ตอนที่ 79 ~ รู้ไว้ซ่ะ ว่าคนนี้...แฟนช้านนนน
***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****
*************ตั้งแต่ตอนที่ 77 จะไม่เหมือนในรายการแล้วน่ะค่ะ ดังนั้น โปรดอย่าสับสน****************
ที่สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ คู่ผักกาดหอมค่อยๆเดินไปมุ่งหน้าไปขึ้นเครื่องเล่นไวกิ้ง ที่รอบๆบริเวณนั้นจะมีกลุ่มบอดี้การ์ดยืนกันผู้คนอยู่เป็นระยะ
ระหว่างที่เดินฮยอนจุงก็พูดขึ้นมาว่า “ตอนที่เราเล่นไวกิ้งกัน คนที่ร้องเสียงดังกว่าจะต้องยอมให้อีกคนนึงขี่หลังน่ะฮะ”
“ขี่หลังเหรอ” เธอถามเหมือนไม่แน่ใจ
“ใช่ฮะ.”
ฮวางโบเหลียวมองดูรอบๆแล้วถามว่า “มันจะดีเหรอ? แถวนี้คนเยอะมากเลยน่ะ”
“งั้นก้อ...ทำท่าน่ารักดีมั้ยฮะ?”
“แต่ชั้นเคยเห็นเธอทำแล้วนี่นาตอนที่เราไปฟาร์มกัน”
“แต่ว่าผมยังไม่เคยเห็นคุณทำนี่ฮะ”
“แล้วไง ที่จริงเธอคงอยากดูชั้นทำท่าน่ารักมากเลยล่ะสิ..ใช่ป่ะ?”
ฮยอนจุงยิ้มโดยไม่ตอบ
“ก็ได้ สิ่งที่ชั้นต้องทำก็คือ คว้าชัยชนะมาให้ได้!”
“แต่ถึงไง ผมก็เป็นผู้ชาย...ไม่มีทางที่ผมจะแพ้คุณหรอกฮะ!”
ฮวางโบถอนหายใจแล้วพูดเยาะเย้ยเล็กๆว่า “ แต่เธอกลัวนั่นกลัวนี่มากกว่าชั้นอีกน่ะ”
“แต่ว่าบูอิน ก็มีเรื่องที่กลัวด้วยเหมือนกัน!”
“ยังไงก็ไม่มากเท่าเธอหรอกน่า” ฮวางโบข่มด้วยคำพูด
ฮยอนจุงรีบโบกมือเถียงขึ้นทันที “ไม่จริงฮะ ผมรู้ว่ามีเรื่องที่คุณกลัวตั้งเยอะแยะ”
“ หุหุ! จ้ะ เอาเป็นว่าเธอพูดถูกก็แล้วกันน่ะ ที่นี้สบายใจได้หรือยัง”
ที่แถวรอขึ้นไวกิ้ง ในขณะที่คู่ผักกาดหอมกำลังรอคิวอยู่ สองคนต่างก็เจรจาต่อรองเพิ่มเงื่อนไขและเดิมพันในการแข่งขันอย่างเช่น ห้ามหลับตา และห้ามเอามือแตะที่ราวจับ
ฮยอนจุงเสนอว่า “คนแพ้ต้องยอมเป็นผู้จัดการให้คนที่ชนะหนึ่งวันเต็มๆน่ะฮะ”
ฮวางโบพูดเสียงเหนื่อยๆ “ เป็นผู้จัดการให้ทั้งวัน? เธอไม่คิดว่ามันจะมากเกินไปหน่อยเหรอ? ถ้าขืนเราต่อรองกันแบบนี้ ชั้นว่าในที่สุดเธอคงจะเดิมพันว่าคนแพ้ต้องยอมแต่งงานกับคนที่ชนะแน่นอน”
ฮยอนจุงทำท่าคิดเล็กน้อยก่อนตอบด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ว่า “ว้าว ไอเดียของคุณนี่ไม่เลวเลยน่ะฮะ”.
ฮวางโบทุบที่ไหล่เขาไปหนึ่งอั๊ก “นี่!!”
ฮยอนจุงแกล้งทำเป็นเจ็บ “ โอ๊ย บูอินคุณรังแกผมแบบนี้ แฟนคลับกำลังมองดูอยู่น่ะ”
“ใครจะไปรู้? จริงๆพวกเขาอาจจะชอบก็ได้น่ะ...มีอะไรที่เขาไม่ชอบมากไปกว่านี้มั๊ย หา?
