#บันทึกการลงทุน โอกาสพลิกพอร์ตให้ใหญ่ทำได้จริงหรือ?
นักลงทุนทุกคนหวังที่ว่าวันหนึ่งพอร์ตการลงทุนของเราจะใหญ่ขึ้น เริ่มเปลี่ยนหลักจาก 5-6 หลัก เป็น 7 หลัก เป็น 8 หลัก เป็น 9 หลัก ด้วยกันทั้งนั้น แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง โอกาสที่จะพลิกพอร์ตให้ใหญ่ หรือเปลี่ยนหลักตัวเลขในพอร์ตของเรามันทำได้จริงหรือ มีโอกาสมากน้อยแค่ไหน คำถามเหล่านี้เวียนวนในหัวผม จนมาวันหนึ่งผมพบว่า มันทำได้จริง
ช่วงเวลาแห่งการลงทุนนั้นผมได้พบกับหุ้น 1 เด้งมาไม่กี่ตัว แต่หุ้นเหล่านั้นมีส่วนทำให้พอร์ตการลงทุนของผมเปลี่ยนหลัก หุ้นเด้งตัวแรกก็คือ BCP ผมเคยซื้อเมื่อตอนราคาเพียง 13-15 บาทต่อหุ้น ตัวต่อมาก็คือ JMART เคยซื้อ 7 บาทต่อหุ้น ต่อมาก็คือ BCH เคยซื้อ 5-6 บาทต่อหุ้น และยังมีอีกหลายตัวที่ผมทำได้ 1 เด้ง หรือมากกว่านั้น แต่บอกตรงๆ เลยครับว่ายังไม่เคยได้หุ้น 10 เด้ง
หุ้นสิบเด้งที่ผม เฉียด จะทำได้ก็คือ PTG ตอนนั้นผมซื้อมาแค่ 3.5 บาทต่อหุ้น และรีบขายไปก่อนทยอยขายออกไปตอน 4-5 บาทต่อหุ้น ในตอนนั้นสาเหตุที่ขายเพราะผม กลัว กลัวว่ามาร์จิ้นที่บางเฉียบของหุ้นตัวนี้จะกระทบกำไร และทำให้ราคาไหลลงเป็นน้ำตก (ช่วงนั้นน้ำท่วมใหญ่ด้วยครับ) แต่เวลาก็พิสูจน์มาแล้วว่า ผมคิดผิด
ปัจจุบันนั้นผมถือหุ้นแค่ 4 ตัวในพอร์ต ณ.ตอนนี้ เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ผมเพิ่งขายหุ้นโรงกลั่นออกไปหมาดๆ ซึ่งอาจจะเป็นการขายหมูก็ได้ครับ ตอนนี้ผมเริ่มกังวลแล้วว่าการที่ผมขายโรงกลั่นออกไป ผมอาจคิดผิดก็ได้ แต่ก็ชั่งมันเถอะครับ
หุ้นที่เหลือในพอร์ตของผมมี หุ้นรถไฟฟ้า หุ้นคอนโด และหุ้นสื่อสาร ส่วนอีกตัวคือหุ้นเดินเรือที่ผมก็ขายออกไปบ้างแล้วเมื่อช่วงที่ผ่านมาที่ราคาขยับปรับขึ้นมาพอสมควร
ประสบการณ์ของผมบอกว่า เราสามารถเปลี่ยนหลักของตัวเลขในพอร์ตการลงทุนได้ ถ้าเรามุ่งมั่นมากพอ หุ้นที่จะเปลี่ยนหลักของตัวเลขได้นั้น ควรเป็นหุ้นคุณภาพดี ไม่ใช่หุ้นปั่น อย่างที่ ชาลี มังเกอร์ คู่หูนักลงทุนคนสำคัญของ วอเรนต์ บัฟเฟตต์ เคยกล่าวไว้ว่า
หากคุณซื้อหุ้นคุณภาพดีที่ราคาแพง ในระยะยาวแล้วก็ยังดีกว่าการที่คุณไปซื้อหุ้นคุณภาพแย่ ในราคาถูก
คำกล่าวข้างต้นผมเห็นด้วยมากๆ แม้ผมจะประสบกับกำไรในช่วงที่ผ่านมา แต่ประสบการณ์ขาดทุนของผมก็มีไม่น้อย เรียกได้ว่าแผลเหวอะหวะ หุ้นที่ผมไปขาดทุนกับมันก็มักจะเป็นหุ้นคุณภาพแย่ๆ (คงไม่ต้องบอกนะครับว่าหุ้นอะไรบ้าง) เพียงแต่ว่า จิตใจของผมยังใฝ่ดี กล่าวคือ ชอบซื้อหุ้นคุณภาพดีๆ มีอนาคต มีกิจการที่ดีมากกว่า หุ้นคุณภาพแย่ๆ ที่เจ้าของทำหุ้นมาเพื่อดูดเงินรายย่อย และสิ่งนี้คือ เกราะคุ้มกัน ตัวผมในถนนการลงทุนเสมอมา
ข้อสรุปกิจกรรมการลงทุนที่จะทำให้ตัวเลขในพอร์ตของคุณ เปลี่ยนหลัก
เล่ามานาน แค่อยากจะบอกว่า ถ้าเราลงทุนถูกต้องเราสามารถเปลี่ยนหลักได้นะครับ ผมขอสรุปกิจกรรมการลงทุนที่จะทำให้ตัวเลขในพอร์ตของคุณ เปลี่ยนหลัก เลยดีกว่าครับ
