่อนหวานแต่แฝงไปด้วยมีดโกนมันช่างทิ่มแทงหัวใจคนฟังยิ่งนัก

“แต่คุณป้าคะ เควินเขารักโยวโยว่จริงหรือคะ ไม่ใช่ว่าสถาณการณ์บังคับหรือคะ คนบ้านฉินใหญ่แค่ไหนใครๆก็รู้....”

“ใครจะบังคับใจคนได้ละจ๊ะ ไม่มีหรอกนะป้ารู้จักลูกชายดี ถ้าเขาอยากได้ชื่อเสียงเงินทอง เขากลับไปอยู่บ้านพ่อเขาก็ได้แล้ว ไม่เห็นต้องไปพึ่งใบบุญใครเลย” มันก็จริงนะ

“แล้วเขาไปรับหนูมาทำไมละคะ แสดงว่าเขาก็ยังอินเลิฟกับหนูอยู่แน่ๆเลย เขาดูแลเขายังดีกับหนูเหมือนกัน ถ้าไม่มียัยนั่นเขาก็คงไม่เป็นอย่างนี้” จากคำพูดอ่อนหวานก็เริ่มเป็นพาล อีกคนได้แต่ถอนหายใจไม่รู้จะพูดยังไงดี

“ผมไปรับคุณก็เพราะคิดว่าเราเป็นเพื่อนกันน่ะสิ” เควินเดินเข้ามาพร้อมโยวโยว่ อาแต๋มเมื่อเห็นโยวโยว่ก็ขึงตาใส่หญิงสาวเธอไม่พอใจสุดๆที่เห็นเขาเดินมาด้วยกัน

“ทำไม.....คุณบอกมาสิว่าคุณรักฉันอยู่ ฉันรู้นะว่าพวกคุณแกล้งเป็นแฟนกันใช่ไหมล่ะ” ชายหนุ่มกลืนน้ำลาย เขาจะตอบว่าจริงมันก็ไม่ผิดอะไร เพราะเป็นเรื่องจริง

“แกล้งไม่แกล้งพวกเราก็กำลังจะแต่งงานกันแล้วล่ะ คุณเลิกโวยวายเลิกทำตัวแบบนี้ทีเถอะ ผมขอร้องนะ”

“ที่ฉันทำไปก็เพราะรักคุณนะ ฉันยอมคบกับพวกไฮโซตอนนั้นก็เพราะฉันรักคุณ อยากให้เขาช่วยเขาทางอ้อมด้วย คุณคิดหรือว่าคุณจะได้ทุนงี่เง่าพวกนั้นจริงๆ คิดเหรอว่าตอนไปทำงานพิเศษเขาจะรับคุณ”

“คุณไม่ต้องพูดหรอกนะ คิดเหรอว่าถ้าไม่มีคุณผมจะเรียนไม่จบ เปล่าเลยผมทำได้ด้วยตัวของผมเอง คุณเป็นคนเลือกจะไปเอง ก็ขอให้ไปเถอะผมไม่โกรธคุณเลยแม้แต่นิดเดียว แต่อย่าเอาเหตุผลงี่เง้ามาอ้าง”

“คุณว่าฉันงี่เง่าเหรอ ที่ต้องเลิกกันจริงๆก็เพราะคุณนั่นแหละงี่เง้า คุณไม่เคยเอาใจฉันสนใจแต่เรื่องอื่น แต่เควินให้โอกาสฉันเถอะนะเรามาเริ่มกันใหม่อีกครั้งนะ คุณยังรักฉันอยู่ใช่ไหม” ขนาดต่อหน้าโยวโยว่ยังกล้าใช้คำพูดแบบนี้

“แม่ครับ แม่เข้าไปก่อนได้ไหมครับ” มารดาพยักหน้าทำตามคำขอลูกชาย โยวโยว่กำลังจะเดินไปด้วย

“คุณไม่ต้องไปหรอก เราสองคนเป็นคู่รักกันไม่ใช่เหรอ นั่งด้วยกันอยู่นี้แหละ” คำพูดของชายหนุ่มเล่นเอาอีกฝ่ายหน้าแดง

