วันศุกร์ ... วันสุดสัปดาห์ของตลาดหุ้น พรุ่งนี้วันเสาร์ตลาดหุ้นก็จะปิดทำการ และเปิดใหม่อีกทีวันจันทร์ ... ผมสัญญากับตัวเองว่าจะพยายามเขียนบันทึก เล่าประสบการณ์ลงทุนหุ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาให้ได้ทุกๆ วัน (แต่ความจริงอาจไม่ทุกวัน) เอาเป็นว่า "จะพยายาม" (บอกตัวเอง) ให้ได้ครับ ...

เมื่อวานเป็นวันแรกที่ผมเริ่มต้นเขียนบันทึกการลงทุนหุ้น ใช้ชื่อตอนว่า ... "เริ่มนับหนึ่งใหม่" ทั้งที่จริงแล้วผมเริ่มเล่นหุ้นมาตั้งแต่ปี 2009 แล้ว แต่ผมอยากได้ความรู้สึกเหมือนเริ่มต้นใหม่กลับมาอีกครั้ง เลยตั้งความรู้สึกใหม่ และเริ่มนับหนึ่งใหม่จริงๆ สำหรับชีวิตการลงทุนหุ้นของผมเอง ...

ผมอยากบอกเล่ากลยุทธ์ที่ผมใช้ได้ผลดีกับหุ้นตัวหนึ่ง หุ้นตัวนั้นก็คือ หุ้นรถไฟฟ้า ผมใช้กลยุทธ์โดยได้ร่างแผนที่สามารถใช้ได้ทั้งปีกับหุ้นตัวนี้ และดำเนินการตามแผนนี้มานานเกินสามปีแล้ว ... ผลลัพธ์ก็คือ ทั้งส่วนต่างราคาหุ้น และเงินปันผล มันเปลี่ยนชีวิตของผมได้เลยทีเดียว ...

ผมเริ่มซื้อหุ้นตัวนี้ตอนที่มันยังดูแย่ เมื่อกว่าสามปีที่ผ่านมาได้ ตอนนั้นชื่อหุ้น bmcl และราคาก็ต่ำบาท ผมเก็บสะสมมาเรื่อยๆ ท่ามกลางคำพูดเสียดแทงใจของคนรอบข้าง ที่บอกว่าหุ้นตัวนี้ไม่มีอนาคตเลย ผมเก็บมาเรื่อยๆ จนทุนผมอยู่ที่บาทกว่าๆ ...

ความตั้งใจในตอนนั้นผมอยากใช้แผนที่ใช้ได้ทุกๆ ปี กับหุ้นเพียงหนึ่งตัว ... ด้วยการกำหนดแบบนี้ทำให้ผมต้อง "คิดหนัก" คือ ทำการบ้านอย่างหนักก่อนเลือกหุ้นมาลงทุน เพราะ กะ จะถือยาว ไม่ได้คิดเล่นสั้นแต่อย่างใด และผมก็มาลงที่หุ้น bmcl (ในตอนนั้น)

ปัจจุบันหุ้นตัวนี้ควบรวมกับหุ้นทางด่วน เปลี่ยนชื่อใหม่เก๋ไก๋ สไลด์เดอร์ มากๆ เปลี่ยนชื่อเป็น BEM ชื่อมันฟังดูเท่ห์เกินไป จนผมกังวลใจเหมือนกันครับ ... เพราะ "ปีเตอร์ ลินซ์" นักลงทุนชื่อก้องโลก แกบอกว่า อย่าเล่นหุ้นที่มีชื่อฟังดูเท่ห์ๆ เกินไป ... แต่เอาเถอะครับ ... ผมยังคงถือมันต่อไปนั่นแหละ ...

เมื่อวานมีเรื่องที่ทำให้ผมลังเลเกือบออกจากแผนที่วางไว้เล็กน้อย ... เพราะผมเหลือบไปเห็นหุ้นฟิลม์พลาสติกตัวหนึ่งกำลังจะขึ้น ... คำว่ากำลังจะขึ้นในความหมายของผมคือ ผมมโนเอา บวกกับวิเคราะห์สถานะการณ์ปัจจุบันนะครับ ... มีแว๊บหนึ่งผมคิดจะขายหุ้น bem ทั้งหมดไปซื้อเลยทีเดียว ซึ่งนั่นจะทำให้พอร์ตผมมีหุ้นวัฏจักรแทบทั้งหมดพอร์ต เพราะตัวที่ผมมีอยู่อันได้แก่ หุ้นทูน่ากระป๋อง หุ้นเดินเรือ และหุ้นโรงกลั่น ... ผมเกือบจะเหยียบคันเร่งมิดเลย ... และเป็นการออกนอกแผนที่วางไว้เสียด้วย ...

แต่โชคดีที่ผมไม่ได้ทำมันลงไป หมายถึงไม่ได้ตัดสินใจออกนอกแผนโดยไม่จำเป็น ผมคิดว่าผมยังคงอยู่บนแผนเดิมต่อไป และจะประเมินแผนนี้อีกทีปลายปี ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้น อาจเปลี่ยนแผนก็ได้ ... เพราะผมเองมีแผนสำรองอยู่เหมือนกันครับ ...

วันนี้เอาแค่นี้ก่อน ... ผมจะมาเขียนบันทึกเรื่อยๆ ใครใคร่อ่านก็ติดตามกันได้ ผมจะเขียนแบบชิวๆ ไม่มีหลักการอะไรให้ปวดหมอง และจะเขียนตามใจตัวเองนะครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยล่วงหน้าไว้เลยครับ ...