|
ตอนที่ 52- การเผชิญปัญหาจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****
ในห้องพักของฮยอนจุงที่โรงพยาบาล
ฮยอนจุงกำลังนั่งอยู่บนเตียงโดยที่เอนหลังของเขาพิงกำแพงเอาไว้ ส่วนฮวางโบนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง เอามือท้าวคางและมองหน้าของเขาอยู่
”คุณกำลังคิดอะไรอยู่เหรอฮะ?”
”ไม่มีอะไร”
<พอชั้นได้มองตาของเธอ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ชัดเจนขึ้นมา...ทั้งๆเธอที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย...ชั้นสามารถมองห็นความรักของเธอ...จากวิธีที่เธอมองชั้น...ถึงแม้ชั้นจะไม่สามารถอ่านสายตาเธอออกเลยก็ตาม...>
”การถ่ายทำรายการ WGM ในวันพรุ่งนี้ก็จะถูกเลื่อนออกไปด้วย”
ฮวางโบพยักหน้า
”ตอนนี้ผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้วฮะ แต่ว่าทางบริษัทต้องการให้ผมได้พักผ่อนมากกว่านี้ เพราะไหนๆผมก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว...”
”ชั้นเข้าใจจ้ะ.”
”ผมซ่อมนกกระดาษให้คุณแล้วน่ะ”
เธอยิ้มให้เขาแล้วถามว่า "เธอทำยังไงกับเจ้านกตัวนี้เหรอ?
เขาหยิบนกกระดาษที่ซ่อนอยู่หลังหมอนออกมาส่งให้เธอ”นี่ไงฮะ”
ฮวางโบยื่นมือออกมารับนกกระดาษจากเขาอย่างระมัดระวัง “ นี่เธอซ่อมมันได้ยังไงน่ะ?”
”หลังจากที่ผมคลี่มันออกมา มันยับยู่ยี่เกินกว่าที่จะพับกลับเข้าไปใหม่....ผมก็เลยไปขอยืมเตารีดมาฮะ เอามารีดให้มันเรียบๆ”
”เธอรีดมันด้วยเหรอเนี่ย? ทำได้จริงๆเหรอ?”
” เพราะว่าก่อนหน้านี้นกตัวนี้มันบินแล้วจู่ๆมันก็ตกน้ำ...ผมเห็นก็เลยจับมันขึ้นมาพรมน้ำลงไปนิดหน่อยแล้วก็รีดมันน่ะฮะ แต่สิ่งที่ยากที่สุดก็คือกระดาษมันบอบบางจนแทบจะขาดแล้ว ด้งนั้นผมก็เลยต้องระวังมากๆเพื่อที่มันจะได้ไม่ขาดเป็นชิ้นๆ”
เธอมองที่นกกระดาษด้วยความแปลกใจ “นั่นอาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไม...? มันดูเปราะบางมากเกินไปจริงๆด้วยล่ะ...ฮ่าฮ่าฮ่า...”
”คุณต้องจับมันเบาๆ และต้องระมัดระวังมากๆด้วย ไม่งั้นมันอาจจะหลุดเป็นชิ้นๆอีกน่ะฮะ”
เธอยิ้มแล้วแกล้งตอบเขาไปว่า “รับทราบแล้วค่ะ!”
”คุณรู้มั้ยฮะว่าผมคิดอะไรตอนที่กำลังนั่งพับมันใหม่อีกรอบ?”
”เธอคิดอะไรเหรอ?”
”มันไม่ดูแปลกเหรอฮะ...?”
”ยังไงเหรอ?”
”มันคือนกกระดาษสื่อรักตัวแรกของพวกเรา...?”
”ใช่..แล้วไง?”
”มันดูเปราะบางเหมือนกับความรักของเราสองคน”
เธอหันไปมองหน้าฮยอนจุง
”ตอนนั้นผมรู้สีกไม่ดีเลยที่ “นกกระดาษ” ตัวแรกของเรามันกลายเป็นเศษกระดาษเปื่อยๆและยับยู่ยี่แบบนั้น...แต่ผมก็ดีใจที่ผมสามารถซ่อมมันให้กลับมาใหม่ได้สำเร็จ!”
ฮวางโบได้แต่ส่งยิ้มให้เขาและจ้องมองนกกระดาษในมือ
”ผมจะ..”
