Group Blog
เรื่อยเปื่อย
ห้องเก็บของ
พาเที่ยว
พากันอ้วน
พฤศจิกายน 2548
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
2 พฤศจิกายน 2548
~~ เที่ยวเมืองซาราเยโว ~~
~~ เที่ยว New Delhi ~~
All Blogs
~~ สิมิลัน ลันล้า ~~
~~ งานประชุมเอดส์โลกครั้งที่ 16 ที่ Toronto, Canada, 12-18 สิงหาคม 2549 ~~
~~ เที่ยวเมืองซาราเยโว ~~
~~ เที่ยว New Delhi ~~
~~ เที่ยวเมืองซาราเยโว ~~
เขียนกระทู้พาเที่ยวไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ
เพิ่งมีเวลาก๊อปมาใส่บล๊อก
-------
เมื่อเดือนที่แล้ว ได้ข่าวดีว่าจะได้ไปประชุม4วันที่Sarajevo ประเทศ Bosnia Herzegovina พอโทรไปบอกพ่อแม่ คำถามแรกที่ถามคือ เค้ายังยิงกันอยู่รึเปล่า เลยต้องบอกไปว่า สงครามสงบไปตั้งนานแล้วจ้า ไม่ต้องเป็นห่วง... แต่ใจจริงก็ตื่นเต้นเหมือนกันนะ เพราะว่าเราไม่เคยไปประเทศไหนที่เพิ่งผ่านสงครามมาได้ไม่นาน บ้านเมืองเค้าจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้...
เราบินไปMunich ก่อนค่ะ (สนามบินดีจัง) แล้วค่อยไปต่อไฟลท์ไปซาราเยโวอีกชั่วโมงครึ่ง พอถึงสนามบินก็ยื่นพาสปอร์ตและเอกสารชี้แจงเรื่องการประชุมให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง แล้วเค้าก็ออกวีซ่าให้เลย
พักที่โรงแรม Holiday Inn เป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในเมือง สบายดีมากค่ะ โรงแรมนี้สร้างขึ้นเมื่อตอนที่ซาราเยโวได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวเมื่อปี 1984 ... ตอนช่วงสงคราม (1992-1995) พวกนักข่าวต่างชาติส่วนใหญ่ก็พักที่นี่กัน
(ตึกสูงๆข้างหลังคือตึกที่เราไปประชุมค่ะ ทันสมัยที่สุดในเมืองเลย)
เมืองซาราเยโวอยู่ในเทือกเขา Dinari Alps ค่ะ มองไปทางไหนก็มีเทือกเขาล้อมรอบ คนไปปลูกบ้านบนเขาเยอะเลย ... ก็เพราะเทือกเขานี่แหละ เมืองนี้ถึงได้จัดโอลิมปิก ก็ภูมิประเมศเหมาะมากสำหรับสกีไงคะ ชาวเมืองนี้ภูมิใจกับโอลิมปิกครั้งนั้นมากเลย เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่ประเทศสังคมนิยมได้เป็นเจ้าภาพ.... ช่วงนี้อากาศเย็นมากในตอนกลางคืน (ประมาณ12-15องศา) ทั้งๆที่กลางวันร้อนประมาณ (25-27องศา)
ป้ายEUในรูปนี่เห็นได้ทั่วไป เพราะอยากจะเข้าร่วมในสหภาพยุโรป...เห็นภูเขาอยู่ข้างหลัง
Bosnia-Herzegovina มีประชากรทั้งหมดเกือบๆ4ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นเชื้อสาย Bosnian หรือมุสลิม-สลาฟ รองลงมาก็เป็นพวกเซิร์บ ซึ่งนับถือออธอดอกซ์ และพวกโครแอท ซึ่งเป็นคาธอลิก ภาษาที่ใช้คือ Bosnian ค่ะ ประเทศนี้แบ่งเป็นสองส่วนคือ Federation of Bosnia & Herzegovina และ Republika Srpska (อ่านว่าเซิร์บสก้า) ตามเชื้อสายของประชากรในแถบนั้นๆ
มัสยิดค่ะ (มีสุสานอยู่ข้างๆ) ...
