...NanBin Xu... Gonna be "CHEF"
ผมอยากเป็นเชฟ :
ธันวาคม 2552
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
12 ธันวาคม 2552
Exam date (Final)
TASTE OF SIAM รสมือไทยพร้อมปรุง FINAL...
TASTE OF SIAM รสมือไทยพร้อมปรุง PART 3
TASTE OF SIAM รสมือไทยพร้อมปรุง PART 2
TASTE OF SIAM รสมือไทยพร้อมปรุง PART 1
Chiang Mai Story
Go Inter PART : 1
Test Skills of Thai Cooker Lv 1
Start to find the job
Reality
Last 3 Months
1st Time
Orientation @ Oriental Hotel
อาวุธประจำตัว
OPTC 19 รายงานตัว
Exam date (Final)
Exam date
Exam date (Final)
> หลังจากที่ไปทานข้าวกลับมา เอาละ ถึงเวลาขึ้นเขียงแล้ว
> เชิญทุกคนทางด้านนี้ค่ะ เจ้าหน้าที่สาวสวยคนเดิม
> บอกกับผู้เข้าสอบทุกๆคน
> อีกไม่กี่อึดใจจะได้เห็นครัวที่นี่แล้วมันจะเป็นไงบ้างหนอ
> เดินเข้าไปไม่กี่ก้าวก็ต้องผงะ เพราะเชฟหลายคนๆ
> ที่กำลังเตรียมอาหารกันอยู่นั้นหยุดกันอย่างพร้อมเพรียง
> แล้วจ้องมาที่พวกเราเหมือนพยายามจะบอกว่า
> มาให้เชือดซะดีๆ ไม่อาววว เค้ากลัว
> จึงรีบวิ่งเข้าห้องไปตามเสียงของพี่สาวคนเดิมเรียก
> พอเข้าไปถึงก็เจอชื่อของตัวเองตั้งอยู่ตรงประตูทางเข้าเลย
> อุปกรณ์ที่ใช้สอบปฏิบัติก็ถูกจัดวางไว้อย่างเรียบร้อย
> สิ่งที่ต้องสอบในวันนี้คือ แล่ปลา ซอยใบมะกรูด ส้มตำ
> และก็แกะสลักผักผลไม้ เชฟวิชิต มากามุระพูดจบหลังจากที่เค้าแนะนำตัว
> เชฟคนนี้ก่อนหน้านี้ผมไม่รู้จักหรอก แต่พอผมเริ่มสนใจจะมาเรียนที่นี่
> ก็เริ่มเจอเค้าบ่อยขึ้น
ตามหน้าหนังสือทั่วไป และในเวปไซต์หลายๆแห่ง
> เชฟวิชิต แกพูดไทยได้อย่างคล่องแคล่ว แต่มีสำเนียงคล้ายกับคนญี่ปุ่น
> หลังจากนั้นแก ก็อธิบายรายละเอียดการสอบในครั้งนี้จนจบ
> ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว เชิญครับ คำพูดสุดท้ายที่แกทิ้งไว้ก่อนเดินออกไป
> เอาละ จะเริ่มทำอะไรเป็นสิ่งแรกดี
> ก็คงต้องเป็นผักก่อนแหละ เพราะถ้าเอามาปลามาขึ้นจะเสียเวลาล้างเขียง
> แกะสลักคงต้องเป็นอันดับสุดท้าย เพราะยังไม่รู้ว่าจะแกะเป็นอะไร
> ว่าแล้วก็เอาใบมะกรูดไปล้างแล้วเอามาซอยเป็นอันดับแรก
> พอเริ่มจับมีดเท่านั้นแหละ มีดมันไม่คมนี่ครับ
> ออกอาการเซ็ง สักพักหลายๆคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน
> เอาวะซอยช้าๆเอาให้ชัวร์ก็ได้ ว่าแล้วก็เริ่มม้วนใบให้กลมแน่นที่สุด
> เริ่มเอามีดซอยช้าๆ มีดช่างยาวและใหญ่เหลือเกิน
> โอเคพอหั่นบางได้ชินละ ก็เร่งสปีดเร็วขึ้น
> พอเห็นอีกที เฮ้ย ! ใบมันไม่ขาดออกจากกัน นั่นไง
> เจอปัญหาแรกซะละ เอาวะซอยต่อเดี๋ยวมาแก้
> พูดไม่ทันขาดคำ ซอยหนาไปเป็นนิ้ว อะไรวะเนี่ย
> เมื่อกี้ตั้งมีดตรงแล้วนิหว่า จับใบมะกรูดก็แน่นไม่ให้ดิ้นด้วย
> สรุปซอยไปซอยมาทุเรศมากอะ
> ช่างมัน เป็นคำปลอบใจสั้นๆกับตัวเองเพื่อให้มีกำลังใจต่อไป
> เดี๋ยวค่อยกลับมาแก้ตอนมีช่วงสุดท้ายก็ได้
> แล้วจะทำอะไรต่อดีนะ ว่าแล้วก็เห็นอุปกรณ์ที่ต้องใช้ร่วมกัน
> วางอยู่แบบไม่มีใครสนใจ จึงตรงดิ่งไปคว้ามาปอกผัก ซะเลย