”จะทำให้เหมือนนกกระดาษตัวนี้...”
”ผมจะซ่อมมันทุกๆครั้ง ถ้าความรักของเราถูกทำร้ายหรือบิดเบี้ยวออกไปนอกลู่นอกทาง...”
เธอรู้สึกซาบซึ้งกับคำพูดของเขา
”บางทีมันอาจจะยิ่งเปราะบางมากยิ่งขึ้น ในทุกๆครั้งที่ผมซ่อมมัน.”
”แต่ผมจะพยายามทำตัวให้เข้มแข็งจนกว่าบูอินจะสามารถยืนหยัดอย่างเข้มแข็งด้วยกันกับผม”...
เธอไม่พูดกลับก้มหน้าลง
”ดังนั้นคุณอย่าได้รู้สึกท้อใจเมื่อต้องเจอกับเรื่องอะไรแบบนี้...”
น้ำตาเริ่มมาเอ่อล้นดวงตาของฮวางโบอีกครั้ง
”ต่อไปในอนาคตข้างหน้า สิ่งต่างๆมันอาจจะเลวร้ายมากไปกว่านี้...มันจะเป็นเรื่องที่ยากขึ้นไปอีกสำหรับผม ถ้าคุณเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนนี้แล้ว...”
เธอกัดริมฝีปากเพื่อสะกดกลั้นความรู้สึกตัวเอง
”จำได้มั้ยฮะ ที่ผมเคยถามคุณว่าจะไปที่ดาวเคราะห์บ้านเกิดกับผมได้รึเปล่า?”
”จำได้สิ”
”เพื่อที่จะทำให้คุณไปที่นั่นกับผมได้...”
”จ้ะ”
”คุณจะต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้ จะได้สามารถทนทานกับความเร็วระดับความเร็วแสง...”
เธอพยายามกลั้นหัวเราะ..
”คุณจะรู้สึกกลัวได้ เพราะว่าคุณไม่รู้เลยว่าที่โน่นมันเป็นยังไง.”
”จ๊ะ”
”แต่ถึงยังไง...เพราะว่ามันเป็นบ้านของผม”
”จ้ะ”
”และคุณก็กำลังจะไปที่นั่นด้วยกันกับผม.”
เธอรูสึกซาบซึ้ง “ใช่จ้ะ”
”ผมหวังว่าคุณจะมีความกล้าหาญมากขึ้นและไปที่นั่นกับผมด้วยความมั่นใจ...”
”ผมก็เหมือนกัน...ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้ครั้งนี้ได้...ผมจะเผชิญหน้าและสู้กับมันซึ่งๆหน้าให้สมกับ...เป็นผู้ชายที่ชื่อ คิมฮยอนจุง!”
!!! เธอเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจ “เธอหมายความยังไงน่ะ?”
”ผมไม่ต้องการที่จะปกปิดเรื่องความรักของเราอีกต่อไป”
เธอช็อคกับคำพูดของเขา”นี่ ~~!!”
เขายิ้มกว้างจนเห็นฟัน “คุณกลัวเหรอฮะ?”
เธอพูดด้วยเสียงสั่นกลัว “นี่ ..เธอกำลังพยายามจะทำอะไรของเธอน่ะ....?”
”สบายได้ฮะว่าผมจะไม่ไปเที่ยวไปป่าวประกาศบอกใครต่อใคร แต่ว่า...”
เธอมองเขาด้วยสายตาที่เป็นกังวล...
”ผมก็แค่คิดว่าอยากจะให้คนอื่นพอจะเดาเรื่องของเราที่กำลังคบกันอยู่...”
”เธอจะทำยังไงเหรอ...?” เธอถามด้วยความสงสัย
”ผมจะทำยังไงเหรอฮะ?”
”นี่เธอกำลังถามชั้นอยู่รึเปล่า?”
”ผมยังไม่ได้คิดไปถึงรายละเอียดขนาดนั้นเลยฮะแต่...”
”จากนี้ไปตอนที่เราถ่ายทำรายการ WGM กัน...ผมอยากจะเล่นให้มากขึ้นกว่าเดิม แสดงความรู้สึกที่แท้จริงให้มากกว่าเดิม”
”เธอจะทำยังไงเหรอ?”