“งั้นเราก็ควรจะลองหาคำตอบกันดูน่ะ คุณเห็นด้วยกับผมมั๊ย?
“เธอว่าอะไรน่ะ?”
“ผมเปลี่ยนกติกาใหม่ล่ะ คราวนี้ คนแพ้ต้องจุ๊บคนที่ชนะน่ะ” สายตาของเขายังเจ้าเล่ห์ไม่เลิก
“นี่ ตลกพอหรือยัง หา !!!!”
ฮยอนจุงยังคงพูดต่อไป “เรามาดูปฏิกิริยาของพวกเขากันดีกว่า ว่าแบบไหนที่เขาไม่ชอบมากที่สุด? คุณทำร้ายร่างกายผมหรือว่าเวลาที่เราถูกเนื้อต้องตัวกัน...^^”
ฮวางโบรีบพูดขึ้นมาทันที “ชั้นว่าเขาต้องไม่ชอบทั้งสองอย่างน่ะแหละ! ถามจริง นี่เธอกำลังพยายามจะฝังชั้นทั้งเป็นอยู่ใช่มั้ย?”
ฮยอนจุงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วพูดต่อไปว่า “ ผมอยากรู้จริงๆน่ะฮะ...ผมยังไม่เคยเห็นปฏิกริยาแบบซึ่งๆหน้าตอนที่รายการของเราออกอากาศเลยอ่ะ”
ฮวางโบพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ “ไม่เอาน่ะ ชั้นไม่อยากดู แล้วชั้นก็ทำไม่ได้ด้วย!”
“งั้น เอาเป็นว่าถ้าผมชนะคราวนี้...เราค่อยมาเดิมพันแบบที่คุยกันตอนที่เล่นเครื่องเล่นอันต่อไปก็แล้วกันฮะ”
“ว่าไงน่ะ?” <ยังไงวันนี้เธอก็จะจุ๊บๆให้ได้ใช่มั้ยเนี่ย? >
ฮยอนจุงยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมเธอต่อ “ถ้าบูอินชนะ เราจะไม่พูดถึงเรื่องการเดิมพันด้วยการจุ๊บกันอีก แต่ถ้าผมชนะ เดิมพันในการแข่งขันครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเล่นเครื่องเล่น หรือเล่นเกมส์อย่างอื่น คนที่แพ้ต้องจุ๊บคนที่ชนะ...แบบนี้ โอ รึยังฮะ”
ฮวางโบจ้องหน้านิ่ง ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้...
“หืมม ว่าไงล่ะฮะ?”
“นี่เธอต้องการทำแบบนั้นจริงๆเหรอ?”
“ใช่ฮะ”
ฮวางโบจ้องหน้าเขาแต่สักครู่ก็ยอมแพ้ พูดไปว่า “ ก็ได้...เฮ้อ เธอนี่มันดื้อจริงๆเลยน่ะ”
ฮยอนจุงยิ้มกว้างเมื่อในที่สุดเธอก็ยอมตกลง...
ไม่นานนักก็ถึงคิวเล่นไวกิ้งของคู่ผักกาดหอม ทั้งสองเดินขึ้นไปนั่งที่แถวหลังสุด ในตอนแรกที่ไวกิ้งเริ่มแกว่งช้าๆทั้งคู่ก็ยังดูชิลๆกันดี แต่พอชักแกว่งแรงขึ้นเรื่อยๆ ฮวางโบก็เริ่มนั่งหลับตาปี๋และรู้สึกเวียนหัวจนเกือบจะลืมตัวร้องกรี๊ดออกมา
“อ๊ากส..” ฮวางโบกรีดร้องด้วยความกลัว
“เอ๊ะ นั่นใช่เสียงกรี๊ดของคุณรึเปล่าฮะ?” ฮยอนจุงเริ่มจับผิดเธอทันที
เธอยังปากแข็งรีบตอบไปว่า “ไม่ใช่ชั้นซ่ะหน่อย!”
“นี่คุณพยายามกลั้นมันเอาไว้มากเกินไปรึเปล่า ร้องออกมาบ้างก็ได้ เดี๋ยวจะแย่ไม่รู้ด้วยน้า? “
“ไม่มีทางหรอกย่ะ!” เธอตอบด้วยความมั่นใจ
ในขณะที่พยายามจะแกล้งเธอ ฮยอนจุงเองก็อาการหนักไม่แพ้กัน ตาของเขาโตเป็นไข่ห่านด้วยความตื่นเต้น และต้องพยายามกัดริมฝีปากเอาไว้อย่างแน่นเพื่อไม่ให้มีเสียงร้องหลุดลอดออกมา...และเมื่อไวกิ้งส์แกว่งขึ้นไปจนถึงระดับสูงสุดและแกว่งกลับลงมาอย่างเร็วราวกับจรวดตอร์ปิโด
ฮวางโบพยายามสุดชีวิตที่จะไม่กรี๊ดออกมา “ อึมมมมม...”