“เพราะหล่อนใช่ไหมคุณถึงกลับมาหาฉันไม่ได้”

“ไม่ใช่เพราะเธอหรอกนะ มันเพราะตัวคุณเองต่างหาก ผมว่าเราน่าจะคุยกันดีๆนะ คุณรู้ไหมว่าตั้งแต่คุณทิ้งผมไปผมนอนไม่หลับต้องใช้ยา ผมร้องไห้ฟูมฟายแทบจะบ้า ไปขอร้องคุณกี่ครั้งคุณก็ไม่มา ยิ่งผมรู้ว่าคุณได้มาทำงานที่เดียวกันก็ยิ่งจะบ้าเข้าไปใหญ่

แต่วันนั้นวันที่ผมล้ม คุณอยู่ไหนล่ะวินาทีแต่ละวินาทีมันผ่านไปช้าๆ ผมต้องทนเหงาโดดเดี่ยว เจ็บปวดไปทั้งใจ จนกระทั่งผมพบคนๆนี้ ผมถึงรู้สึกว่าผมสามารถยืนได้อีกครั้ง แล้วผมผิดหรือเปล่าที่ผมจะเลือกทางเดินของผมเอง ผมเคยรักคุณรักมากด้วยแต่ตอนนี้มันก็แค่ความรู้สึกดีๆระหว่างเรา ผมมีเขา โยวโยว่ไม่เคยทำผมคิดมาอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขมาก ต่อให้คุณร้องไห้ฟูมฟายหรือจะฆ่าตัวตายผมก็ไม่มีทางเปลี่ยนไปจากเธอหรอก

อดีตก็ขอให้เป็นอดีตไปปัจจุบันผมอยู่ตรงนี้มีคนนี้ เราก็เป็นเพื่อนกันได้ที่พูดมาทั้งหมดหวังว่าคุณจะเข้าใจนะ” เควินถอนหายใจพูดยาวๆให้เข้าใจกันไปวันนี้ แล้วจูงมือโยวโยว่ออกมาจากโซฟา

“เควิน”ต๋อมแต๋มเรียกชื่อเขาเบาๆ

“อะไรเหรอ” ชายหนุ่มหันกลับมา

“เสื้อผ้าฉันอยู่ไหน ขอคืนด้วย”

คนนั่งบนโซฟาก้มหน้าถามเขา ชายหนุ่มถอนหายใจชี้เข้าไปที่ห้อง เธอลุกขึ้นไปทันทีโดยที่ไม่พูดอะไร ไม่ถึงสองนาทีเร็วยังกับยานองค์การนาซ่าคนหน้าบึ้งก็เดินออกมา ก่อนที่เธอจะไปหญิงสาวก็ได้หยุดต่อหน้าชายหนุ่มหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้วยกัน

“ฉันเข้าใจแล้วล่ะ โชคดีนะ”

คนพูดกล่าวอย่างเร็วแล้วเดินออกไปอย่างเร็วเช่นกัน เควินถอนหายใจอีกครั้งพร้อมรอยยิ้ม เขาจับมือคนข้างๆไว้แน่น อุปสรรคแค่นี้มันยังคือว่ากระจอกขี้ประติ๋วมากๆเลย โยวโยว่ยิ้มเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา สองคนยิ้มให้กันและกันเป็นเหมือนคำสัญญามิว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปไม่ก็ไม่สามารถจะมาทลายกำแพงใจของสองคนได้....เชอะไม่มีทาง
.................................................................









Create Date : 04 ตุลาคม 2550
Last Update : 4 ตุลาคม 2550 17:20:00 น. 8 comments
Counter : 767 Pageviews.