- คุณควรมีจิตใจที่มุ่งมั่น ภาพต้องชัดพอ มีความตั้งใจจริงว่าอยากรวยจากการลงทุน
- คุณต้องซื้อหุ้นคุณภาพดีเท่านั้น ย้ำว่าต้องเป็น หุ้นคุณภาพดี ส่วนหุ้นคุณภาพดีดูยังไง ผมว่าไม่ยาก มีคนเขียนเอาไว้เยอะแยะมากมาย หรือศึกษาหุ้นที่ วอเรนต์ บัฟเฟตต์ ซื้อก็ได้ว่าหุ้นคุณภาพดีๆ ลักษณะที่ควรจะเป็นคืออะไร
- คุณควรมีกระแสเงินสดมาเติมเงินในพอร์ตอย่างสม่ำเสมอด้วย อย่าไปคิดว่าจะซื้อๆ ขายๆ หุ้นสร้างกระแสเงินสด ขอบอกว่าทำได้ แต่มันไม่ง่าย มีวิธีที่ง่ายกว่า เครียดน้อยกว่า คือ ทำงานประจำ หรือทำกิจการส่วนตัวเพื่อสร้างกระแสเงินสด เอามาเติมพอร์ต
- อย่าจับจังหวะการลงทุนให้มากเกินไป ซื้อหุ้นดีๆ แล้วปล่อยให้เวลาเป็นเพื่อนของเรา ลงทุนยาวๆ แต่เล่นสั้นบ้างก็ได้ เอาแค่ลับสมอง การซื้อขายระยะสั้น ๆ เวลาจะเป็นศัตรูของเรา แต่การลงทุนระยะยาวๆ เวลาจะเป็น เพื่อน
- มองหาหุ้นที่จะโตสิบเท่าในสิบปีตลอดเวลา ผมเองคอยมองหาตลอด แต่ยอมรับว่ายังทำไม่ได้ตามเป้า ซึ่งแน่นอนที่สุดว่าผมต้องพยายามต่อไป
นี่คือข้อคิดที่สรุปจากประสบการณ์ตรงของผมเอง หากคุณอยากประสบความสำเร็จด้านการลงทุนหุ้น จงอย่ายอมแพ้ แต่ถ้ายังทำไม่ได้ อย่าเพิ่งลาออกจากงาน หรือเลิกทำธุรกิจที่เป็น active income ไว้คุณทำได้แล้วเริ่มอยู่ได้ด้วยเงินลงทุน เงินปันผลจริงๆ จังๆ แล้ว ค่อยเป็นนักลงทุนเต็มตัวจะดีกว่าครับ
#นายแว่นลงทุน
เพื่อนๆ ใครมีบ้าน คอนโด ที่ดินเปล่า มาโพสขายได้ที่นี่ฟรีนะครับ//www.topofliving.com/property-exchange/
#หนังสือเสียง
กลยุทธ์ลงทุนหุ้นโตเร็ว
หนังสือ นายแว่นฯ มี audio book ด้วยนะครับ
คลิ๊กหนังสือเสียงที่นี่เลยครับ
แนะนำหนังสือ
เก็บหุ้นสร้างพอร์ต สไตล์ VI โต 10 เท่าในสิบปี
หนังสือเล่มนี้ เก็บหุ้นสร้างพอร์ตสไตล์วีไอ ผมเขียนขึ้นมาในช่วงที่ยากลำบากช่วงหนึ่งของตลาดหุ้นไทย คือเป็นช่วงตลาดไม่ไปไหนเลย หรือ Sideway นั่นเอง การลงทุนในภาวะตลาดแบบนี้ย่อมทำให้หลายคนรู้สึก อึดอัด ได้ไม่ยาก แต่ในภาวะแบบนี้ก็มีข้อดีของมัน ข้อดีดังกล่าวก็คือ การที่ตลาดไม่ไปไหน แต่แรงเก็งกำไรยังคงมีอยู่ มันเปิดโอกาสให้นักลงทุนระยะยาวเก็บหุ้นกอดเอาไว้ กินปันผลไปเรื่อยๆ อย่างสบายใจ หรือแม้แต่นักลงทุนระยะสั้นๆ ก็สามารถทำกำไรได้หากเรามองพื้นฐานออก และมองแนวโน้มของราคาเป็น ซึ่งเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้มีทั้งสองเรื่องราวดังกล่าวอย่าง ครบถ้วน#NaiwaenInvestment
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ How to การบริหารจัดการเงิน อสังหา คลิ๊กอ่านที่นี่เลยครับ
[เกี่ยวกับผู้เขียน]
นายแว่นธรรมดา หนึ่งในกูรูหุ้น FINOMENA และผู้ก่อตั้ง //www.topofliving.com ผู้เขียนหนังสือ ลงทุนหุ้นโตเร็ว และหนังสือขายดี กลยุทธุ์จับจังหวะลงทุนหุ้น ปัจจุบันเป็นนักลงทุนอิสระ นักเขียนอิสระ ขอถ่ายทอดความรู้ด้านการลงทุน เผื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