สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย ลุยเดี่ยวยังไม่ได้นอนเลยครับง่วงแต่นอนไม่หลับครับ อ้าเรื่องส่วนตัวเอามาพูดกลายเป็นบ่นไปเสียฉิบ วันนี้ลุยเดี่ยวเห็นหุ้นทางต่างประเทศยังเขียวเลยนะครับถ้าให้คาดกาณ์ก็คิดว่าหุ้นไทยวันนี้น่าจะขึ้นไปเทสต์ที่ 1,200 จุดได้หรืออาจจะดันไปได้ที่1207จุดก็เป็นไปได้ครับเพราะอะไรหรือครับก็ตอนนี้นักลงทุนมีความคาดหวังต่อนโยบายการเงินผ่อนคลายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ ECB จะลดดอกเบี้ยในวันพฤหัส รวมทั้งการที่หลายๆฝ่ายคาดว่าเฟดอาจประกาศนโยบาย QE3 แบบที่เดากันว่าคัมมิ่งซูนกันเลยนะ
เอาแล้วไงครับพี่ท่านหาเงินกับราคาน้ำมันกันอีกแล้วต้องหาเรื่องให้ราคามันดีดขึ้นหน่อยเรื่องอะไรน่ะหรือก็สถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ตึงเครียดมากขึ้น หลังจากอิหร่านขู่ปิดช่องแคบฮอร์มุชอีกครั้ง และยังประกาศว่าพี่แกประสบความสำเร็จในการทดลองขีปนาวุธที่สามารถโจมตีอิสราเอลได้นั้น งานนี้มันก็ไปดันราคาน้ำมันบวกเป็นจรวดปิ๊วๆๆเลยสิครับเผลอแผลบเช้านี้ลุยเดี่ยวเห็นมันมา87.55เหรืยญแล้วนะเมื่อไม่นานมานี้ยังเห็นอยู่77.30เหรียญเลยแฮะ งานนี้สงสัยหุ้นพลังงานจะวิ่งขึ้นต่อได้ในระยะสั้นๆบอกก่อนนะลุยเดี่ยวไม่สนใจว่าPTTจะขึ้นไปถึงไหนไม่ว่าจะได้เห็น335หรือ340แต่ในมุมมองที่มองคือตั้งแต่โซนราคา332ขึ้นไปมันคือโซนขายของนักเก็งกำไรสั้นสไตล์ลุยเดี่ยวครับไม่ใช่โซนซื้อนะครับ
พี่น้องครับใช้เป็นไกด์ไลน์นะจริงเท็จอย่างไรก็คิดเอาเองอย่าคิดว่าต้องใช่ครับอาจไม่ใช่ก็ได้ ลุยเดี่ยวมีความคิดว่าอย่างนี้นะ ลุยเดี่ยวไม่สนว่าวันนี้หุ้นจะขึ้นไปถึง1200 จุดหรือ1207หรือ1214 แต่ความคิดลุยเดี่ยวที่มองภาพรวมของดัชนีในแนวโน้มสั้นนี้นะครับแบบสไตล์เก็งกำไรสั้นนะครับว่าไม่สนว่ามันจะเป็นอย่างไรแต่ให้พี่น้องรับรู้ไว้ว่า ลุยเดี่ยวคิดเองครับ ถ้าวันนี้หุ้นเปิดบวกไม่ดีครับยิ่งเปิดมาบวกมากๆในเช้านี้ด้วยยิ่งไม่ดีครับ แบบที่เรียกว่าเปิดบวกไม่ดี ยกตัวอย่างบวกสัก2 จุดไม่ดีบวก6 จุดไม่ดีแล้วยิ่งเปิดบวกมากๆประเภทบวกไปแล้วเกินกว่า9 