Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
4 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 

ตอนที่ 140 - รักแท้ย่อมมีอุปสรรค

***ฟิค< แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้นเพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย****

ช่วงหัวค่ำ...ที่ลานจอดรถบริษัทต้นสังกัดของฮยอนจุง

ฮยอนจุงกำลังเจรจาต่อรองกับพี่ผู้จัดการ “ผมจะรีบกลับมาก่อนที่มันจะดึกมากไปกว่านี้”


”เรื่อง ที่นายจะกลับมาดึกแค่ไหน มันไม่ใช่ประเด็นหรอกนะ”พี่ผู้จัดการจอมจุ้นรีบแย้งทันทีพร้อมกับบอกต่อไป ว่า “ท่านประธานฯต้องการให้ชั้นรั้งตัวนายเอาไว้ไม่ให้ไปที่นั่นต่างหากล่ะ”


”พี่อย่าเขี้ยวไปหน่อยเลยฮะ มันไม่ใช่ว่า ผมกำลังจะไปในที่ๆไม่สมควรไปซะหน่อย”(ผิดด้วยหรือที่จะไปบ้านภรรยาอ่ะ)


”ชั้น เข้าใจความรู้สึกของนายนะ แต่จากมุมมองของผู้บริหารหรือว่าในสายตาของแฟนคลับก็ตาม ที่นั่นมันเป็นที่ๆนายไม่ควรจะไปอย่างยิ่งเลยล่ะ...”


”เฮ้อ ผมไม่ใช่พ่อพระที่เห็นแก่ตัวไม่เป็น ไม่ใช่คนดีที่ยอมก้มหน้าเสียสละทุกอย่างเพื่อคนอื่นหรอกนะฮะ ความรู้สึกของผมจริงๆแล้ว คือไม่อยากทำให้คนที่ผมรักต้องเจ็บปวด เพียงเพื่อแค่แสดงให้คนอื่นมาเห็นอกเห็นใจผมน่ะ”


”เจ้าทึ่มเอ๊ย สิ่งที่ชั้นกำลังทำอยู่เนี่ย ก็เพื่อตัวนายทั้งนั้น ไม่รู้รึไง นายจะตกเป็นหัวข้อข่าวซุบซิบระดับชาติในทันทีที่ข่าวลือเรื่องนี้มันแพร่ออก ไปหน่ะ”


”ผมไม่อยากเป็นคนขี้ขลาดตาขาว เพียงเพราะกลัวเรื่องข่าวลือบ้าบออะไรแบบนั้นหรอกฮะ ไร้สาระ”


”นายอาจจะต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป เพราะว่านายทำตัวดื้อรั้นไร้เหตุผลแบบนี้นะ”


”ขอบ คุณที่หวังดีน่ะฮะ แต่ไม่เป็นไรหรอกฮะ ตราบใดที่ผมไม่ได้สูญเสียสิ่งสำคัญและมีค่าที่สุดในชีวิตของผมไป เรื่องอื่นผมไม่สนใจหรอกฮะ ”


”นายควรต้องระมัดระวังให้มากในการเก็บรักษาสิ่งสำคัญที่นายพูดถึงไว้น่ะ”


ฮยอนจุงนิ่งและรำพัน”การมีกระเป๋าสัมภาระมากเกินไป...อาจจะทำให้เรือไม่สามารถแล่นออกจากท่าได้...”


”อะไรนะ? นี่นายกำลังพูดถึงอะไรอยู่? เรือเหรอ เรืออะไรกัน?” พี่ผู้จัดการเริ่มมึนรับมุขไม่ทัน

ฮยอน จุงตื่นจากภวังค์ ”พี่รู้มั้ยฮะ? นักผจญภัยสำรวจดินแดนใหม่ส่วนใหญ่จะไม่คิดอะไรมากมายก่อนที่พวกเขาจะเริ่ม ต้นเดินทาง และก็มักจะคิดเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น”



”นี่นายกำลังบ่นพึมพำเรื่องอะไรอยู่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่เรากำลังพูดกันอยู่ (วะ) เนี่ย?”



แต่ ฮยอนจุงยังคงพูดต่อไปโดยไม่สนใจ “นั่นถึงทำให้พวกเขาสามารถก้าวเดินออกไปสู่เส้นทางใหม่ได้...ถ้าเราคิดมากจน เกินไป...ชาตินี้...เรือของพวกเราก็ไม่มีวันจะได้ออกจากท่าแหงๆ”


”.นี่นายคิดกำลังทำอะไรของนาย...แต่งฟิคอยู่รึไง หือ?”



”การลงมือกระทำในสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง น่าจะเป็นสิ่งควรทำมากกว่ามัวแต่ลังเลใจ..ที่เหลือก็คงแล้วแต่พระเจ้า...”


”นายเชื่อเรื่องพระเจ้ากับเขาด้วยเหรอ? ชั้นไม่ยักรู้มาก่อนเลยแฮะ”


”มัน เป็นวิธีเดียวเท่านั้น ในเวลาที่ผมเจอกับปัญหาจนหาทางออกแทบไม่ได้...มันจะไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ความหวัง...ถ้าหากเราไม่มีความเชื่อในพระองค์ฮะ”

”ทำไมเวลาที่ชั้นคุยกับนายทีไร...มันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าชั้นกลายเป็นคนโง่เง่ายังไงก็ไม่รู้(ว่ะ)...”



ชาย หนุ่มยิ้มกว้างก่อนพูดต่อไปว่า “มันอาจจะฟังเข้าใจยากไปนิดสำหรับสิ่งที่ผมกำลังพูดอยู่ แต่นี่คือการบ้านที่พี่จะต้องกลับไปคิดในระหว่างที่ผมไม่อยู่ ค่อยๆคิดนะฮะ ยังมีเวลาจนถึงพรุ่งนี้ที่พี่จะทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผมได้บอกไป...ตอนนี้ ผมขอตัวก่อนแล้วกันนะฮะ พี่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะระมัดระวังอย่างสุดๆเลยฮะ”พูดจบเขาก็สาวเท้าก้าวยาวๆตรงไปที่รถทันทีโดย ไม่รอฟังคำตอบจากพี่ผู้จัดการ


”จำคำที่คนโบราณพูดเอาไว้ด้วยล่ะ ว่า...”กำแพงมีหู (ประตูมีตา) ยิ่งปิดมากเท่าไหร่ คนก็ยิ่งอยากรู้มากเท่านั้น!” “ผู้จัดการได้แต่ตะโกนบอกไล่หลังเขาไป

ชาย หนุ่มยังอดที่จะแย้งไม่ได้ว่า “มันก็ไม่ถูกต้องซะทั้งหมดหรอกนะ ที่จริงมันก็แค่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นแบบนั้นต่างหากล่ะ”พูดจบก็ก้าว ขึ้นไปนั่งบนรถ

”งั้นเหรอ นายคอยดูก็แล้วกัน ว่าไอ้ที่นายบอกว่า แค่มีความเป็นไปได้สูงน่ะมันจะกลับมาเล่นงานนายจนน่วม!”



ฮยอน จุงยื่นศีรษะออกมานอกกระจกรถแล้วพูดตอบไปอีกว่า “ทำไมพี่ไม่ทำใจให้ร่มๆหน่อยล่ะฮะ? ถ้าพี่ทำแบบนั้นแล้ว สิ่งต่างๆมันก็จะสามารถไปได้ด้วยดีเอง”



”เฮอะ นายคิดว่ารู้ดีทุกสิ่งอย่างในการใช้ชีวิตแล้วเหรอ? ไอ้บ้าจอมอวดดี”


”ขอโทษฮะพี่ ผมไปก่อนละนะ บ๋ายบาย “ชายหนุ่มยกมือขึ้นโบกพร้อมกับขับรถชิ่งหนีไป


”เฮ้อ...จริงๆเลยนะ...ชั้นเองก็ไม่ชอบเหมือนกัน...ที่ต้องคอยพยายามห้ามโน่นห้ามนี่ คอยห้ามไม่ให้นายทำแบบนี้น่ะ...”

ที่ด้านหน้าอพาร์ทเมนท์ของฮวางโบ

ฮยอน จุงเดินลงจากรถโดยปกคลุมอำพรางใบหน้าของเขาอย่างมิดชิดด้วยผ้าพันคอไหมพรม ผืนใหญ่และหมวกไหมพรม ในขณะที่เขาก้าวเข้าไปในลิฟท์ก็มีชายวัยกลางคนเดินเข้ามาพร้อมกันด้วย ชายหนุ่มจึงพยายามก้มหน้าลงต่ำๆ และกดปุ่มลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้น 18 แทนที่จะเป็นชั้น 15 ซึ่งเป็นชั้นห้องพักของฮวางโบ


เมื่อเขามา ถึงหน้าห้อง หญิงสาวเปิดประตูต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ส่วนฮยอนจุงก็ส่งยิ้มให้เธออย่างสดใสก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว


”นี่พวกเขาปล่อยเธอมาได้ยังไงกัน เขาไม่ได้ห้ามเธอเลยเหรอเนี่ย?


