Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
20 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

ตอนที่ 87 – รางวัลแด่คนช่างฝัน




***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****

ที่บริเวณด้านหน้าอพาร์ทเม้นท์ของฮวางโบ
ฮวางโบกำลังลงจากรถ โดยที่ฮยอนจุงก็เดินตามมาส่งเธอด้วย

“ดูแลตัวเองดีๆน่ะ อยู่ที่โน่น เธอต้องรับประทานแต่ของดีดีที่มีประโยชน์ อย่ากินเผ็ดจัด หรือหวานจัดจนมากเกินไป อย่ากินแอลก์ฮอลล์ให้มากจนเกินไปน่ะ เพราะมันจะทำให้เธอสุขภาพแย่ และที่สำคัญ หน้าของเธอจะบวมด้วย เข้าใจหรือเปล่า “ ฮวางโบหันมาบอกด้วยความห่วงใย

“ฮะ” เขาพยักหน้าด้วยความพอใจ

ฮวางโบส่งยิ้มให้เขา ก่อนจะเริ่มเดินเข้าไปที่ตึกอพาร์ทเม้นท์ ฮยอนจุงยืนมองด้านหลังของเธอที่ห่างออกไปอยู่ครู่นึงก่อนตัดสินใจก้าวขายาวๆตามเธอไป

ฮวางโบหันกลับมาเมื่อได้ยินฝีเท้า “หืมม ว่าไง? เธอมีอะไรรึเปล่า?”

“ผมจะเดินไปส่งคุณที่หน้าลิฟท์ฮะ”

ฮวางโบถอนหายใจออกมาก่อนบอกว่า “มันก็อยู่แค่ตรงนี้เองน่ะ เธอไม่ต้องมาส่งหรอก”

“ไม่ได้ฮะ ยังไง ผมก็จะไปส่งฮะ ^^” ฮยอนจุงพูดดันหลังหญิงสาวให้เดินไป

สองคนเดินเคียงคู่กันไป ชั่วอึดใจก็มาถึงหน้าลิฟท์ ฮยอนจุงเอื้อมมือไปกดปุ่มลิฟท์แล้วถามเธอว่า

“ห้องคุณอยู่ชั้นไหนหรือฮะ?”

“ชั้น 15 จ้ะ”

พูดยังไม่ทันจบดี ประตูลิฟท์ก็เปิดออก ฮวางโบก้าวเข้าไปยืนในนั้นและบอกลาเขา “บายจ้ะ”

แต่ฮยอนจุงกลับยืนนิ่ง...หญิงสาวส่งยิ้มให้อีกครั้ง แต่ฮยอนจุงกลับมองเธอด้วยสายตาที่แสดงความอาลัยและโหยหา ในขณะที่ประตูลิฟท์กำลังจะปิดลง

ทันใดนั้นประตูก็กลับเปิดอีกครั้ง

ฮวางโบถามงงๆว่า “มีอะไรเหรอ...?”

ฮยอนจุงก้าวเข้ามาในลิฟท์พร้อมๆกับบอกว่า”ผมจะไปส่งคุณถึงหน้าประตูห้องฮะ”

“ทำไมจู่ๆเธอถึงได้...? เธอไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลยน่ะ....

“ก็เพราะว่าผมจะไม่ได้เจอหน้าคุณอีกพักใหญ่ ผมจึงอยากจะใช้ทุกวินาทีต่อจากนี้ อยู่กับคุณนานๆไงฮะ”

“..หุหุ!” เธอขำหัวเราะท่าทางแปลกๆของเขา แต่ขณะเดียวกันก็ขยับตัวเนียนๆมายืนอยู่ที่หน้าประตู

ฮยอนจุงยืนจ้องมองด้านหลังของเธออย่างพินิจพิจารณา ผมสีดำยาวตรงระดับบ่า และรูปร่างที่ดูบอบบางของเธอ...แล้วก็พูดกับตัวเองในใจว่า...<คุณสวยมากๆเลย ไม่ว่าจะเป็นจิตใจ หรือ ใบหน้า คุณสวยเสมอในใจของผม>

ไม่มีเสียงการสนทนาใดๆระหว่างคู่ผักกาดหอมระหว่างที่ลิฟท์กำลังวิ่งขึ้นไปทำให้บรรยากาศดูอึดอัดเล็กๆ แต่ไม่นานนักลิฟท์ก็มาจอดที่ชั้น 15 และประตูก็เปิดออก

ฮวางโบใช้ตัวของเธอยืนขวางประตูเอาไว้และหันไปบอกเขาว่า “เธอไม่ต้องเดินออกมาส่งชั้นหรอกนะ กดลิฟท์ลงไปได้เลย ตอนนี้เธอควรจะรีบกลับไปเตรียมตัวเพื่อเดินทางวันพรุ่งนี้น่ะ อย่าทำให้ชั้นต้องเป็นห่วงเธอมากไปกว่านี้เลย”

ฮยอนจุงตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูผิดหวัง “โอเคฮะ”

ฮวางโบยิ้มให้เขาแบบรู้สึกผิดแล้วรีบ”บอกว่า อย่าทำท่าหน้าเซ็งไปเลยน่ะ” ว่าแล้วก็เขย่งตัวขึ้นจุ๊บที่แก้มเขาเบาๆก่อนอวยพรว่า “นี่คือรางวัลสำหรับคำตอบที่ชั้นถามเธอและเธอตอบคำถามของชั้น”

แล้วเธอก็เขย่งตัวจุ๊บอีกครั้ง “ส่วนอันนี้ เป็นรางวัลแด่คนช่างฝันสำหรับเธอ เพื่อให้เธอนำติดตัวเดินทางปลอดภัย...และกลับมาที่นี่โดยสวัสดิภาพน่ะจ๊ะ”

ฮยอนจุงมองดูเธอนิ่งๆด้วยแววตาที่แสดงความอาลัยอาวรณ์....

ฮวางโบเดินถอยออกจากลิฟท์มายืนอยู่ที่บริเวณโถงทางเดินและโบกมือลาเขาพร้อมกับพูดว่า “บายจ้ะ”

ฮยอนจุงโบกมือตอบเธอในขณะที่ประตูกำลังจะปิดและพูดเช่นกันว่า “บายฮ่ะ”

ภายในลิฟท์ ฮยอนจุงยืนนิ่งครุ่นคิดอะไรบางอย่างครู่หนึ่ง เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะยื่นมือไปกดปุ่มลิฟท์ลงไปที่ชั้น 1 แต่แล้ว “!!..??” เขากลับชะงักกึกและนิ่งคิดอยู่สักครู่ก่อนที่จะเปลี่ยนใจ เขารีบกดปุ่มเปิดประตู จากนั้นก็ค่อยๆเดินออกจากลิฟท์อย่างช้าๆมุ่งหน้าไปที่ห้องของฮวางโบ ระหว่างโถงทางเดินและหน้าประตูห้องของเธอมีเพียงแสงไฟสลัวๆจากบนเพดานที่ส่องลงมา

แต่แล้วก็มีสิ่งที่ทำให้เขาตกใจอย่างมาก ก็คือ กำแพงบริเวณนั้นและประตูหน้าห้องของเธอเต็มไปด้วยภาพวาดที่ดูน่าเกลียดน่ากลัวและคำพูดสาปแช่งต่างๆ ที่อ่านแล้วชวนให้ขนลุก ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นการโจมตีด่าฮวางโบคนเดียวล้วนๆ เมื่อเขาเดินเข้าไปดูใกล้ๆก็พอจะเห็นร่องรอยจางๆของความพยายามที่จะลบรูปเหล่านั้นออกไป แต่ก็จะมีรูปละคำพูดที่สีหมึกแสดงให้เห็นว่าเพิ่งถูกวาดทับลงไปใหม่แทนที่

เขายืนตัวสั่นด้วยความช็อคกับภาพและคำพูดอันเลวร้ายที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา ฮยอนจุงพยายามระงับอารมณ์ด้วยการกัดริมฝีปากตัวเองตัวไว้อย่างแรง

ขณะเดียวกันเขาก็เริ่มนึกถึงตอนที่เธอพยายามยืนขวางประตูลิฟท์เอาไว้ไม่ให้เขาเดินตามมาส่งที่หน้าห้อง พอคิดขึ้นมาได้น้ำตาก็เริ่มคลอ

“เพราะอย่างนี้นี่เอง...คุณถึงขัดขวางผมไม่ให้มาส่งคุณ เพราะกลัวว่าผมจะมาเห็นรูปพวกนี้” ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้เขาแทบจะหายใจไม่ออก

เขายืนจ้องมองที่ประตูห้องของเธอนานแสนนานด้วยความรู้สึกเจ็บปวด เขาพยายามกัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรงเพื่อสะกดความโกรธของตัวเองที่เห็นภาพเหล่านี้ “ทุกๆวัน...คุณต้องฝืนเดินผ่านเข้าออกประตูบานนี้....? คุณต้องเห็นข้อความบัดซบเหล่านี้ แต่คุณก็ไม่เคยปริปากพูดถึงเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย คุณเก็บความทุกข์เหล่านี้ได้ยังไงกันหือ” เขาลอบมองข้อความผ่านดวงตาของเขาซึ่งขณะนี้เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา และแล้วน้ำตาลูกผู้ชายที่ชื่อ คิมฮยอนจุง ก็ค่อยๆไหลรินอย่างช้าๆ

“ผมจะทิ้งคุณไปอย่างนี้ได้ยังไง....ในเมื่อคุณกำลังเจอปัญหาเลวร้ายแบบนี้อยู่...? ผมจะปล่อยให้คุณอยู่ตัวคนเดียวแบบนี้ได้อย่างไรกัน...?”

