|
ตอนที่ 24 - ภายนอกดูแข็งแกร่ง แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่เลย
***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนต้นฉบับเขียนขึ้น อย่าได้ปะปนหรือสับสนกับคำพูดหรือเนื้อหาของรายการฯ***
ในวันต่อมาที่บ้านฮวางโบ ก่อนที่เธอจะออกจากบ้าน เธอหยุดยืนที่หน้าหิ้งหนังสือแล้วมองไปที่ขวดแก้ว ทำท่าลังเลก่อนยกขวดโหลขึ้นมาแล้วพูดว่า”บขึ้นมา
ชั้นขอโทษนะ แต่ตอนนี้พวกเธอต้องไปอยู่ในที่ๆไกลจากสายตาชั้นหน่อย...ว่าแล้วก็เอาขวดไปเก็บไว้ในหีบไม้ใบเล็กซึ่งวางอยู่บนชั้นล่างสุดของหิ้ง..ตอนนี้ชั้นขอลืมเรื่องความกังวลหรือความหวังไปก่อนก็แล้วกัน...
*********************************************************************** เช้าวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม ฮยอนจุงกำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคน สวัสดีฮะ...ผมฮยอนจุง
เสียงที่ปลายสายตอบกลับมาว่า “เป็นไงบ้าง..ฮยอนจุง..นี่ชั้นเอง...คราวน์เจย”
เขาเริ่มมีหน้าตาสดใสทันที “สวัสดีฮะ พี่”
“ตอนนี้นายอยู่ที่ไหนน่ะ” คราวน์เจถาม
“ตอนนี้ผม..อยู่บ้านฮะ”
“งั้น..นายก็อยู่ในโซลสินะ”
“ใช่ฮะ”
“เย็นนี้นายมีธุระอะไรรึเปล่าน่ะ”
เขาเริ่มสงสัยแต่ก็ตอบไปว่า “ก็ไม่มีอะไรหรอกฮะ...ผมมีแค่นัดถ่ายรูปลงนิตยสารตอนบ่ายแค่นั้น”
“งั้นก็ดีเลย...คืองี้...ที่จริงวันนี้ไม่ใช่วันถ่ายทำปกติของพวกเรา.”...
“พี่กำลังพูดถึงรายการ WGM อยู่หรือฮะ”
อือใช่...ทางทีมงานเขาอยากรู้ว่าวันนี้นายจะมาถ่ายตอนพิเศษโอลิมปิคได้มั้ย
“ตอนพิเศษโอลิมปิคหรือฮะ”
“ใช่แล้วล่ะ...คืนนี้เป็นนัดแรกของการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติเกาหลีกับทีมชาติอิตาลีน่ะ”
“อ๋อ..ฮะ”
“ทางนั้นเขาอยากให้พวกเรามารวมตัวกันจะได้ถ่ายรายการตอนที่พวกเราดูบอลแล้วก็เชียร์ทีมเกาหลีด้วยกันน่ะ”
“อ๋อ เข้าใจแล้วฮะ”
“แต่บังเอิญชั้นมาบอกนายมันกระทันหันไปหน่อย แต่ถ้ามาไม่ได้ครบทุกคนก็คงไม่เป็นไร...อืม..ว่าแต่นายช่วยบอกฮวางโบให้หน่อยได้มั้ยล่ะ
“ผมเหรอ? ได้ฮะ ไม่มีปัญหา “ เขารับปากไปเพราะเกรงใจ
ดีแล้วล่ะ...นายก็ไปนัดกับเธอให้เรียบร้อย แล้วค่อยตามมาที่บ้านชั้นพร้อมกัน2คนเลยก็แล้วกัน เออ.นาย.รู้จักบ้านชั้นกับอินยองใช่มั้ย
“รู้จักฮะ”
”โอเค..เดี๋ยวเจอกันนะ.อย่าลืมมาให้ทันก่อนบอลจะเริ่มเตะล่ะ”
”ได้ฮะ” ฮยอนจุงวางหูแล้วเริ่มคิด...”งั้นวันนี้ชั้นก็จะได้เจอเธอสินะ แต่ว่า...ถ้าเธอไม่ว่าง เกิดมาไม่ได้ล่ะ? เฮ้อ..จะพูดอะไรก่อนดีล่ะ..ชั้นยังไม่เคยโทรไปหาเธอเลยนี่นา”