“กริ๊ดออกมาเลยสิฮะ” เขาพยายามกล่อมให้เธอยอมแพ้
“ไม่~~~~.....”
“อั้นไว้อย่างนั้น คุณอาจจะหัวใจวายก็ได้น่ะ! กริ๊ดออกมาเถอะน่า” ฮยอนจุงยังไม่ละความพยายาม
ขณะนี้ไวกิ้งส์แกว่งกลับขึ้นมาตั้งเป็น 90 องศา เป็นรอบที่สอง แต่คราวนี้ ขาลงยิ่งแกว่งลงเร็วกว่าเดิม
ในที่สุดฮวางโบก็กลั้นไม่อยู่ต้องร้องออกมาก่อนที่หัวใจจะวายไปซะก่อน “อ้ากกกกกกกก! ~~~”
ฮยอนจุงได้ยินก็ร้องตะโกนเสียงดังด้วยความดีใจ “ไชโยโห่ฮิ้ว ผมชนะแล้ว~~~!
หลังจากลงจากไวกิ้ง ฮยอนจุงก็ช่วยพยุงฮวางโบที่เดินโซเซเพื่อไปนั่งพักที่ม้านั่งยาวแถวๆนั้น
เขาเห็นท่าไม่ดีเลยพูดว่า “เรานั่งพักกันซักห้า...”
แต่พูดไม่ทันจบเธอก็แทรกขึ้นมาว่า “วันนี้เราพอกันแค่นี้ได้มั้ยอ่ะ...?”
“ได้ฮะ แต่ว่าหลังจากที่เราเล่นอีกอย่างหนึ่งเป็นรอบสุดท้ายก่อน...”
“นี่เราต้องเล่นต่ออีกเหรอเนี่ย?”
เขายังยืนยันหนักแน่น “ใช่ฮะ”
“พระเจ้า เธอนี่มันดื้อรั้นสุดๆเลยน่ะ”
“พวกเราต้องไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ฮ่ะ “
“นี่ตกลงว่า ตอนนี้เธอแค่ทำตัวดื้อดึงเฉยๆ หรือว่าวิญญาณแห่งการอยากเอาชนะมันสิงอยู่กันแน่ ฮึ?”
เขาตอบหน้าตายๆไปว่า “ทั้งสองอย่างฮะ..”
ฮวางโบยกมือขึ้นมากุมศีรษะแล้วบ่นดังๆว่า “ ชั้นรู้สึกเวียนหัวมากเลยน่ะนี่ T_T”
เขาเห็นอาการของเธอก็รู้สึกสงสาร ยื่นมือไปตบที่หลังของเธอเบาๆ เหมือนให้กำลังใจ
“..................”
“คุณไหวรึเปล่าฮะ? โหด มันส์ ฮาเกินไปมั้ยฮ่ะ?”
ฮวางโบนิ่งเงียบ
“งั้น เรามาเล่นเกมเป่ายิ้งฉุบตรงขั้นบันไดตรงโน้นแทนก็แล้วกัน คนที่ลงไปถึงบันไดขั้นสุดท้ายข้างล่างก่อนจะเป็นผู้ชนะ “
ฮวางโบฝืนยิ้มก่อนถามไปว่า “ นี่เธออยากจะทำแบบนั้นจริงๆหรือ...?”
“ผมบอกคุณแล้วไงฮะ ว่ามันเป็นเป้าหมายของเราที่ต้องไปให้ถึง!”
ฮวางโบพูดต่อทันที ”ชึ่งมันคือสิ่งที่เธอเป็นคิดเอง เออเองอยู่คนเดียว”
“คุณก็ยอมทำตามผมหน่อยไม่ได้หรือไงฮะ? วันนี้ทำไมคุณขี้บ่นจัง”...
“เฮ้อ เราไปหาอะไรกินกันก่อนดีมั้ย...”
