ไปเที่ยวหลังตกงาน+แอบดูบ้านคนดัง
หลังจากเมือ่วานเซ็งกับคอมไป1วัน วันนี้มาลองกันใหม่ค่ะ
ขึ้นชื่อเรื่องแบบนี้เพราะว่าตอนที่ไปเที่ยวคือวันที่ทำงานวันสุดท้ายเมื่อวันศุกร์สดท้ายของเดือนกันยายนค่ะ
ขนาดทำงานวันสุดท้ายยังทำกันจนหยดสุดท้ายจริงๆก็มีนักร้องวงหนึ่งเขามาสัมภาษณ์เลยต้องอยู่ดูแลกว่าจะสัมภาษณ์เสร็จก็โน่น6โมงเย็น
เจ้านักร้องวงดังกล่าวก็คือวงนี้ค่ะ ตอนแรกก็อยากจะถ่ายรุปอยู่หรอกแต่ดูเหมือนนักรอ้งเขาไม่ค่อยจอย เราเลยถ่ายน้องมือกีตาร์มาซะมาก ประชดซะเลย
กว่าจะออกจกาออฟฟิศน่ะเกือบทุ่ม ทั้งที่เพื่อนที่มันอยู่ที่ปราณฯก้โทรมาบอกแล้วว่าอย่าออกเย็นมากเพราะบ้านกรูดมันไกล
เรายังมีหน้าไปเถียงอีกนะบอกว่าขับรถไปเองคงไม่นานหรอกมั้ง
"เออ ไม่เชือ่ลองดูดิ"เพื่อนว่างั้น
เราเฉยๆเพราะว่าคนขับของเราฉายาThe Ku เด็กThe Kopน่ะฝีมือขับรถหายห่วงไปต่างจังหวัดทีไรก็คนนี้ล่ะขับทุกที
เราไปกันสามคนหญิงล้วนค่ะ ช่วยกันดูทางไปกินขนมกันไป ขับๆไปประมาณสามทุ่มก็แวะกินข้าวต้มกันแล้วก็ขับต่อ ปรากฏว่าพี่ที่อาวุโสที่สุดพออิ่มแกก็หลับเฉย
เหลือณ มนกับคุจ๋าสองคน สองคนสี่ตานี่นะ ปรากฏว่าเลยทางเข้าบ้านกรูดซะงั้น
ก็แผนที่เขาให้สังเกตุปั๊มน้ำมัน แต่เที่ยงคืนกว่านี่นะปั๊มที่ไหนมันจะเปิดให้เป็นที่สังเกต
ผลน่ะหรือ กว่าจะรู้ว่าเลยก็คือแวะเข้าไปถามปั๊มโต้รุ่งแห่งหนึ่งน่ะสิ
"โห พี่ขับมาได้ไงเนี่ยเลยมาตั้งเกือบ20โล"เจ้าเด็กปั๊มพูดเหน่อสำเนียงประจวบฯ
ไอ๋หย๋าเลยไกลขนาดนี้เลยหรือนี่
สุดท้ายต้องขับรถย้อนกลับ พอถึงทางแยกเข้าบ้านกรูดก็เที่ยงคืนเกือบตีหนึ่ง กว่าจะคลำทางไปบ้านพักนานาชาติหรือยูธ โฮสเทล เจอโน่นตีหนึ่งพอดี แถมทางมืดสนิทต้องผ่านวัดอีกต่างหาก
เข็ดจริงๆต่อไปนี้จะไม่ดื้อกับเพื่อนที่เป็นเจ้าถิ่นอีกแล้ว
กว่าจะได้อาบน้ำเข้านอนโน่นเกือบตี3แน่ะ พอรุ่งเช้าขึ้นมาจะไปรับคูปองเพื่อทานอาหารเช้า
พนักงานรอ้งถามกันให้แซดว่าไม่ได้แจกคูปองให้คนมาพักหรือ อีกคนตอบว่าไงรู้ไหม
"ก็ที่พี่เขามาดึกๆเกือบตีสองไง"
แหม รู้กันทั้งรีสอร์ทเชียวนะ
เขียนยังไม่จบรีบอัพก่อนค่ะ แล้วค่อยมาต่อเติมที่หลัง
ทานอาหารอิ่มก็ออกเดินย่อยกันที่ชายหาด เห็นวิวของพระธาตุเจดีย์ภักดีประกาศอยู่ลิบๆค่ะ
ทะเลเช้าๆของหาดบ้านกรูดเหนือค่อนข้างสงบเพราะบ้านพักและรีสอร์ทจะอยู่ทางแถบใต้กันหมด แถวๆนี้จึงมีแค่บ้านพักนานาชาติกับลีลาวดีรีสอร์ทแค่2ที่ เงียบได้ใจมากๆค่ะ