”พวกเขาก็พยายามจะห้ามเหมือนกันล่ะฮะ แต่ก็ไม่เกินความสามารถของผม ยังไงซ่ะ ผมก็แว่บออกมาได้อยู่ดี”


”แล้วมันจะโอเครึเปล่าอ่ะ ไม่ใช่กลับไปแล้วเธอโดนสวดยับอีกนะ?”


”คุณไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกนะฮะ ตอนนี้ผมกำลังพยายามกำจัดพวกกระเป๋าสัมภาระที่มันไม่จำเป็นอยู่ฮะ”

เขา ค่อยๆโอบร่างของภรรยาไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว “ผมไม่รู้ว่าคุณอยากทานอะไร ก็เลยสิ่งซื้อปลาดิบมาให้คุณลองทานดูน่ะ อันนี้เป็นเนื้อผัดน้ำมันหอย นี่ไก่ผัดเม็ดมะม่วง”เขาชี้ชวนพร้อมสาธยายเสร็จสรรพ

แค่เห็นอาหารที่วางเรียงรายอยู่เต็มตะ ก็บอกตัวเองได้เลยว่ามนูที่สั่งมานั้นเธอชอบหมด ที่สำคัญเธอชอบปลาดิบที่สุด...


“ทานเยอะๆนะฮะ”เขาบอก “เดี๋ยวทานเสร็จแล้วก็ต้องดื่มนมตามด้วยน่ะฮะ”


“ชั้นไม่ชอบดื่มนมเลย”


เขายิ้มให้อย่างอ่อนโยน “แต่มันดีสำหรับเด็กนะฮะ คุณจำเป็นต้องดื่ม อาหารที่มีประโยชน์เพื่อบำรุงครรภ์


”แล้วเธอไม่ทานด้วยกันเหรอ”


“ผมทานมาเรียบร้อยแล้วฮะ นาทีนี้ผมขอแค่จิบไวน์ก็พอ”


“เดี๋ยวชั้นไปเทให้น่ะ”


เขาดึงแขนเธอพร้อมกับโอบกอดไว้ทันที “ไม่ต้องฮะ คุณนั่งอยู่ตรงนี้แหละ ผมจัดการเอง”


ทั้ง สองสบตากันชั่วครู่ ความเร่าร้อนในดวงตาของเขา มีอิทธิพลทำให้เธออ่อนปวกเปียกไปหมด เขาจดจ้องมองริมฝีปากของเธออย่างแน่วแน่ ริมฝีปากอ่อนนุ่มสีชมพูมันช่างสวยงามจริงๆ เขาอดใจไม่ไหวใช้มือสัมผัสหน้าท้องอย่างอ่อนโยน บริเวณที่ลูกของเขาอยู่ในนั้น ซึ่งยังไม่สามารถรับรู้การเคลื่อนไหวของเด็กทารกในครรภ์ได้ แต่เขาก็ต้องการมีความผูกพันใกล้ชิดกับเธอและเด็กในครรถ์ เขาเอื้อมมือไปข้างหน้าก่อนจะทันได้รู้ตัว เขาหยุดชะงักปลายมือเพียงไม่กี่นิ้วก่อนได้สัมผัสมือขอเธอ เขาปรารถนาอย่างที่สุดที่จะกอดหล่อนไว้อย่างแนบแน่นและจุมพิตอย่างดูดดื่ม ตลอดไป แต่ก็ทำไม่ได้



“ลูกของเราจะเป็นอะไรมั๊ย ถ้าผมจะขอ....” เขาเอ่ยถามแผ่วเบา โดยไม่ละสายตาจากเธอ


เธอพยักหน้าน้อยๆแทนคำตอบ พร้อมกับแลบลิ้นเลียมุมปากที่แห้งเล็กน้อย


“ผมเข้าใจฮะ เพื่อลูกแล้วผมอดใจได้ฮะ.”