”ในเมื่อเราก็เล่นเป็นคู่แต่งงานกันในรายการอยู่แล้ว...คุณไม่คิดหรือฮะว่าเราสามารถเล่นหรือแสดงความรู้สึกจริงๆได้มากกว่านี้ เรามาลองเสี่ยงทำกันดูดีมั๊ยฮะ?”
เธอไม่เข้าใจที่เขาพูด “เสี่ยงยังไงเหรอ หรือวาเธอจะเล่นของสูง ฮึ?
”บูอินคุณก็ ปล่อยมุขจนผมไปไม่เป็นเลย คืองี้ ผมจะค่อยๆปล่อยให้มีอะไรหลุดๆไปบ้าง ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ในที่สุดแฟนคลับของผมก็คงจะเริ่มชินกับเรื่องนี้ คุณว่ามั้ยฮะ?”
”ถ้าจู่ๆเราเปิดเผยเรื่องนี้ขึ้นมาแบบตูมเดียว มันคงจะเป็นเรื่องยากจริงๆสำหรับพวกเขาที่จะรับมันได้น่ะ”
”เธอกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”
”พวกเราต้องทำให้พวกเขาค่อยๆเรียนรู้ว่า พี่ชายคนนี้ ก็มีสิทธิที่จะมีความสุขกับเขาด้วยเหมือนกัน”
”อะไรน่ะ? ~~!!”
เขายิ้มออกมาโดยไม่พูดอะไร
”นี่ ฮยอนจุง เธอกำลังวางแผนจะทำอะไรเหรอ?”
เขาหันไปมองหน้าเธอ “คุณเห็นใช่มั้ยฮะ.”
”จ้ะว่าไง?”
เขาจ้องหน้าเธอเงียบๆ
”อะไรเหรอ?”
”ว่ามันไม่มีวิธีพิเศษใดๆ ในการหาทางออกของเรื่องนี้...”
”แล้วยังไงต่อไป?”
”ก้ในเมื่อมันไม่มีวิธีใดที่แน่ใจว่าจะเป็นทางออกที่ดี....”
”อืม”
”ดังนั้น ผมคิดว่าการชนกับปัญหาไปเลยตรงๆมันน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด...”
”เดี๋ยวก่อน!”
”อะไรเหรอฮะ?”
”เธอหมายความว่ายังไงที่บอกว่าชนไปเลยตรงๆน่ะ?”
”คุณคงไม่ได้คาดหวังว่า...วิธีการนี้มันจะไม่มีความเจ็บปวดตามมาหรอกน่ะ?”
ฮยอนจุงยังพูดต่อด้วยท่าทางจริงจังมากๆ “ผม...”
”ผมไม่คิดว่าผมจะเจอใครที่เหมือนกับบูอินได้อีกแล้ว ถึงแม้ว่าผมจะต้องตายแล้วเกิดใหม่...”
”ถ้าผมไม่ฉวยตัวคุณเอาไว้ในตอนนี้...”
”คืออย่างนี้ฮะ...เขาพูดกันว่ามีผู้ชายอีกมากมายที่สนใจในตัวคุณ...”
รอยยิ้มเริ่มกระจายไปทั่วหน้าของฮวางโบ
”ผมก็เลย...ผมอยากจะบอกใครๆว่า “ฮวางโบ ฮเยจุง เป็นของผมคนเดียวเท่านั้น!””
เธอพยายามกลั้นหัวเราะ “ฟังดูมันน่ารักมากเลยน่ะที่เธอพูดอะไรแบบนี้และชั้นก็รู้สึกปลื้มใจมากๆ แต่ว่า..”
”ฮะ.”
”ถ้าเกิดชั้นถูกทำร้ายระหว่างที่กำลังเดินอยู่ตามถนนล่ะ?”
”บูอิน คุณน่ะเทกวนโด้สายดำไม่ใช่เหรอฮะ? ก็จัดการกับพวกนั้นให้เรียบไปเลยสิฮะ!”
เธอหัวเราะร่า “นี่เธอคิดว่าชั้นเป็น “จี จ้า” รึไง? ชั้นคงลงไปนอนฟุบกับพื้นทันที ถ้าเกิดมีใครแอบมาฟาดชั้นจากด้านหลังด้วยไม้เบสบอลหรือว่าไม้หน้าสามน่ะ…”
”โอเคฮะ...งั้นก็..”
