เมื่อคนหัวฟู ไปงานหนังสือ
มาแล้วจ้า มาอัพแล้วกับเรื่องและรูปงานมหกรรมหนังสือที่ผ่านมา
ณ มนไปงานหนังสือเมือ่วันที่18ค่ะ แต่เพิ่งมาอัพบลอกก็เป็นเพราะว่ายุ่งมากกกก
จริงๆนะคะยุ่งมากเลย
วันที่ไปงานนี่ ตั้งใจจะไปให้ถึงงานก่อนเวลาแจกลายเซ็นสัก1ชั่วโมง คือกะจะไปหาซื้อหนังสือ
ทีนี้พอนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินนี่นะคะก็เกิดอารมณ์เสีย
จริงๆคือณ มนนี่ล่ะที่นิสัยเสียเอง ก็ถ้าเวลาขึ้นรถโดยสารนี่นะ ถ้าวันไหนขึ้นไปแล้วไม่ได้นั่งนี่จะรู้สึกกรุ่นๆอยู่ในใจค่ะ แต่ยังพอทน
ทีนี้อารมณ์จะเสียสุดๆก็ตอนที่คนที่เขาได้นั่งนี่เขาคุยกันเสียงดังด้วยความรื่นเริงชนิดไม่เกรงใจคนที่มันยืนเมือ่ยอยู่ข้างๆอ่ะ
จริงๆก็ไม่มีสิทธิไปโกรธเขาหรอกเนอะ แต่ก็อย่างที่บอกอ่ะค่ะ คนมันนิสัยไม่ดีก็เลยไปโกรธเขาซะงั้น
ทีนี้วันนั้นเนี่ยพอโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินคนแน่นมาก เลยต้องไปยืนเกาะเสา เกาะเฉยๆนะคะไม่ได้รูดเสา
แล้วนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหญ่มากไม่รู้เกาหลีหรือญี่ปุ่น ฟังภาษาเขาไม่ออก
หนุ่มสาวกลุ่มนี้เขายึดที่นั่งไว้หมดทั้งสองฝั่งของตู้โดยสารตู่นี้เลยอ่ะ แถมยังคุยกันโขมงโฉงเฉงประมาณนี่เป็นรถโดยสารของพวกข้าเท่านั้น
ณ มนก็เหลือบมองไปด้วยความหมั่นไส้และโกรธด้วย หนอยได้นั่งแล้วยังมาคุยเยาะเย้ยกันอี๊ก
กว่าจะลงศูนย์สิริกิติ์ก็นึกโมโหไปหลายรอบ แต่ได้แค่นึกค่ะ จะไปอะไรได้ก็พวกเยอะซะขนาดนั้นนี่นา
พอมาถึงหน้างานก็ปรากฏว่ามีผู้คนมากมายๆจริงค่ะที่มาเที่ยวงาน เราก็ความที่ไม่เคยมางานหนังสือใหญ่ๆขนาดนี้มาก่อนเลยอึ้ง
ไม่คิดว่าเขาจะสนใจงานหนังสือกันขนาดนี้
จากที่เคยไปงานหนังสือเยาวชนน่ะ เทียบไม่ได้เลยกับงานครั้งนี้ ยืนอึ้งไปพักหนึ่งค่ะ ก่อนจะเดินเข้างาน
พอมาถึงงานก็ได้เห็นป้ายนี้คะ
ตอนแรกที่ตั้งใจว่าจะเดินไปถ่ายรูปไปเก็บบรรยากาศมาฝากทุกๆคน
แต่ว่ามันทำไม่ได้อ่ะก็คนมันเยอะมากแทบไม่ต้องเดินเลย คือไหลไปตามเขาน่ะ คนเยอะจริงๆ
จะแวะบูธหนังสือสักบูธยังลำบากเพราะถ้าเราหยุดปุ๊บคนจะติดปั๊บทันที
เอาล่ะสิเมื่อครู่เพิ่งจะกรุ่นๆมาในรถพอมาเจอมหกรรมผู้คนมหาศาลบานตะไทแบบนี้ก็ชักจะเริ่มหงุดหงิดอีกรอบ