ฮยอนจุงลุกขึ้นยืนทันที “โอเคฮะ ผมก็ชักหิวแล้วเหมือนกัน “ ว่าแล้วก็ลงไปนั่งลงแล้วพูดว่า “คุณเหนื่อยใช่มั้ยฮะ ขี่หลังผมไปก็แล้วกัน”
ฮวางโบถึงกับประหลาดใจ “ นี่เธอ..ทำไมถึงใจดีแบบนี้ล่ะ”
“ผมจะแบกคุณไปจนถึงตรงโน้นเลยฮะ”
“ตรงโน้นเลยเหรอ? มันจะไกลเกินไปรึเปล่าน่ะ?”
“คราวที่แล้วผมยังแบกคุณเดินขึ้นบันไดได้เลย จำไม่ได้หรือฮะ...”
ฮวางโบลังเลอยู่ชั่วครู่...
“ขึ้นมาสิฮะ เร็วๆเข้า เดี๋ยวผมเปลี่ยนใจน่ะ”
จากนั้น ฮวางโบก็ค่อยๆขึ้นไปคร่อมบนหลังของฮยอนจุงแล้วพูดพึมพำว่า “ เธอ...ผอมลงไปกว่าคราวที่แล้วมากเลยน่ะ”
เขาสวนกลับมาทันทีว่า “ อูววว และคุณก็หนักขึ้นกว่าคราวที่แล้วด้วยใช่มั้ยฮะ?”
เธอทุบไปที่ไหล่หนึ่งที “ นี่แน่ะ ปากดีนัก”
เขายิ้มสดใสแล้วบอกว่า “เกาะให้แน่นๆน่ะ”
“ชั้นก็อยากจะทำอย่างนั้นน่ะ...แต่ว่ามีคนกำลังมองพวกเราอยู่เต็มไปหมดเลยอ่ะ...”
“แต่ถ้าคุณไม่เกาะให้แน่นๆ ผมจะเดินลำบากมากเลย ขยับตัวคุณเข้ามาใกล้ๆอีกสิฮะ”
เธอเปลียนจากจับที่ไหล่ไปโอบรอบคอเขาแทน “ ก็ได้ ชั้นไม่แคร์สื่ออะไรแล้วล่ะ.”
2 ชั่วโมงต่อมาหลังจากพักกินข้าว คู่ผักกาดหอมกลับมาเล่นเกมเป่ายิ้งฉุบกัน โดยที่คนชนะในแต่ละตาจะได้ลงบันไดไป 1 ขั้น และตอนนี้ฮยอนจุงเหลืออีก 2 ขั้นก็จะชนะ แต่ฮวางโบเหลืออีก 3 ขั้น
“เย้เย ผมชนะ! “เขาร้องด้วยความดีใจพร้อมๆกับกระโดดลงไปอีกขั้น
ฮวางโบได้แต่บ่นอุบอิบว่า “ให้ตายเหอะ ทำไมชั้นถึงได้แพ้อยู่เรื่อยเลยน่ะ?”
“เหลืออีกตาเดียวแล้ว มาเลยฮะ ค้อน กรรไกร กระดาษ!”
คราวนี้มือของฮยอนจุงออกช้ากว่าเธอนิดนึง และฮวางโบเป็นฝ่ายชนะ
ฮวางโบกระโดดลงไป 1 ขั้นแล้วบอกเขาว่า “ เกมมันยังไม่จบง่ายๆหรอกน่า!”
ฮยอนจุงยิ้มอย่างผู้มีหวัง “ไม่เป็นไรฮะ ยังไงผมก็ยังนำคุณ 1 ขั้นอยู่ดี”
“คราวนี้ชั้นจะเป็นคนพูดเอง ค้อน กรรไกร กระดาษ!”
แล้วฮวางโบก็ชนะติดกันเป็นครั้งที่ 2
เธอยิ้มออกมาด้วยความดีใจ “เห็นมั้ย ตอนนี้เราเสมอกันแล้ว! ”
“โอ๊ะ ไม่เป็นไรหรอกฮะ เกมมันยังไม่จบ อย่าเพิ่งด่วนสรุป...”
“โอเค ตาสุดท้ายแล้วน่ะ ค้อน กรรไกร กระดาษ!”
และในที่สุดเธอก็เป็นฝ่ายชนะเกมนี้!
ฮวางโบกระโดดขึ้นลงด้วยความดีใจและตะโกนออกมาดังๆ “ฮู้วว ฮู้วว ชั้นชนะ! ชั้นชนะแล้ว เย้เย้!”
แต่ฮยอนจุงไม่ได้แสดงท่าทางเสียใจที่แพ้แม้แต่น้อย กลับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วพูดขึ้นมาว่า “คุณต้องดีใจมากเลยใช่มั้ยฮะที่เอาชนะผมได้น่ะ...”