หลังจากลังเลอยู่พักนึง เขาก็ตัดสินใจกดโทรศัพท์หาฮวางโบพร้อมๆกับสูดลมหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่ แต่กลับไปเจอเสียงคุณป้าพูดตอบรับอัตโนมิต <หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาฝากข้อความ...>
เขาวางหูหลังจากได้ยินข้อความนั้นแล้วร้องออกมาว่า ”วิ้ว...มันก็ดีเหมือนกันนะ.เพราะชั้นก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอดี”
ในเวลาเดียวกันนั้น ฮวางโบกำลังเพลงขอบคุณพระเจ้าอยู่ที่โบสถ์วันอาทิตย์ เธอจึงปิดโทรศัพท์มือถือในช่วงนั้น *************************************************** ตอนบ่ายแก่ๆ ที่บ้านของคู่มด คราวน์เจและฮยองดอนกำลังนั่งดูทีวีกันอยู่
”คนอื่นๆไปไหนกันหมดล่ะ?” ฮยองดอนถาม
“พี่ไม่รู้เหรอว่า คนอื่นๆ เขามีงานยุ่งกันหมด ยกเว้นเราสองคนน่ะ”
”มากไปล่ะมั้ง...ไม่มีใครที่จะ..โคตะระ ยุ่งขนาดนั้นหรอก” ฮยอนดอนทำหน้านิ่วแล้วก็ลุกขึ้นยืน “ชั้นขอใช้ห้องน้ำหน่อยนะ”
”ได้เลยพี่..แต่ว่าช่วยรักษาความสะอาดหน่อยนะ...ไม่งั้นอินยองบ่นตายเลย”
”เฮ้ย...ชั้นไม่ได้จะถ่ายลงบนพื้นซักหน่อย” ว่าแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนเจย์ก็หัวเราะกับมุกของฮยองดอน
สักพักก็มีเสียงกริ่งที่ประตูก็ดังขึ้น คราวเจย์เดินไปดูที่มอนิเตอร์
”ใครมาน่ะ”
มีเสียงตอบกลับมาว่า “ผมเองฮะ..ฮยอนจุง”
“ฮยอนจุงเหรอ รอเดี๋ยวนะ” แล้วเดินไปเปิดประตู เข้ามาสิ
เขาเดินเข้ามาในห้องท่าทางเขินๆ ทักทายคราวน์เจว่า สวัสดีฮะ
“เป็นไงบ้าง? นี่นายมาคนเดียวเหรอ? “คราวเจย์ถามด้วยความแปลกใจ
“ฮะ ..ผมโทรไปแล้วแต่มือถือของเธอปิดน่ะฮะ”
“งั้นเหรอ.. ของชั้นก็เหมือนกัน แต่เธอไม่รับสายของชั้น”
<พี่ก็โทรหา บูอินด้วยเหรอฮะ> เขาถามในใจ
ชั้นก็ติดต่ออินยองไม่ได้ด้วยเหมือนกัน แต่ว่าชั้นส่งข้อความไปแล้วดังนั้นเธออาจจะมา
”นี่นายตรงมาจากบ้านเลยเหรอ”
”เปล่าฮะ..ผมเพิ่งถ่ายรูปลงนิตยสารเสร็จ แล้วผมก็ตรงมาที่บ้านพี่เลย”
“อืม..แต่ก่อนชั้นก็มีงานแบบนี้เยอะเหมือนกัน”
ฮยอนจุงแอบอมยิ้ม เมื่อได้ยินคราวน์เจพูด ระหว่างนั้น ฮยองดอนก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ใครมาน่ะ เขาตะโกนถาม
“ฮยอนจุงฮ่ะ..พี่” ครานเจย์ตอบ
ลุกขึ้นโค้งคำนับทักทายรุ่นพี่...”สวัสดีฮะ”
”เฮ้..ฮยอนจุง” ฮยอนดอนทักทายแล้วเข้าไปกอด...”ยินดีต้อนรับ...มานั่งตรงนี้สิ”
<พี่เขาทำตัวยังกับเป็นเจ้าของบ้านแน่ะ ^^ > คราวน์เจแอบขำ แล้วหันกลับไปบอกกับฮยอนดอน “ฮยอนจุงเขาตรงมาที่นี่หลังจากถ่ายนิตยสารเสร็จน่ะ”
”ช่างเถอะไม่เห็นน่าสนใจเลย...งานนี้มันได้เงินไม่เยอะหรอก” ฮยอนดอนแกล้งแหย่
ฮยอนจุงพยายามกลั้นหัวเราะ คิดในใจว่า <พี่เขาตลกจริงๆเลยนะ ^^>
คราวน์เจพูดขึ้นมาว่า “ฮยอนจุง..นายช่วยโทรหาฮวางโบอีกครั้งซิ”
“อีกครั้งเหรอฮะ?”
