แนวทางการลงทุนสำหรับผมแล้วก็ “เหมือนเดิม” ก็คือ… จะไม่ค่อยให้ความสนใจกับดัชนีตลาดหุ้นมากมายจนเกินไป แต่จะเล็งเฉพาะกิจการที่เราสนใจ หากมีส่วนเผื่อความปลอดภัย และไม่ใช่กิจการประเภทตะวันตกดิน ผมก็สะสมเก็บเข้าพอร์ตเรื่อยๆ ตามปกติครับ…

อย่างไรก็ดี… เหตุการณ์ในวันนี้ก็อาจจะยัง “ไม่แน่นอน” เพราะนอกจากเรื่องการบ้านการเมืองที่น่าปวดหัวแล้ว ยังมีภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงน่าเป็นห่วงอีกด้วยครับ เพราะในปัจจุบัน “ค่าครองชีพ” สูงขึ้นมาก คนในประเทศก็เป็นหนี้กันมากขึ้นทำให้ “อำนาจในการจับจ่าย” ลดลงอย่างช่วยไม่ได้ … ซ้ำด้วยโครงการประชานิยมที่ต้องใช้เงินมหาศาล ไม่รู้ว่าจะหาเงินเข้ามาทันกับเม็ดเงินที่ต้องจ่ายออกไปหรือไม่… อย่างไรก็ตามบทความในวันนี้ผมจะไม่ลงลึกเรื่องเศรษฐกิจ แต่จะมาเปรียบเทียบแนวทางการลงทุนสองแบบครับ นั่นคือ “ช้าแต่ชัวร์ Vs เร็วแต่แรง” ลองมาดูกันครับ…

การลงทุนแบบ “เร็วแต่แรง”

การลงทุนในลักษณะนี้ถ้าเป็นนิยามส่วนตัวของผมก็คือ “การซื้อๆ ขายๆ ทำกำไรอย่างรวดเร็ว” ผมเข้าใจว่าวิธีการแบบนี้นั้นสามารถ “ทำได้” ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด แต่หากเราจะลงทุนแบบเร็ว รวยเร็วๆ เราต้อง “เก่ง” กว่าคนอื่นมากเป็นพิเศษ … สำหรับการลงทุนแบบนี้บางคนอาศัยการ “ดูกราฟ” ซึ่งผมคงต้องออกตัวว่า… ไม่ถนัดเอาเสียเลยครับ… แต่หากเราจะลงทุนแบบดูปัจจัยพื้นฐานผมก็คิดว่า… มันสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้เช่นกันครับ… เพราะหากเราพลาดก็ยังได้หุ้นดีๆ มาเก็บเอาไว้ปลอบใจนั่นเองครับ… นักลงทุนที่ซื้อๆ ขายๆ และประสบความสำเร็จด้วยการดูปัจจัยพื้นฐานประกอบด้วยในบ้านเราก็มีหลายท่านครับ แต่การลงทุนแนวนี้ก็มีข้อเสียเช่นกัน…

นั่นก็คือเราจะต้องทำการบ้านหนักมาก และนักลงทุนประเภทเร็วแต่แรง เก็งกำไรนั้นมีอยู่มากมาย ทำให้เราต้องเก่งกว่า ขยันกว่า และเครียดกว่าด้วยครับ … ใครชอบแนวนี้คงต้องตั้งใจจริง และยอมรับความเสี่ยงได้แบบไม่มีขีดจำกัดกันเลยทีเดียว

การลงทุนแบบ “ช้าแต่ชัวร์”

สำหรับการลงทุนแบบช้าแต่ชัวร์นั้นคือวิธีการที่ผมใช้อยู่ในปัจจุบัน … ผมเองก็ยอมรับว่าเคยเก็งกำไรมาก่อน เวลาได้ก็ได้มาก แต่เวลาเสียหายก็ทำให้เราเข็ดขยาดไปพอสมควรครับ… จากประสบการณ์การลงทุนที่ผ่านมาผมพบว่าวิธีการ “ช้าแต่ชัวร์” นั้นเหมาะสมกับตัวผมมาก คือ ลงทุนในหุ้นประเภทแข็งแกร่ง ปันผล และโตไว … วิธีการนี้ผมจะ “ทยอยรับของเวลาหุ้นตกหนัก” โดยเน้นการจัดพอร์ตแบบ “ปลอดภัยไว้ก่อน” เรื่องของการจัดทัพลงทุนนั้นผมจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และต้องบริหารความเสี่ยงควบคู่ไปด้วยครับ…

สำหรับแนวทางนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ยังทำงานประจำ หรือประกอบกิจการส่วนตัวควบคู่ไปด้วย เนื่องจากไม่ต้องเฝ้าหน้าจอทุกวัน ซื้อแล้วถือ ตราบใดที่กิจการยังดีก็จะไม่ขาย รอรับปันผล กับส่วนต่างของราคาที่ปรับขึ้นเรื่อยๆ ตามการเติบโตของบริษัทครับ…

ลองเลือกแนวทางของตัวเองดูครับ หากคิดจะลงทุนให้ประสบความสำเร็จเราต้องขยันกว่าคนอื่น ทำการบ้านหนักกว่า และมีความพยายามมากกว่า ไม่ท้อถอยง่ายๆ … แล้วความสำเร็จจะเกิดขึ้นกับนักลงทุนผู้มุ่งมั่นอย่างพวกเราแน่นอนครับ…

(นายแว่นธรรมดา)

แนะนำเว็บไซค์สำหรับคนอยากมีบ้านหลังแรก และต้องการมองหาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

//www.topofliving.com/ (โดยนายแว่นธรรมดา เช่นเคยครับผม)

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2556 12:14:12 น.		0 comments
Counter : 1105 Pageviews.
Share Tweet