หลักการเลือกหุ้นของ ปีเตอร์ ลินซ์ มีอะไรบ้าง
หลักการเลือกหุ้นของ ปีเตอร์ ลินซ์ มีอะไรบ้าง การเลือกหุ้นมีหลักการมากมายหลายประการ แต่การเลือกหุ้นแล้วจะประสบความสำเร็จได้จริง มีหลักการที่ใช้ได้ดีไม่กี่หลัก โดยเฉพาะหลักการของนักลงทุนระดับโลกที่ประสบความสำเร็จแล้ว มาดูกันดีกว่าว่านักลงทุนระดับโลกเขาคิด และเลือกหุ้นอย่างไร ประการแรก เลือกหุ้นที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ปีเตอร์ ลินซ์ มักจะได้หุ้นดีๆ จากผลกระทบของสินค้า และบริการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างเช่น เราเดินห้างที่ไหน เราซื้ออะไรกินเล่น ดื่มกาแฟร้าไหน เราเข้าร้านอาหารอะไร ใช้เสื้อผ้ายี่ห้ออะไร ร้านอะไร เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่มากระทบกับชีวิตประจำวันของเราโดยตรง สิ่งที่ผมกำลังสังเกต ก็คือ ทุกวันนี้ค่าไฟฟ้าบ้านผมเติบโตขึ้นเร็วมาก รวม ๆ เดือนหนึ่งหมดหลายพัน แต่ค่าโทรศัพท์รวมกับสมาชิกในบ้านยังไม่ถึงพันเลย ค่าน้ำมันก็ลดลงเยอะมากเหลือเดือนละไม่กี่พัน สังเกตได้ชัดเจนว่าค่าไฟโตเร็วกว่าค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้ว (ยกเว้นค่ากิน) ถ้าผมใช้สิ่งที่มากระทบนี้เลือกซื้อหุ้น ก็อาจจะมองหาหุ้นโรงไฟฟ้าดี ๆ ซักตัว แต่หุ้นโรงไฟฟ้าที่มีอยู่อย่างมากมาย เข้าใจว่าถ้าเราเลือกหุ้นที่แข็งแรงมั่นคงจะดีกว่าหุ้นตัวเล็กที่มีความไม่แน่นอนสูง อ่านเรื่องราวของ ปีเตอร์ ลินซ์ เพิ่มเติม "คลิ๊กที่นี่" ประการที่สอง สไตล์การเลือกหุ้นโตช้าของปีเตอร์ ลินซ์ ในหุ้นหกประเภทที่ ปีเตอร์ ลินซ์ ได้นิยามไว้มีหุ้นประเภทโตช้า หรือ The Slow Growers โดยลินซ์จะเลือกซื้อหุ้นกลุ่มนี้ด้วยหลักการของความแข็งแรงของกิจการ แต่กิจการอาจไม่ได้โตรวดเร็วเหมือนในอดีต สิ่งที่โดดเด่นในหุ้นกลุ่มนี้ก็คือ เงินปันผล จะเรียกว่าหุ้นกลุ่มนี้เป็น หุ้นปันผล คงไม่ผิดอะไร โดยลินซ์เองจะซื้อหุ้นกลุ่มนี้ในช่วงภาวะเศรษฐกิจไม่ดี เพราะจะอาศัยความแข็งแกร่งของกิจการให้รอดพ้นภาวะซบเซาไปได้ แถมยังได้เงินปันผลตอบแทนระหว่างการรอ โดยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมักจะเกิดตลาดหมี หรือตลาดหุ้นตกต่ำ ซึ่งเป็นช่วงที่พอร์ตการลงทุนของเขาจะมีหุ้นประเภท The Slow Growers เก็บไว้ในสัดส่วนที่สูงกว่าหุ้นตัวอื่นๆ (อ่านหุ้นโตเร็ว "คลิ๊ก') ประการที่สาม การเล่นหุ้นวัฏจักรของ ปีเตอร์ ลินซ์ สำหรับหลักคิดการเล่นหุ้นแบบต่อมาก็คือ ในพอร์ตที่ลินซ์เคยบริหารอยู่จะมีหุ้นประเภท