"อนาคตข้าวไทย ทำอย่างไรให้ยั่งยืน"
ปัญหาที่เกิดขึ้น ณ.ตอนนี้ ... น่าจะทำให้หลายคนมองเห็นข้อเสียของการทำนาแบบใช้สารเคมี... ว่าที่จริงแล้วการทำนา หรือทำการเกษตรก็คือการลงทุนรูปแบบหนึ่ง... อย่างไรก็ตาม... ผมฝันเห็นบ้านเราจะยกระดับการเกษตร... การปลูกข้าว จาก "ข้าวเคมี" ไปเป็น "ข้าวอินทรีย์" เพราะข้าวเคมีนั้นเป็น "ข้าวราคาถูก" คือขายได้จริงไม่ถึงตันละ 1.5 หมื่นบาทครับ ...
ผิดกับข้าวอินทรีย์ถือเป็นข้าวที่มี value สามารถขายได้ถึงตันละ 6 หมื่นบาท ทั้งที่ต้นทุนถูกกว่าข้าวเคมีมากมาย...
ให้ประเทศอื่นผลิตข้าวเคมีที่เป็นข้าวราคาถูกไปเถอะครับ อย่าไปแข่งกับเขาเลย ... หันมาปลูกข้าวอินทรีย์ที่มี value up สูงกว่ากันดีกว่าครับ... หากทำได้แบบนี้ก็ไม่ต้องมีโครงการทั้งจำนำ และประกันราคาข้าวครับ
ต้นทุนถูก ขายได้ราคา คนกินข้าวไม่มีสารเคมีตกค้าง คนขายข้าวก็ร่ำรวยอย่างยั่งยืน สิ่งแวดล้อมก็ไม่เสียหาย ทรัพยากรธรรมชาติก็อุดมสมบูรณ์...
ผมแอบชื่มชมคุณลุงท่านนี้ที่พลิกวิธีคิดใหม่ หันมาทำนาแบบปลอดสาร... ใครสนใจลองชมแนวทางเกษตรปลอดสาร "ชาวนาเงินล้าน" https://www.youtube.com/watch?v=B-l0g1lFGkE
ท่านใดเห็นด้วยกับแนวความคิดที่จะทำให้บ้านเราเป็นเกษตรปลอดสารพิษ ก็ช่วยกันเผยแพร่นะครับ เพราะเราไม่รู้ว่าดินที่อุดมสมบูรณ์ในบ้านเรานั้น... ถูกทับถมด้วยสารเคมีมานานแค่ไหนแล้ว ...
ถึงเวลาที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตเชิดชูอาชีพชาวนา และเกษตรกรบ้านเราเสียทีครับ
เห็นด้วยกับหลายๆ ท่านครับ ที่ไม่ควรโยนความรับผิดชอบออกไปให้คนอื่น...
แต่ตอนนี้เราคงต้องหาทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากันก่อน... (แบบที่คุณหมอเจ กำลังพยายามอยู่) และต้องไม่ลืมปัญหาระยะยาว...
ชาวนาโดนความโลภเข้าบดบัง... อยากได้เงินจากนโยบายมากๆ.. จึงทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย... ควรยกเลิกนโยบายที่ส่งเสริมให้เกิดความโลภบังตาแบบนี้เสีย... (รวมทั้งนโยบายอื่นๆ ด้วย)
หันมาทำนโยบายที่มีความยั่งยืนในระยะยาว จะดีกว่ามากๆ ครับ...
อย่าให้มีการคอรัปชั่น ถ้าระบบดีๆ ไม่มีที่จะโกงกิน... ป้องกันการ "ผูกขาดอำนาจทางการเมือง" นักกินเมืองที่ไม่ดีก็จะถอยหนีกันไปเอง... เพราะไม่มีที่ให้โกงกินอีกต่อไปแล้ว
และจะเป็นเรื่องดีของคนที่กำลังคอรัปชั่นอยู่ ณ.ตอนนี้ด้วยครับ อาจจะคิดได้ และกลับตัวเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ถือโอกาสถอยออกจากระบบที่ไม่ดี (พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส) มีความรู้ความสามารถ ทำเพื่อประเทศชาติ โดยไม่หวังผลตอบแทนอย่างบริสุทธิ์ใจ
ขอให้เรื่องราวผ่านพ้นไปด้วยดี... ไม่เกิดรุกลามไปเป็นวิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติหนี้สินล้มพ้นตัว บ้านเมืองกลับมาสงบสุขอีกครั้งครับ...
ผมคิดว่าไปไล่บี้เงินที่มีคนเอาข้าวประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์ และฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกลับมาก็เป็นอีกทางนะครับ คนที่ควรรับผิดชอบแบบเต็มๆ คือ คนที่ไปสวมสิทธิ์ชาวนาเอาข้าวไม่ดีมาเข้าโครงการครับ คนที่โกงเงินชาวนาไป นั้นบาปกรรม บนความทุกข์ยากของชาวนา โครงการนี้ใช้เงินไปหลายแสนล้าน ไม่แน่ใจว่าชาวนาได้จริงๆ เท่าไร... ชาวนาคิดว่านโยบายนี้จะมีไปตลอดก็ก่อหนี้สินเพิ่มขึ้น
และผมเข้าใจว่าควรยกเลิกโครงการนี้ไปครับ เพราะชาวนาหันมาปลูกข้าวกันเยอะเนื่องจากรัฐบอกว่าจะจ่ายเงินให้ครัวเรือนละสี่แสน ใครไม่มีที่นาก็ไปเช่า ไปกู้มาทำ ใส่สารเคมีเร่งข้าวโต ไม่รู้เอาเคมีมาถมนาไปเท่าไร ทำลายวิถีชาวนาที่เคารพธรรมชาติ คนกินข้าวก็อันตรายมีแต่สารเคมี เจ็บป่วย มะเร็ง ข้าวออกมาเยอะก็ล้นตลาด ราคาก็ตกต่ำ ทรัพยากรก็ถูกใช้อย่างไม่เคยมีมาก่อน เคมี ดินเสีย แย่งน้ำกันใช้ แล้ง
หันมาปลูกข้าวอินทรีย์ ทำเกษตรสวนผสมตามแนวทางในหลวง ข้าวอินทรีย์ต้นทุนต่ำ เก็บไว้กินเอง เหลือค่อยนำไปขาย แบ่งที่นาไปปลูกผักสวนครัว เลี้ยงปลา ไม่ต้องไปรอนโยบายรัฐ พึ่งตนเอง คือหนทางรอดอย่างยั่งยืนของเกษตรไทยครับ
"ผู้ที่มองเห็นความผิดพลาดของตนเอง รับผิดชอบในการกระทำ ย่อมก้าวไปข้างหน้าได้นะครับ"
ลองพิจารณาดูครับ
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2557 |
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2557 10:33:20 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1129 Pageviews. |
|
|
ขอแนะนำเว็บเกี่ยวกับอาชีพ ธุรกิจ แฟรนไชส์ ครับ
เว็บ SMELeader.Com