จากที่ตั้งใจว่าจะถ่ายรูป+ซื้อหนังสือ งานนี้เลิกความคิดเลยค่ะ ที่จริงกะจะเอาของไปฝากบูธแจ่มใสซะก่อนแล้วค่อยซื้อของ ตอนนี้ต้องเปลี่ยนแผนกะทันหันคือ พยายามพาซื้อหนังสือที่ต้องการให้ได้ แล้วจะแหวกวงล้มของฝูงชนไปบูธแจ่มใสค่ะ
ระหว่างทางเผอิญเจอบูธของสนพ.วงกลมซึ่งจะชอบหนังสือท่องเที่ยวของสนพ.นี้มาก
งานนี้เลยควักกระเป๋าจ่ายไปสองเล่ม เป็นผลงานของคุณอัลฟาและโรมิโอกับงานของคุณเพลงดาบแม่น้ำร้อยสายค่ะ
อารมณ์เริ่มดีขึ้นมานิดนึงละแบบว่าได้ในราคาที่ลดจากปกเยอะเหมือนกัน
จากนั้นก็ไปบูธของพิมพ์คำค่ะ เพราะมีนัดกับหนังสือเล่มหนึ่งกะว่าจะซื้อมาเก็บเอาไว้ เป็นหนังสือของคุณมาลัยหรอืจุฑารัตน์นั่นเอง ชื่อเรื่อง ตำนานเทพของกรีกกับโรมันค่ะ จาก350 งานนี้จ่ายไป280 แต่กว่าจะได้หนังสือเล่มนี้มา ก็ต้องฝ่ากลุ่มน้องๆที่เขามาซื้อนิยายของสนพ.พิมพ์คำจำนวนมากค่ะ
แต่ในที่สุดก็ได้มา พอณ มนควักเงินจ่ายไป นอ้งคนขายถามว่า พี่อยากได้ลายเซ็นของคนเขียนไหมคะ พี่เขานั่งอยู่นี่
ณ มนหันไปมอง หาคุณจุฑารัตน์ตัวจริงเสียงจริง โหย ปลื้มมาตั้งกะหนังสือเรื่องมิติมหัศจรรย์ งานนี้ณ มนเลยรีบยื่นหนังสือให้พี่เขาเซ็นด้วยความปลาบปลื้มค่ะ โชคดีจัง ตอนนี้อารมณ์ที่กรุ่นโกรธมาตั้งกะขามาหายสนิทไปเลยค่ะ
พอได้หนังสือที่ต้องการครบแล้วก็จะเดินไปบูธตัวเอง ได้เจอกับคุณทมยันตีสุดยอดนักเขียนนิยายไทยด้วย แต่วันนี้ท่านนั่งมาในรถเข็นค่ะ แต่ใครที่ได้ลายเซ็นท่านไปคงปลื้มน่าดู ก็ท่านอุตว่าห์มางานทั้งที่สุขภาพไม่ค่อยอำนวย งานนี้ณ มนแห้วค่ะเพราะไปเจอท่านตอนกลับพอดี อดเลย
หลังจากฝ่าฝูงชนมาจนถึงบูธแจ่มใสในตอนนั้น ตั้งใจเลยว่าจะปักหลักอยู่นี่ล่ะ ไม่ยอมไปไหนเด็ดขาดแบบว่ากลัวอารมณ์เสียอีกอ่ะ เลยยืนอยู่หลังบูธนั่นเอง
ระหว่างนั้น yayoiกับอุรัสยากำลังแจกลายเซ็นมือเป็นระวิงเลย สองคนนี่แฟนคลับเยอะมากค่ะ
พอมาถึงคิวณ มน ตอนบ่ายสามก็ได้นั่งแจกลายเซ็นพร้อมกับนลัทค่ะ เราแจกลายเซ็นไปเรื่อยๆสนุกดี
แล้วเรื่องที่ณ มนยิ้มจนแก้มบานเลยนะคะมาอ่านกันหน่อยค่ะ แบบว่าคนเขียนปลื้มมาก
ก็มีน้องนักอ่านคนหนึ่งแกมายืนมองหน้าณ มนตั้งนานสองนาน แล้วแกก็หันไปถามทีมงานแจ่มใสว่า พี่ๆ พี่ณ มนนี่เรียนจบหรือยัง หน้าพี่เขาเด้กเด็ก