”ใช่..คราวนี้นายอาจจะโชคดีได้คุยกับเธอก็ได้นะ”
ฮยอนจุงจึงหยิบโทรศัพท์แล้วโทรหาเธออีกครั้ง ระหว่างที่นั่งฟังเสียงรอสายของเธอ หัวใจของเขาเต้นแรงจากสาเหตุอะไรบางอย่าง
ในระหว่างนั้น ฮวางโบเพิ่งสวดขอบคุณเสร็จและเปิดมือถือขึ้นมา ทันใดนั้น มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอจึงรีบหยิบโทรศัทพ์มาดู <ใครกันนะ ร-ป-ด-ด คิดในใจหลังจากเห็นชื่อนี้ขึ้นมา> “สวัสดีค่ะ”
เขาค่อยๆตอบไปว่า “ผมเองฮะ”
แต่เธอได้ยินไม่ค่อยถนัดจึงถามกลับไปว่า “หา...ใครนะคะ?”
ตอบตะกุกตะกักด้วยความอายว่า “ผ..ผมเองฮะ”
เธอขมวดคิ้ว นึกในใจ <นี่ใครมาโทรแกล้งกันรึเปล่านะ >จึงถามย้ำไปว่า “ผม” น่ะใครเหรอ”
ฮยอนจุงงงสุดๆ ที่เธอจำไม่ได้เสียงของเขาไม่ได้ “ผม..ฮยอนจุงไงฮะ”
เธอแทบช็อคเมื่อได้ยินคำตอบ แล้วก็นึกขึ้นมาได้ อ๋อ...รูปปั้นเดินได้! -ร.ป.ด.ด> รีบทักเขาไปทันที “เป็นยังบ้าง..ชิลลาง” <อายตัวเองหน่อยๆ... เรียก ชิลลาง ได้เนียนมากเลยนะ..^^>
ผิดหวังหน่อยๆถามเธอไปว่า คุณจำเสียงผมไม่ได้หรือฮะ
<ขอโทษนะ ขั้นทำให้เธอผิดหวังรึเปล่าเนี่ย> “โอ..โทษทีจ้ะ.นี่มันเป็นครั้งแรกที่ชั้นได้ยินเสียงเธอทางโทรศัพท์น่ะ..ดังนั้น.”ฮวางโบพยายามแก้ตัว
คราวน์เจซึ่งนั่งติดกับฮยอนจุง หลังจากได้ยินคู่ผักกาดคุยกันทางโทรศัพท์ เลยหันมาถามเบาๆ ว่า” นี่นายเพิ่งเคยโทรหากันเป็นครั้งแรกจริงๆเหรอ”
พยักหน้ารับอย่างอายๆ
ฮวางโบถามเขาต่อว่า “แล้วเธอโทรมาจากไหนน่ะ” <ชั้นควรพยายามทำเป็นชิลๆ ให้เหมือนกับว่ามันไม่มีอะไร ดังนั้นชั้นจะได้ลืมมันได้ง่ายๆหน่อยน่ะ เธอคิดในใจ>
”จากบ้านพี่คราวน์เจฮะ เขาชวนคู่แต่งงานในรายการ WGM มาเชียร์ฟุตบอลด้วยกันที่บ้าน”
”ที่บ้านคู่มดน่ะเหรอ”
”ใช่ฮะ”
”แล้วเธอไปที่นั่นคนเดียวโดยไม่มีชั้นได้ยังไงน่ะ.”เธอเริ่มโวย