เธอยิ้มอดขำไม่ได้


“ถ้างั้น ตอนนี้ผมก็ไม่ควรนั่งใกล้คุณมากนัก ไม่งั้นผมไม่อาจรับประกันได้ว่าจะหักห้ามใจได้หรือเปล่า”


เธอยังคงอดขันแกมสงสารไม่ได้


“ผม ขอโทษนะฮะ ว้า คุณยังไม่ได้ทานข้าวเพราะผมเป็นต้นเหตุแท้ๆ ทานเยอะๆนะ ผมไม่อยากให้คุณต้องหิว” เขาคว้าตะเกียบแล้วเริ่มทะยอยคีบอาหารใส่จานเธอ


“เมื่ออิ่มแล้วผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ”


ผ่าน ไปอีกพักใหญ่ คู่ผักกาดหอมกำลังอยู่ในห้องนอน โดยที่ฮยอนจุงนั่งเอาศีรษะพิงกับพนักหัวเตียงส่วนคางก็เกยไว้กับไหล่ของ ภรรยาพร้อมกับเอามือโอบเอวของเธอไว้อย่างแน่นหนา ในขณะที่หญิงสาวนั่งหลับตาพริ้มด้วยสีหน้าที่ดูสงบ ระหว่างนั้นชายหนุ่มก็พูดขึ้นมาว่า


”บูอิน...ผมมีเอกสารบางอย่างที่ต้องให้คุณเซ็นฮะ”


หญิงสาวลืมตาขึ้นมาข้างนึงพร้อมกับพูดว่า “เอกสารเหรอ?”


”คุณจะวิ่งหนีต่อไปไม่ได้อีกแล้วล่ะฮะ ตอนนี้...”


”นี่ชั้นต้องจัดการกับเรื่องนี้..อย่างจริงจังเลยใช่มั้ย?”



”อย่างจริงจังและหนักแน่นเท่ากับน้ำหนักของจำนวนวันที่คุณได้ใช้ชีวิตมาบนโลกใบนี้ฮะ..”



”เอาเป็นว่า จริงจังและหนักแน่นเท่ากับน้ำหนักของจำนวนวันที่ชั้นจะมีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกใบนี้จะดีกว่ามั้ยอ่ะ?”



”ฮะ...หนักแน่นเท่ากับจำนวนวันที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันต่อไปด้วย...”



”แล้ว ตกลงมันคือเอกสารอะไรเหรอ? “ หญิงสาวถามยิ้มๆ



ชายหนุ่มเอื้อมตัวลงไปหยิบเสื้อแจ๊คเก็ตที่เขาถอดกองไว้ที่พื้นข้าวเตียงแล้วดึงซองเอกสารออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อ...”นี่ไงฮะ”


เธอ เปิดซองออกพร้อมกับดึงกระดาษ 2-3 แผ่นที่อยู่ในนั้นออกมา...ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจอย่างมากเพราะบน หัวกระดาษเขียนเอาไว้ว่า “แบบฟอร์มการยื่นจดทะเบียนสมรส”


”ขอโทษด้วยนะฮะ...ได้โปรดเข้าใจผมหน่อยนะว่า ผมไม่เคยรู้เรื่องแบบนี้มาก่อนเลย เพราะว่าผมไม่เคยแต่งงานกับใครมาก่อน”


หญิงสาวได้แต่นั่งนิ่งมองหน้าคุณสามีด้วยความซาบซึ้ง...


ชาย หนุ่มชี้ไปที่บรรทัดของลายเซ็นบนแผ่นกระดาษแล้วบอกว่า “คุณต้องเขียนชื่อตรงนี้ก่อน แล้วก็เซ็นชื่อตรงนี้นะฮะ..หรือว่าจะใช้ตราประทับของคุณแทนก็ได้....”



”...แค่นี้เองเหรอ ง่ายจัง?”


”พวกเราต้องมีพยานด้วยฮะ...แต่ผมว่าเราเอาไปให้คุณพ่อคุณแม่ของเราช่วยเซ็นให้ก็ได้..”


”แล้วใครจะเป็นคนไปยื่นเอกสารนี่ล่ะ…?”



”ผมไปอ่านเจอมาว่า เราสามารถมอบอำนาจแต่งตั้งตัวแทนให้ไปทำได้ฮะ”


”..............”

