Group Blog All Blog
|
บทวิพากษ์ระบอบประชาธิปไตยไทย(3) ความหลงผิดคิดว่าการศึกษาในปัจจุบันจะแก้ปัญหาซื้อเสียงได้ (3) : มีคำพูดกล่าวกันโดยทั่วไปว่า นอกจากปัญหาการขาดคุณธรรม ของนักการเมืองแล้ว การเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมนั้น เกิดขึ้นเพราะความไร้การศึกษาของประชาชน โดยเฉพาะประชาชนในชนบท คำพูดเช่นนี้ ดูเหมือนจะแสดงความไม่รู้ของผู้พูด และก่อให้เกิดความเข้าใจผิดแก่คนอื่น อยู่เป็นอันมาก หลายคนมีความเข้าใจว่า การให้การศึกษาในแบบปัจจุบันแก่คนไทยนั้น จะมีส่วนผลักดันให้เกิดการพัฒนาประชาธิปไตย ต้องย้ำก่อนว่า หมายถึงการศึกษาในแบบปัจจุบัน ซึ่งคำถามคือว่าอะไรคือความหมายของการศึกษาแบบปัจจุบัน ที่เราพูดถึงกันทุกวันนี้ และจะถือว่าเป็นการศึกษาที่จะสนองตอบ ต่อกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยได้หรือไม่ เพราะหากคำว่าการศึกษา หมายถึงความรู้ ดังตัวอย่างที่จะกล่าวดังต่อไปนี้ เช่นได้แก่ นักศึกษาผู้หนึ่ง ถูกสอนให้จดจำจำนวนนับที่เป็นตัวเลข ว่านี่คือเลข 1 นี่คือเลข 2 และถ้า 1 บวกกับ 2 จะได้เท่ากับ 3 หรือเช่นว่า น้ำประกอบด้วยไฮโดรเจนรวม กับออกซิเจน, ประเทศไทย มี 76 จังหวัด , นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของไทยคือ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นต้น ถ้าสอนให้จำได้และสอบได้ เพียงเท่านี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่า การศึกษาที่เราพูดถึงกันทุกวันนี้ สอนให้ทราบแค่ว่า สิ่งนั้นเรียกว่าอะไร สิ่งนี้เรียกว่าอะไร เชื่อว่าหลายท่านที่มีอายุหน่อย คงเคยทำข้อสอบประเภทที่ถามว่า ภูเขาสันกาลาคีรี กั้นระหว่างประเทศไทยกับประเทศอะไร ซึ่งนี่เป็นการศึกษาแบบท่องจำ เป็นการท่องจำเพื่อจะได้จดจำได้ว่าอะไร เรียกว่าอะไร อันเป็นหนึ่งในกระบวนการที่เรียกกันว่า ขันธ์ห้า ในหลักของศาสนาพุทธ ที่กล่าวว่าเป็นเพียงแค่ สัญญา(contract)อันหนึ่งเท่านั้น ยังไม่ใช่ทางที่จะนำไปสู่ปัญญา หรือมรรคมีองค์ 8 เลย เราจำเป็นต้องทราบวว่าการรู้จักแค่ภาษา นั้นไม่จำเป็นจะต้องพลอยรู้จักปัญญาไปด้วย ดังนั้น ควรกล่าวได้ว่าการศึกษาในแบบของปัจจุบัน ยังไม่สามารถสนองตอบต่อ การแก้ปัญหาการซื้อเสียงเลือกตั้งได้ อนึ่ง โดยธรรมชาติของภาษานั้น จะต้องตระหนักกันไว้ว่า ย่อมสัมพันธ์กับปัญหาในการงาน วิถีชีวิตของคน การใช้ภาษาในการเลือกตั้งของคนชนบท จึงย่อมแตกต่างจากการใช้ภาษาเลือกตั้งของคนในเมือง สภาพพื้นที่ สิ่งแวดล้อม ทำให้คนเรามีทิฐิ(การมองเห็นจากข้างใน)เห็นต่างกัน แต่การมีการศึกษา หรือไม่มีการศึกษาในแบบปัจจุบัน คงจะนำมาวัดไม่ได้ว่า ใครโง่หรือฉลาดกว่าใคร เพราะการศึกษาในปัจจุบันนี้ ดูเหมือนจะเป็นการศึกษา เพื่อมุ่งเน้นสร้างอาชีพเท่านั้น ไม่ได้มุ่งเน้นเพื่อสร้างวิธีคิด เพื่อนำไปสู่ปัญญา นักการเมืองหลายคนได้ฝากความหวังของการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย ไว้กับการศึกษาแบบนี้ ทั้งที่จริงแล้ว ถ้าเราเข้าใจคำว่าการศึกษาที่แท้แล้ว เราจะไม่สรุปอย่างนั้นเลย อันที่จริงคนเรามีความสามารถที่จะคิด คำนึง คำนวณเป็นทุนเดิมมาตั้งแต่เกิด ปราชญ์ทั้งหลายกล่าวว่าทุกคนมีธาตุรู้ในตัวเอง ดังนั้น คำว่าปัญญากับ การศึกษาแบบท่องจำ ในความหมายปัจจุบันนั้นจึงแตกต่างกันยิ่ง การศึกษาที่มุ่งเน้นการสอนแต่ทักษะในการประกอบอาชีพ แต่ไม่ได้สอนให้รู้จักตัวเอง ไม่ได้สอน และอบรม ให้รู้จักความดี ความงาม ความถูกต้อง และเหมาะสมในการดำเนินชีวิต ก็ย่อมเป็นการศึกษาที่ไม่มีประโยชน์ และไม่ใช่การศึกษาที่สมบูรณ์. ดังนั้นการที่บอกว่า การเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมนั้น เกิดขึ้นเพราะความไร้การศึกษาของประชาชนนั้น เห็นทีจะไม่ใช่คำพูดที่ถูกต้องนัก ควรจะกล่าวว่าเป็นความฉลาดของประชาชนด้วยซ้ำไป ที่รู้จักเลือก ว่าต้องแก้ปัญหาของตัวเองให้รอดเสียก่อน ก่อนที่จะไปแก้ปัญหาประเทศชาติ เพราะปัจจุบันนี้จะว่าไปแล้ว รัฐเองก็มักจะไม่สามารถบำบัดทุกข์ของประชาชนได้ เพราะทุกข์ สุข เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล รัฐทำได้อย่างมากก็บำรุงสุข ส่วนจะสุขหรือทุกข์ อยู่ที่ตัวประชาชนเอง ดังนั้น การที่ประชาชนผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าไม่มีการศึกษา ได้ตัดสินใจ ทำสิ่งที่ใกล้ตัว ให้ดี มีประโยชน์ที่มองเห็นจับต้องได้ เหมาะสมกับปัญหาของตัวเอง ย่อมเป็นวิธีที่ถูกต้องตามครรลองของวิถีชาวบ้านอันเป็นปกติ
|
เนื่อง มาจากเหตุ
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] |
||||||||||||