”จ้ะ ยังไง...”
”คุณก็อย่าไปเดินตามถนนก็แล้วกัน”
เธอจุกจนพูดไม่ออกหลังเจอคำตอบกำปั้นทุบดินของเขา “อะไรน่ะ?”
”ขับรถอย่างเดียวก็แล้วกันฮะ”
เธอถามกลับไปด้วยความแปลกใจสุดๆ ‘นี่เธอพูดจริงเหรอ…?”
”นอกจากนี้ แฟนคลับของผมก็คงไม่รุนแรงขนาดนั้นหรอกฮะ..”
”ใครจะรู้ได้ล่ะ? เธอรู้รึเปล่าว่าคำว่า แฟนในภาษาอังกฤษ มันมาจากคำว่า “fanatic” แบบว่าคลั่งไคล้อะไรแบบเนี้ย”...
”จริงเหรอฮะ?”
”ความหมายของมันก็คือคนที่คลั่งไคล้ในบางสิ่งบางอย่างหรือคนบางคนอย่างแรงน่ะ และในกรณีที่เลวร้ายมากๆก็คือ แฟนสามารถจะกระทำเรื่องรุนแรงอย่างเช่นทำร้าย หรืออาจจะถึงขั้นฆ่า นักแสดงหรือนักร้องที่เขาชอบเลยก็ได้”
”งั้นเหรอฮะ? โอ ใช่สิน่ะ แบบ จอห์น เลนนอน...”
”ใช่เลย เขาเป็นตัวอย่างที่ดีในกรณีนี้”
”แต่ยังไง...เราก็ไม่ได้เป็นดาราใหญ่หรือว่าโด่งดังอะไรขนาดนั้นนี่ฮะ...”
เธอจ้องหน้าเขาแล้วตอบว่า “ ถ้าให้พูดตามจริง...เราก็ไม่ได้ดังขนาดนั้นหรอก...”
”ใช่ฮะ”
”แต่ว่าในมุมมองของแฟนคลับ...ดาราหรือไอดอลในดวงใจของเขาก็จะเป็นคนที่เจ๋งที่สุด ดังที่สุดในสายตาเขาไม่ใช่เหรอ...”
เขาถอนหายใจ ”ถ้างั้น เราจะมีวิธีไหนอีกล่ะฮะ?”
”ชั้นรู้ว่ายังไงๆเราก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงที่จะต้องเจอกับความเจ็บปวด และชั้นก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ระดับนึงบ้างแล้วล่ะ”
เขายิ้มจนเห็นฟัน
“แต่ว่า..”
เขาหุบยิ้มแล้วเริ่มกลับมาเครียด
”เราอย่าไปรีบเร่งทำอะไรแบบนั้นเลยน่ะ” เธอแสดงความเห็น
”ทำไมล่ะฮะ?”
เธอสูดลมหายใจลึกๆแล้วพูดต่อ “เธอจำตอนนั้นได้มั้ย...?”
“ตอนไหนฮะ?”
”ที่เธอเคยพูดว่า..เพราะว่าเธอไม่สามารถจะเปลี่ยนทุกอย่างกลับให้มาเหมือนเดิมได้ถ้าเธอได้ทำมันลงไปแล้ว...ถึงแม้มันจะเกิดขึ้นในจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่สุดก็ตาม เธอก็จะฝืนบังคับตัวเองให้มากขึ้นไปอีก”
เขาทำหน้าเฉยเมยไม่รับรู้ “ผมพูดแบบนั้นด้วยหรือฮะ?”
เธอพยายามเลี่ยงสายตาของเขาที่จ้องเธอ “ยังไงก็แล้วแต่ เธอเคยพูดแบบนั้นกับชั้นครั้งนึง.”
เขานิ่งเงียบใช้ความคิด “ผมไปพูดแบบนั้นตอนไหนกันน้า...?”
เธอถอนหายใจ “นั่นมันไม่ใช่ประเด็นสำคัญตอนนี้หรอกน่ะ”
เขายังแกล้งเอียงคอทำท่าครุ่นคิดต่อ “แต่ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องสำคัญจริงๆล่ะฮะ?”
เธอยังยืนเสียงแข็ง “ชั้นบอกแล้วไง ว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอกน่ะ!!!”