ฮยอนจุงมองหน้าภรรยาเหมือนจะเข้าใจความรู้สึกของเธอ “มันคงจะให้ความรู้สึกที่ดีกว่าถ้าพวกเราไปทำเรื่องนี้ด้วยตัวเองใช่มั้ยฮะ?”



เธอ รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แต่ด้วยสถานะการมันบีบบังคับ เธอจึงเข้าใจ ”แต่..มันน่าจะเป็นความคิดที่ดีกว่า ถ้าพวกเราไม่ทำอย่างนั้น...ใช่มั้ย?”



”..............”

”อืมม..แล้วเราต้องไปยื่นเอกสารที่ไหนเหรอจ๊ะ?”


”เราสามารถจะไปยื่นที่สำนักงานประจำเขตของคุณ...หรืออีกวิธีหนึ่งที่ผมได้ยินมาก็คือ...ส่งทางไปรษณีย์ฮะ”


”ส่งทางไปรษณีย์เนี่ยอ่ะนะ?”


”ผมเดาว่า...มันคงดูไม่สมจริงเท่าไหร่ใช่มั้ยฮะ ถ้าเรายื่นเรื่องจดทะเบียนกันทางไปรษณีย์อ่ะ..?”


หญิง สาวถอนหายใจเบาๆก่อนพูดว่า “เราทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่...ในสถานที่ๆมันเปิดเผย แล้วก็เป็นที่รู้จักของใครต่อใคร ถ้าเราทำแบบนั้น...."


”ใช่ฮะ ถ้าพวกเราไปอยู่ในที่ไกลๆ…ไม่มีคนรู้จักเราอย่างที่ ปาย หรือ เบตง อะไรแบบนั้น...เราก็คงไปยื่นเรื่องจดทะเบียนด้วยตัวเองได้..”


”แล้วเธอว่าปกติคนทั่วไปเขาจะทำยังไงกันเหรอ?”



อืมม...แบบว่า....บางที...อาจจะ...”


”...?”


หลัง จากอ้ำอึ้งอยู่พักนึงชายหนุ่มก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดว่า “ผมคิดว่า...ถ้าเราไปยื่นกันเองมันแทบจะเป็นไปไม่ได้น่ะฮะ เพราะต้องมีหลายคนรู้จักเราแน่ๆเลย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย สิ่งที่เราทำได้ก็มีเพียงแค่ส่งไปรษณีย์ หรือว่าจะให้คนนำเอกสารไปยื่นให้ที่นั่นก็ได้...”



”เธอคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอ? แต่สำหรับชั้นนะ...ชั้นอยากจะไปยื่นด้วยตัวเองมากกว่าน่ะ...”



ชายหนุ่มจ้องหน้าภรรยาพร้อมกับถามว่า “จริงๆหรือฮะ?”



”ใช่จ้ะ...ชั้นไม่ค่อยชอบวิธีส่งทางไปรษณีย์ซักเท่าไหร่....”



”ถ้างั้น...พรุ่งนี้เราไปจดทะเบียนด้วยกันเลยดีมั๊ยฮะ?”



”หา?”


”เราควรจะไปที่นั่นแต่เช้าเลย ผมว่า..เวลานั้นผู้คนคงยังไม่เยอะเท่าไหร่น่ะฮะ...?”


”นี่เธอคิดว่าเจ้าหน้าที่เขาจะจำพวกเราไม่ได้เลยเหรอ ถึงแม้ว่าเราจะไปถึงที่นั่นตอนที่ยังไม่มีใครมาเลยก็ตามอ่ะ?”



“ก็ไม่แน่นะฮะ ใครจะไปรู้ล่ะ? บางทีเจ้าหน้าที่คนนั้นอาจจะเป็นคนที่ไม่เคยดูทีวีเลยก็ได้...”



”หุหุ”(คิดได้ไงอ่ะ)


เวลาผ่านไปอีกพักใหญ่จนดึกมากแล้ว

ฮยอน จุงกำลังพูดโทรศัพท์กับผู้จัดการซึ่งโทรมาตามจิกให้เขากลับบ้านพัก “พี่ฮะ ผมว่าตอนนี้มันอันตรายที่จะกลับไปตอนนี้นะฮะ เอาไว้ตอนเช้าคนไม่ค่อยมีแล้วผมค่อยกลับจะดีกว่ามั้ยฮะ “


”นี่นาย ก่อนหน้านี้นายไม่ได้พูดแบบนี้นี่นา มั่วนิ่มชัดๆ”


”โทษทีฮะพี่ แต่ไงผมว่าแบบนี้มันน่าจะดีกว่าไม่ใช่หรือฮะ?”