จุดอย่างนี้ยิ่งไม่ดียิ่งบวก16จุดยิ่งไม่ดีใหญ่ครับสรุปยิ่งบวกมากยิ่งไม่ดีว่างั้น แต่ถ้าลบน้อยก็ไม่ดีแต่ถ้าลบมากก็ไม่ดี หลายคนงงว่าอะไรวะที่พูดมานี้มันคือไม่มีอะไรดีเลยนี่หว่า ใช่ครับ แต่อย่างนี้ถ้าเช้านี้นะมันเปิดลบแรงๆประเภทลบเกินกว่า13 จุดนะช่วงสั้นๆน่ะดีซื้อครับ หรือเปิดลบแล้วลบแรงขึ้นจนเกินกว่า13 จุดอย่างนี้ดีใช้แค่ตอนเปิดนะ (เป็นไปได้ยากตอนนี้ก็ลุยเดี่ยวบอกแล้วว่ามันเปิดบวกไง)
สรุปเข้าใจหรือเปล่าเนี่ย เช้ามาเปิดบวกให้ขายยิ่งมันไล่บวกมากขึ้นยิ่งต้องขายครับ ถ้าเปิดมาเช้าลบแรงจะดีครับ ถ้าเปิดมาแกว่งตัวแคบๆมันกำลังคิดครับว่าเอาไงวะขึ้นก่อนลงก่อนดีเชิญเดากันให้มันเลยครับ หุ้นมีกำไรแนะขายนะครับแล้วรอไม่มีหุ้น รอสัญญาณรอบต่อไปเพคะเจ้านาย
ผมนอนไม่หลับเมื่อคืนเลยนั่งเขียนเรื่องไอ้ลูกทรพีลองอ่านดูนะครับกว่าจะเขียนเสร็จปาเข้าไปตี4 จากเที่ยงคืนคุณเชื่อไหม ง่วงสุดๆแต่ไม่หลับครับ
วันนี้ลุยเดี่ยวมีเรื่องมาเล่าให้พ่อแม่พี่น้องฟังนะครับเป็นเรื่องราวที่คิดว่าพี่น้องอ่านแล้วน่าจะได้คิดอะไรบ้างนะครับ มันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยครับที่ลุยเดี่ยวได้เจอกับตัวเองครับเรื่องมีอยู่ว่า
มีแม่คนหนึ่งลุยเดี่ยวขอเรียกว่าแม่จ๋าดีกว่านะครับแกมีลูกชายสองคนและหญิงหนึ่งคน ครอบครัวแมจ๋าจัดอยู่ในระดับผู้มีอันจะกินของจังหวัด สามีของแม่จ๋ามีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง แกก่อร่างสร้างตัวจากกรรมกรกินค่า แรงรายวัน โดยแม่จ๋ารับจ้างเย็บผ้าอยู่ในโรงงานแห่งหนึ่ง แกอดออมสะสมเงินจนฐานะดีขึ้น สามารถสร้างหลักฐาน จนมีที่ดินบ้านช่องสมฐานะ แต่สามีก็ยังทำงานหนัก ไม่ยอมพัก หวังจะฟูมฟักลูก 3 คนให้อยู่อบอุ่น กินอิ่ม โดยไม่ต้องลำบาก ช่วงนั้นแม่จ๋าเลิกเย็บผ้าแล้ว อยู่บ้านเลี้ยงลูก 3คน ที่อยู่ในวัยซนไล่เรียงตามลำดับ เช้าวันหนึ่งเมื่อลูกชายคนโตอายุได้ 6 ขวบ สามีของแม่จ๋าก็หลับไปไม่ตื่น มาร่ำลาหมอที่โรงพยาบาลบอกว่าสามีตับแข็งตายทั้งๆ ที่ไม่เคยแตะเหล้าซักหยด แม่จ๋าเปลี่ยนสภาพบ้านพักเปิดเป็นร้านค้าโชห่วย ขายของสารพัดชนิด อดทนอด ออมเลี้ยงลูกทั้ง 3 คน ให้ร่ำเรียน จนจบปริญญา ครอบครัวอบอุ่น พี่น้องรักใคร่กันดี