> หลังจากปอกเสร็จก็เริ่มเฉาะมะละกอต่อเลย
> เอาอีกแล้ว มะละกอที่เฉาะ ทำไมมันหนาเหมือนแท่งดินสอเลยเนี่ย
> ติดนิสัยมาจากซอยใบมะกรูดแน่ๆ แต่พอสักพัก
> ก็เริ่มชินมือ ได้เส้นที่ต้องการพอดี คือ
> เรียวเล็ก ไม่ใหญ่ ไม่สั้น ไม่ยาวจนเกินไป
> ขนาดพอดีคำ ถ้าตำเสร็จเคี้ยวเข้าไปคงจะกรุบกรอบแซ่บลิ้นแน่ๆ
> แค่คิดน้ำลายก็ไหลแล้ว
> พอเตรียมเสร็จก็ยังไม่ทำส้มตำทันที
> กลัวมันจะไม่อร่อยถ้าตำเสร็จแล้วทิ้งไว้นานๆ
> ก็เลยไปจัดการปลาเป็นอันดับต่อมา
> ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์ เพราะว่ามีดเราไม่คม
> แทนที่จะลับมีดสักนิดก่อนใช้ ดันไม่ยอมทำ แกะสลักก็เริ่มคิดได้
> ก็ไม่ยอมไปแกะก่อน ทำให้ใช้เวลาหมดไปอย่างรวดเร็ว
> กับการแล่ปลาตัวเดียว และก็ไม่ได้ตามที่ต้องการ
> เนื้อปลาเละ หนังขาดออกจากกัน เห็นแล้วหมดกำลังใจ สิ้นหวังสุดๆ
> เวลาเหลืออีก ไม่เกิน 20 นาที เอาไงดี ว่าแล้วหยิบแครอท
> ที่ปอกขึ้นมาแกะสลักเป็นอันดับแรก เพราะว่ามะละกอเสร็จอย่างแน่นอน
> แกะได้ดอกกุหลายเบี้ยวๆไปดอกนึง ไม่น่าเชื่อว่าการแกะสลักครั้งนี้
> แกะไปมือสั่นไปตลอด เหมือนถือขวดโซดาสิงห์
สั่นเพราะอะไร
> ก็ไม่รู้ แต่ก็แกะไปทั้งอย่างนั้นนั่นแหละ ได้แผลมาหนึ่งแผลตอนจับมีด
> เพราะตอนจับมีดต้องจับด้านคม ทำให้ตอนกดมีด
> มันกดเข้าไปในเนื้อเราเลือดไหลไม่มาก แต่แอบเจ็บ
> เพราะไม่รู้จะไปอ้อนกับใครด้วย พอแกะเสร็จจึงรีบไปตำส้มตำต่อ
> แต่เอ๊ะ ! เครื่องปรุงมันหายไปไหนหมด วะ เนี่ย
> มะเขือเทศสีดา เหลือ 3 ชิ้นถั่วฝักยาวเหลือ 6 ชิ้นน้อยๆ
> ทำไมของที่เค้าเตรียมให้ไม่พอวะเนี่ย ช่างมัน(อีกแล้ว)
> เพราะถึงไปขอเพิ่มเค้าก็ไม่ให้ เฮ้ย !
> มีเรื่องให้ประหลาดใจในครัวอยู่เรื่อย ก็เพราะพริกที่จะตำก็ไม่มีพริกแดง
> นี่มันอะไรเนี่ย คุณพระช่วย
> เอาวะตำมันทั้งอย่างนี้แหละ ไม่นานส้มตำเขียวเสวย
> ก็ถือกำเนิดขึ้น เหลือเวลาอีกนิดเดียวเลยหยิบแตงกวา
> มาปาดคอ ควักไส้ กลายเป็นใบไม้ 2 ใบ
> ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ว่ามันจะรวดเร็วเหมือนมาม่า
> แต่หน้าตาดูแทบไม่ได้ ตอนนี้ยังเหลือใบมะกรูดอีกอย่าง
> หมดเวลาแล้วค่ะ เก็บอุปกรณ์ได้เลยค่ะ
> เสียงผู้คุมสอบเดินมาบอกเวลา
>
> ทำไม มันช่างโหดร้ายขนาดนี้ สุดท้ายก็ต้องจำใจยกอาหารออกไปวาง
> เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบ และให้คะแนน
> เปรียบเทียบกับอาหารของทุกคนแล้วผมคงเป็นเด็กหลังห้องที่ได้
> ที่โหล่ อายมากอยากจะหายไปจากตรงนั้นจัง
> ขอเชิญทุกท่านรอสักครู่นะค่ะ อีกสักพักเราจะสอบสัมภาษณ์คะ
> เจ้าหน้าที่คนเดิมแจ้งให้ทราบ พร้อมยิ้มให้กำลังใจกับทุกๆคน
> จะเป็นไงบ้างวะเนี่ย คุณกรรมการครับ ไม่ให้คะแนนผมไม่เป็นไร
> แต่อย่าให้ติดลบนะครับ เราอ้อนวอนด้วยสายตาใสซื่อเหมือนลูกแมว
> ในที่สุดการให้คะแนนก็สิ้นสุดลงเมื่อการสอบสัมภาษณ์กำลังจะเริ่มขึ้น
> การรอคอยมันทำให้เราอึดอัดจริงๆ แต่ก็ต้องทน
> ไม่นานนักก็ได้เข้าไปสอบสัมภาษณ์กับเชฟใหญ่ของ