ไม่ไกลจากนั้นก็คือโบสถ์คริสต์ค่ะ ... ในช่วงก่อนสงคราม ชาวซาราเยโวทั้งสามเชื้อสายอยู่ร่วมกันมาตลอด มีทั้งโบสต์ ทั้งมัสยิด อยู่ใกล้ๆกัน เป็น multicultural city จริงๆ
ตั้งแต่ศตวรรตที่ 13-14 บอสเนียเป็นรัฐที่ปกครองตัวเอง แต่ก็มาแพ้จักรวรรติออตโตมัน(ตุรกี)ในปี 1460 กว่าๆ และอยู่ภายใต้อำนาจของออตโตมันประมาณ400กว่าปี
นี่เป็นส่วนเมืองเก่า หรือ Bas Carsija ค่ะ เป็นส่วนที่ได้รับอิทธิพลจากจักรวรรดิออตโตมัน
ตอนนี้กลายเป็นที่ขายของที่ระลึก+ คาเฟ่เล็กๆ คนบอสเนียกินกาแฟกันเยอะมากค่ะ ถ้วยเล็กๆ เข้มๆ ... ตามร้านกาแฟ จะมีคนนั่งจิบกาแฟ เดินดูคนผ่านไปมา (หนุ่มบอสเนียนหล่อดีค่ะ ดูเพลินตาดี อิอิ)
ศาลากลมๆข้างขวานี่ ดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์อันนึงของเมือง เพราะว่าบนถุงใส่ของที่ระลึกมีรูปนี้
น้ำพุในเขตมัสยิดค่ะ มีน้ำออกมาให้ดื่มด้วย มีป้าคนนึงเอาขวดมารองน้ำไปเลย คงเหมือนน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์บ้านเราเนอะ
มาเล่าถึงประวัติศาสตร์ต่อนะคะ
พอออโตมันที่ตกต่ำลง ประเทศมหาอำนาจใหม่ๆก็ถือโอกาสแบ่งดินแดนที่ออตโตมันเคยครอบครอง และยกบอสเนียให้อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรAustria-Hungary พวกเซิร์บก็ไม่พอใจที่ออสเตรียปกครองบอสเนีย เพราะว่าเซอร์เบียอยากจะรวมประเทศต่างๆในแหลมบอลข่านเข้าด้วยกัน ให้อยู่ปกครองโดยเซิร์บอย่างแท้จริง ...ในปี1914 เมื่อArchduke Franz Ferdinand ของออสเตรียเสด็จมาเยือนซาราเยโว กลุ่มหัวรุนแรงเลยวางแผนลอบสังหาร โดยนายGavrilo Princip เป็นคนยิง(จากจุดที่เห็นในรูปเนี่ยค่ะ) ซึ่งนั่นก็จุดชนวนสงครามโลกครั้งที่1ขึ้น
Fast forward มาถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง Bosnia, Serbia, Croatia, Slovenia ก็โดนรวมเข้าเป็นประเทศใหม่คือ ยูโกสลาเวีย และมีผู้นำคือ Tito ภายใต้ระบบสังคมนิยม... ไกด์บอกว่า ถึงแม้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่ซาราเยโวเติบโตขึ้นมาก แต่เป็นช่วงที่ตึกรามบ้านช่อง ไม่สวย ที่สุด
ไกด์ของเรา(ค่อนข้างแก่แล้ว)บอกว่าเค้ารู้สึกว่าสมัยนั้นมีชีวิตที่สบายกว่าตอนนี้ เพราะทุกคนพอมีพอกิน ไม่ต้องจ่ายค่าการศึกษา รักษาพยาบาล ฯลฯ ไม่เหมือนตอนนี้ที่มีคนจนเยอะ คนรวยไม่กี่คน อืม ต่างคนก็ต่างความคิดอ่ะเนาะ ... ความยากจนที่เห็นได้ทั่วไป ตามสี่แยกใหญ่ๆมีเด็กเช็ดกระจกแบบบ้านเราด้วยค่ะ
สงครามกลางเมืองระหว่างเชื้อชาติ ตั้งแต่ปี1992 ถึง 1995 ทำลายเมืองไปเยอะค่ะ นี่เป็นตึกราชการเก่าค่ะ
ตามกำแพงก็ยังเห็นรอยกระสุน รอยระเบิดอยู่ น่าเศร้าจริงๆ
สงครามฆ่าคนไปเป็นหมื่น... ถ้าดูวันที่บนหลุมศพ จะเห็นว่าตายในช่วงสงครามแทบทั้งนั้น
ระบบรถรางก็เก๊าเก่า บางคันยังมีรอยกระสุนอยู่เลย
เดินดูโบสถ์
แล้วมาจบที่โรงเบียร์ แหะๆ
ห้าวัน ห้าคืน ที่ซาราเยโว แต่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการประชุม น่าเสียดายที่น่าจะมีเวลาเที่ยวมากกว่านี้ แต่ว่าแค่นี้ก็รู้สึกว่าคุ้มค่าแล้วค่ะ
Create Date : 02 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2548 18:04:30 น.
3 comments
Counter : 1696 Pageviews.
Share
Tweet
ขอบคุณที่แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวคับ น่าไปฮิๆๆๆ
โดย: ตี๋น้อย (
Zantha
) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2548 เวลา:19:24:20 น.
nice kub
โดย: alekalone IP: 61.90.147.248 วันที่: 25 เมษายน 2550 เวลา:17:44:13 น.
อิจฉาจังเลย แล้วค่าเงินเขาเป็นอย่างไรบ้างคะ ค่าครองชีพแพงกว่าเรามากไหม วันนี้ดูทีวีแล้วสนใจเลยมาค้นดู ในgoogle เห็นแล้วถูกใจมากเลย ขอบคุณมากค่ะ
โดย: ตู่ IP: 118.172.135.105 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:1:55:41 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Pat :o)
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
*~
Duke-ดุ๊ก
Redder
จ้าจาร์
นางสาวแสนดี..sandy
osara
*omega*
bings@friends
peter
GuareSak
mary_poppins
A r t F u l l Y
คนผิดชื่อก้อง
ใสแจ๋วแหว๋ว
ตี๋สีชมพู
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
ladydunce
Webmaster - BlogGang
[Add Pat :o)'s blog to your web]
Links
Series Club @ Chalermthai
Coolvoice
Save The Children UK
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.