ในอดีต ผมมักจะคิดว่า การลงทุนในตลาดหุ้นไทย เป็นสิ่งที่อันตราย เพราะ มักจะมีข่าวร้ายเกิดขึ้นเสมอ และที่สำคัญ ข่าวการเมือง เป็นข่าวที่คู่กับสังคมไทยมานาน ดังนั้น การไปลงทุนต่างประเทศ อาจจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า และ ปลอดภัยกว่า

เดือนมีนาคม ขณะที่นักลงทุนไทยหลายๆคน ต่างพากันหวาดกลัวตลาดหุ้น หลายคน พยายามปรับพอร์ตให้ถือเงินสด หลายคน ออกจากตลาดหุ้น ช่วงนั้นผมได้มีโอกาสได้นั่งคุยกับ ผู้บริหารกองทุนชาวสิงคโปร์ เขากลับพยายามหาหุ้นน่าลงทุนในไทยอย่างกระตือรือร้น ผมเองก็แปลกใจ ทำไม เขาไม่ลงทุนในหุ้นของประเทศของเขา ในเมื่อ นักลงทุนไทยหลายคนกลับย้ายไปลงทุนต่างประเทศแทน

ในส่วนหนึ่งของการสนทนา เขาบอกว่า ข้อเสียของประเทศที่เจริญทางเศรษฐกิจมากๆ ทำให้ โอกาสที่จะทำกำไรจาก ตลาดหุ้น จึงมีไม่มากนัก ขณะที่ เทียบกับไทย ในช่วง ตั้งแต่ปี 2009 ขึ้น มา กลับพบหุ้นที่ให้ผลตอบแทน มากกว่า 500-1000% ในเวลาไม่เกิน 2-3 ปี ทำให้ เขาพยายามหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนในหุ้นไทยมากขึ้น

เรื่องนี้สอดคล้องกับประวัติกองทุนต่างประเทศบางกองที่มาลงทุนในไทย หลาย 10 ปี กลับชื่นชอบ ที่จะลงทุนในไทย เพราะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีมากๆ เมื่อเทียบกับ ประเทศเกิดใหม่ แถบ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นนี้ โดย 1 ในเหตุผลของเขาคือ ปัญหา การเมืองไทยที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหาที่กระทบกับโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะยาว ดังนั้น หุ้นอาจจะลงสักพัก และ ใช้เวลาไม่นาน ก็สามารถปรับตัวขึ้นมาใหม่ได้ ขณะที่ ปัจจัยที่น่ากังวลมากๆ กลับเป็นวิกฤติเศรษฐกิจในระดับมหภาคมากกว่า นั่นแหละจะทำให้ตลาดหุ้นแย่มากๆได้ ของจริง
................

ดังนั้น เราจึงเห็นว่า ตลาดหุ้นไทย เป็นตลาดที่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับ ตลาดเพื่อนบ้านเสมอๆ ในช่วงวิกฤติการเมืองต่างๆ การพยายามศึกษา ว่า บริษัทที่เราลงทุน มีผลกระทบจากปัญหาการเมืองมากน้อย แค่ไหน ในระยะยาว จึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง เหตุการณ์ในอดีต อาจจะไม่ได้ยืนยันถึงผลในปัจจุบัน ผมเพียงแค่มาเล่าในสิ่งที่ได้เจอและอ่านมาเท่านั้นครับ

แนะนำเว็บไซค์สำหรับคนอยากมีบ้านหลังแรก และต้องการมองหาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

//www.topofliving.com/ (โดยนายแว่นธรรมดา เช่นเคยครับผม)