“ทำไมคุณไม่พูดอะไรออกมาบ้าง ทำไมคุณถึงไม่แบ่งปันความทุกข์ใจเหล่านี้ให้ผมบ้าง นี่ผมไม่รู้เรื่องนี้เลยซักนิด....T_T”

ฮยอนจุงยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นต่อไปอีกพักใหญ่ ด้วยความรู้สึกราวกับหัวใจของเขากำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ

“บูอิน ผมอยากให้คุณรู้ว่า วันที่คุณร้องไห้ หรือเสียใจกับเรื่องไร้สาระพวกนี้ ผมอยากให้คุณรู้ว่า ไม่ใช่เพราะคุณไม่มีใครมาปลอบโยนคุณ ขอให้คิดว่า ยังไงยังมีผมคนนี้ อยู่เคียงข้างเสมอแม้ว่าผมจะอยู่ไกลแสนไกล”

“นี่ผมควรทำอย่างไรดี ทำอย่างไรเพื่อที่จะปกป้องคุณได้มากกว่านี้ ให้คุณได้ปลอดภัยมากกว่านี้ ทำไมแฟนคลับของผมถึงไม่รักคุณเหมือนอย่างที่เขารักผม” น้ำเสียงสั่นเครือของเขาสะอึกสะอื้น เขาค่อยๆเดินจากหน้าบ้านของเธออย่างช้าๆ เขาควรทำอย่างไรเพื่อที่จะทำให้เธอเข้มแข็งเพื่อต่อสู้กับแรงต้านทานของแฟนคลับบางคนที่ไม่รักผู้หญิงของเขา ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรน่ะ แล้วเวลานั้นมันจะมาถึงหรือเปล่า คิดแล้วก็อดสงสารตัวเองและผู้หญิงคนที่เขารักมากที่สุดไม่ได้

ที่สนามบิน
ทีมงานถ่ายทำและนักแสดงของละคร F4 กำลังรอเวลาขึ้นเครื่องกันอยู่ ฮยอนจุงซึ่งมีสีหน้ากังวลแอบปลีกตัวเดินหลบออกมาหามุมเงียบๆเพื่อโทรศัพท์หาฮวางโบ

เสียงของฮวางโบทักเขาจากปลายสาย “หวัดดีจ้ะ เธอยังไม่ไปอีกเหรอ? “

ฮยอนจุงพูดเสียงเศร้าๆว่า “ยังเลยฮะ แต่อีกไม่นานแล้วล่ะ ผมกำลังรอเขาเรียกขึ้นเครื่องอยู่น่ะ

“ชั้นอยากจะไปส่งเธอที่สนามบินนะ...แต่ต้องขอโทษด้วยจริงๆ วันนี้ชั้นยุ่งมากเลยจ้ะ...”

“ผมรู้ฮะ”...

“ดูแลตัวเองให้ดีๆนะ.”..

“ฮะ”

“กินข้าวให้ตรงเวลาด้วยน่ะ”

“ทราบแล้วฮะ”

“แล้วก็อย่าไปมองผู้หญิงอื่นให้มากนัก...”

ฮยอนจุงพ่นลมหายใจออกมาก่อนตอบว่า “แน่นอนฮะ”

“แล้วก็โทรหาชั้นด้วยนะเวลาที่เธอได้พักเบรคระหว่างถ่ายทำน่ะ”

“ฮะ” น้ำเสียงที่เศร้าของเขาที่พยายามฝืนเต็มทน เขารู้สึกสงสารเธอจับใจที่ต้องคอยแบบรับกับปัญหางี่เง่าแบบนี้

“ไม่เอาน่า ทำไมเธอถึงได้ทำเสียงซังกะตายแบบนี้น่ะ?”

ฮยอนจุงซึ่งตอนนี้น้ำตาเริ่มคลอเบ้า พยายามสุดชีวิตที่จะกลั้นไม่ให้มันไหลออกมาด้วยการกัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรง ก่อนตอบเธอไปว่า....”ผมจะทำงานให้ดีๆและจะรีบกลับมาหาคุณให้เร็วที่สุดฮะ!”

“โอเคจ้ะ ชั้นจะรอน่ะ”

“คุณ ก็ต้องระมัดระวังตัวเองด้วยนะฮะ”

ฮวางโบหัวเราะเบาๆก่อนพูดไปว่า “ ชั้นไม่ได้เป็นคนที่จะเดินทางไปที่อื่นไกลๆซะหน่อย...เธอนั่นแหละที่ควรจะระมัดระวังตัวมากกว่าน่ะ”

แล้วจู่ๆเขาก็โพล่งขึ้นมาว่า..”.มีบางอย่างที่ผมอยากจะบอกคุณน่ะฮะ เพราะผมเองก็ไม่ได้ปลื้มกับมันซักเท่าไหร่ที่ทำแบบนี้ แต่ว่า...”