เขาเลิกคิ้วข้างนึงแล้วพูดต่อว่า “โอเคฮะ...แล้วประเด็นของคุณคืออะไรฮะ?”
"เธอต้องระมัดระวังให้มากๆถึงแม้ว่ามันจะป็นเรื่องที่ดูเหมือนชัวร์ 100% แล้วก็ตาม และเพราะว่าเธอเคยพูดแบบนั้นกับชั้น ถึงได้ทำให้ชั้นรู้สึกโล่งอกในตอนนั้น”
เขาเริ่มกลับมาสนใจเรื่องนั้นจริงจังอีกครั้ง) “แล้วมันสถานการณ์ตอนไหนเหรอฮะที่คุณบอกว่ารู้สึกโล่ง อกน่ะ?”
เธอกัดริมฝีปากเพราะนึกขึ้นมาแล้วก็ยังเขินเกินกว่าจะบอกเขาเรื่องคืนนั้น “ชั้นบอกแล้วไงล่ะ...ว่ามันไม่ใช่..เรื่องสำคัญ..ที่จะต้องพูดถึง.!!!”
เขาหุบปากสนิทเมื่อเห็นอาการของเธอ
”สิ่งที่ชั้นอยากจะบอกก็คือ...ถึงแม้ว่าการชนกับปัญหาตรงๆมันจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด...แต่เราก็ยังควรคิดและพิจารณาให้รอบคอบมากกว่านี้...”
“เพราะว่าเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้ถ้าเราตัดสินใจทำแบบนั้นลงไปแล้ว..”
”เราควรจะรอจนกว่าจะหาวิธีอื่นไม่ได้แล้วจริงๆ...ในระหว่างทางเราอาจจะมีโอกาสเจอวิธีที่ดีขึ้นมาแบบไม่คาดฝันก็ได้น่ะ” .<นี่มันตลกมากเลยน่ะ! ชั้นคิดไปไกลถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย...?>
”เหอะน่า?” เธอยังคงถามเขาอยู่อย่างนั้น
เธอพยายามสังเกตสีหน้าของฮยอนจุงแล้วถามว่า “เธอไม่ชอบแบบนี้เหรอ? เธออยากจะบอกให้คนอื่นรู้ตอนนี้เลยใช่มั้ย?”
เขาหันหน้าหนีแล้วก้มลงมองบนเตียง
”นี่~~!! ทำไมเธอถึงไม่ยอมตอบชั้นล่ะ?”
เขายังไม่ยอมพูดได้ทำตาปริบๆและนั่งจ้องผ้าปูเตียงต่อไป
ฮวางโบเริ่มกังวลกับท่าทีของเขา.”.นี่~~!! เธอเป็นอะไรไปน่ะ?”
”คุณกำลังบอกผมว่าถ้าเรารอจนกว่าหาวิธีอื่นไม่ได้แล้ว และเราอาจจะมีโอกาสพบทางออกที่ดีได้ระหว่างนั้นเหรอฮะ?”
”ใช่จ้ะ งั้นเธอก็เข้าใจที่ชั้นพูดทั้งหมดสิน่ะ?”
”แล้วตอนนี้...”
”หืม?”
เขามองไปรอบๆห้องแล้วถามว่า “ มันยังไม่ใช่เวลาที่เราไม่สามารถจะทำอย่างอื่นได้อีกแล้วเหรอฮะ?”
”.อะไรน่ะ?”
”ก็เมื่อไหร่เหรอฮะที่เราจะไปถึงช่วงเวลาที่คุณบอกน่ะ...เวลาที่พวกเราไม่สามารถจะทำอย่างอื่นได้แล้วน่ะ?”
”ถ้างั้นก็...อย่าทำอะไรให้มันดูโจ่งแจ้งจนเกินไป...จนกว่าพวกเขาจะรู้เรื่องระหว่างเราสองคนจริงๆ”
”ฝืนมันเอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้...จนกว่าจะถึงเวลาที่รู้สึกว่าเป็นธรรมชาติมากที่สุด...”
”ใช่จ้ะ...จนกว่าคนอื่นๆจะไม่รู้สึกช็อคมากเกินไปถ้าเราเปิดเผยเรื่องนี้ขึ้นมา...”
“เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างยินยอมพร้อมใจ...”