”อ่า..คือว่า “เขาไม่รู้จะตอบยังไงดี
”เธอน่าจะโทรมาหาชั้นก่อนหน้านี้นะ”
อืมมม..ตอบไปด้วยความเขินว่า ผมอายเกินกว่าจะโทรไปหาคุณ..ถ้าไม่มีคนอื่นช่วยอยู่ใกล้ๆน่ะฮะ
หัวเราะคิกๆ ออกมา “อย่างงั้นเองเหรอ”
ฮยองดอนพูดแทรกขึ้นมาว่า “คู่นายทำตัวเหมือนคนแปลกหน้ามากกว่าจะเป็นคู่แต่งงานนะ”
เขายิ่งเขินหนักขึ้นไปอีก หน้าเริ่มแดง รีบถามเธอว่า “คุณมาหาผมที่นี่ได้มั้ยฮะ”
”ได้ได้ รอชั้นด้วยน่ะ”
ฮวางโบมาถึงบ้านคู่มด หลังจากคู่แอนดี้-โซลบิมาถึงก่อนหน้าไม่นานนัก คราวน์เจเดินไปเปิดประตูให้เธอ ฮยอนจุงก็เดินตามไปยืนข้างๆและทักทายเธอโดยทำหน้าเขินๆ
<เธอดูแลตัวเองดีรึเปล่า ถามเขาในใจแต่พูดไปว่า> “ชิลลาง เป็นยังไงบ้าง”
”ก็โอเคฮะ”
เธอถามเขายิ้มๆว่า “มีใครแกล้งเธอรึเปล่า” แล้วหันไปมองรอบๆห้อง
เขาหัวเราะแล้วตอบเธอว่า “ไม่มีฮะ”
“เบื่อรึเปล่าน่ะ” เธอยังคงถามต่อ
ไม่เลยฮะ พี่คราวน์เจกับพี่ฮยองดอนเขา....<หัวเราะออกมา>
“อะไร มีอะไรกันเหรอ”
คราวน์เจพูดขึ้นมาว่า “ก็ฮยอนจุงน่ะสิ เอาทิชชู่เปียกเช็ดมือให้พี่ฮยองดอนอย่างดีเลยนะ”
เธอมองหน้าฮยอนจุงแล้วถามว่า “ทำไม? ทำไมเธอทำแบบนั้นล่ะ? เขาบังคับเธอเหรอ?”
”หัวเราะ ไม่ใช่ฮะ”
ฮยองดอนซึ่งนอนอย่างสบายใจอยู่บนเก้าอี้ยาว พูดว่า “เขาหลงเสน่ห์อันเกินต้านทานของ ดอน-ดอนตังหากล่ะ”
ฮวางโบถึงกับอึ้ง “เธอน่ะเหรอ? คนที่จู่ๆก็มีแอนตี้แฟนเป็นล้านๆคนเนี่ยนะ? เสน่ห์ดึงดูดอะไรกันเหรอ? ตกลงเธอทำอะไรชิลลาง<ของชั้น> กันแน่”
ฮยอนดอนลุกขึ้นมานั่งแล้วพูด “ชั้นเหรอ ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย เขาน่ะเต็มใจอาสาทำให้เอง”<แล้วก็ทำหน้าเคลิ้ม> “ตัวเองรู้มั้ย.. แม้แต่มือของฮยอนจุง...ยังสวยกว่าของผู้หญิงเลยน้า...”
ฮยอนจุงรู้สึกอายจนหน้าแดงหน่อยๆ...