หลังจากที่พี่ของเราหลับมาทั้งคืนไม่ยอมช่วยดูทางงานนี้เลยบังคับให้มาเป็นนางแบบซะ
ทีนี้มาดูบ้านพักราคา600บาทที่ณ มนไปพักค่ะ คือเป็นห้องพัดลม แต่ว่าที่ไปฝนก็ตกพรำทำให้ไม่ร้อนค่ะ นอนพักเย็นสบายกายและสบายกระเป๋าตังค์ด้วย
เดินเล่นยังไม่พอสำหรับคนบ้าพลังทั้งสามค่ะ งานนี้เลยเช่าจักรยานขี่ไปตลาดซะเลย หนทางก็ประมาณ5-6กิโลไปกลับก็10กิโลกว่าๆ ดูดิบ้ากันขนาดไหน
แต่ก็สนุกดีค่ะได้เห็นบ้านชาวบ้านแล้วก็อ่าวที่เข้าเอาเรือประมงมาจอดพักก่อนออกหาปลากลางคืนด้วย
ขี่มานานชัดเหนื่อยขอพักหน่อย
ในที่สุดก็มาถึงตลาดตอน10โมง สายขนาดนี้ตลาดก็วายหมดแน่นอนค่ะ เราเลยไปหากาแฟเย็น ไมโลเย็นดื่มแก้ร้อนพร้อมกับที่ณ มนไปหาซื้อโปสการ์ดมาส่งถึงคนที่สนิท
ปรากฏว่าไม่มีภาพของบ้านกรูดเลย สงสัยทะเลที่นี่ไม่คอ่ยบูม
ถ้านักถ่ายภาพมืออาชีพพลัดหลงมาอ่านบลอกณ มนรบกวนลองถ่ายภาพหาดบ้านกรูดมาทำโปสการ์ดบ้างนะคะหาดที่นั่นสวยมากแล้วก็สงบด้วย
งานนี้เลยได้ถาพหาดหัวหินส่งแทนค่ะ ไม่เป็นไร ไงๆก็ประจวบฯเหมือนกัน
โทษของพี่ที่เคารพยังไม่หมด ยังคงโดนณ มนจับมาเป็นนางแบบถ่ายรูปคู่กับป้ายสถานีรถไฟบ้านกรูด เป็นการยืนยันค่ะว่ามาถึงแล้ว
แล้วสถานีรถไฟที่นี่สีแดงจัดจ้ามากกก
กลับจากตลาดคุณเพื่อนโทรมาตามว่าให้ออกจากบ้านกรูดได้แล้วกว่าจะถึงปราณเดี๋ยวจะมืดอีก
เราก็รับปากค่ะ แต่ก็ยังไม่วายเถลไถลไปหาของอร่อยทานกันก่อน
เราเชคเอาท์ออกจากบ้านพัก็ไปแวะนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประจวบฯก่อนคะ
พระธาตุเจดีย์ภักดีประกาศนั่นเอง
พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ (นามพระราชทาน) เป็นพระมหาธาตุเจดีย์ขนาดใหญ่ มีความสวยงามวิจิตรตระการตาตามแบบไทยแท้ อันหาดูได้ยากยิ่ง คณะสงฆ์และพสกนิกรผู้จงรักภักดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ประกาศความภักดี โดยร่วมใจกันสร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองราชย์เป็นปีที่ห้าสิบ ออกแบบโดย ม.ร.ว มิตรารุณ เกษมศรี นายช่างถานปนิกประจำสำนักพระราชวัง โดยฝีมือการออกแบบและก่อสร้างอย่างวิจิตรบรรจง ทรงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมไทยอันยอดเยี่ยม