“เธอจะทำอะไรของเธอกันแน่?” ฮวางโบอดสงสัยไม่ได้

“ผมไปขอร้องพวกเมมเบอร์เอาไว้ฮะ”

“เธอไปขอให้พวกเขาทำอะไรเหรอ?”

“ผมขอให้พวกเขาคอยดูแลคุณช่วงที่ผมไม่อยู่”

ฮวางโบหัวเราะคิก “ แล้วพวกเขาว่าไงบ้างล่ะ?”

“คยูจงเขาเป็นคนที่น่ารักสุด เขาตอบตกลงทันทีว่าเขาจะคอยดูแลคุณให้”

ฮวางโบยิ้มก่อนพูดต่อไปว่า “เธอกำลังเอาใจชั้นมากเกินไปจนจะเสียคนน่ะเนี่ย...”

ฮยอนจุงรู้สึกหดหู่ พลางคิดในใจ <เอาใจมากไปอะไรกันล่ะ? แฟนทั้งคนกำลังถูกพวกแอนตี้เล่นงานอยู่นี่น่ะ> “แล้วผมจะรีบกลับมานะฮะ”

“จ้ะ ขอให้โชคดีในการถ่ายทำละครน่ะ...แล้วก็อย่าไปให้ใครเขาข่มเอาล่ะ!”

“โอเคฮะ”

“ชั้นควรจะวางสายได้รึยังน่ะ? เธอต้องไปแล้วใช่มั๊ย”

“เดี๋ยวก่อนฮะ”

“ลืมพูดอะไรไปอีกหรือ?”

“ตอนที่ผมกลับมา...”

“จ้ะ..ว่าไง…?”

“ผมจะปฏิบัติต่อคุณให้ดีๆ”

ฮวางโบแอบหัวเราะเบาๆ “ จ้า...ชั้นจะตั้งตารอวันนั้นน่ะ”

<ผมขอโทษฮะ...ผมไม่สามารถจะทำอะไรให้คุณได้เลย.> คิดไปน้ำตาเขาก็พาลจะไหลออกมา> “ผมขอโทษฮะ”

“เธอขอโทษเรื่องอะไรกันเหรอ? เธอกำลังจะเดินทางไปที่นั่นเพื่อทำงาน อย่ารู้สึกเสียใจเพราะเรื่องนั้นเลยน่ะ” ฮวางโบยังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด...

“ผมอยากจะพาคุณไปด้วยกันจริงๆน่ะฮะ.” <ผมเป็นห่วงคุณมากเลยฮะ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคุณที่นี่...>

“นี่ถ้าชั้นตัวเล็กกว่านี้...ชั้นก็อาจจะแอบไปอยู่ในกรเป๋าเดินทางของเธอก็ได้นะ..หุหุ! ^^ “ ฮวางโบแกล้งพูดตลกเพื่อให้เขารู้สึกดีขึ้น

ถึงแม้จะอยู่ในโหมดเศร้าแต่ฮยอนจุงก็ยังไม่ยอมหลุดคอนเซ็ปท์ 4-D ของตัวเอง รีบตอบเธอไปว่า
“ไม่เอาฮะ กระเป๋าเดินทางไม่ดีหรอกมาอยู่ในกระเป๋าเสื้อผมดีกว่า ถ้าทำแบบที่คุณบอกผมต้องคอยเดินไปเช็คดูกระเป๋าเดินทางบ่อยๆแน่เลย ได้ยินมาว่าเคบินที่เก็บของอากาศมันหนาวมากเลย ผมไม่อยากให้คุณแข็งตายอยู่ในนั้น”

ฮวางโบระเบิดหัวเราะออกมาอย่างดัง “ ฮ่าฮ่าฮ่า...มุขตลกของเธอมันฟังดูจริงจังเกินไปรึเปล่าน่ะ”

“นี่ผมไม่ได้พูดเล่นนะ ผมหมายถึงอย่างนั้นจริงๆ”

“โอเคจ้ะ ชั้นรู้ว่าเธอรู้สึกยังไง...ชั้นเองก็อยากจะไปกับเธอเหมือนกันนะ”

ฮยอนจุงถอนหายใจเฮือกใหญ่

“นี่...เสียงถอนหายใจของเธอทำให้เพดานทะลุเป็นรูได้เลยนะ”ฮวางโบอดแซวไม่ได้

“ถ้า....” เขาพูดพร้อมกับนิ่งเงียบไป

“หา ว่าไง?”