ฮวางโบขมวดคิ้ว และคิดในใจว่า<มันมีเกิดอะไรขึ้นเหรอ>
สักพักใหญ่อินยองก็มาถึง ตาของเธอตาโตเป็นไข่ห่านหลังจากเห็นว่าในห้องนั่งเล่นมีคนนั่งอยู่เต็มไปหมด
พอเธอหันไปมองที่ห้องครัวก็ต้องอุทานออกมาว่า นี่มัน.... เพราะเจอแอนดี้กำลังยืนทำฟรุตพันช์อยู่ในนั้นท่าทางเนียนเหมือนเป็นครัวบ้านตัวเอง รีบถามไปว่า พี่ไปทำอะไรอยู่ในนั้นน่ะ
แอนดี้หันมาและยิ้มอายๆ พูดว่า “ขอโทษทีนะที่มาใช้ครัวของเธอโดยไม่ได้ขออนุญาตก่อนน่ะ”
ฮยองดอนหันมาใส่ทันทีว่า “เจ้าบ้านควรจะต้องเตรียมน้ำท่า อาหารเอาไว้ก่อนล่วงหน้าไม่ใช่เหรอ นี่ดูสิ พวกเราต้องเตรียมของว่างกันเอง แล้วเธอจะมาทำเสียงดังไปทำไมในเมื่อเธอมาถึงเป็นคนสุดท้ายน่ะ”
อินยองโต้กลับทันทีว่า “พี่นั่นแหละตัวดี ไม่เห็นจะทำอะไรนอกจากกินๆๆแล้วก็ทำให้บ้านพวกเราสกปรกอีก”
“เธอพูดได้ยังไงว่าชั้นไม่ได้ทำอะไรเลย วันนี้ชั้นทำธุระไปได้ตั้ง2 รอบเลยนะ”
”ธุระอะไรเหรอ” อินยองถาม
”ชั้นทิ้งบอมบ์ไป 2 รอบไง”
”อี๋~~~~~~...ทุเรศจริงๆเลย”
คราวน์เจรีบเสริมว่า”ที่ร้ายกว่านั้นนะ พี่เขาไม่ยอมล้างมือหลังจากนั้นด้วย ฮยอนจุงเขาทนไม่ได้ก็เลยต้องช่วยเอาทิชชูเปียกไปเช็ดมือให้เขา”
ฮวางโบได้ยินก็หันไปถามฮยอนจุงว่า “จริงเหรอ”
ฮยอนจุงพยักหน้าตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย” จริงฮะ”
“ทำไม ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ” เธอยังคงสงสัย
“ก็พี่คราวน์เจเขาไม่ยอมหยุดบ่น ส่วนพี่ฮยองดอนก็ไม่ยอมขยับไปไหน ดังนั้น....” เขาพยายามอธิบาย
”เธอก็เลยช่วยทำความสะอาดมือให้เขา? “เธอช่วยพูดต่อ
เขาพูดพึมพำเบาๆว่า “ผมก็แค่คิดว่า...ถ้าผมทำตัวแบบนั้น...บูอินก็คงจะทำแบบนี้กับผมบ้างเหมือนกัน....มันก็เลยเป็นเหตุผลผมช่วยพี่เขา”
ได้ยินที่เขาพูด เธอก็หันหน้าหนีจากเขา..แล้ว 2-3 นาทีต่อมาก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำ ฮวางโบนั่งมองผนังห้องน้ำ ตาลอยๆเหมือนคิดอะไรอยู่ <อย่าจริงจังไปนักเลย เขาไม่ได้คิดอะไรหรอกน่า ที่เขาพูดแบบนั้นก็เพราะเขารู้สึกสบายใจเวลาอยู่ใกล้ๆชั้น เหมือนกับเป็นพี่สาวของเขานั่นแหละ...เขาถึงได้พูดแบบนั้นออกมา..>.เธอสูดหายใจเข้าไปลึกๆ..ในขณะที่เริ่มมีน้ำตาคลอ
ช่วงครึ่งหลังของเกมฟุตบอล คู่แต่งงานต่างนั่งเชียร์บอลด้วยกันเป็นคู่ๆ ที่พื้นห้องอินยองนั่งอยู่บนตักคราวน์เจ ส่วนบนเก้าอี้ยาว โซลบินั่งอยู่บนต้นขาแอนดี้ ข้างๆเป็นคู่ผักกาดที่นั่งชิดกัน ต่างคนต่างเอนตัวพิงกัน ทุกคนต่างสนุกสนานกับเชียร์ทีมชาติเกาหลี โดยที่อินยองเป็นคนนำการเชียร์
