หากเครียดนัก ก็ลองเปลี่ยนแปลงตัวเองสักหน่อย..

ช่วงตลอดเวลาหลายเดือนมานี้ ไม่รู้ตัวเองว่าเครียดนะ แต่มารู้อีกทีตรงที่การกินของเราเริ่มผิดปกติแล้ว คือ กินทุกอย่างที่มีอยู่ในบ้าน กินแม้ว่าพุงจะป่องจนจะแตกอยู่แล้ว หรือแม้กระทั้ง ก่อนนอนก็ยังถือของกินอยู่ในมือ กินเสร็จนอนเลย แล้วพอกินเยอะๆๆ พุงก็ออก (ปกติเวลาเริ่มอ้วนจะออกพุง ก้น และขา ส่วนช่วงบนนอกจากพุงแล้วจะดูไม่ออก) แล้วทีนี้พอเริ่มอ้วน ก็เริ่มเครียด เริ่มเสียใจ ว่าทำไมเราไม่หุ่นเหมือนเมื่อก่อน พอชั่งน้ำหนักก็ ได้ 53 โล ซึ่งก่อนหน้านี้ หนัก 48 โล หลังจากกินเยอะๆๆก็ อ้วนสิ พออ้วนแล้วก็เครียด พอเครียดแล้วก็กิน มันเป็นวงเวียนอยู่อย่างนี้ จนเมื่อจันทร์ที่ผ่านมา เริ่มไม่ไหวแล้ว ไปเรียน คนถามว่า ท้องเหรอ จริงๆก็มีเรื่องอื่นด้วยที่ทำให้เราเครียด นั้นก็คือ เรื่องหน้าที่แพ้และเป็นสิว และสิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้เราเริ่มเศร้าหนัก และคิดว่า ไม่ไหวแล้ว ต้องเปลี่ยนการกินของตัวเอง และก็กำจัดเรื่องเครียดที่อยู่ในหัวแบบไม่รู้ตัว

ทีนี้จะทำไงดี เราเครียดเรื่องอะไร ตอนแรกก็ไม่รู้ตัว แต่พออ่านหนังสือ "เปลี่ยนตัวเองใหม่ ใน 5 นาที ของ สำนักพิมพ์ วงกลม" ซึ่งอยากบอกว่า อ่านมาแล้วประมาณ 3 รอบ ทุกครั้งที่อ่านก็จะมีความเครียดสุดๆแล้วก็อ่าน จะว่าไปแล้วก็ได้ผลนะ หากเราทำตามหนังสือแนะนำได้นานๆๆ แต่เอาน่า อ่านใหม่อีกรอบ เปลี่ยนตัวเองใหม่อีกรอบ แล้วก็มีข้อหนึ่ง เค้าแนะนำให้เขียนความรู้สึกใส่กระดาษออกมาให้หมด เค้าให้เขียนสิ่งที่คิดอยู่ในหัวออกมาให้หมด เราจะได้รู้ว่า ตอนนี้เราเป็นอะไร มีสาเหตุมาจากอะไร แล้วจะแก้ไขยังไง ว่าแล้วก็เขียนออกมาได้ดังนี้

อาการและความรู้สึกในจิตใจ
กินเก่ง เครียด เกลียดตัวเอง

สาเหตุความเครียด
1. อ้วน
2. รู้สึกตัวเองไม่สวย
3. เก็บตังได้ไม่เยอะ
4. รู้สึกไม่มีเพื่อนที่อยู่ที่นี้เลย
5. ไม่ชอบเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง
6. เรื่องหน้าที่แพ้ และเป็นสิวมานาน ไม่หายสักที หมดเงินรักษาไปเยอะด้วย

วิธีแก้
1. อ้วน
เรื่องอ้วนเกิดมาจากปัญหาการกินของเราเอง ซึ่งพอเครียดแล้วจะกินทุกอย่างที่มี และต้องการหาอะไรใส่ปากตลอด แต่พอกินเสร็จแล้วก็จะรู้สึกผิดว่าไม่ควรกินเลย แต่พอรู้สึกผิด ก็กลับกินต่อเผื่อชดเชยความรู้สึกผิด ดังนั้น เราก็ควร ปรับเรื่องการกินของเราโดยการ

