|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ช๊อควงการฟุตบอล ปลดสปาร์กกี้ ตั้งลูกครึ่งไทย-อังกฤษขึ้นเป็นผู้จัดการเรือใบสีฟ้าแล้ว
เรือใบสีฟ้าทำช๊อค จ้างโค้ชลูกครึ่งไทยอังกฤษคุมสโมสรฯ
ข่าวด่วนจากหนังสือพิมพ์เดอะซัน แทบลอยด์ชื่อดังของอังกฤษ ลงข่าวด่วนหลังจากที่ชี๊คมาชูร์ อภิมหาเศรษฐีชาวยูเออี เทคโอเวอร์สโมสรเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ จากนายทักษิณ ชินฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน จนมีข่าวลือสะพัดถึงการจะนำผู้จัดการทีมที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาคุมทีมแทนที่ มาร์ค ฮิวจส์ ที่เพิ่งเข้ามาคุมทีมแทนที่ของสเวน โกรัน อิริคสัน แต่ผลกลับกลายเป็นว่า แมนฯซิตี้โดยชี๊คมาร์ชู กลับเซ็นสัญญากับหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษ เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ต่อจากมาร์ค ฮิวจส์ ที่ถูกปลดออกไปพร้อมกับทีมผู้บริหารสโมสรชุดเก่าที่เป็นชาวไทย
"ขณะนี้เรายืนยันว่า มาร์ค ฮิวจ์ส ได้เป็นอดีตผู้จัดการทีมของเราไปเรียบร้อยแล้ว และมิสเตอร์อภิมันยุทธคือผู้จัดการทีมคนใหม่ของเรา"
จากการสืบค้นข้อมูลทำให้พอทราบว่า ผู้จัดการทีมคนใหม่ของเรือใบสีฟ้า เคยมีประวัติคุมทีมในสโมสรในลีกของยูเออีมาก่อน และทำผลงานได้ดี พาทีมอัลจาซีเราะห์ครองแชมป์ลีกของยูเออีได้ถึงสามสมัยซ้อน
เผยรับค่าเหนื่อย75000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานแถลงข่าวเปิดตัววานนี้ มิสเตอร์อภิมันยุทธ เซ็นสัญญาเป็นเวลาหนึ่งปี พร้อมรับค่าเหนื่อย 75000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
"ทางเราทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า การเปลี่ยนมาทำงานจากที่ดูไบมาที่อังกฤษ อาจเป็นการยากสำหรับผมเพราะต้องปรับตัวหลายอย่าง ผมอาจทำงานได้ดีหรือไม่ดีก็ได้ การที่เซ็นสัญญาแค่หนึ่งปี จะส่งผลดีให้แก่ผมด้วย หากผมทำงานได้ดีผมก็มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องค่าจ้างเพิ่มได้ แต่หากผมทำงานไม่ดีทางแมนฯซิตี้ก็สามารถหาผู้จัดการทีมคนใหม่ได้"
"ส่วนเรื่องค่าเหนื่อยก็เป็นตัวเลขที่เราทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าเป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว แม้ผมจะยังใหม่สำหรับที่อังกฤษ แต่ผมก็ติดตามฟุตบอลอังกฤษมานานกว่ายี่สิบปีแล้ว"
เผยทีมโปรดไม่ใช่เรือใบสีฟ้า
จากนั้นผู้สื่อข่าวในห้องแถลงข่าว ได้ถามคำถามว่าทีมโปรดในพรีเมียร์ลีกคือทีมอะไรที่ผู้จัดการลูกครึ่งไทยติดตามเชียร์อยู่ มร.อภิมันยุทธตอบยิ้มๆ