ฮวางโบยังคงดีใจโดยไม่ทันสังเกตท่าทางของเขา “ใช่เล้ววววว การเป็นผู้ชนะนี่มันวิเศษมากๆเลย เย้เย”
เขาถอนหายใจออกมาแล้วมองดูเธอโดยไม่พูดอะไร
มาถึงตอนนี้ฮวางโบสติเริ่มกลับคืน และชักสงสัยท่าทางของฮยอนจุงที่ยืนยอมรับพ่ายแพ้อย่างสงบแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “เอ่อ ฮยอนจุงจ๊ะ..?”
เขาแกล้งทำท่าถอนหายใจออกมาอย่างแรง “ ฮ้าาาา ในเมื่อผมเป็นฝ่ายที่แพ้...”
เธอมองตาเขาปริบๆ...
“ผมก็ต้องเป็นฝ่ายที่โดนทำโทษ ผมไม่อยากแพ้เลยจริงๆ ให้ตายสิ” เขาพูดและทำหน้าเศร้าๆแต่สายตาร่าเริงแกมเจ้าเล่ห์
พอได้ยินคำว่า “ทำโทษ” เท่านั้น เธอก็สะดุ้งโหยง...<หา!!!! แย่แล้ว ลืมไปเลยน่ะ!!>
เขายังพูดต่อไปด้วยใบหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์สุดๆว่า “ในเมื่อเรายังไม่ได้ตัดสินใจกันว่าจะจุ๊บตรงไหนดี ผมก็น่าจะเป็นคนเลือกเองได้ใช่มั้ยฮะ?”
ฮวางโบซึ่งตอนนี้ตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้าแล้ว “อะ ไร ? ที่...ที่ไหน เหรอ...? “
“แหม..ตอนนั้นคู่พี่แอนดี้กับโซลบิก็เคยทำแบบนั้นในตอนของพวกเขาเลย...มันก็น่าจะโอเคที่ผมจะทำแบบนั้นบ้างใช่มั้ยฮะ?”
ฮวางโบยืนอึ้งๆ พูดไม่ออก “นี่เธอ”
“ว่าไงฮะ คนแพ้อย่าขี้โกงสิฮะ ?”<คนขี้โกงต้องออกไปอยู่นอกประเทศน่ะ>
“นี่เธอ...ในสายตาของคนอื่นเธอเป็น คิมฮยอนจุง ที่แสนจะบริสุทธ์ไร้เดียงสาน่ะ ช่วยกรุณาทำตัวให้สมกับภาพลักษณ์ของเธอหน่อยน่ะ.”
“สำหรับผู้ชายแล้ว ไม่เห็นมันจะดีตรงไหนเลยที่จะมีภาพลักษณ์อย่างนั้น? ตอนนี้ผมต้องการจะเปลี่ยนคอนเซ็ปท์ของตัวเองแล้วล่ะฮะ”
“…………………….”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ผมว่าคุณกำลังจะเป็นลมไปแน่ๆเลยถ้าผมพูดอะไรต่อไปมากกว่านี้”
เธอหันไปมองเขาอีกครั้ง...
“โอเคฮะ อย่ากังวลไปเลย ผมจะไม่ทำมันต่อหน้าคนอื่นหรอกน่ะ ถึงแม้จะโดนบังคับก็ตาม...”
ฮวางโบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ ฮ้าาา ค่อยยังชั่วหน่อย”
“งั้นตอนนี้ ผมก็ต้องจุ๊บที่แก้มคุณแล้วสิน่ะ? โอเคมั้ย พร้อมหรือยัง?”
เธอมองไปที่ฝูงชนที่ยืนอยู่รอบๆ “แต่ว่า...แถวนี้มีคนอยู่เยอะมากเลยน่ะ...?”
“คุณจะไม่เห็นพวกเขาหรอกฮะ ถ้าคุณหลับตาซะ”
“นี่เธอ มันไม่ใช่ว่าพวกเขาจะหายตัวไปซะหน่อย ถ้าชั้นหลับตาน่ะ...”
“ผมสามารถทำให้ตัวเองเชื่อว่าเป็นแบบนั้นได้ฮะ คุณน่าจะรู้จักผมดี?”
“นี่...วันนี้ชั้นว่า เธอดูแรงเกินไปรึเปล่าเนี่ย”...
“ผมเดาว่า..ผมไม่มีอะไรจะเสียมากไปกว่านี้แล้วล่ะฮะ...”