- จดรายการอาหาร และจดทุกมื้อว่า เรากินอะไรเข้าไป ซึ่งจะทำให้เรารู้ตัวด้วยว่า เรากินไรไปมั้ง ก็เหมือนเราจดรายรับรายจ่าย ซึ่งแรกๆ อาจจะไม่เห็นผล แต่พอเราดูบ่อยๆ เราก็จะรู้ตัวว่า เราทำอะไรไปมั้ง ซึ่งดีมาก

- ทีนี้ก็มาเช็คตู้เย็น ว่าเรามีอะไรมั้ง แล้วจดไว้ เราจะได้เตรียมอาหารถูก และไม่ซื้ออาหารมาใหม่ซ้ำด้วย ส่วนหนึ่งที่กินเยอะเพราะว่าเสียดายอาหาร กัวอาหารบูด ก็เลยต้องรีบกิน

- ไม่กินขนมจุกจิก อิ่มแล้วก็ควรพอ กินแค่พออิ่มเท่านั้น ตอนดึกก็ต้องไม่กินอย่างอื่นหลังอาหารเย็นเด็ดขาด ท่องไว้ อ้วน อ้วน อ้วน


2. รู้สึกตัวเองไม่สวย
จริงๆเป็นปัญหาที่จิตใจนะ เรื่องนี้อ่ะ เนื่องจากเริ่มอ้วน และมีปัญหาที่ใบหน้า และก็การซื้อเสื้อผ้าที่เราไม่สามารถซื้อได้เหมือนอยู่เมืองไทย เพราะที่นี้อะไรก็แพงจังเลย สมัยก่อนราคาขนาดนี้นะ เราซื้อในห้างได้สบายเลย นั้นก็เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่เวลาอยากได้อะไรก็ต้องคิดแล้วคิดอีก ซื้อทุกอย่างก็ไม่ได้ มันเปลือง และก็หุ่นที่ไม่สามารถแต่งตัวได้มากนัก เลยทำให้เครียดได้
วิธีแก้ของเราก็คือ

- เขียนไดอารี่ทุกวัน จะได้รู้ว่าตัวเองในแต่ละวันรู้สึกยังไง และมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

- เปลี่ยนความคิดใหม่ อย่ามองโลกในด้านลบ ของทุกอย่างที่เรามีอยู่ ก็ทำให้เราสวยได้

- เอาเสื้อผ้าที่มีอยู่ มาลองใหม่ยกตู้ จับตัวนู้นมาเข้ากับตัวนี้ รองเท้าก็ยังมีอยู่เยอะแยะ ลองมาแต่งใหม่ ถ่ายรูปเอาไว้เมื่อแต่งเสด แล้วจะได้จำได้ว่า เรามีเสื้อผ้าอะไรมั้ง และที่สำคัญ ควรเช็ค ของที่เรามีอยู่อย่างน้อย เดือนละครั้งด้วย จะได้ไม่เกิดอาการอยากได้ของมาก และก็ซื้อซ้ำ

-สามารถดูนิตยาสารที่มีอยู่ แล้วก็เอาเสื้อผ้าที่เรามีอยู่มาประยุกต์ หากต้องการซื้อใหม่ก็ต้องดูแล้วว่า มันสามารถเอามาประยุกต์กับเสื้อผ้าที่เรามีอยู่ได้


3. เก็บตังไม่อยู่
การที่เราเก็บตังไม่อยู่นี้ ก็ทำให้เราเครียดมากเหมือนกัน ตอนแรกเหมือนจะไม่ใช้ตังนะ คิดว่า ตัวเองต้องประหยัด เก็บตังเพื่อ อนาคต แต่เหมือนแบบว่า เก็บนะ แต่จริงๆไม่เลย พอเจอเสื้อผ้า หรือของที่อยากได้ ก็ซื้อ ซื้อแบบไม่ค่อยคิด แล้วพอซื้อมาแล้ว ก็เอ๊ะ ไหนเราจะเก็บตังไง แล้วทำไมซื้อมาเยอะอย่างนี้ พอซื้อมาแล้วก็เสียดาย นี้แหละ ทำให้เราเก็บตังไม่ได้สักที ต้องรีบแก้ไข