"คำตอบของผมอาจจะทำให้แฟนบอลไม่พอใจได้บ้าง ผมไม่ได้ตามเชียร์แมนซิตี้หรอกนะ แต่ข่าวดีก็คือไม่ใช่ทีมที่อยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์เช่นกัน ผมใบ้ให้นิดนึงก็ได้ว่าเป็นทีมจากลอนดอน"
"แต่มันไม่ใช่อุปสรรคหรือปัญหาอะไรหรอก เพราะตอนนี้ผมมาอยู่ที่แมนฯซิตี้แล้ว และสำหรับผมตอนนี้ ทีมหนึ่งเดียวที่ผมต้องคิดถึงเสมอ ก็มีแต่ซิตี้เท่านั้น
ยันไม่ปลดสต๊าฟฟ์จากยุคมาร์ค ฮิวจส์
ผู้สื่อข่าวยังถามต่อไปว่าจะนำสต๊าฟฟ์จากดูไบมาร่วมงานกันที่อังกฤษด้วยหรือไม่
"ผมคิดว่าการมาทำงานที่ใหม่ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการให้คำแนะนำจากทีมงานผู้มาอยู่ก่อน หากผมนำสต๊าฟฟ์มาจากดูไบพร้อมกัน มันคงจะยากที่ผมจะทำทีมให้ประสบความสำเร็จได้ เพราะนั่นเท่ากับว่าผมต้องเริ่มงานใหม่หมด"
"แต่ผมคงหาสต๊าฟฟ์เสริมจากที่อื่นด้วย หากเห็นว่าทีมงานที่มีนั้นน้อยเกินไป แต่ผมยืนยันเลยว่าผมจะไม่เอาทีมงานเก่าออกแน่นอน อย่างน้อยก็ช่วงแรกนี้"
ซึ่งหลังจากที่ อภิมันยุทธ ได้เข้าทำงานในสโมสรวันแรก ก็ได้เรียกมาร์ค โบเว่น ผู้ช่วยผู้จัดการทีม ให้ส่งรายงานถึงสภาพทีมในทันที
ประกาศขอทำทีมให้ติด 1 ใน 10 ก่อน
สำหรับเป้าหมายในการทำทีมนั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามกับผู้จัดการทีมคนใหม่ ก็ได้รับคำตอบว่า
"หลังจากที่ผม ท่านประธาน และทีมบริหาร ได้พูดคุยกันเพื่อประเมินว่าเราควรจะจบอันดับที่ตำแหน่งใดเมื่อจบฤดูกาล ผมคิดว่าเรามองจากสภาพความเป็นจริงของทีมเราเราอาจหวังได้ถึงอันดับพื้นที่ยูฟ่าคัพ หรือถ้วยแชมป์ลีกคัพ ผมเองก็ตั้งเป้าไว้เช่นนั้น แต่ท่านประธานและฝ่ายบริหารก็ไม่ต้องการให้ผมต้องกดดันมากเกินไป จึงขีดไว้ว่าอย่างน้อยก็อย่าให้หลุดจากสิบอันดับแรก เมือจบฤดูกาลก็แล้วกัน ซึ่งผมก็เห็นด้วย"
ผู้อำนวยการประกาศงบอัดฉีด 55 ล้านปอนด์
จากนั้น แกรี่ คุ้ก ผู้อำนวยการสโมสร ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการสนับสนุนการทำทีมของผู้จัดการทีมคนใหม่ว่า
"เราจัดงบประมาณเพื่อให้กับการสร้างทีมใหม่ของผู้จัดการทีมคนใหม่ในปีนี้ไว้ที่ 55 ล้านปอนด์ และถ้ามิสเตอร์อภิมันยุทธทำผลงานได้ดีในปีต่อๆไป เราสัญญาว่าจะมีงบประมาณในการทำทีมมากกว่านี้อย่างแน่นอน"
ผู้สื่อข่าวได้ถามว่าจะมีการแทรกแซงการซื้อตัวนักเตะของผู้จัดการทีมคนใหม่หรือไม่
"นโยบายหลักของท่านประธานคนใหม่ และทีมบริหารของเรานั้นชัดเจนว่า เราจะไม่เข้าไปก้าวก่ายในการซื้อตัวของผู้จัดการทีม เราจะให้อิสระเขาอย่างเต็มที่เขาสามารถจะซื้อนักเตะคนไหนก็ได้ ให้ขึ้นกับการตัดสินใจของเราเลย"
ประกาศจะทำทีมบุก เน้นเอนเตอร์เทนเป็นหลัก