ฮยองดอนหันมามองคู่ผักกาด แล้วก็พูดว่า “เฮ้..ฮวางโบทำไมไม่นั่งบนตักฮยอนจุงเหมือนกับที่คนอื่นเขาทำกันล่ะ”
หน้าฮยอนจุงเริ่มแดงขึ้นมาในทันที ส่วนฮวางโบรีบตอบไปว่า “นี่เธอกำลังพยายามจะฆ่าชั้นเหรอ? ชั้นอาจจะถูกรุมตีหัวแบะทั้งๆที่ยังกลางวันแสกๆเลยนะ ไม่รู้เหรอว่าชั้นน่ะต้องระวังตัวเป็นอย่างมากน่ะ จะไปไหนมาไหนทีต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลัง”
โซลบิพูดว่า “นั่นสิ..พี่น่าจะกังวลเรื่องนี้มากนะ แต่ว่าชั้นเองก็ไม่ได้รู้สึกสบายใจเท่าไรกับแฟนคลับของพี่แอนดี้..”.
แอนคี้แซวกลับไปทันทีว่า “ชั้นว่าแฟนๆเขาน่าจะกลัวเธอมากกว่าที่เธอกลัวเขานะ มีบางคนบอกชั้นว่า..เขากลัวเกินกว่าที่จะบอกว่าเป็นแฟนคลับของพี่ต่อหน้าเธอน่ะ เพราะว่าอาจจะโดนเธอจิกผมจนหนังหัวหลุด”
หันไปชำเลืองแอนดี้แบบค้อนหน่อยๆ “พี่ว่าอะไรน่ะ”
ทุกคนต่างหัวเราะออกมากับมุกของแอนดี้
ฮยองดอนพูดต่อไปว่า "จริงๆนะ พูดถึงเรื่องพละกำลังแล้วล่ะก็ ฮวางโบน่ะเป็นที่หนึ่งเลยนะ ใครจะไปสู้เธอได้ ก็เธอเป็น “นายพลฮวางโบ นี่นา”
เหลือบตาลงแล้วพูดว่า “ชั้นอาจจะแข็งแกร่งถ้าต่อสู้กันตัวต่อตัว แต่ถ้าเจอม็อบแฟนคลับมันก็คนละเรื่องกันนะ”
“แต่คิดอีกที ชั้นว่าสู้กันตัวต่อตัวเธอก็ไม่เท่าไหร่แล้วล่ะ”
”อะไรนะ”
”เธอสู้ฮอยอนจุงไม่ได้เลยนี่นา เธอขี้อายทุกครั้งเวลาที่อยู่ต่อหน้าเขาไม่ใช่หรือ” ฮยอนดอนได้ทีแกล้งอีกแล้ว
<นึกว่าชั้นไม่รู้ตัวรึไงว่าเธอจะหมายถึงอะไร> “นั่นเป็นเพราะแฟนคลับของเขา”....หันไปมองหน้าเขาว่ามีปฎิกิริยายังไง
<ใช่...คุณคงจะลำบากใจมาก...ไม่มีทางที่คุณจะไม่ระวังตัว.. ผมอยากจะให้คุณหูหนวกตาบอดไปซะเลย จะได้ไม่ต้องต้องรับรู้เรื่องแย่ๆพวกนั้น> เขารู้สึกเสียใจกับเธอ..ได้แต่ชำเลืองมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน>
เธอรีบเบือนสายตาหนีไปอีกทางนึง นึกในใจว่า <พวกแฟนคลับน่ะเหรอ กลายเป็นเรื่องจิ๊บๆ ชั้นรับมือกับพวกเขาได้ดี...แต่เป็นเพราะเธอต่างหากที่ทำให้ชั้นกังวลขนาดนี้....>
แล้วในที่สุดการแข่งขันก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของทีมชาติเกาหลี..ทำให้ทุกคนต่างผิดหวังไปตามๆกัน ฮยองดอนเสนอว่า “นานๆพวกเราจะมารวมกันได้ขนาดนี้...ทำไมเราไม่ออกไปดื่มต่อกันข้างข้างนอกด้วยกันล่ะ”