“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น.. ในระหว่างที่ผมไม่อยู่”

“อะไรของเธอที่ว่าคืออะไร?”

“ผมเองก็ยังไม่ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ถ้ามันมีอะไรเกิดขึ้น...”

“จ้ะ...แล้วไง?”

“ขอให้คุณโทรหาพวกเขาทันทีน่ะฮะ ผมเชื่อว่ายองแซง หรือ จองมินน่าจะรับมือกับเรื่องพวกนี้ได้ดีกว่า... “

“เรื่องอะไรของเธอเหรอ?”

“บางอย่างที่คุณไม่สามารถจะจัดการได้ด้วยตัวเอง”

ฮวางโบถอนหายใจลมหายใจออกมา “ ให้ชั้นโทรหาพวกเขาเพราะว่าชั้นไม่สามารถจะจัดการบางอย่างได้ด้วยตัวเองงั้นเหรอ?”

“จะทำยังไงก็ได้ตามใจคุณฮะ...ขอแค่ว่า...ถ้าเกิดคุณต้องการความช่วยเหลือ โทรหาพวกเขาด้วยนะฮะ”

“ถ้าชั้นต้องการความช่วยเหลือ?”

“แต่ถ้ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นยิ่งจะเป็นเรื่องที่ดีมาก...”

“...??”

”คิมฮยอนจุง” เสียงพี่ผู้จัดการตะโกนเรียกชื่อเขาพร้อมกับกวักมือเรียกจากที่ไกลๆ

“บูอิน ผมต้องไปแล้วล่ะฮะ สงสัยคงจะถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้วล่ะ...”

“โอเคจ้ะ โทรหาชั้นตอนเธอถึงที่มาเก๊าด้วยน่ะ”

“คุณรู้เบอร์ผมที่จะใช้เวลาอยู่ที่โน่นแล้วใช่มั้ยฮะ?”

“จ้ะ”

“ผมจะวางสายแล้วน่ะ ระวังตัวดีๆน่ะฮะ”

ฮวางโบหัวเราะคิกแล้วตอบไปว่า “ นั่นมันประโยคของชั้นน่ะ เธอมาแย่งไปได้ยังไงกัน เอาล่ะ ฟังน่ะ ดูแลตัวเองให้ดีๆแล้วกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัยนะจ๊ะ”

“โอเคฮะ” หลังจากวางสายเขาก็วิ่งหน้าตั้งไปที่ประตูขึ้นเครื่องทันทีก่อนจะถูกพี่ผู้จัดการเม้งอีกรอบ

สถานที่ถ่ายทำ ที่มาเก๊า
ที่กำแพงริมถนนช่วงเวลากลางคืนมีโปสเตอร์ภาพโฆษณาที่ดูทันสมัยและชวนฝันติดอยู่ ภายใต้แสงไฟจากถนนที่ส่องระยิบระยับ ทำให้เห็นราวกับว่าผู้หญิงที่อยู่ในโปสเตอร์กำลังจ้องมองผู้คนที่เดินผ่านไปมาด้วยสายตาที่ดูเปล่งประกายลึกลับ

ระหว่างนั้นพีดีกำลังให้คำแนะนำฮยอนจุงในการถ่ายทำว่า “เพราะว่าในฉากนี้คุณกำลังเดินผ่านไปโดยไม่มีบทพูดใดๆ คุณต้องแสดงความอารมณ์รู้สึกออกมาให้เห็นได้ชัดเจน เข้าใจน่ะครับ?”

ฮยอนจุงพยักหน้ารับ “เข้าใจแล้วฮะ!”

“มันเป็นความรู้สึกโหยหาปรารถนาจะได้พบอะไรแบบนั้น โอเค น่ะครับ?” พีดียังอธิบายต่อไป

“ฮะ!” ฮยอนจุงสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ก่อนจะหันไปมองผู้หญิงที่อยู่ในโปสเตอร์

“เตรียมพร้อม แอ๊คชั่น!” พีดีตะโกนให้สัญญาณเดินกล้อง

ฮยอนจุงรู้สึกตื่นเต้นเล็กๆ ดวงตาของเขาแสดงถึงความไม่สบายใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองผู้หญิงในภาพ

“คัท” เสียงพีดีตะโกน

ฮยอนจุงเหลือบตาลงต่ำเมื่อได้ยิน

“คุณฮยอนจุงครับ”พีดีเดินเข้ามาพร้อมกับเริ่มอธิบาย

“ฮะ?”

“การแสดงเมื่อกี้มันดูกั๊กๆเกินไป...คุณสามารถจะใส่อารมณ์ให้มากกว่านี้ได้อีกน่ะ”

“...โอเคฮะ”


“ถึงแม้ว่าคาแรคเตอร์ของยุนจีฮูจะเป็นคนที่ไม่แสดงความรู้สึกต่อหน้าคนอื่น แต่เขาก็ดูจะเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเองเมื่ออยู่ตามลำพัง...คุณต้องทำให้มันออกมาดูหดหู่สิ้นหวังมากกว่านี้...โอเคน่ะ?”

