ภวนามยปัญญา
ในตำรา ได้กล่าวถีงปัญญา 3 ชนิด คือ
A.สุตมยปัญญา >> ปัญญาทีได้จากการฟัง B.จินตมยปัญญา >> ปัญญาทีเกิดจากการคิดแยกแยะ หาเหตุหาผลด้วยการใช้ความคิด C.ภาวนามยปัญญา >> ปัญญาทีเกิดจากการภาวนา
สำหรับปัญญาข้อ 1 และ 2 นั้น ผมจะไม่กล่าวถีง แต่ผมจะกล่าวถีงแต่ปัญญาในข้อ 3 ทีเป็นประสบการณ์ทีผมพบเท่านั้น อาจไม่ตรงด้วยตำรา จึงขอให้อ่านด้วยวิจารณญาณ
ลักษณะของภาวนามยปัญญา จะมี 2 แบบ คือ
แบบที 1... จิตเห็นสภาวะธรรม แล้ว เข้าใจ แล้วเกิดปัญญาตามมา
แบบที 2... จิตโพล่งธรรมขึ้นมาเอง แล้ว เข้าใจ แล้วเกิดปัญญาตามมา
******************** สำหรับปัญญาแบบที 1 นั้น เกิดจากจิตไปเห็นสภาวะธรรม สภาวะธรรมบางอย่าง เห็นครั้งเดียว ก็เข้าใจ แล้วเกิดปัญญา สภาวะธรรมบางอย่าง ต้องเห็นหลาย ๆ ครั้งก่อน จึงเข้าใจ แล้วเกิดปัญญา
สำหรับภาวนามยปัญญาแบบนี้ จะเป็นปัญญาที่เป็นเหตุให้เกิดการพ้นทุกข์ได้จริง ซึ่งผมขอแบ่งเองตามนี้ ( หมายเหตุ เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร หรือ เหมือนตำรา)
1.1 สภาวะธรรมขั้นต้น คือ จิตเห็นความเป็นไตรลักษณ์ของขันธ์ 5 ( นี่ว่ากันตามตำรา) แต่ประสบการณ์ทีผมพบ สภาวะธรรมทีมีผลมากทีส่งผลต่อทุกข์หรือสุขคือการเห็นเป็นไตรลักษณ์ของอารมณ์ปรุงแต่ง เพราะอารมณ์ปรุงแต่งที่เกิดนั้น นำมาต่อซี่งสุขเวทนา หรือ ทุกขเวทนา อีกทอดหนี่ง ถ้าเห็นไตรลักษณ์ของอารมณ์ปรุงแต่งนี้ได้อย่างเร็ว การดับไปของสุขเวทนา หรือ ทุกขเวทนา ก็จะดับไปได้เร็วตามไปด้วย
สำหรับการเห็นไตรลักษณ์อย่างอื่นในขันธ์ 5 ทีนอกเหนือจากอารมณ์ปรุงแต่งนั้น ไม่ส่งผลต่อสุขเวทนา หรือ ทุกขเวทนา ทีจะตามมา แต่การเห็นได้ เพียงช่วยให้เข้าใจได้อย่างทีตำรากล่าวว่า ขันธ์ 5 เป็นไตรลักษณ์เท่านั้นเอง
1.2 สภาวะธรรมขั้นกลาง คือ การเห็นจิตเป็นไตรลักษณ์ เมื่อนักภาวนาพบการเป็นไตรลักษณ์ของขันธ์ 5 ได้แล้ว การฝีกฝนต่อไปทีถูกต้อง จะทำให้พบกับจิตทีเป็นไตรลักษณ์ได้ แต่การพบจิตทีเป็นไตรลักษณ์ มีอุปสรรคมากกว่าการพบขันธ์ 5 เป็นไตรลักษณ์ ซ๊่งเรื่องนี้ นักภาวนาต้องใช้ความสามารถส่วนตัว หรือ สอบถามจากท่านทีผ่านไปแล้วว่า จะภาวนาอย่างไร จึงจะเห็นจิตเป็นไตรลักษณ์ได้แบบเป็นธรรมชาติ
1.3 สภาวะธรรมขั้นปลาย คือ การรู้แจ้งนิพพาน หรือ สุญญตา การทีนักภาวนาพบจิตเป็นไตรลักษณ์ได้ยังไม่ถีงการสิ้นไปของตัณหา เมื่อนักภาวนาพบตัณหาทีนำพาจิตให้เคลื่อนไปมาได้ นักภาวนาจะรู้จักตัณหา และ เมื่อนักภาวนารู้จักตัณหาแล้ว เมื่อเกิดปัญญาจะรู้จักการสิ้นไปของตัณหา เมื่อตัณหาสิ้นไป ก็จะพบกับนิพพาน หรือ สภาวะของสุญญตา
****************************
สำหรับปัญญาแบบที 2 เกิดจากนักภาวนาได้เจริญ สุตมยปัญญา หรือ เจริญ จินตมยปัญญา มาก่อน แล้วปัญญาทั้ง 2 เก็บอยู่ในสมอง เมื่อใดทีนักภาวนาจิตใจสงบดี ไม่มีการใช้จิตทำงานใด ๆ จิตจะโพล่งธรรมทีเก็บอยู่นี้ออกมา การโผล่งธรรมแบบนี้ จะเกิดเอง และ เมื่อโผล่งขึ้นมา นักภาวนาจะเข้าใจในธรรมทีได้เรียนมาก่อนหน้ามากขึ้นแบบลีกซี้ง แต่ปัญญาแบบนี้ ไม่อาจนำพาให้พ้นไปจากกองทุกข์ได้ เพียงแต่เสริมความเข้าใจมากขึ้นในหลักทฤษฏีแห่งพุทธศาสนา
Create Date : 08 มีนาคม 2558 |
|
0 comments |
Last Update : 8 มีนาคม 2558 18:52:42 น. |
Counter : 3487 Pageviews. |
|
|
|