เธอพยักหน้า “ใช่จ้ะ จนกว่าแฟนคลับของเธอแล้วก็คนอื่นๆสามารถจะยอมรับพวกเราได้อย่างเป็นธรรมชาติ...”
”ถ้างั้น...ผมเดาว่าที่นี่คงไม่ใช่ที่ๆเหมาะสมที่จะลงมือทำแล้วล่ะฮะ”
”ที่นี่ไม่ใช่” ชะงักไปครู่นึงก่อนจะพูดต่อว่า “ที่นี่เหรอ?”
เขาถอนหายใจ “เพราะว่าผมอยู่ที่โรงพยาบาลนี่และผมก็ไม่สบาย...ดังนั้นที่นี่คงจะไม่ใช่ที่ๆเหมาะสมสำหรับมัน ใช่มั้ยฮะ?”
เริ่มสงสัยตะหงิดๆ “อะไรเนี่ย?”
เขายังพูดต่อไปว่า “และพวกคุณพยาบาลก็อาจโผล่เข้ามาในห้องนี้ตอนไหนก็ได้...มันจึงดูเสี่ยงเกินไป..”.
เธอขมวดคิ้วด้วยความสงสัย < นี่เธอกำลังพูดเรื่องอะไรน่ะ?>.
”ไม่ว่าผมจะพยายามใช้ความคิดมากซักแค่ไหน ยังไงคืนนี้ก็คงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมอย่างแน่นอนฮะ”
(เริ่มถลึงตาใส่เขา) “นี่เธอหมายความถึงอะไรกันแน่?”
”หา?”
ฮวางโบเริ่มตะเบ็งเสียง “เธอพูดถึงอะไรอยู่เนี่ยยยยย?”
เขามองหน้าเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “ผมก็แค่หวังเพียงว่าเวลานั้น...เวลาที่เราสองคนไม่สามารถจะทำอย่างอื่นได้แล้ว มันจะมาถึงเร็วๆน่ะฮะ...”
<นี่เขากำลังพูดถึง...จริงๆหรือ?> “เวลาสำหรับอะไร?”
เขาชายตามองเธอแล้วพูดว่า “ทำไมคุณถึงเอาแต่ถามผมเรื่องนี้อยู่เรื่อยล่ะฮะ? ผมก็อายเป็นเหมือนกันน่ะ”
เจอมุขนี้เข้าไปถึงกับพูดไม่ออก “นี่~~!!”
เขาทำหน้าไร้เดียงสาแล้วพูดกับเธอว่า “เมื่อไหร่จะถึงเวลานั้นซะทีน้า? เมื่อไหร่ที่พวกเราไม่สามารถจะทำอย่างอื่นได้แล้ววว...”
”นี่าาาาา!!!!” ฮวางโบโวยเสียงดังแต่พอรู้สึกตัวก็รีบหยุด แล้วหันไปมองที่ประตูห้อง
เขาพูดพึมพำว่า “ถ้าขืนคุณตะโกนเสียงดังแบบนี้ คุณพยาบาลจะต้องเข้ามาดูแน่ๆเลย เบาๆหน่อยสิฮะ”
ฮวางโบเริ่มคว้าหมอนมาถือไว้ในมือ “นี่~~!!”
เขาแกล้งทำท่าซีเรียส “ ตอนนี้ผมเป็นคนไข้น่ะฮะ..มันเป็นการเล่นผิดกติกาถ้าคุณทำร้ายคนไข้น่ะ...”
เธอกัดริมฝีปากแล้วถลึงตาใส่ฮยอนจุง “ ทำไม...ปากของเธอมันถึงได้ไม่เป็นอะไรไปด้วยน่ะ...?”
” ใครบอกฮะ จริงๆแล้วผมกำลังเจ็บปากอยู่พอดี...”
”เจ็บเหรอ?”
”จริงๆน่ะฮะ!”
ท่าทางดูยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่แต่ก็ถามไปเขาว่า “แล้วมันเจ็บมากรึเปล่า?”
ฮยอนจุงรีบอ้าปากนิดๆให้เธอดูแล้วเอามือชี้เข้าไปในปาก “นี่ไงฮะ...ผมมีแผลร้อนในอยู่ตรงนี้...ดังนั้นผมเลยกินอะไรไม่ค่อยได้...”