พระพุทธกิติสิริชัย เป็นพระรูปปูน ปั้นขนาดใหญ่ รูปทรงแบบคันทาราช (ปางตรัสรู้) ลักษณะนั่งขัดสมาธิบน ดอกบัว มีผ้าทิพย์พระนามาภิไธย ส.ก. บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อวันที่ ๖ มิ.ย. ๒๕๓๙ โดยสมเด็จพระราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ซึ่งพระพุทธกิติ สิริชัย ประดิษฐานอยู่ด้านทิศตะวันออก ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดเขาธงชัย เป็น ที่สักการะกราบไหว้ของประชาชนทั่วไป
ไหว้พระกันเสร็จก็ไปหาอะไรทาน หลังจากที่เมื่อเช้าได้คุยกับชาวบ้านจนรู้ร้านอร่อยเลื่องชื่อของบ้านกรูด
ร้านนั้นคือ "หนูโภชนา"นั่นเอง อรอ่ยมากและถูกด้วย ทานตั้งหลายอย่างจ่ายไป400กว่าบาทเอง
จานนี้อร่อยสุดค่ะ ปลาอินทรีทอดน้ำปลา
ดูแค่นีก้อนนะคะ เพราะไม่ค่อยไว้ใจคอมพ์เท่าไหร่ เกิดแฮงค์ขึ้นมาอีกล่ะแย่แน่
เราออกจากบ้านกรูดเกือบบ่ายสอง ตลอดทางเจออะไรน่าสนใจก็แวะไปเรื่อย
จนมาเจอร้านขายสับปะรดปัตตาเวีย พันธุ์เลื่องชื่อของประจวบฯงานนี้คุณพี่แกซื้อไป20โล
ซื้อจนณ มนยังงง พี่แกเฉลยว่าจะเอาไปฝากบรรดาญาติโยมนั่นเอง
ร้านที่เราแวะวางสับปะรดขายเพียบเลยแถมหลังร้านยังเป็นไร่ของพี่เขาอีก ก็เลยสอบถามว่าสับปะรดนี่ต้องปลูกนานไหมกว่าจะตัดลูกได้
"1ปีกับ8เดือนค่ะ"
"โห เห็นทานกันบ่อยไน่ต้องใช้เวลาปลูกนานขนาดนั้นเลยหรือนี่ ไม่อยากเชือ่เลย"
ขับรถด้วยความเพลิดเพลินเจริญใจ ชมวิวไปกินขนมไปมาถึงทางแยกเข้าปากน้ำปราณเกือบ6โมงเย็น
คว้าโทรศัพท์จะโทรหาเพื่อนปรากฏที่หน้าจอมีสายไม่ได้รับหลายสาย
ยังไม่ทันกดดูว่าเบอร๋ใครบ้างก็มีสายเรียกเข้าซะก่อน
"อยู่ไหนแล้ว"เสียงเหมือนจะดุ
"แยกปากน้ำปราณฯจ้า"ณ มนเอาเสียงอ้อนเข้าว่า แบบว่ากลัวโดนดุ
"บอกจะถึงบ่ายๆนะนี่"ว่าแล้วก็โดนสวดมาจมหูเพราะคุณเพื่อนรอทานข้าวจนรอไม่ไหว
เบ็ดเสร็จกว่าจะถึงที่พักเพื่อนก็ทุ่มกว่าเกือบสองทุ่ม เพราะฝนตกทางลื่นต้องขับระมัดระวัง
ความจริงคนที่ระวังคือคุจ๋าเพื่อนณ มนค่ะ เพราะเขาเป็นคนขับ
คืนนั้นเลยนั่งคุยกับเพื่อนตามประสาคนทำงานวิทยุด้วยกันมากอ่นจนดึกดื่น
คือเพื่อนของณ มนนี่แกเป็นช่างเทคนิคประจำสถานีวิทยุมาก่อนและเจอพิษความไม่แน่นอนของวงการวิทยุมาหลายครั้ง
ด้วยความที่ที่บ้านพอจะมีที่ดินอยู่บ้างแถมเป็นที่ดินติดชายทะเลปราณ ก็เลยหันมาทำรีสอร์ทดีกว่าแล้วก้ได้ผลใช้ได้ ดูจากรีสอร์ทที่แรกที่ทำกับญาติซึ่งได้ผลงามนัก
สนใจรีสอร์ทเพื่อนณ มนคลิกไปที่นี่นะคะ
//www.chatelet.com สะกดถูกเปล่าไม่รู้ แต่ถ้าใครเคยดูแก้วตาพี่ทางช่อง3คงจะได้เห้นมาบ้าง ก็เป็นฉากแรกที่พระนางเขาเจอกันนั่นแหล่ะค่ะ
แอบโฆษณาให้เพื่อนเล็กน้อย