ฮวางโบมองไปที่อึนมีซึ่งยืนอยู่ห่างไปไม่กี่ฟุตด้วยแววตาที่ดูกังวล แต่อึนมีกลับมองด้วยท่าทางสงบนิ่งไม่มีปฏิกริยาใดๆ
ฮวางโบถอนหายใจเฮือกใหญ่
“มาสิฮะ เร็วๆเข้า” ฮยอนจุงกวักมือเรียก
“ทำไมเธอต้องเร่งชั้นด้วยเล่า? ในเมื่อเธอเป็นคนที่ต้องลงมือไม่ใช่เหรอ?”
ฮยอนจุงยืนงง...?
“เธอเป็นฝ่ายที่ต้องจุ๊บไงล่ะ มาสิ เร็วๆเข้าลงมือได้แล้ว”
“โอ๊ะ ใช่สินะ โอเค งั้นผมจะจุ๊บล่ะน่ะ.”..
ในขณะที่ฮยอนจุงขยับเข้ามาใกล้ๆหน้าของฮวางโบให้มากขึ้น เสียงกระซิบกระซาบจากผู้คนที่ยืนดูก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ บางคนถึงกับกรีดร้องออกมา
ตอนนี้ฮวางโบกำลังยืนหลับตาอยู่ และริมฝีปากของเขาก็จวนเจียนจะสัมผัสที่แก้มของเธอ ทันใดนั้นก็มีเสียงพูดขึ้นมาดังๆว่า
” นี่ คิมฮยอนจุง ฮวางบูอินเป็นของชั้นน่ะ! “
ฮยอนจุงสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยิน รีบหันไปมองตามทิศทางที่ได้ยินเสียงตะโกน “อะไรน่ะ?”
ฮวางโบก็รู้สึกตกใจเช่นกัน....
รอบๆบริเวณนั้นมีทั้งเสียงหัวเราะ เสียงโห่ และเสียงผู้คนตะโกนเชียร์ว่า “จุ๊บเลย” “จุ๊บเลย” “จุ๊บเลย” แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงตะโกนสวนขึ้นมาอีกแบบนึงว่า “ไม่ได้นะ คิมฮยอนจุง ไอ้บ้าเอ๊ย!!! ฮวางโบเป็นของชั้น !!!!”
ฮยอนจุงรู้สึกแปลกใจและไม่พอใจสุดๆ ตะโกนโต้ตอบไปว่า “นี่นายล้อชั้นเล่นรึไง? เธอเป็นของใครนายไม่รู้เลยเหรอ?”
ในที่สุดลมหึงก็ขึ้นหน้าฮยอนจุงจนเก็บอาการไม่อยู่ เขาจ้องไปยังทิศทางที่ได้ยินเสียงตะโกนอยู่ครู่นึง และหันไปมองฮวางโบพร้อมกับดึงตัวเธอเข้ามาใกล้ๆ และจัดการจุ๊บที่ปากเธอโชว์ให้เห็นกันแบบจะๆและเน้นๆ!
ฮวางโบยืนตัวแข็งทื่อเพราะช็อคกับปฏิบัติการจุ๊บแบบสายฟ้าแล่บ
เสียงผู้คนร้องอุทานอื้ออึงด้วยความตกใจกับภาพที่เห็น “ อ้ากกกกกกกกก โอ พระเจ้า !!!!!!!!!!!”
ฮวางโบทำอะไรไม่ถูก ได้ยืนแค่หลับตา และคิดในใจว่า <เขาทำมันจริงๆด้วย! แล้วจะทำยังไงกันดีล่ะคราวนี้? T_T กำ>
ฮยอนจุงค่อยๆถอนริมฝีปากขึ้นมาแล้วพูดอย่างสบายใจว่า “เป็นไงล่ะ ให้มันรู้ซ่ะมั่ง ว่าเธอแฟนใคร ฮ่าฮ่า ที่นี้รู้รึยัง? “
ฮวางโบยืนถอนหายใจและจ้องหน้าฮยอนจุงโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะยังคงอึ้งอยู่
โปรดติดตาม คู่รักผักกาดหอม รีมิกซ์ ตอนที่ 80 -ผมคือลูกผู้ชายที่ชื่อ คิมฮยอนจุง
Create Date : 02 สิงหาคม 2553 |
|
8 comments |
Last Update : 2 สิงหาคม 2553 20:33:05 น. |
Counter : 1008 Pageviews. |
|
|
|