เธอเริ่มเป็นห่วงเขา “จริงเหรอ? ตรงไหน? “ แล้วเธอก็ขยับเข้าไปใกล้ๆเพื่อจะดูให้ชัดๆ
เขามองเธอด้วยสายตาซุกซนแล้วพูดอ้อนต่อไปว่า “คุณยังอยู่ห่างเกินไปมองไม่เห็นหรอกฮะ...เข้ามาใกล้ๆอีกหน่อยสิฮะ คุณจะได้เห็น”
ฮวางโบขยับตัวเข้าไปใกล้เขาอีกโดยไม่ทันได้คิดอะไร ทันใดนั้นฮยอนจุงจอมเจ้าเล่ห์ที่นั่งยิ้มรออยู่ก็ขโมยจูบเธอไปหนึ่งที
เธอผงะออกมาด้วยความประหลาดใจ “นี่~~!! เธอ~~!!”
เขายิ้มด้วยความดีใจแล้วพูดว่า “เสร็จผมอีกแล้ว!”
เธอยิ้มแบบประหลาดใจสุดๆ “เธอนี่...เธอนี่มันช่าง...”
เขายิ้มและมองเธอด้วยสายตาที่อบอุ่น...
ฮวางโบมองเขาอยู่ครู่นึงก่อนที่จะเขยิบตัวกลับเข้าไปใกล้ฮยอนจุงแล้วก็บรรจงมอบจุมพิตที่แสนหวานของเธอคืนให้กับเขา
”ชั้นว่าเธอพูดถูกน่ะที่ว่าที่โรงพยาบาลนี่เป็นที่ๆปลอดภัยสำหรับเรา...”
”ไม่ว่ายังไงก็ตาม มันอันตรายเกินไปที่จะมั่นใจกับเรื่องนี้...”
แล้วฮยอนจุงก็ค่อยๆยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาประคองหน้าของฮวางโบอย่างทะนุถนอมและก้มลงจูบเธออีกครั้งอย่างดื่มด่ำและเนิ่นนาน
โปรดติดตาม คู่รักผักกาดหอม รีมิกซ์ ตอนที่ 53
จุงเอ๊ย ขนาดป่วยยังเป็นได้ถึงขนาดนี้ แล้วถ้าไม่ป่วยล่ะ ยาย(นาจา)
Create Date : 02 มิถุนายน 2553 |
|
19 comments |
Last Update : 2 มิถุนายน 2553 20:59:58 น. |
Counter : 946 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: แพร IP: 58.64.80.149 2 มิถุนายน 2553 20:57:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: joy&yoo IP: 112.143.7.245 2 มิถุนายน 2553 21:57:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: hunny IP: 124.122.129.74 2 มิถุนายน 2553 22:00:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตอง IP: 180.183.164.61 2 มิถุนายน 2553 22:27:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: believe IP: 61.90.8.231 2 มิถุนายน 2553 22:37:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: ต้นอ้อ IP: 202.28.62.245 2 มิถุนายน 2553 22:39:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: มัม IP: 58.11.20.125 2 มิถุนายน 2553 22:46:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: Enjoy IP: 125.26.87.106 2 มิถุนายน 2553 22:46:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: ^^ IP: 58.8.191.147 2 มิถุนายน 2553 23:26:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: puccajay IP: 203.155.22.210 3 มิถุนายน 2553 0:20:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: pim_bk IP: 58.64.80.44 3 มิถุนายน 2553 7:18:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: prongpawin IP: 115.67.106.76 3 มิถุนายน 2553 8:30:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: giff IP: 58.97.60.4 3 มิถุนายน 2553 10:02:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: speedy IP: 58.9.160.94 3 มิถุนายน 2553 11:03:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: อัม IP: 172.16.34.112, 202.149.101.72 3 มิถุนายน 2553 11:53:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: kaprow IP: 124.122.143.91 4 มิถุนายน 2553 9:42:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: อ๊อฟ IP: 58.11.50.54 4 มิถุนายน 2553 13:37:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: kanjabo IP: 192.168.182.187, 124.120.12.99 13 มิถุนายน 2553 21:45:03 น. |
|
|
|
| |
|
"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"
|
|
|
|
|
|
|
|
จุงนี่ร้ายจริงๆด้วยนะ แล้วเมื่อไหร่จะหาทางเปิดเผยกันได้ล่ะเนี่ย