> โรงแรมโอเรียนเต็ล ที่เราใฝ่ฝันอยากจะเข้ามาเรียน
> เค้าไม่ใช่ใครที่ไหน คุณวิชิต คนเดิมแหละครับ
> กับคำถามง่ายๆ ที่ตอบยาก ทำไมคุณสนใจที่จะมาเรียนที่นี่
> ผมตอบโดยการเล่าเรื่องราวชีวิตของผม ที่เป็นอยู่
> ให้กับเค้าฟัง เสมือนเค้าเป็นคนที่ผมขอคำปรึกษา
> ผมเล่าทุกอย่างที่ผมรู้สึก ผมอยากจะไปเป็นเชฟ
> ความรู้สึกของผมมันเอ่อล้นมาตั้งแต่ผมตั้งตารอมาจนถึงวินาทีนี้
> สุดท้ายหลังจบการสัมภาษณ์ ผมได้แต่คิดเองอยู่ข้างในว่า
> 50% มั้งที่เราจะได้เข้าไปเรียน
> เป็นครั้งแรกที่ผมกลับมาบ้านแล้วมานั่งร้องไห้คนเดียว
> จากความผิดพลาดเล็กน้อยของผม ที่มันยิ่งใหญ่กับชีวิตผมมาก
> แม้ว่าบางคนจะคิดว่านี่คือ แค่การสอบ ไม่ใช่การทำงาน
> แต่สำหรับผม ถ้านี่มันคือชีวิตการทำงานละ
> ความฝันผมคงหลุดลอยไปแล้ว แล้วไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ จังหวะและโอกาสนี้
> มันจะกลับมาอีก ผมจึงได้แต่ตั้งใจว่า
> ผมจะเก็บมันไว้เป็นบทเรียนที่มีค่ายิ่งที่สอนให้ผมรูจักความสำคัญของ
> สิ่งที่เล็กน้อยที่สุด
Create Date : 12 ธันวาคม 2552
Last Update : 4 มกราคม 2554 14:11:50 น.
4 comments
Counter : 583 Pageviews.
Share
Tweet
วันนี้ไปยื่นใบสมัครมาแล้วคะ ได้สอบวันที่8 ตื่นเต้นมาก กลัวสอบไม่ได้แอบถามเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าตอนนี้รับไปแล้ว8คน ถ้ารับ20 คนแปลว่าเหลือที่อีก12คนที่จะได้เข้าเรียน ไม่รู้ว่่า12ที่ๆเหลือจะมีเราอยู่มั้ยแล้วถ้าก่อนวันที่8มกราคม เค้าสัมภาษณ์คนอื่นไปก่อนเราแล้ว โควต้าเต็ม ไม่อยากคิดเลย หวังว่าคงได้มีโอกาสเป็นเพื่อนร่วมห้องกันนะคะ
โดย: nam IP: 125.25.120.109 วันที่: 28 ธันวาคม 2552 เวลา:22:04:14 น.
เจอกันที่ห้องเรียนนะครับ คุณ nam ^^
โดย: polnichiro (
polnichiro
) วันที่: 3 มกราคม 2553 เวลา:12:55:56 น.
ฮิๆๆ เพิ่งเจอ blog นี้ ... อ่านมาตั้งนาน จนหยิบบัตรสอบมาดู อ้าววว สอบรุ่นเดียวกันเรย เดี๋ยวเจอกันตอนปฐมนิเทศนะ .. พี่น้ำด้วย ฮ่าๆๆ
โดย: skippi IP: 203.144.144.164 วันที่: 25 มกราคม 2553 เวลา:16:24:01 น.
ยินดีที่ได้รู้จักกันล่วงหน้า อิอิ เจอกันวันปฐมนิเทศครับ
โดย: polnichiro (
polnichiro
) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:10:27 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
polnichiro
Location :
Thailand
United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
" อย่าหายใจทิ้งไปวันวัน "
<
Music
Playlist
at
MixPod.com
ดูประวัติ MR Noppol Chaiviriyanont (Pol)
Powered by
TARADjob.com
:
-
YuMmY_AuMmY
ปูขาเก เซมารู
satineesh
ป้ามด
ดอกหญ้าเมืองเลย
Goret
Paradijs
wedding
ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Opey
Rainy in the blue sky
schneegloeckchen
aoydave
bananarumba
kingmaithai
nu_noiy
Blog_angel
magicapple
runjung309
pern
Webmaster - BlogGang
[Add polnichiro's blog to your web]
Code Color
T H A I C H E Fs
ENSOGO
Bloggang.com