มาวันหนึ่งลูกชายคนโตแต่งงานไปกับลูกสาวเจ้าของร้านขายทองในตลาด ในชีวิตของแม่จ๋าบอกลุยเดี่ยวว่า ไม่เคยมีความสุขครั้งไหน เหมือนวันที่ลูกชายแต่งงาน สมบัติที่มี แม่จ๋าจัดแบ่งเป็นสามส่วนให้ลูกชายคนโตเปิดร้านขายทอง ตามที่สะใภ้ต้องการ ปีต่อมา ลูกคนที่สอง แต่งสาวเข้าบ้านอีกคน แม่จ๋าก็ยกบ้านและที่ดินที่เปิดร้านขายของสองคูหาสามชั้น ให้เป็นสมบัติของลูกด้วยความยินดี โดยที่แม่จ๋าขอสิทธิ์แค่อยู่อาศัย
สองปีถัดมา ลูกสาวคนสุดท้องแต่งกับข้าราชการระดับหัวหน้ากองในจังหวัด แม่จ๋าก็ยกที่ดินและเงินสดก้อนสุดท้ายของแม่จ๋าก็รับขวัญลูกเขยด้วย ความปรีดา
สัตว์โลกทั้งหลายล้วนเวียนว่ายก่อเกิดเพื่อมาชดใช้กรรมเก่า สะใภ้คนที่สองเริ่มจุดประกายแห่งการแตกหัก ตั้งแต่แต่งเข้าบ้าน ไม่เคยแม้แต่เสียบปลั๊กหม้อหุงข้าว แม่จ๋ากลายเป็นทาสในเรือนเบี้ย ซักผ้า ทำกับข้าว ต้องคอยซื้อกับข้าว จัดสำรับคับค้อนตั้งโต๊ะ คอยท่าสองผัวเมียกินก่อนจนอิ่ม แม่จ๋าจึงมีโอกาสได้กินของเหลือ ก่อนจะเก็บกวาดถ้วยชามไปล้าง กวาดเช็ดปัดถูบ้านช่องเรียบร้อยแล้วจึงได้พักผ่อนด้วยการเดินออกไปคุยกับเพื่อนบ้านในวัยไล่เลี่ยกัน สะใภ้สองเข้มงวดแม้แต่ของสดทุกชนิด ที่ซื้อมาทำกับข้าว ต้องถามราคา แล้วยกไปชั่งน้ำหนักราคาสินค้า กับเงินทอนที่เหลือ ต้องตรงกับเงินที่ให้ไปตลาด แต่แม่จ๋าก็ไม่เคยเก็บมาเป็นอารมณ์ แล้ววันหนึ่งสะใภ้สองก็จัดระเบียบการกินใหม่ หล่อนไปสั่งผูกปิ่นโต เพื่อกินกันแค่สองผัวเมีย แล้วสั่งให้ผัว จ่ายเงินให้แม่จ๋าแค่วันละยี่สิบบาท ไปหากินเอาเองด้วยเหตุผลโง่ๆ คือต้องการประหยัด
พี่น้องครับเชื่อไหมครับว่าแม่จ๋าคิดเอาเองว่าลูกๆ คงไม่อยากให้แม่เหนื่อย จึงน้อมรับประกาศิตลูกสะใภ้ เพราะความรักลูก