“โอเคฮะ” ฮยอนจุงรับปากพีดีไปแต่กลับคิดในใจว่า <มันต้องทำยังไงกันน่ะ>

พี่ดีตะโกน “เริ่มใหม่อีกครั้งน่ะ พร้อม แอ๊คชั่น”

ในขณะที่มองไปที่โปสเตอร์ ในหัวของเขาก็พยายามบอกตัวเองว่า <หดหู่...หดหู่หน่อยสิ...หดหู่ เฮ้อจะไหวมั้ยเนี่ย>

“คัท! ไหล่ของคุณเกร็งมาก! ท่าทางของคุณดูเครียดมากกว่าหดหู่สิ้นหวัง หน้าของคุณเหมือนเกร็งหวยแล้วไม่ถูกเลยน่ะ” พีดีอธิบายซ่ะเห็นภาพ

ฮยอนจุงรู้สึกสับสนสุดๆ “อา...ขอโทษฮะ...ผมจะพยายามทำให้ดีขึ้น”

หลังจากผ่านการเทคยับไปหลายรอบ

พีดีก็พูดกับฮยอนจุงว่า “คุณช่วยเดินมาตรงนี้สักครู่ด้วยครับ?”

“ฮะ” ว่าแล้วก็เดินลากขาท่าทางอ่อนแรงเข้ามาหาพีดี

พีดียืนกอดอกและจ้องหน้าฮยอนจุงด้วยท่าทางอ่อนใจ “อืมม..การแสดงนี่นะ...ครึ่งนึงมันจะเป็นเหมือนกับการสะกดจิตตัวเอง คุณต้องสะกดจิตตัวคุณให้ได้ว่า ชั้นรักผู้หญิงคนนี้นะ และชั้นกำลังจะตายด้วยความอยากพบหน้าเธอ”

ฮยอนจุงกระพริบตานิ่งฟังคำแนะนำ...

พีดีหลังจากใช้ไม้แข็งไปหลายชุดก็หันมาใช้ไม้นวมนวดเขาต่อว่า “ไม่เอาน่า คุณก็มีแฟนนี่นา คุณไม่รู้เหรอว่าความรู้สึกแบบนั้นมันเป็นยังไงน่ะ?”

“...................”

“ถ้ามันยากนักที่จะทำให้ตัวเองเชื่อว่าคุณรักผู้หญิงคนนี้ งั้นคุณก็ลองใช้จินตนาการวาดภาพหน้าแฟนของคุณ”

พอได้ยินคำว่าหน้าแฟนของคุณเท่านั้น เขาก็ร้องออกมาทันทีว่า “ โอ่ว ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วฮะ”

พีดียิ้มชอบใจ “ในที่สุดคุณก็เข้าใจแล้วน่ะ? โอเค เริ่มใหม่อีกครั้งน่ะ”

ฮยอนจุงเดินกลับมายืนประจำที่เก่าและพยายามควบคุมการหายใจของตัวเองให้สม่ำเสมอ ขณะที่มองภาพเขาก็คิดในใจว่า <ชั้นอยากจะให้มันเป็นรูปของบูอิน จริงๆนะ...>

เสียงพีดีตะโกนให้สัญญาณคิวเดินกล้องถ่ายทำต่อดังขึ้น...ฮยอนจุงเริ่มแสดงโดยทำตามคำแนะนำล่าสุดของพีดี

<อาทิตย์นึงแล้วสิน่ะที่ผมมาอยู่ที่นี่...ทุกอย่างที่โน่นยังโอเครึเปล่าน่ะ...บูอิน?>

<ผมคิดถึงคุณ...ตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่ฮะ?>

<ผมอยากจะให้รูปนี้เป็นรูปของคุณ> เขามองภาพนั้นและยิ้มแบบแสดงความโหยหา


<ผมอยากจะมีตะเกียงวิเศษ...จะได้ซ่อนคุณเอาไว้ในนั้น และจะรีบถูตะเกียงทันทีที่ผมอยากเจอคุณ.>

ฮยอนจุงยังคงอินกับความรู้สึกคิดถึงและโหยหาที่มีต่อฮวางโบ แม้กระทั่งพีดีตะโกนบอกว่าโอเค พอได้แล้ว

พีดีกล่าวชม“นั่นดีทีเดียวเลยน่ะ ขอถ่ายอีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้นพอ”

ฮยอนจุงยังคงยืนงุนงงมองรูปภาพอยู่เหมือนไม่รู้สึกตัว

“คุณคิมฮยอนจุง”

ฮยอนจุงสะดุ้งราวกับตื่นจากมนต์สะกด “ ฮะ?”

