เมษายน 2554

 
 
 
 
 
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
สาเหตุที่โลกเปลี่ยนแปลงไป ... โลกที่เราไม่เคยรู้จัก
ก่อนอื่นผมต้องขอออกตัวว่า บทความนี้ เป็นบทความเดิม ที่ผมเคยเขียนไว้ เมื่อปี 2553
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ แผ่นดินไหว ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อกลางเดือนมีนาคม 2554 ที่ผ่านมา และเหตุการณ์สภาพอากาศที่แปรปรวน ในะยะ 2-3 วันมานี้ ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจ ที่จะนำบทความเดิม มาปรับ เขียนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป อีกครั้ง บทความนี้ถือว่าเป็นจินตนาการ และความเชื่อส่วนตัว เกี่ยวกับสาเหตุการเกิดแผ่นดินไหว..โดยที่ไม่จำเป้นต้องมีฐานความรู้เดิม มารองรับแต่ประการใด

จินตนาการและความเชื่อของผมนี้ เกิดขึ้นได้จากหลักคิด ของไอน์สไตย์ ที่กล่าวไว้ว่า "จินตนาการ สำคัญกว่าความรู้" ครับ

ดังนั้นผมจึงมีสมมุติฐานส่วนตัว ที่จะแลกเปลี่ยน ความคิดเห็น และจินตนาการของผม กับหลายๆ ท่านที่ให้ความสนใจ เกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงของโลกเราในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพของอากาศ ปัญหาโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลาย สึนามิ และที่สำคัญคือผมเชื่อว่า "มนุษย์เราทุกมีวิญญาณของคนขี้สงสัย และต้องการหาคำตอบครับ"

เรื่องของเรื่อง มีอยู่ว่า ผมมักจะมีเวลาครุ่นคิด อยู่หลายๆครั้งว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อม หรือปัญหาเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ มันเกิดขึ้นเพราะอะไร กันแน่ อยู่ๆ มันก็เกิดขึ้น โดยไม่มีเหตุ มีผล หรือว่าจริงๆ แล้ว คนทำให้มันเกิดขึ้น

แต่ก่อนที่ผมจะนำผู้อ่าน เข้าสู่เรื่องข้างต้น ผมอยากจะเกริ่นนำ เข้าเรื่องนิดหนึ่งว่า เมื่้อไม่นานมานี้ ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน ได้ไปเห็น แผ่นดินแยก ออกจากกัน ความยาวประมาณ 200-300 เมตร (หมู่บ้านแพมกลาง ก่อนถึง อ.ปายประมาณ 5 กม.) ความลึกประมาณ 10 -15 เมตร มองดูเป็นเหวลึก น่าหวาดเสียวเลย ก็ว่าได้ ชาวบ้านแถวนั้น เกิดความสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นบนผืนดินของ พวกเขา

หลังจากขึ้นไปอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ลูกนั้น ผมได้มองไปโดยรอบๆ โดยเฉพาะในบริเวณใกล้ๆ ห่างประมาณ 500 เมตร ก็ได้พบว่า ลักษณะของเนินเขาเตี้ยๆ ที่ทำให้เกิดรอยแยก อยู่นั้น อยู่สูงกว่า บ่อน้ำที่ขุดใหม่ๆ บ่อหนึ่ง ประมาณ 100 เมตร โดยบ่อน้ำที่ว่านั้นมีขนาด 200 x 100 เมตร
ในที่สุดผมจึงสันนิษฐานว่า โดยลักษณะทางกายภาพเช่นนี้ คงจะ มีการถ่ายแรงจากด้านบน สู่ด้านล่าง โดยปกติ แต่พอมีการขุดบ่อน้ำ ทำให้เกิดการเสียสมดุลย์ เพราะฐานล่างถูกเจาะไป จึงทำให้เกิด การไถล การแยกของดิน ในส่วนเนินเขาด้านบนเกิดขึ้น พูดง่ายๆ ตัวเนินเขา มันไม่ได้ตั้งอยู่เฉยๆ แต่มันมีน้ำหนัก มีแรงกระทำ ต่อกัน และกัน และต่อพื้นดิน ด้านล่าง ด้านข้างด้วย

นั่นคือโมเดล ทางกายภาพ ที่ผมจะนำท่านไปสู่สมมุติฐาน ที่ใหญ่ขึ้น

และทีนี้ ผมจะลองใช้โมเดล เดียวกันนี้ มาลองตั้งสมมุติฐานลักษณะเดียวกัน ในเชิงภาพกว้างของโลกเรา

ก่อนอื่นให้ท่านผู้อ่านลองสมมุติว่า ขณะนี้ตัวท่านเองหลุดออกไป นอกโลก อยู่บนอวกาศ และมองกลับที่โลก

ท่านลองพิจารณาว่า ปกติ น้ำย่อมไหล จากที่สูง ลงสู่ที่ต่ำ เสมอ

แม่น้ำทุกสาย ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ไหลจากพื้นแผ่นดินใหญ่ ลงสู่ทะเล

แต่ ท่านทราบหรือไม่ว่า ที่ประเทศจีน ได้มีการสร้างเขื่อนทั้งขนาดใหญ่และเล็กมากกว่า 20,000 เขื่อน เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และเพื่อการชลประทาน ใช้ในประเทศ

เขื่อนเหล่านี้ ได้เก็บกักน้ำไว้ มหาศาล น้ำที่เคยไหลจากที่สูงลงสู่ทะเล ได้ถูกเก็บกักไว้ บนเขื่อน จึงทำให้เกิดแรงกดทับ ลงในเปลือกโลกมหาศาล แถวประเทศจีน และส่งผลต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย (คือมันไม่ได้ อยู่เฉยๆ แต่มันมีแรงกระทำต่อพื้นดิน พื้นโลก)