พี่น้องครับหลายครั้งที่แม่จ๋าคิดถึงลูกชายคนโต ที่เปิดร้านขายทองในตลาด แม่จ๋าจะเจียดเงินที่เก็บออมไว้ ซื้อผลไม้ที่ลูกชอบติดมือไปด้วย แต่ทุกครั้งที่แม่จ๋าเดินเข้าไปในบ้าน สะใภ้ใหญ่จะมองอย่างเหยียดๆ แล้วเดินหนีเข้าห้องแอร์ ปิดประตูนอนดูโทรทัศน์ สั่งคนใช้ให้คอยสอดส่องเดินตามแม่จ๋า เธอกลัวแม่ผัวขโมยของในบ้าน แม่จ๋าจะคุยกับลูกชาย ไอ้ลูกเวรอ้อไม่ใช่ไอ้ลูกชายมันก็ออกอาการไม่ว่าง ถามคำตอบคำ เหมือนหนามตำโดนโคนลิ้นจนอ้าปากลำบากลำบน อึดอัดแม่ เกรงใจเมีย แกล้งถอดสร้อยคอทองคำเส้นโต ที่ห้อยแขวนพระเครื่องราคาแพง ในกรอบทองฝังเพชรพวงใหญ่ขึ้นมา ส่องทีละองค์ด้วยความเลื่อมใส และไม่แม้แต่จะชายตามองแม่จ๋า ที่นั่งซึมอยู่ข้างตู้ทองอย่างเดียวดาย เก้ ๆ กัง ๆ อยู่พักใหญ่ ก็เดินออกจากบ้านลูกชายคนโตอย่างเหงาๆ โดยมีคนใช้ของลูก หิ้วถุงผลไม้ ตามมายัดคืนใส่มือ ระหว่างทาง ก็แวะทักทาย คนรู้จักเพื่อรักษามารยาท แต่ในใจของแม่จ๋า มันวังเวงจนจำไม่ได้ว่าพูดคุยกับใครไปบ้างระหว่างทาง
มาดุลูกสาวคนเล็กบ้างไหม ลุกที่แม่จ๋าทั้งรักทั้งหวงนั่น รายนี้แทบไม่ต้องพูดถึง เธอยื่นคำขาดกับแม่จ๋าตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปเยี่ยมว่า ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปหา เพราะบ้านเธอมีแขกที่เป็นลูกน้องของผัว และพ่อค้าวานิชเข้าพบผัวของเธอ เพื่อขออำนวยความสะดวกในทางธุรกิจบ่อยๆ และผัวของหล่อนก็ค่อนข้างเจ้ายศเจ้าอย่าง ถ้าแม่รักลูก ก็ควรจะต้องรักษาเกียรติรักษาหน้าตาของผัวลูกด้วย เชื่อไหมแม่จ๋าไม่เข้าใจ ว่าการรักษาหน้าตาของลูกเขยนั้น ต้องทำอย่างไร แม่จ๋ายังเคยปลื้มกับคำชมของเพื่อนบ้าน เขาว่าแม่จ๋าวาสนาดี ลูกเขยเป็นเจ้าคนนายคน แม่จ๋าก็ได้แต่แอบปลื้ม ทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจ ว่าทำไมการเป็นเจ้าคนนายคน จึงเหมือนกำแพงชนชั้น ปิดกั้นระหว่างความเป็นแม่ลูกจนหนักหนาสาหัสขนาดนั้น ร้านสะดวกซื้อ และห้างสรรพสินค้าขนาดยักษ์ โผล่ขึ้นมารายรอบร้านค้าของลูกชายคนที่สอง กระทบธุรกิจของสองผัวเมีย จนทรวดเซ ของขายไม่ได้มากเหมือนเก่า ที่เอาอะไรมาวางก็ขายหมด ปัญหาและวิกฤติการเงินในบ้าน ส่งสัญญาณถึงขาลง สองผัวเมียเริ่มมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง และแทบทุกครั้ง ลูกสะใภ้ก็จะฉวยโอกาสด่ากระทบแม่ผัวเป็นของแถมโดยไม่มีเหตุผล โดยที่ลูกชายก็ไม่ออกอาการปกป้องแม่แต่อย่างใด...