คราวน์เจหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “นี่..วันนี้พี่ยังดื่มไม่พออีกหรือฮะ”
“นั่นมันเบียร์แค่ 2-3 กระป๋องเองตอนที่ดูบอลน่ะ ไปเถอะน่า...เราไม่เคยมีโอกาสดีๆที่ได้เจอกันแบบนี้เลยนะ...ว่าไงล่ะ”
ฮวางโบรีบบอกว่า “ชั้นต้องขอตัวจริงๆ..ต้องรีบกลับแล้วค่ะ แต่ในใจจริงๆคิดว่า ขืนชั้นอยู่ต่อนานกว่านี้ ชั้นกลัวว่าตัวเองจะทำสิ่งตัวเองตั้งใจเอาไว้ไม่ได้”
ฮยอนจุงเมื่อได้ยินว่าเธอจะกลับ <คุณต้องไปแล้วเหรอฮะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน แถมวันนี้ยังไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะ...เขาคิดในใจ>
คราวน์เจย์ก็บอกว่า “ขอโทษนะฮะ..พี่ ผมก็ต้องขอตัวเหมือนกัน”
ฮยองดอน “โอเค ..งั้น.”<ผิดหวังหน่อยๆ>
ฮวางโบว่า “ไว้คราวหน้าเราค่อยไปดื่มด้วยกันนะคะ แล้วพูดกับทุกคนว่า วันนี้ทำงานกันได้ดีมากนะคะ..ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ตาม”
แอนดี้พูดขึ้นมาว่า “สุดสัปดาห์มันไม่ค่อยมีความหมายอะไรสำหรับอาชีพอย่างพวกเราอยู่แล้ว...อ้อ..ฮวางโบ..เรื่องวันอาทิตย์หน้าน่ะ.....
“ฮ้า..อะไรเหรอ”
แอนดีนิ่งเงียบไม่พูดอะไร แต่มองหน้าเธอเหมือนกับกำลังถามคำถามอะไรบางอย่าง
”อะไรเหรอ” เธอยังคงไม่เข้าใจ
”ช่างมันเถอะ..ไว้ชั้นโทรหาเธอวันหลังแล้วกัน.”.แอนดี้ตัดบท
”ตอบ “โอเคไปทั้งๆที่ยัง งงอยู่
ฮยอนจุงเหลือบมองแอนดี้แล้วคิดในใจว่า <อ๋อ ..ใช่ พวกเขาเป็นเพื่อนที่สนิทกันทีเดียวเลยนี่นา..เขาอยากจะคุยเรื่องอะไรกันก็ได้ทั้งนั้น...หึ..ชั้นอิจฉาเขานะเนี่ย>
คู่ผักกาดเดินออกมาจากบ้านคู่มดด้วยกันแล้วกำลังต่างจะแยกย้ายกลับบ้าน
ฮวางโบหันไปถามฮยอนจุงว่า “เธอเอารถมารึเปล่า”
“เอามาฮะ วันนี้เป็นวันหยุดของพี่ผู้จัดการ” เขาตอบ
”โอเค...งั้น ดูแลตัวเองให้ดีๆนะ กินอาหารให้ครบทุกมื้อล่ะ แล้วก็ฝากสวัสดีพวกน้องๆด้วยนะ” เธอพูดกับเขายิ้มๆ
เขายิ้มแล้วตอบไปว่า “เช่นกันฮะ..บูอิน ขอให้การถ่ายทำราบรื่นแล้วก็ดูแลตัวเองด้วยนะฮะ”
“เธอไปก่อนสิ” เธอบอก
เขาทำท่าลังเลแล้วพูดว่า “คุณไปก่อนเถอะฮะ...ผมขอยืนส่งคุณตรงนี้ จะรอจนกว่าคุณจะขึ้นรถปลอดภัย แล้วผมค่อยไปฮะ”
”แต่บ้านของเธออยู่ไกลกว่าชั้นนี่นา ชั้นอยู่ใกล้ขับรถไปแปล๊บเดียวก็ถึงแล้ว ชิลลางนั้นแหละไปก่อน” เธอยังคงยืนยัน
เขามองดูเธอด้วยท่าทางอึดอัดเล็กๆ คิดในใจว่า <สงสัยเราควรจะต้องไปก่อนดีกว่า แต่รับรองครั้งหน้า ขอให้ผมได้เป็นฝ่ายยืนส่งคุณบ้างน่ะ บูอิน> แล้วพูดว่า “งั้น..ผมไปก่อนก็ได้ฮะ”