“เมื่อกี้นี้ดูเหมือนกับคุณกำลังคิดถึงคนรักของคุณอยู่...คราวนี้ช่วยแสดงให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานใจมากขึ้นกว่านี้...”พีดีอธิบายต่อไป

“ทุกข์ทรมาน?” สีหน้าของเขาเริ่มกังวล

“แบบว่า คุณไม่สามารถจะพบเธอได้ถึงแม้ว่าอยากเจอจนแทบขาดใจก็ตาม เพราะว่าคุณอยู่ห่างไกลจากเธอมาก...เพราะว่ามันไม่มีบทพูด มันจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาให้เห็นทางจอทีวี คุณอาจจะแสดงออกมาให้เวอร์เกินจริงก็ได้....แต่จำไว้ว่าฉากนี้มันไม่ใช่แนวตลก!”

“ผมเข้าใจแล้วฮะ”ฮยอนจุงพยักหน้าพร้อม

“ทำไมคุณไม่ขยับเข้าไปใกล้โปสเตอร์อีกหน่อยล่ะ? หรือจะเอามือสัมผัสมันด้วยก็น่าดีน่ะ”

“สัมผัสหรือฮะ?”

“ก็แสดงท่าทางออกมาสักเล็กน้อยก็น่าจะออกมาดูดีนะ...แบบนี้น่ะ.” พีดีสาธิตคล้ายๆกับว่ากำลังกอดโปสเตอร์ให้ฮยอนจุงดู

การถ่ายทำเริ่มขึ้นอีกครั้ง

ฮยอนจุงสูดหายใจลึกๆก่อนเดินเข้าไปใกล้กำแพงมากขึ้น ระหว่างนั้นเองฮยอนจุงก็นึกถึงภาพบนประตูห้องฮวางโบ

<มันยังเป็นแบบนั้นอยู่รึเปล่านะ...? ใครกันนะที่มาทำแบบนี้?>

<การโจมตีในเน็ตมันไม่มีผลอะไร ตราบใดที่คุณไม่ได้เห็นมัน...แต่การทำอย่างนั้นที่หน้าบ้านของคุณนี่สิ ผมรับไม่ได้...T_T>

<ผมไม่สามารถจะทำอะไรเพื่อคุณได้เลย...ผมอยากจะทำอะไรบางอย่างเพื่อคุณ!>

ในตอนนี้สายตาของเขามองเห็นใบหน้าของฮวางโบปรากฏซ้อนทับอยู่บนโปสเตอร์ เขาจึงค่อยๆใช้มือลูบสัมผัสไบหน้าบนโปสเตอร์อย่างแผ่วเบาด้วยความทะนุถนอม

<ผมคิดถึงคุณมากจริงๆฮะ...เมื่อไหร่คุณจะมาที่นี่ล่ะ...T_T>

พอนึกถึงตอนนี้ น้ำตาเริ่มเอ่อที่ริมขอบตาของเขา

”คัท!” เสียงพีดีตะโกนขึ้นมา

“นั่นมันเยี่ยมมากเลย! คุณแสดงๆได้ดีมากเลยน่ะ! “ พีดีกล่าวด้วยความชื่นชม

ฮยอนจุงสะดุ้งตื่นจากภวังค์หลังจากเยินเสียงตะโกนของพีดี เขารีบหันหน้าไปอีกทางนึงและแอบเช็ดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว

<ที่จริงแล้วเมื่อกี้ ชั้นไม่ได้แสดงหรอกน่ะ...มันคือความรู้สึกจริงของชั้นต่างหาก> ว่าแล้วเขาก็ถอนหายใจก่อนคิดต่อไป <การแสดงมันเป็น...เรื่องที่ยากสำหรับชั้นจริงๆน่ะ...>

โปรดติดตามคู่รักผักกาดหอม รีมิกซ์ ตอนที่ 88

หมายเหตุ

เข้าใจเลยว่า คนที่โดนโจมตีโดยที่ไม่รู้สาเหตุคืออะไร บางทีตัวเองก้ไม่รู้ว่าทำอะไรที่ไม่ถูกใจใครต่อใครหลายคน
ยาย(นาจา)





 

Create Date : 20 สิงหาคม 2553
10 comments
Last Update : 20 สิงหาคม 2553 20:25:20 น.
Counter : 893 Pageviews.

 

ตอนนี้เศร้าจังเลย สงสารจุงกับโบจัง ยายยังถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีเหมือนเดิมเลยนะ สู้ๆนะ

 

โดย: คิมยองบิ IP: 58.9.62.142 20 สิงหาคม 2553 21:00:13 น.  

 

ยายสู้ๆค่ะ เป็นกำลังใจให้น๊า...