วัฏจักร หรือ The Cyclicals ชื่อนี้สำหรับท่านผู้อ่านที่เป็นนักลงทุนในตลาดหุ้นอยู่แล้วคงจะคุ้นเคย แต่สำหรับท่านผู้อ่านที่ไม่เคยลงทุนในตลาดหุ้นอาจจะต้องทำความเข้าใจหน่อย เพราะว่าหุ้นนี้ก็คือเป็นหุ้นวัฏจักร ก็คือมีขึ้นมีลง สังเกตได้ชัดเจนในหุ้นกลุ่มที่มีการขึ้นลงตามราคาวัตถุดิบ เช่นหุ้นกลุ่มกระดาษ หรือ หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี โดยราคาหุ้นเหล่านี้ จะมีการขึ้นลงตามวัตถุดิบไปเรื่อยๆ ปีเตอร์ ลินซ์ แนะนำว่าการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ อยู่ที่จังหวะและโอกาส คือต้องสามารถคาดการณ์ได้ว่าจังหวะไหนจะเป็นวัฏจักรขาขึ้น และควรซื้อหุ้นดักหน้า แต่ถ้าไม่ดีก็ควรขายออกทันที ประการที่สี่ ตรวจสอบตัวเลขทางการเงิน ตรวจสอบตัวเลขที่สำคัญ หรือ check the key numbers. ถ้าคุณสนใจในสินค้าและบริการใดในบริษัท ให้ตรวจสอบว่ายอดขายต้องมากเท่าไรจึงจะสามารถมีกำไรในจำนวนมากได้ (ตรวจสอบ Profit Margin) ให้ความสำคัญกับบริษัทที่อัตราส่วน P/E ต่ำกว่าอัตราการเจริญเติบโตของกำไรต่อหุ้น (ให้ตรวจสอบ PEG) ให้ความสำคัญกับบริษัทที่มีเงินสดจำนวนมากพอที่จะทำให้ธุรกิจแข็งแกร่ง ให้ระวังบริษัทที่มีหนี้สินต่อทุนสูง(D/E หรือ Gearing สูง) โดยเฉพาะหนี้ที่มาจากวงเงินเบิกเกินบัญชี ซึ่งจะต้องจ่ายเมื่อถูกทวงถาม ซึ่งไม่เหมือนกับหุ้นกู้ที่มีระยะเวลากำหนดแน่นอน(ถ้าเป็นหนี้ชนิดหุ้นกู้จะดีกว่าเพราะตราบใดที่ยังจ่ายดอกเบี้ยได้ เจ้าหนี้จะเอาเงินคืนก่อนกำหนดไม่ได้) หากเป็นบริษัทประเภทแข็งแกร่งหรือโตเร็ว ให้เลือกบริษัทที่มีกำไรก่อนภาษีสูงๆ หากเป็นบริษัทประเภทเริ่มฟื้นตัว ให้เลือกบริษัทที่ราคาต่ำแต่มีศักยภาพที่จะกลับมาสูง ประการที่ห้า ไม่ต้องสนใจดัชนีตลาดหุ้น เทคนิคสุดท้ายที่จะนำเสนอของ ปิเตอร์ ลินซ์ คือการซื้อหุ้นโดยไม่สนใจดัชนีตลาดหุ้น เพราะสิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ ปัจจัยพื้นฐานของกิจการ ราคาหุ้นมักจะถูกสะท้อนจากปัจจัยพื้นฐาน และกำไรที่กิจการสามารถทำได้ กิจการที่กำไรเติบโต ราคาก็จะโตตาม กิจการที่กำไรหดตัว ราคาก็จะหดตัวตามไปด้วย การมานั่งสนใจดัชนีตลาดหุ้น หลายครั้งทำให้เราพลาดซื้อหุ้นดีๆ ในราคาที่มีส่วนลด หรือพลาดการซื้อหุ้นเติบโตในราคาที่ยังไม่ปรับตัวขึ้นไปสูงมาก เพราะคิดว่าราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวตามดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งหลายครั้งมันไม่เป็นไปตามนั้น