อุวะฮ่าฮ่าฮ่าดีใจชะมัดที่มีคนชมว่าหน้าเด็ก ตอนนี้นะคะปรอทความสุขพุ่งถึงขีดสุดอ่ะ
มาถึงตอนนี้เพื่อนๆพี่ๆที่หลงเข้ามาอ่าน อาจจะคิดว่าณ มนมันบ้าไปแล้วแค่มีคนชมว่าหน้าเด็กก็ดีใจซะขนาดนี้
ก็แหม ในบรรดานักเขียนแจ่มใสที่ณ มนรู้จักอ่ะ ณ มนได้เรียกพี่แค่สองสามคนเอง นอกนั้นเด็กกว่าหมดเลยอ่ะ มันก็เลยเป็นธรรมดาใช่ม๊าที่จะดีใจจนออกนอกหน้า หากมีใครมาทักว่าเราหน้าเด็ก
นอกจากหน้าเด็กแล้วนะคะ ยังรู้มาอีกว่าอันตัวเรานี้หนอหน้าไม่ไดมีราศรีการเป็นนักเขียนเอาซะเลย
นั่งๆอยู่ก็มีคนมาบอกว่า "นอ้งๆรับห่อปกป่ะ"แหมพี่ก็หน้าหนูนี่มันไม่เหมือนนักเขียนเลยเหรอ
บางทีก็มาขอแลกของสมนาคุณ แต่ช่างเหอะหลังจากได้ลายเซ็นนักเขียนคนโปรด+มีคนชมว่าหน้าเด็กตอนนี้ไม่ว่าอะไรก็ทำให้ณ มนอารมณ์เสียไม่ได้แล้วล่ะ
แต่งานนี้รู้สึกผิดมากๆก็ตรงที่ไม่ได้อยู่รอเจอพี่แพทนี่ล่ะ พี่เขาอุตส่าห์ไปหาณ มนที่บูธ แต่ณ มนดันกลับไปซะก่อน มาถึงตรงนี้ขอกล่าวคำขอโทษพี่แพทอย่างเป้นทางการนะคะณ มนขอโทษจ้า
อ้อ ความจริงนะคะมีนักเขียนท่านหนึ่งที่ณ มนอยากเจอเขามากเลยล่ะ เพราะอ่านนิยายของเขามาตลอด กะว่าได้เจอแน่ แต่เขาแจกลายเซ็นเวลาเดียวกับณ มน ก็เลยอดเจอตัวจริงของเขาเลยค่ะ เขาใช้นามปากกาว่าภัทราพร เสียดายจังไม่ได้เจอ
เอาล่ะค่ะบ่นมาเยอะแล้วทีนี้ก็มาถึงตอนที่ณ มนจะเอารูปงานหนังสือมาฝากทุกๆท่านแล้ว
รูปนี่ตามไปเก็บมาวันหลังค่ะ ตั้งใจไปวันธรรมดาคนจะได้น้อยๆหน่อย พอไปวันธรรมดาเลยได้ไปเดินทั่วๆหาซื้อหนังสือแบบไม่ต้องรีบซื้อเพราะว่างานนี้คนไม่แน่นไม่ต้องไหลตามกันเหมือนวันเสาร์อาทิตย์ค่ะ
เป็นบูธของ สสส.ค่ะ มีการจัดมุมให้พ่อแม่กับลูกๆได้ทำกิจกรรมร่วมกันด้วย แถมยังมีการสาธิตการจัดกระเช้าของขวัญหนังสือด้วยนะคะ
บูธนี้ขายหนังสือเกี่ยวกับน้องหมาค่ะ จำชื่อบูธไม่ได้ แต่ณ มนชอบจังเพราะมีโปสการ์ดน้องหมาขายด้วยล่ะ
รูปนี้ไม่ได้เสียนะคะ แต่ณ มนตั้งใจจะถ่ายคุณป้าท่านี้ล่ะ คุณป้าท่านไปเดินเลือกซื้อหนังสือที่บูธขวัญเรือนแล้วคุณป้าก็นุ่งกระโปรงเรียบร้อยสมกับบูธขวัญเรือนเป๊ะเลย
จะบอกว่าบลอกนี้เป็นบลอกที่ ณ มน อัพนานที่สุดเลยค่ะ ทำมาสามวันแล้วเซฟเป็นสำเนาเอาไว้ เพราะคอมพ์มันโหลดช้ามากเลยอ่ะ