”โธ่เว้ย ชั้นไม่สนใจแล้วก็ได้ (วะ)! ถึงยังไงชั้นก็คงโดนถล่มเละเป็นโจ๊กไม่รอดแน่ๆอยู่แล้ว”


”...พี่ไม่ต้องห่วงเลยนะฮะ..ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆล่ะก็ ผมจะส่งพวงหรีดอันโตๆแล้วก็เงินช่วยงาน(ศพ)พี่อย่างเต็มที่เลยฮะ”


”ว่าไงนะ??? ไอ้เด็กบ้า ปากเสีย นี่มันแช่ง(ตรู)ชัดๆนี่หว่า”


เช้าวันต่อมา
ฮยอนจุงตื่นแต่เช้าตรู่และกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับใครบางคน “โทษทีนะเพื่อน นายเป็นคนเดียวที่ชั้นสามารถจะไว้ใจได้...”


เสียง ของอินยองพูดกลับมาจากปลายสายทันทีว่า “ตอนนี้นายอยากจะให้ชั้นช่วยหลังจากที่ปิดปากเงียบมาตลอดไม่เคยเล่าเรื่อง นี้ให้ชั้นฟังเลยอ่ะนะ?” (อินยองคือ เพื่อนสนิทตั้งแต่ชั้นประถมของฮยอนจุง และเป็นคนที่เขาให้คุยโทรศัพท์กับฮวางโบในรายการ WGMตอน Fake Farewell)


”ทีแรก ชั้นก็กะว่าจะไปขอให้แม่ช่วยจัดการให้...แต่ว่าท่านต้องไปทำธุระนอกเมืองหน่ะ”


”แล้ว ทำไมนายไม่รอเป็นวันพรุ่งนี้ล่ะ ท่านก็กลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ?”



”ชั้นไม่ชอบผลัดวันประกันพรุ่งอ่ะ อยากทำให้มันเสร็จๆไปเลย”



”จริงอ่ะ? แล้วที่ผ่านมาตั้งนมนาน นายรอมาได้ไงกัน (วะ) ไม่ทำให้มันเรียบร้อยตั้งแต่ตอนนั้นล่ะ?”



”ไอ้บ้าเอ๊ย ก็ชั้นไม่เคยรู้เรื่องการจดทะเบียนมาก่อนเลยนี่หว่า”



”ถ้างั้นนายช่วยแนะนำชั้นให้รู้จักกับเจซู-ชิ รึเปล่าล่ะ ถ้าได้ล่ะก็ ชั้นจะช่วยนายอย่างเต็มที่? “ (เจซู- น้องสะใภ้)


”ทำไมนายถึงอยากจะพบเธอด้วยล่ะ?” ชายหนุ่มถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นมาทันที


”ไอ้บ้านี่...(หึงไม่เข้าเรื่องอีกแล้ว) ...ถ้างั้น..ก็ลืมเรื่องนั้นไปเลยแล้วกัน”



”เฮ้ย ได้ไงว่ะ!!” (มันขู่กรรโชก กันชัดๆนี่หว่า)


อิน ยองสวนกลับทันที ”นายเป็นบ้าอะไรฮึ? โทรมาหาชั้นเฉพาะเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือ เท่านั้นยังไม่พอ ทำไมนายถึงต้องกลัวอะไรนักหนากะอีแค่ชั้นจะไปเจอเธอน่ะ? หรือว่า..นายคิดว่าเธอจะเปลี่ยนใจมาตกหลุมรักชั้นรึไงกันหา?”



”ขอทีเหอะ อย่าทำให้ชั้นต้องหัวเราะจนกรามค้างได้มั้ย”



”นาย ปฏิเสธไม่ยอมแนะนำชั้นให้รู้จักกับเธอซักที ทั้งๆที่ชั้นขอร้องนายไปไม่รู้กี่ครั้งแล้วน่ะ...ทำไมถึงทำตัวขี้หึง หวงเมีย ขนาดนี้(วะ)? ว่าไงล่ะ? นายคิดว่าเธอจะสึกหรอ ถ้าชั้นมองเธองั้นหรือไง ฮ้า ?”