พี่น้องครับมีอยู่วันหนึ่งประมาณ 3 ทุ่มของคืนโลกาวินาศ ท้องฟ้ามืดครึ้มไปด้วยพยับเมฆ สลับกับเสียงฟ้าร้องดังกึกก้องเป็นระยะๆ ครู่ใหญ่ๆ ต่อมาสายฝนจึงโปรยปรายชุ่มฉ่ำน้ำนองไปทั่วเมือง ลูกชายลูกสะใภ้ออกไปกินข้าวนอกบ้านยังไม่กลับ ปล่อยแม่จ๋าเฝ้าร้านค้าคนเดียว แม่จ๋าจำได้ว่า วัยรุ่นสองคนขี่รถเครื่องฝ่าสายฝนมาจอดหน้าร้านขอซื้อเบียร์หนึ่งขวด แม่จ๋ารับเงินแล้วเดินเข้าไปเก็บในลิ้นชัก โดยไม่ระแวงว่า สองวัยรุ่นแอบยกลังใส่บุหรี่ที่ลูกชายสั่งมายังไม่แกะกล่อง ช่วยกันแบกขึ้นรถขี่หายไปกับความมืด ก่อนสี่ทุ่มเล็กน้อย สองผัวเมียจึงขับรถกลับเข้าถึงบ้าน ช่วยกันเก็บของเข้าร้าน วางของทุกชิ้นเข้าที่ๆ เคยวาง เมื่อไม่เห็นลังบุหรี่ จึงหันไปตะโกนถามแมที่กำลังจุดธูปไหว้รูปสามีบนหิ้ง เพียงคำตอบที่แม่ตอบว่าไม่เห็น ก่อนปักธูปลงกระถาง เสียงสบถด้วยคำหยาบของลูกชาย ก็ดังสวนสนั่นบ้าน ครู่เดียวทั้งลูกสะใภ้กับลูกชาย ก็สลับปากจิกหัวด่าแม่กึกก้องประสานเสียงกับสายลมนอกบ้าน ก่อนที่ทั้งคู่จะขับรถไปโรงพักแจ้งจับแม่ลักทรัพย์
ตำรวจพาแม่จ๋าไปนั่งอยู่หน้าโต๊ะร้อยเวร แม่จ๋าให้การไม่รู้ ด้วยซื่อบริสุทธิ์ โดยไม่ตัดพ้อต่อว่าลูกชายแม้แต่คำเดียว กว่าชั่วโมงในห้อง แอร์เย็นเฉียบ แต่ในอกในใจของร้อยเวรหนุ่มร้อนรุ่มเหมือนถูกไฟนรกแผดเผา ที่ต้องวิงวอนสองผัวเมียให้เห็นบาปบุญคุณโทษ แต่สองผัวเมียกลับโยนภาระตอกย้ำ ให้ตำรวจอบรมแม่ ก่อนที่จะสะบัดก้นกลับไปบ้านโดยไม่ใส่ใจแม่จ๋า ที่เปียกฝนนั่งสั่นสะท้าน ด้วยความหนาวเหน็บ สายฝนยังสาดซัดกระหน่ำหนักเหมือนฟ้าแตก ตำรวจยศนายดาบขับรถร้อยเวรมาส่งแม่จ๋าที่บ้าน บ้านซึ่งประตูเหล็กถูกปิดสนิท แม่จ๋าลงจากรถเดินฝ่าฝนถึงหน้าบ้าน แล้วแม่จ๋าก็ตกใจสุดขีด กับภาพเบื้องหน้า ที่พื้นหน้าบ้าน เสื้อผ้าเก่าๆ ยัดแน่นอยู่ในถุง ถูกโยนออกมากองเรี่ยราดเหมือนขยะ บนกองเสื้อผ้าของแม่จ๋า กระถางธูปและรูปถ่ายของสามี แตกกระจายเกลื่อนกราด หยาดฝนสาดซัดรูปถ่ายขาวดำของสามี จนเปียกปอนขาดวิ่น แม่จ๋าก้มลงหยิบรูปของสามีมากอดแนบอก น้ำตาแห่งความรันทดทะลักล้นปนน้ำฝน ปวดร้าว เหมือนถูกฟ้าผ่าเข้ากลางใจ
แม่จ๋ากอดรูปนั้นไว้เหมือนจะปกป้อง จากสายฝนสุดชีวิต สองเท้าออกก้าวช้าๆ เหมือนร่างไร้วิญญาณเข้าตลาดไป หยุดนิ่งอยู่หน้าร้านขายทองของลูกชายคนโต เหมือนเป็นการบอกลาแล้วลัดเลาะฝ่าความมืดและสายฝน ไปยืนอยู่หน้าบ้านลูกสาวคนเล็ก เก็บภาพแห่งความรักความทรงจำสุดท้ายเป็นครู่ใหญ่ จึงเดินจากไปท่ามกลางเสียงกึกก้องของฟ้าร้องระงม สลับกับเสียงฟ้าผ่าแน่นหนักเป็นระยะ ดั่งเจ้ากรรมนายเวรกำลังเร่งรีบกรีดนิ้วกัปนาท บรรเลงเพลงกรรมในอดีตชาติ ติดตามมาทวงคืน ให้แม่จ๋า....ต้องชดใช้อย่างบอบช้ำยับเยิน บัดนั้นบังเอิญมีรถกระบะเก่าๆ คันหนึ่งขับมาพบแม่จ๋าเดินโซซัดโซเซอยู่ข้างถนน