เอาล่ะค่ะทีนี้ณ มนขอพามาดูบูธแจ่มใสมั่งค่ะ
รูปที่จะเอามาให้ดูนี่เป็นรูปด้านหลังค่ะมาดูกันว่าเบื้องหลังพลังงานอันกล้าแกร่งของน้องๆฝ่ายขายของเรามาได้ยังไง
ภาพเบื้องหน้าค่ะ
อั่นแน่ซื้อหนังสือเราด้วย
เอาล่ะทีนี้ก็เดินออกจากโซนนี้เพื่อไปดูบูธของมติชนค่ะ คือวันก่อนตั้งใจว่าจะไปแต่คนเยอะมากเลยอด
ก่อนถึงมติชนเห็นเขาตั้งกล่องเอาไว้ให้มาบริจาคหนังสือค่ะ พอดีกับคุณลุงท่านหนึ่งท่านเอาหนังสือมาบริจาคเลยแชะมาซะหนึ่งรูป
ทีนี้พอเดินมาถึงบูธของมติชน
ณ มนก็ได้ซึ้งกับสัจธรรมที่ว่า "ความเปลี่ยนแปลงคืออนิจจัง" ก็ดูภาพนี้นะคะ บุคคลที่เคยโด่งดังสุดๆหนังสือเกี่ยวกับท่านผู้นี้เคยโด่งดังขายดี
แต่ทว่าวันนี้หนังสือดังกล่าวมาอยู่ในโซนลด20%ค่ะ
ส่วนท่านนี้อยู่ในโซน หนังสือขายดีอันดับ1ค่ะ
อะจึ๊ย อันนี้เกี่ยวกับการเมืองอะเปล่านี่ เรารีบไปบูธอื่นกันดีกว่านะคะเพื่อความปลอดภัย
พาคุณมาบูธสดใสบูธนี้ดีกว่า บรรลือสาส์นขายหัวเราะนั่นเอง สีสันสดใสมากๆเลยค่ะ
จากนั้นก็ไปแวะร้านนายอินทร์ค่ะ ณ มนได้หนังสือเพิ่มมาอีกหนึ่งเล่มคือ "เจ้าชายไม่วิเศษ"ชอบมากเรื่องนี้เลยตั้งใจจะไปซื้อให้ได้ค่ะ อ่านจบแล้วด้วยสนุกดีค่ะ
สรุปแล้ววันนั้นณ มนไปเก็บตกมาได้ทั้งหมดสองเล่มคือหนังสือเจ้าชายไม่วิเศษแล้วก็หนังสือสถานภาพสตริในศาสนาอิสลาม ด้วยเหตุผลที่ว่าจะเอามาใช้ในงานเขียนเรื่องล่าสุดนั่นเองค่ะ
ก่อนกลับบ้านวันนั้นได้เจอน้องมาสคอตของแจ่มใสน่ารักมากๆเลยค่ะ แต่งตัวเป็นสาวเกาหลี
อันนี้ได้ยินมาจากน้องทีมงานว่าไม่ว่าใครพอได้ใส่ชุดนี้จะเหมือนมีวิญญาณมาสิง
แบบว่าสามารถทำอะไรบ้าๆบอๆได้โดยไม่อายใครอ่ะค่ะ ไม่ใช่เรื่องสยองขวัญอะไรหรอก
อ่านมาถึงตรงนี้ก็เป็นอันว่าจบเรื่องราวเรื่องเล่าสัปดาห์หนังสือซะที
งานจบไปตั้งนานณ มนเพิ่งจะมาเล่าจบในบลอก ก็แหมมันยุ่งไงคะจำได้ไหมมันยุ่ง แต่ยังไงก็ตามก็เล่าจนจบจนได้
ขอบคุณทุกๆคนทีเข้ามาอ่านเรื่องเล่า+เรื่องบ่นของคนหัวฟูๆนะคะ
Create Date : 29 ตุลาคม 2549 |
|
34 comments |
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2549 12:10:21 น. |
Counter : 1797 Pageviews. |
|
|
|