ต่อจากนั้นนักข่าวได้ถามถึงแนวทางในการเล่น ผู้จัดการหนุ่มได้กล่าวตอบทันทีว่า
"แน่นอน มันเป็นแนวทางของผมอยู่แล้ว ผมต้องทำทีมบุกเน้นความตื่นตาตื่นใจเป็นหลัก แต่ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เน้นผลการแข่งเลยนะ มันก็ต้องปรับตามสถานการณ์ไปด้วย แต่ผมบอกได้เลยว่า โดยพื้นฐานแล้วผมทำทีมเน้นเกมรุกอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องนี้ผมยืนยันได้เต็มที่แน่ๆ"
00000000000000000000000000000000000000000000
คอลัมน์นินทากีฬาทั่วทิศ
สร้างสรรค์โดย อมิตาป ปัจจาญแห่งเมืองไทย
ข่าวชวนแปลกใจระคนกับเรื่องน่ายินดีสำหรับคอกีฬาชาวไทยตอนนี้คงหนีไม่พ้นข่าวการเข้าไปคุมทีมของผู้จัดการคนใหม่ของสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้
เรื่องน่าแปลกใจไม่ใช่เรื่องที่มาร์ค ฮิวจส์ ถูกปลด ทั้งๆที่ยังไม่ได้คุมทีมสักนัด แต่กลับเป็นเรื่องที่ผู้จัดการทีมคนใหม่ ที่ใครต่อใครพากันสงสัยว่าเป็นใครมาจากไหน แทนที่จะเป็นผู้จัดการทีมที่มีชื่อเสียงระดับโลก อย่างที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น มาร์เชลโล่ ลิปปี้ , โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ , กุส ฮิดดิ้งส์ หรือแม้แต่ โฆเช่ มูริญโญ่
แต่กลับกลายเป็นชื่อโนเนม แถมยังเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ อีกต่างหาก
แถมครึ่งอังกฤษที่ว่าก็เป็นเชื้อสายอารยัน หาใช่เชื้อสายแองโกล แซกซอน แต่อย่างใดไม่
แต่เมื่อค้นประวัติดูจะเห็นได้ว่าผู้จัดการทีมคนนี้ไม่ใช่ธรรมดา เขาเริ่มทำงานคุมทีมเล็กๆในตะวันออกกลางที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับทีม อัล ซาวาดัด ทีมเล็กๆในลีกดิวิชั่นสองของยูเออี ก่อนจะใช้เวลาแค่สองปี ก็พาทีมผงาดขึ้นสู่ดิวิชั่นหนึ่ง และน่าเซอร์ไพรส์กว่านั้นคือ ขึ้นมาเป็นทีมที่ลุ้นแชมป์ในลีกของยูเออีด้วย
หลังจากนั้นทีม อัลจาซีเราะห์ ทีมชื่อดังของลีกในยูเออี ก็เห็นแววและดึงตัวไปร่วมงานด้วยทันที และใช้เวลาแค่ฤดูกาลเดียวก็พาทีมเป็นแชมป์ลีกของยูเออีได้สามสมัยติดต่อกัน
ต้องเรียกว่าไม่ธรรมดาจริงๆด้วย
เรื่องนี้ทีมวิเคราะห์ในสภากาแฟโต๊ะบอลทั้งหลาย ต่างก็แสดงความเห็นไปในทำนองเดียวกันว่าอาจเป็นไปได้ว่า การมาของมิสเตอร์อภิมันยุทธผู้นี้ มีที่มาคล้ายๆกับตำนานคนนึ่งในแวดวงลูกหนังพรีเมียร์ลีก นั่นก็คือป้าแหวง อาร์แซน เวนเกอร์ นั่นเอง
ต้องไม่ลืมว่าเวนเกอร์ ก็มีที่มาที่คล้ายๆกัน คือเคยคุมทีมในเจลีก อย่างแกรมปัสเอต จนยิ่งใหญ่ แล้วทีมผู้บริหารของปืนโตก็ค้นพบแล้วจับมาเซ็นสัญญาเพื่อมารับหน้าที่ต่อจากบรูซ ริออค ซึ่งกำลังคุมทีมขัดตาทัพ ต่อจากจอร์จ เกรแฮมซึ่งกำลังมีเรื่องอื้อฉาวอยู่ในขณะนั้นพอดี