บางทีเราก้อทำรัยถูกใจทุกคนไม่ได้ หรือบางทีก้อมีคนที่พร้อมจะคิดลบกะเราในทุกๆสิ่งที่เราทำ อย่าได้แคร์ค่ะ

ไฟท์ติ้งงงงงง

 

โดย: ตอง IP: 180.183.172.85 20 สิงหาคม 2553 22:00:45 น.  

 

ทั้งหวานทั้งดราม่าเลยนะยาย...คอมแก่แล้วสามวันดีสี่วันไข้เลยไม่ค่อยรู้เรื่องยายไม่สบายใจ...ให้กำลังใจยายอยู่น้า ^___^ ยายอย่าได้แคร์(สื่อ)เลย คนเรามันมีหลายแบบ o____O'' นี่ขนาดไม่รู้เรื่องอะไรกับเขายังบ่นเพื่อยายซะ...เฮ้อคนเราเนอะ ยายนาจาคิดบวกสู้ๆๆๆ ^o^อยู่แล้นนนน....ไฟท์ติ้งงงง...เลยจ้ายาย

 

โดย: มินมิน IP: 125.27.50.98 20 สิงหาคม 2553 22:07:43 น.  

 

ทั้งเศร้าและซึ้งในความรักของทั้งคู่นะยาย ขอบคุณยายที่แปลให้อ่าน ทั้งๆที่ ตัวเองก็มีเรื่องวุ่นวายใจอยู่ คิดแต่สิ่งดีเข้าไว้ สู้ๆๆๆๆๆๆอยากจะบอกว่า อย่าสนใจมาก เราไม่สามารถทำอะไรให้ทุกคนพอใจได้ แต่ละคนไม่เหมือนกัน

 

โดย: noyhnasangchu2010 IP: 125.26.5.185 20 สิงหาคม 2553 22:17:36 น.  

 

ทั้งเศร้าและซึ้งในความรักของทั้งคู่นะยาย ขอบคุณยายที่แปลให้อ่าน ทั้งๆที่ ตัวเองก็มีเรื่องวุ่นวายใจอยู่ คิดแต่สิ่งดีเข้าไว้ สู้ๆๆๆๆๆๆอยากจะบอกว่า อย่าสนใจมาก เราไม่สามารถทำอะไรให้ทุกคนพอใจได้ แต่ละคนไม่เหมือนกัน

 

โดย: noyhnasangchu2010 IP: 125.26.5.185 20 สิงหาคม 2553 22:18:18 น.  

 

ติดตามอ่านตลอดเลยนะยาย แต่ไม่ได้เม้นนานละ ขอบคุณยายที่สร้างความสุข
ให้ทุกวัน ยายอย่าไปสนใจเลย สู้ๆน๊าาา
เป็นกำลังใจให้ยายนะคะ

 

โดย: tonaor IP: 202.28.62.245 21 สิงหาคม 2553 1:22:32 น.  

 

อินค่ะอิน..ยายถ่ายทอดอารมณ์ดีเกิ้น.

ชอบค่ะ..สู้ๆค่ะ..ใครจะว่างัยก็ช่าง...

แต่เราชอบของเรา...เป็นกำลังใจให้ยาย
ค่ะ

 

โดย: rakjung IP: 58.8.156.227 21 สิงหาคม 2553 10:37:59 น.  

 

ยาย ตอน 87 นี่ยายทำให้น้ำตาพี่จะไหลอีกแล้วเนี่ย
สงสารจับใจทั้งคู่
แต่ความรักยิ่งใหญ่เสมอ
เค้าทั้งคู่ต้องผ่านมันไปได้แน่นอน
ยายก็เหมือนกันนะ
อยากให้ยายผ่านความรู้สึกแบบนี้ไปได้เช่นกัน
....อย่าได้แคร์....
เพราะเราคงไม่สามารถทำให้ถูกใจทุกคนได้
แต่บอกได้เลยว่า...ยายทำให้คนกลุ่มหนึ่ง
มีความสุขและยื้มไปกับสิ่งที่ยายทำ
พี่รู้สึกขอบคุณยายเสมอ
....ขอบคุณนะ....
...มาให้กำลังใจยายทั้ง2บ้านเลย อย่าน้อยด์น๊า สู้สู้...

 

โดย: joy&yoo IP: 222.123.197.144 22 สิงหาคม 2553 22:43:26 น.  

 

สู้ๆนะคะ

 

โดย: dexmun IP: 27.55.26.189 27 สิงหาคม 2553 18:55:12 น.  

 

เศร้านิดหน่อยกับการที่ทั้งสองต้องแยกกัน(ชั่วคราว)
เพราะจุงต้องไปทำงาน ไหนจะห่วงโบอีก
เฮ้อ...คนอ่านอินจัดคะ ^^

 

โดย: nolirin IP: 27.55.233.222 23 กันยายน 2553 2:48:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.