ฮวางโบพยายามฝืนยิ้ม “โอเคจ้ะ “ แล้วรีบหันหน้าไปทางเงามืดเพื่อซ่อนน้ำตาที่จู่ๆก็ไหลออกมา...ลาก่อนน่ะ..<พูดๆอยู่ก็เหมือนมีก้อนมาจุกที่คอ>
ฮยอนจุงออกเดินไปยังที่จอดรถด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยเต็มใจนัก เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆแล้วเริ่มเร่งฝีท้าวไปยังรถที่จอดอยู่
เธอยืนมองหลังของเขาที่ค่อยๆเดินห่างออกไปทุกทีทุกที เธอพูดออกมาว่า “ลาก่อนนะ..คราวหน้าชั้นให้เหมือนกับว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นเลยสำหรับเรา”
โปรดติดตามคู่รักผักกาดหอม รีมิกซ์ ตอนที่ 25
ท้ายบท
กึมกังฮวางโบ <หรือนายพลฮวางโบ> เป็นชื่อเล่นของฮวางโบ กึมกังคือหนึ่งในนักรบที่แข่งแกร่งที่สุดจากในตำนานพุทธประวัติ <ของเกาหลี>
เก็บตกจากคุณยาย ตอนจากนี้ไปในบางตอนอาจจะไม่เหมือนในรายการแล้วนะคะ อย่าลืมว่าฟิคเรื่องนี้เขียนขึ้นมาโดยมีความรักคนสองคนเป็นพื้นฐานค่ะ
ดีจัยที่ทำให้คนอ่านทุกคนมีความสุข ยาย(นาจา) 23/4/53
Create Date : 24 เมษายน 2553 |
|
9 comments |
Last Update : 24 เมษายน 2553 22:12:00 น. |
Counter : 1801 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ning IP: 124.122.172.112 24 เมษายน 2553 22:29:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: แฟนคู่จุงโบ IP: 202.176.68.41 24 เมษายน 2553 23:27:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: lookmm IP: 112.142.126.98 24 เมษายน 2553 23:43:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: แพร IP: 58.64.81.8 24 เมษายน 2553 23:45:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: wa..wa IP: 124.120.40.247 25 เมษายน 2553 11:32:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: ^^ IP: 183.88.43.151 25 เมษายน 2553 12:19:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: 1985pumpui IP: 125.25.36.104 16 พฤษภาคม 2553 2:18:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: kanjabo IP: 192.168.182.178, 124.122.247.124 30 พฤษภาคม 2553 17:22:38 น. |
|
|
|
| |
|
"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"
|
|
|
|
|
|
|
|
การที่เช็ดมือให้ฮยองดอนนั้น บ่งบอกว่าเป็นคนมีน้ำใจมาก
เลยอะ หรือเพราะอินกับนิสัยของคนบางคนหรือเปล่านะ
ขอบคุณนะคะยาย