- จดรายรับรายจ่ายไว้ การทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ดีมาก ซึ่งเราทำมานานนะ แรกๆก็ทำนะ แต่รายจ่ายก็เยอะอยู่ แต่ก็ยังทำต่อไปเรื่อยๆ คิดว่าสักวันมันจะเห็นผล และแล้ว เดือนนี้เป็นเดือนแรก ที่รู้สึกว่า การใช้จ่ายของเราเริ่มเห็นผล เริ่มลงตัวขึ้นมา ก็ดีใจนะ

- อย่าคิดจะเก็บเงิน จนไม่ได้ใช้ เพราะว่าจะทำให้เรา ตะบะแตกได้ง่าย พอคิดจะเก็บนะ แต่พอเจออะไรเข้าหน่อย ก็ซื้อจนไม่คิดอะไร นี้แหละ เป็นสิงไม่ดีเลย เราก็แบ่งเงินออกมา กำหนดจำนวนเงินมาเลยว่า เราจะช๊อปต่อเดือนเท่าไหร่ เช่น 200 ดอลล่าห์ต่อเดือน สำหรับเงินซื้อเสื้อผ้า และของที่อยากได้ ก็จะทำให้เรารู้ตัวด้วยว่า อย่าใช้เกินนี้ หากใช้ไม่หมด ก็เก็บไว้ และทบในเดือนถัดไป

- แบ่งเงิน จัดสรรให้ลงตัว เช่น ควรแบ่งค่าใช้จ่ายประจำก่อน และก็แบ่งเงินฝากประจำที่ต้องฝากทุกเดือน และก็ แบ่งเงินที่ช๊อป และที่นี้เหลือเท่าไหร่ ก็สำหรับค่าใช้จ่ายของเดือน

- ใช้บัตรเครดิตให้น้อยที่สุด คนเกาหลีเนี้ยชอบใช้บัตรเครดิตมาก แต่ตอนเราอยู่เมืองไทยอ่ะ เราใช้แต่เงินสด ซึ่งก็ไม่มีปัญหาที่ว่า พอสิ้นเดือน กลุ้ม เอ๊ะ ทำไมรายจ่ายเยอะอย่างนี้ไรงี้ เราก็ใช้บัตรเท่าที่จำเป็น ที่เหลือก็ใช้เงินสด เช่น เวลาไปซื้อของที่อีมาร์ท หากไปตอนเช้า ใช้บัตรเครดิตได้ลด 5 % อย่างนี้สิ เค้าถึงเรียกว่า คุ้มเนอะ

- เช็คของก่อนออกไปซื้อ แล้วก็ไม่ควรซื้อของมาตุนไว้ในตู้เย็นไว้เยอะๆ เพราะว่าพอกินไม่ทันแล้วมันเสียดายอ่ะ เงินทั้งนั้น ซื้อเท่าที่พอกิน ซื้อของไว้เพียงพอสำหรับอาทิตย์ต่ออาทิตย์ ยิ่งดี


4. รู้สึกไม่มีเพื่อนอยู่ที่นี้เลย
จริงๆตอนอยู่เมืองไทยตัวเองเป็นคนเพื่อนเยอะมากๆ เพื่อนสนิทๆที่รักกันจริงๆก็มีกันอยู่หลายคน พูดง่ายๆว่า ชีวิตนี้ไม่เคยขาดเพือนเลย มีเพื่อนอยู่ข้างตัวตลอด แต่พอมาอยู่ที่นี้ ก็เริ่มเก็บตัว ไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่ ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ผิดอย่างมาก เราควรมีสัมพันธ์กับคนอื่นในฐานะเพื่อน เหมือนกับที่เรามีในเมืองไทย วิธีแก้ของเรา คือ

- ควรสานสัมพันธ์กับเพื่อนที่อยู่ในเกาหลีบ้าง ไม่หายไป หรือเงียบไปเหมือนที่เป็นมา

- หากไม่ว่าง อย่างน้อย ก็ควรส่งเมสเซจหาพวกเค้าบ้าง เพื่อให้ยังมีการติดต่อกันอยู่

- พอเสาร์-อาทิตย์ จากที่เคยอยู่แต่บ้าน หรือทำอะไรกันเอง ก็ควรไปบ้านเพื่อนบ้าง จะได้มีโอกาสได้พูดคุยกะเพื่อน ได้เรียนรู้นิสัยกันไป