พฤติการณ์ การสร้างเขื่อนเช่นนี้ผม เรียกว่า เป็น การแทรกแซงการเคลื่อนย้าย มวลสารบนโลก ที่เคยเป็นปกติ (ไม่รวมปรากฎการณ์ เรือนกระจก)

จริงๆ แล้ว โลกมันก็มีน้ำหนัก ในตัวเอง (ไม่รู้ว่ามันหนักเท่าไหร่ พูดติดตลกเพราะยังไม่มีใคร ชั่งน้ำหนักโลกได้ ใครรู้โปรดบอกผมด้วย) สิ่งใดที่มีน้ำหนัก ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เสมอไป พื้นดิน ภูเขาและน้ำบนโลกนี้ มันมีน้ำหนักในตัวเอง น้ำหนักนั้นเกิดขึ้นจากแรงดึงดูดของโลก ที่นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ที่แกนโลกมันมีแม่เหล็ก แต่ผมเชื่อว่า ที่โลกมีแรงดึงดูดนั้น เป็นเพราะการหมุนรอบตัวเอง ขณะที่หมุนรอบดวงอาทิตย์ไปพร้อมกัน

ที่นี้ ผมก็เชื่อว่าไม่มีทางเลย ที่ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้จะไม่เกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกัน โลกมันเปลี่ยนตลอด ส่วนใหญ่ เพราะคนทำให้มันเปลี่ยน และมันอาจจะเปลี่ยนตัวเอง ตามกฎของการวิวัฒนาการ และการใช้ หรือกินตัวของมันเอง
สำหรับการเปลี่ยนโดยคน การเจาะทำลายภูเขา หลายนับร้อย นับพันลูก ในประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย เพื่อเคลื่อนย้าย ปรับเปลี่ยนรูป นำมาผลิตปูนซีเมนส์ และนำไปก่อสร้างตึกสูงขึ้น มากมาย ทั้งในประเทศจีน และในกรุงเทพฯ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลางบางส่วน

สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายมวลสาร ของโลก จากที่หนึ่ง ไปสู่ที่หนึ่ง ทำให้โลกอาจะเกิดความไม่สมดุลย์ เพราะว่าแรงกดต่อพื้นผิวโลกโลก ได้เปลี่ยนไป และรูปร่าง สัณฐานของโลกได้เปลี่ยนแปลงไปด้วย ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่า เมื่อมีการเคลื่อนย้ายมวลสารของโลก อาจจะส่งต่อการเปลี่ยนแปลงวงโคจรของโลก ที่หมุนรอบดวงอาทิตย์ ส่งผลทำให้แกนของโลกเอียง เพิ่ม หรือลดก็ได้ หรือไม่ก็อาจจะทำให้ โลกเปลี่ยนแปลงองศา ที่หันเข้าหาดวงอาทิตย์ 23.5 องศา และมันจะเป็นไปได้หรือไม่ว่า ปัจจุบัน การเคลื่อนย้ายมวลสารของโลกนี้ ได้ทำให้ฤดูกาลต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปด้วย

จากสมมุติฐานข้างต้น จึงทำให้ผมเกิดสงสัยว่า ไม่แน่ว่า.. เหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้เกิดสึนามิ ที่ทำให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ในภูมิภาคเอเชียของเรา ทั้งในปี 2547 และ 2554 ที่ญี่ปุ่น เมื่อไม่นานมานี้ ที่นักวิทยาศาสตร์ บอกว่าเกิดขึ้น เพราะการเลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก ในแนว เส้นลองติจูด ที่ลากจาก จีนตอนใต้ ผ่านประเทศพม่า ผ่านด้านทิศตะวันตกของไทย (ระนอง) นั้น ปฐมเหตุจริงๆ ก็อาจจะเกิดขึ้นจาก การเปลี่นแปลง การแทรกแซง การเคลื่อนย้ายมวลสารโดยปกติของโลก เช่นนี้ ก็เป็นได้.....

นี่จินตนาการ ส่วนตัวของผมเอง... ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ได้ แต่ผมขอแนะนำให้จับตาดู ต่อไป แต่ผมเชื่อว่าปัจจุบันนี้ โลก มันไม่ใช่โลกที่เราเคยรู้จักอีกต่อไป.

ปล.ตอนนี้ท่านกลับจากอวกาศ ลงมาสู่โลกได้แล้วครับ.




Create Date : 01 เมษายน 2554
Last Update : 1 เมษายน 2554 4:48:10 น.
Counter : 2435 Pageviews.

3 comments
  
แหม...น่าคิดจริงๆ ครับ อะไรที่เสียสมดุลไป มันจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นไม่มากก็น้อย เป็นหลักการธรรมดาอยู่แล้ว...เห็นด้วยครับ....
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 2 เมษายน 2554 เวลา:22:11:29 น.
  
เห็นด้วยครับที่ นน โลกเปลี่ยนส่งผลต่อเปลือกโลกที่เคลื่อนตัว แต่ นน เขื่อนอาจจะมีผลน้อยที่ต่างจาก นน น้ำแข็งที่ละลายลงมหาสมุทรทั่วโลกจากปรากฎการณ์ โลกร้อน ที่ส่งผลต่อสมดุลย์การหมุนโลกและส่งผลกระทบในการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก
โดย: คนที่อ่านข้อมูล ดร.อาจอง IP: 180.180.66.232 วันที่: 30 เมษายน 2555 เวลา:21:42:53 น.
  
ก็น่าคิดอยู่เหมือนกันนะ เขียนดีด้วย^^
โดย: ฟองเต้าหู้ IP: 49.231.99.21 วันที่: 5 สิงหาคม 2556 เวลา:16:01:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เนื่อง มาจากเหตุ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]