”ชั้นรู้ว่าบูอินของชั้นไม่สึกหรอกนะ แต่ชั้นทำเพื่อตัวนายเองต่างหากล่ะ”



”เพื่อชั้นงั้นเหรอ?”


ฮยอน จุงยิ้มที่มุมปากก่อนพูดต่อไปว่า “ชั้นก็แค่ไม่อยากให้นายเกิดความอยากได้สมบัติในครอบครองของคนอื่นก็เท่า นั้นแหละ เพราะนายอาจจะหลงผิดทำอะไรลงไปก็ได้”


”เฮ้ย เรื่องนั้นน่ะ นายไม่ต้องห่วงหรอกนะ...สรุปว่า นายจะแนะนำเธอให้ชั้นรู้จักมั้ย?”
ชายหนุ่มหันไปพูดกับฮวางโบซึ่งยืนอยู่ข้างๆว่า “เย็นนี้คุณมีตารางงานที่ต้องไปทำรึเปล่าฮะ?”



”ตอนเย็น ชั้นว่างจ้ะ”

”คุณจะว่าอะไรมั้ยฮะ ถ้าผมจะพาคุณไปพบกับอินยอง?”



”อินยองเหรอ? ไม่เลยจ้ะ แล้วทำไมเธอไม่เชิญให้เขามาที่นี่เลยล่ะ ย้อนไปย้อนมาให้เสียเวลาทำไม?”



”มาที่นี่เหรอฮะ? ทำไมล่ะ?”



”ไม่ดีเหรอ?”


”คุณ ไม่ต้องทำอะไรถึงขนาดนั้นหรอกฮะ”แล้วเขาก็หันกลับมาพูดกับอินยองว่า “งั้นชั้นจะไปเจอนายคืนนี้ก็แล้วกันนะ แต่วันนี้นายต้องไปทำธุระของชั้นให้เรียบร้อยก่อนล่ะ”



”โอเคเลยเพื่อน? ว่าแต่ ถามหน่อยเหอะ ทำไมนายถึงไว้ใจชั้นมากถึงขนาดให้ไปจัดการเรื่องสำคัญแบบนี้ล่ะ?”



”อืมม... ชั้นคิดว่าชั้นควรจะแสดงให้เห็นอย่างจริงจังว่า ชั้นจัดการกับเรื่องของความสัมพันธ์ได้ยังไง...”



”ใน ขณะที่นายกำลังพยายามทำอยู่....ทำไมนายไม่ลองจัดให้ชั้นเป็นพิเศษหน่อยล่ะ? เพราะตอนนี้ชั้นกำลังสำนึกเสียใจอย่างสุดๆกับความจริงที่ว่าชั้นดันมาเป็น เพื่อนกับนายนะ”


”อะไรนะ? ทำไมเหรอ คบกับชั้นมันเสียหายไม่ดีตรงไหน ฮึ?”


”จริง สินะ นายก็ไม่ใช่คนไม่ดีซักหน่อย จริงๆแล้วเป็นคนดีนะเนี่ย ไม่เหมือนกับบางคน ชอบทำตัวเหมือนพวกไฉไล ที่วันๆไม่ทำงานทำการ คอยแต่ออกมาชุมนุมราชประสงค์ทำตัวให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อน พอเขาเดือดร้อนเสร็จก็กลับบ้าน” อินยองได้ทีพูดเปรียบเทียบ


“ฮ้า ฮ่า นายกำลังจะบอกว่าจะเป็น ตุ๊ดตู่ตาโปน ใช่ไหมนั่น”


“ฮ่า ฮ่า ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง”อินยองหัวเราะชอบใจ


ฮยอนจุงหัวเราะคิกชอบใจกับคำด่าของเพื่อนรักก่อนพูดกลับไปว่า “เฮ้ ชั้นมีอะไรจะบอกนายด้วยล่ะ”


”ว่ามา...?”



”รัก-นาย-สุ-โค่ย เลย วะ- จุ๊บ จุ๊บ ขอบใจนะ ที่ช่วยเป็นธุระให้ชั้น !”


“อี๋ย แหวะ หยองสุดๆ อยากจะอ้วก(ว่ะ)”

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน คู่รักผักกาดหอม รีมิกซ์ โปรดติดตามตอนต่อไป
ยาย(นาจา)




 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2554
0 comments
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2554 17:11:43 น.
Counter : 995 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.