เปล่าเปลี่ยวเดียวดาย ด้วยใจเมตตาจึงขับรถพาแม่จ๋ามาพักอยู่วัดเเห่งหนึ่งขณะนั้นสำหรับแม่จ๋าแล้่วนี่คือนาทีสุดท้ายของการตัดสินใจครั้งใหญ่ของชีวิต จึงไม่มีที่ไหนอบอุ่นให้พึ่งพิงเหมือนร่มเงาฉัตรแก้วกงธรรมแห่งรัตนะทั้งสาม ฟ้าเริ่มขมุกขมัวใกล้ค่ำลงทุกขณะ เรื่องราวน่าสลด นับแต่นาทีแรกที่แม่จ๋ามาถึงที่นี่จน วันนี้ แม่จ๋าไม่เคยออกไปนอกวัดเหมือนๆ กับที่ทั้งสามคนก็ไม่เคยออกติดตามถามหา จะรู้หรือไม่ก็แล้วแต่ ว่าแม่ซมซานมาอยู่วัด แต่ก็ไม่เคยปรากฏแม้แต่เงาของลูกทั้งสาม
มาถึงตรงนี้ลุยเดี่ยวขอฝากประโยคสุดท้ายของแม่จ๋าที่ฝากลุยเดี่ยวมา..ถึงไอ้ลูกทรพีทั้ง 3 ตัวนั้นนะครับว่า ' แม่จำลูกได้ทุกอย่าง ตั้งแต่เกิดจนโตจะทุกข์จะสุข ก็คือลูกของแม่ แม่ให้โดยไม่เคยวาดหวังจะได้จากลูกทุกคนเป็นการตอบแทน ลูกเอ๋ย... เมื่อลูกยังเป็นทารก ทุกครั้งที่ลูกแนบ อกดูดดื่มน้ำนมจากเต้าของแม่ สองมือน้อยๆ ของเจ้าไขว่คว้าอยู่ไหวๆ วันนี้แม่สิ้นแรงแทบ สิ้นใจ จะมีมือของลูกคนไหน เอื้อมมาปิดตาให้แม่ก่อนสิ้นลม.....' นี่คือเรื่องจริงที่ลุยเดี่ยวได้พบได้เจอ พวกท่านคิดเห็นเป็นเช่นไรครับ
พี่น้องครับช่วงนี้ลุยเดี่ยวเขียนช้านะครับกว่าจะส่งสำหรับพวกอ่านในพันทิพย์จะช้ากว่าเวลามากถ้าจะอ่านแบบเร็วให้เข้าไปที่บล็อคตรงของลุยเดี่ยวจะได้อ่านก่อนตลาดเปิดสิบโมงคลิ๊กตัวนี้
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nantapongtom&group=1&month=07-2012&date=04
หรือฝากข้อความไว้ที่
//www.facebook.com/profile.php?id=100002782555913&ref=tn_tnmn#!/profile.php?id=100002782555913
แต่ถ้ารอของพันทิพย์กว่าจะไหลมาบางทีสิบเอ็ดโมงยังไม่ได้อ่านเลย สำหรับคำถามถามมาลุยเดี่ยวพยายามจะเขียนตอบให้เลยถ้าเห็นนะครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกก็อ่านได้ครับ
คำเตือน การลงทุนมีความเสี่ยง ความเห็นในบล็อกนี้เป็นความเห็นส่วนตัวลุยเดี่ยวไม่ขอรับผิดชอบความเสียหายใดๆจากบทความนี้ ผู้ลงทุนควรพิจารณาใช้ข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน โชดดีนะครับพีน้อง
สำหรับเรื่องเล่าให้ข้อคิดดีมากค่ะ