ความที่คุยกันจนดึก เช้าวันใหม่เลยเป็นอีกวันที่ตื่นไม่ทันพระอาทิตย์ หลังจากล้างหน้าและสะพายกล้องออกมาที่หน้าหาด พระอาทิตย์ก็โน่น เฉิดฉายอยู่บนฟ้าแล้ว
เลยได้มาแต่ภาพแบบนี้ค่ะ
กลับมาจกาชายหาดเพื่อนกับพี่ตื่นเรียบรอ้ยค่ะ ก็เลยเอารถไปตลาดกัน งานนี้ขี่จักรยานไม่ไหวเพราะว่าไกลมากแถมตอนถามทางยังต้องช่วยกันจำ
"เจอร้านแสงจันทร์เลี้ยวซ้ายนะครับ จากนั้นเลี้ยวขวา ขับตรงไปจนสุดทางเลี้ยวซ้าย เลี้ยวซ้ายอีกครั้ง แล้วก็เลี้ยวขวานะครับ "
คนงานรีสอร์ทว่างั้น หันมามองหน้าเพื่อนกับพี่
ฉันจะจำได้ไหมนี่
สุดท้ายก็ยังคลำทางมาจนถึงตลาด และต้องบอกว่าโชคดีมากๆที่ได้ชิมข้าวต้มปราณฯของแท้ด้วยหน้าตาเป็นแบบนี้
คือเขาจะตัดข้ามต้มเปล่าๆให้เราแล้วเราก็เลือกทานอาหารที่เขาวางนี่ได้เลย ไม้ละ5บาทค่ะ หรือจะเลือกสั่งข้าวต้มปลาของปราณ ก้ได้ เขาจะใส่กระหล่ำปลีลวก ถั่วงอกแล้วก็อะไรอีกสองสามอย่าง หน้าตาแปลกดี แต่ณ มนไม่ได้ลองค่ะ
นี่ณ มนลองอันนี้ ไมโลดิบค่ะ เขาจะใส่น้ำแข็งลงไปนิดหน่อยในแก้ว จากนั้นใส่ไมโลผงลงไปตามด้วยน้ำตาล และนมข้น แล้วก็นำแข็ง
อร่อยดีเหมือนกันค่ะ
กลับมาถึงรีสอร์ทเพื่อนพามาชมรีสอร์ทแห่งแรกที่เขาร่วมกับครอบครัวทำค่ะ ตอนนี้กำลังสร้างแห่งใหม่ด้วย และณ มนก็มีหน้าที่ในการตั้งชื่อรีสอร์ทให้เขาด้วย แต่ว่ายังไม่ประสบผลสำเร็จสักที มันคิดไม่ออกง่ะ
งานนี้ได้ที่พักฟรีก็เพราะเพื่อนจะให้มาตั้งชื่อรีสอร์ทนี่ล่ะ แต่ท่าจะไม่ได้ผลค่ะเพื่อนเลยเสียเงินฟรี อิอิ
จากนั้นเขาก็พาลงไปเดินตามชายหาดเพื่อดูบรรดาบ้านคนดังที่มาปลูกอยู่ที่นี่
และก็รูปที่หลายๆคนชอบค่ะ
ส่วนนี่เป็นภาพของรีสอร์ทเพื่อนค่ะ ยืมคนขับกิตติมศักดิ์มานั่งผึ่งพุงหลังจากหม่ำข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว
และแล้วบลอกเที่ยงหลังตกงานแสนทุกลักทุเลของณ มนก็เสร็จสมบูรณ์ค่ะ
อัพบลอกครั้งหน้าจะเอารูปรีสอร์ทเพื่อนที่กำลังก่อสร้างมาขอความร่วมมือเพื่อนๆชาวบลอกให้ช่วยกันตั้งชื่อค่ะ
ไม่ได้ขอความร่วมมือฟรีๆนะคะ งานนี้ใครตั้งถูกใจเจ้าของล่ะก็ มีรางวัลเป็นที่พักฟรีที่รีสอร์ทของเพื่อนณ มนที่ปราณบุรีค่ะ
ตอนนี้คิดชื่อกันได้ล่วงหน้าเลยนะคะ
Create Date : 12 ตุลาคม 2549 |
|
27 comments |
Last Update : 16 ตุลาคม 2549 13:24:53 น. |
Counter : 1976 Pageviews. |
|
|
|
เค้ามาหาก่อนจะลากกระเป๋าขึ้นเครื่องค่ะ แล้วจะแวะมาหาหลังจากกลับจากเที่ยวนะคะ