บางทีทีมผู้บริหารของชี๊คมาร์ชู อาจคิดและมองเห็นคล้ายๆกันจึงดึงมิสเตอร์อภิมันยุทธ เข้ามาทำทีม เผื่อว่าจะสร้างตำนานให้กับทีมเรือใบสีฟ้า เหมือนกับที่เวนเกอร์ทำกับปืนใหญ่ในเวลานี้ก็เป็นได้
อย่างไรก็ดีเรื่องแบบนี้ก็มีแต่กาลเวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์
ถ้าเราจะมองให้ดีก็จะเห็นว่าสัญญาแค่หนึ่งปีนั้นสั้นจริงๆ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเวลาแบบนี้คนรวยต่างก็อยากได้ความสำเร็จแบบสำเร็จรูปด้วยกันทั้งนั้น
หากคุณทำงานมีแววดีคุณก็ได้อยู่ต่อ แต่ถ้าตรงกันข้าม คุณก็ต้องออกไป มันเป็นเรื่องปกติของโลกทุนนิยมอยู่แล้ว
เรื่องน่าจับตามองต่อไปก็คือ ผู้จัดการทีมลูกครึ่งสยามคนนี้ จะทำอย่างไรกับงบประมาณ55 ล้านปอนด์ที่เขาได้รับ นักเตะคนไหนที่เขาจะซื้อหามาเพิ่มเติม เพื่อมาเล่นให้เข้าขากับโรบินโญ่ ซูปเปอร์สตาร์ชาวบราซิลเลี่ยน ที่เป็นผลงานชิ้นเอกของมาร์ค ฮิวจส์ ที่ไปแย่งตัวมาจากเรียล มาดริด ตัดหน้าเชลซีมาได้
การเข้ามาคุมทีมของมิสเตอร์อภิมันยุทธในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ทีมแมนซิตี้ จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องไปกับคนไทยอยู่เรื่อย หลังจากที่ประธานคนเก่าที่เป็นคนไทยขายสโมสรไปแล้ว ก็ยังอุตสาห์ไปจ้างผู้จัดการทีมที่มีเชื้อสายไทยเข้ามาอีก
ไม่รู้โดนคุณไสยอะไรเข้าไปอีกหรือเปล่า
แต่อย่างน้อยก็ทำให้คนไทยได้ยืดและบรรลุความฝันก้าวหนึ่งของคนไทย ที่อยากเข้าไปมีส่วนร่วมกับลีกฟุตบอลอันดับหนึ่งของโลก
ก้าวแรกที่ทำให้คนไทยได้ภาคภูมิใจ แต่จะทำได้ดีแค่ไหนนั้น ยังต้องติดตามดูกันต่อไป
แต่ตอนนี้ต้องบอกว่า อย่างน้อยคุณก็ทำให้คนไทยมีเหตุผลที่จะเชียร์และเอาใจช่วยทีมเรือใบสีฟ้ากันมากขึ้น และน่าจะเรียกกองเชียร์จากฝั่งสีเหลือง ที่เสียไปเพราะประธานคนก่อนเป็นที่รังเกียจของคนไทยอีกกลุ่มหนึ่งในสังคม
นี่อาจเป็นก้าวแรกของการสมานฉันท์ในสังคมไทยก็เป็นได้
ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก่อนกัน ระหว่างผู้จัดการทีมลูกครึ่งไทยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก กับ ความสมานฉันท์ของคนทุกกลุ่มในประเทศไทย
อมิตาป ปัจจาญ(ประเทศไทย)
Create Date : 16 มีนาคม 2552 |
|
3 comments |
Last Update : 16 มีนาคม 2552 22:41:38 น. |
Counter : 614 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หนูหล่อ (nulaw.m ) 25 มีนาคม 2552 23:58:36 น. |
|
|
|
| |
|
|
ชวนไป ดูคลิปเธอผู้ไม่แพ้คับ
คลิกที่ภาพได้เลยคับ