 
โถ อาหมั่น กลัวว่าที่พ่อตาถึงขนาดจะฉี่ราด น่ารักเจงๆ
นึกว่าพ่อแก้มบุ๋มจะเดี่ยวเปียโนให้สาวๆ ฟังซะอีกอ่ะ เสียดายๆ แก้มบุ๋มเล่นเป็นนะนั่นเปียโนน่ะ 555

ขำเสเส่น้ำลายจะหก เฮ้อ...สุขหนอมันแสนสั้น เค้าเมฆหมอกใหญ่กำลังเคลื่อนเข้ามา อยากสงสารแต่ก็นะ ขอแก้แค้นกลับมั่งละเนาะ

ไปดูตอนต่อดีก่า ฟิ้ววววววว


โดย: หลินกุ IP: 125.27.217.100 วันที่: 4 ตุลาคม 2550 เวลา:21:54:57 น.  

 
มาถึงตอนนี้ เรื่องยิ่งดูเหมือนจะวุ่นเข้าไปใหญ่

เหมือนมีเมฆหมอกมาตั้งเค้ายังไงก็ไม่รู้...

จะเกิดพายุ ฝนจะตกหนักมั๊ยน้า...

ไปอ่านตอนต่อไปดีกว่า ลุ้นๆ เสียวจะแย่แล้ว กลัวๆ


โดย: Khaopun IP: 125.25.77.169 วันที่: 4 ตุลาคม 2550 เวลา:22:31:48 น.  

 
ในละครไม่ได้เล่นเปียโน แก้มบุ๋มขอเล่นหลังฉากละกัน ให้เสเส่ฟังคนเดียวนะคับ


โดย: หลินกุ IP: 125.27.217.100 วันที่: 4 ตุลาคม 2550 เวลา:22:59:53 น.  

 
แมร์เรื่องเริ่มเข้าเค้า อะแต่พี่ชอบอ่ะ พี่แอบซาดิตส์เล็กๆ มันต้องมีเมฆหมอกอุปสรรค มากั้นขวางค่ะ เวลาความสุขมาถึงเมื่อไหร่เราจะรับรู้ว่าความสุขมันเป็นยังไงจริงๆฟ้าหลังฝนงดงามเสมอ สำนวนแก๊งฟิคเอเลี่ยน


โดย: มิโดริ IP: 124.120.202.35 วันที่: 6 ตุลาคม 2550 เวลา:13:15:33 น.  

 
ทะเลกลับมาแล้วค่ะ

คุณต๋อมแต๋มค่ะ เมาครั้งหน้า รับรองคุณจะตื่นขึ้นมาจะไม่ใช่บ้านที่แสนอบอุ่น แต่จะเป็นพื้นน้ำทะเล คุณจะถูกปล่อยอยู่บนแพ


โดย: ปิงทะเล IP: 203.146.147.29 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:11:31 น.  

 


ต๋อมแต๋ม เราก็แค่เพื่อนกัน ยังไงก็ รับไมตรีขอฉันไว้สะ โดยภาพเรานี้ เราให้ต๋อมแต๋ม เก็บไว้ละ


โดย: ปิงทะเล IP: 203.146.147.29 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:18:45 น.  

 
เฮ๊ยทำไมรู้สึกตัวเองซวยไม่รู้ตัวหล่ะเนี้ย ต๋อมแต๋มในฟิคกะตัวจริงไม่เหมือนกันนะคะ ตัวจริงน่ารัก เรียบร้อย ไม่ดื่ม (โหไม่ค่อย...) พี่เควินจะรับพิจารณาไหมหนอ (รู้สึกได้ถึงกลิ่นไอการฆ่ายังไงไม่รู้)


โดย: tomtam IP: 124.122.212.43 วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:22:21:52 น.  

 
คุณขนมต๋อมแต๋มทายาท100ล้านออกจากบ้าน ใครพบเหนแจ้งด้วย มีรางวัล


โดย: ขุนพล IP: 49.230.101.197 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:17:47:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Napoleonquz
Location :
เวสเทินเจ้าค่ะ Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






ลิขสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อกแห่งนี้เป็นของผู้เขียนตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ ก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน
Friends' blogs
[Add Napoleonquz's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.