5. ไม่ชอบเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง
เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่รบกวนจิตใจเราเป็นอย่างมาก ทำให้เราเครียด เพราะว่านั่งติดกัน บางทีก็ไม่อยากคุยกะเค้า จริงๆเราไม่เคยเกลียดหรือไม่ชอบใครนะ แต่ทำไมเราไม่ค่อยชอบเค้าก็ไม่รู้ พอมานั่งหาสาเหตุ จริงๆแล้วเค้าก็ไม่ได้ทำอะไรเรานะ ทำไมเราไม่ชอบเค้า อาจจะเพราะว่าเรามีความเครียดเป็นทุนเดิม เลยทำให้เราไม่ชอบเค้า และอาจจะเพราะว่าเราอาจจะสื่อสารกับเค้าไม่ได้ดี เพราะว่าเพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่งเราก็คุยกะเค้าได้ดีนะ แปลกใจเหมือนกัน แต่หาสาเหตุไม่ได้ เราก็ต้องมองมุมใหม่ เปลี่ยนที่เราง่ายก่าเปลี่ยนที่เค้า

- เปลี่ยนความคิดใหม่ เค้าก็ไม่ได้ร้ายอะไรกับเรา เพียงแต่บางทีเค้าพูดอะไรเราไม่เข้าใจเท่านั้นเอง ต้องมองโลกในแง่ดีไว้

- ยิ้มให้เค้าบ่อยขึ้น ทักทายเค้าทุกครั้งตอนเช้า

- เวลาทำงาน ก็หาเรื่องมาคุยกับเค้าบ้าง และก็ถามเค้าว่า ให้เราช่วยงานอะไรมั้ย เพราะว่าเราก็ว่างๆอยู่ อิอิ


6. เรื่องหน้า
เรื่องนี้ เราก็ต้องลองทำด้วยตัวเอง หลังจากที่ไปหาหมอมาหลายที่ หมดเงินไปหลายหมื่น แต่หน้าก็ไม่ได้ดีขึ้นจากก่อนไปหาหมอเลย แถมรักษาไป หน้าเกิดแพ้ ทำให้เราเครียดหนักอีก มันเป็นเรื่องเครียด 2 ต่อ คือ เรื่องหน้า และเสียดายตัง ลืมบอกไป หน้าเราเป็นเหมือนเซ็บเดริ์ม และก็แพ้อากาศ และก็เป็นสิวแท้ กับสิวเทียมด้วย ขึ้นเยอะ หน้าแดงๆ วิธีแก้ก็

- หยุดรักษากับหมอ ไปหาหมอแค่เดือนละครั้ง เนื่องจาก หมอทุกทีบอกว่าเราต้องกินยา ซึ่งเป็นยาวิตามินเอ แต่เราไม่กิน มันอันตราย ก็เลยเลือกที่จะรักษาภายนอก ไปหาก็มีแต่จะให้ทำทรีทเม้นท์ ซึ่งเรามองว่าไม่ได้ช่วยเรื่องสิว และก็มีแพ้กลับมาด้วย

- ลองใช้ยารักษาสิวที่หมอให้มา บวกกับที่ให้แม่ส่งมาด้วย

- กินอาหารดีๆ กินอย่างพอเพียง รักษาจิตใจให้ดี ไม่เครียด มีเวลาก็ไปออกกำลังกาย หางานอดิเรกทำ


หวังว่า สิ่งที่เราจะเริ่มเปลี่ยนตัวเองและแก้ปัญหาที่มีอยู่นี้จะช่วยเราได้ไม่มากก็น้อย เพราะว่า หลังจากทีได้เขียน ถึงปัญหาที่มีอยู่ และรู้ว่าจะแก้ปัญหายังไง ก็ทำให้เรารู้สึกโล่งขึ้นมาแล้ว ที่เหลือก็ต้องทำให้ได้ และบล็อคต่อไปจะมาเขียนเรื่อง การเปลี่ยนแปลงเล็กๆที่ทำได้ง่ายๆ และสามารถทำให้เราเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ และงานอดิเรกที่สนใจ..

Create Date : 15 มิถุนายน 2551 Last Update : 15 มิถุนายน 2551 8:53:38 น. Counter : 806 Pageviews.		8 comments
Share Tweet