และนั่นทำให้ลินซ์เลิกสนใจดัชนีตลาดหุ้น แต่หันกลับมาสนใจพื้นฐานของกิจการมากกว่านั่นเอง (นายแว่นธรรมดา) ไม่มีเวลาอ่านฟังในรูปแบบคลิ๊ปเสียง "คลิ๊กที่นี่" คำเตือน การวิเคราะห์หุ้น การลงทุนรูปแบบต่างๆ และเทคนิคการลงทุนในหุ้นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร ผู้เขียนบทความไม่รับผิดชอบต่อความเสี่ยง หรือความเสียหายในการลงทุนของผู้รับข้อมูลนะครับ อยากมีบ้านหลังแรก www.topofliving.com https://www.facebook.com/topofliving/ . เรื่องหุ้นไว้ใจผม www.naiwaen.com #หนังสือน่าอ่าน เจาะหุ้น VI เกาะกระแสเมกะเทรนด์ กระแสเมกะเทรนด์ในยุคใหม่มีอะไรบ้าง และเราจะลงทุนอย่างไรให้เกาะไปกับกระแส เพื่อไม่ให้ตกรถ หนังสือเล่มนี้จะบอกเล่าประสบการณ์ลงทุนในหุ้น จะทำให้คุณไม่ต้องเสี่ยงกับหุ้นที่เราไม่รู้จัก และปลอดภัยจากการลงทุนได้มากขึ้นอย่างแน่นอนครับ บทนำ จุดเริ่มต้นของการลงทุนแนววีไอ บทที่ 1 เลือกหุ้นอย่างไรให้ปลอดภัย บทที่ 2 เจาะหุ้นเหล็ก บทที่ 3 ยุคแห่งพลังงานสะอาด และเมกะเทรนด์โรงไฟฟ้า บทที่ 4 บทเรียนหุ้นพลังงานทดแทน บทที่ 5 เจาะแก่นหุ้นเล็กโตไว บทที่ 6 วีไอซื้อหุ้นต้องดูอะไรบ้าง? บทที่ 7 ประสบการณ์ลงทุนหุ้นโภคภัณฑ์ บทที่ 8 ประสบการณ์ลงทุนหุ้นรถไฟฟ้า และหุ้นคอนโดมิเนียม และอ่านทุกเรื่องราวของหุ้นอสังหา หุ้นที่จะได้รับอนิงสงค์จากการที่มีรถไฟฟ้าหลากหลายสายเกิดขึ้น! คลิ๊กอ่านต่อที่นี่เลยครับ อ่านหนังสือเสริมความรู้ #ลงทุนหุ้นให้โตเร็ว : ปัญหาของนักลงทุนหุ้นโตเร็วก็คือ มองหุ้นโตเร็วไม่ออก มองภาพใหญ่ไม่ชัดเจน และจัดพอร์ตไม่เป็น ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้ "ลงทุนหุ้นให้โตเร็ว" ติดตามได้ที่นี่เลยครับ #ช่องทางการติดตามข้อมูล#นายแว่นธรรมดา สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการติดตามข้อมูล โดยเฉพาะสมาชิกเว็บ www.naiwaen.com ท่านสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ naiwaentammada@gmail.com หรือเข้าไปติดตามบทความในรูปแบบคลิ๊ปเสียงที่ https://www.youtube.com/channel/UCcQxvgiObaaA2DI3UOqrXZw เพื่อนๆ ยังสามารถเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหวใหม่ล่าสุดที่บล็อกพันทิป //www.bloggang.com/mainblog.php?id=naiwaentammada(ปัจจุบันมียอดเพจวิวกว่า 3.1 ล้านวิว)
Create Date : 25 ตุลาคม 2559 |
Last Update : 25 ตุลาคม 2559 12:44:42 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1610 Pageviews. |
|
|