Group Blog
กล้วยไม้ในป่าไทย
Thai native orchid profiles
โลกสีเขียว
ถอดความ
GMOs
เล่าเรื่องจากภาพถ่าย
Portfolio
Film addicted
Half frame
เรื่องเมืองไทย
ขายกลัวยไม้
<<
มกราคม 2549
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
6 มกราคม 2549
สวะในลำน้ำ
All Blogs
หายนะ "ปาล์มน้ำมัน"
ผักอินทรีย์ ผักปลอดสาร ผักไฮโดรโปนิกส์
แหนแดงกับการตรึงไนโตรเจนของพืช
ยูเรีย
ศิลาแลง
ที่มาของชื่อ อ.บางน้ำเปรี้ยว
พิษของสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชและวัตถุอันตรายทางการเกษตร
ครัวโลก
เกษตรกรรมไทย
ชื่อพืช
เครื่องปลูกรองเท้านารี
รองเท้านารีสำหรับมือใหม่
การสะสมเกลือในเครื่องปลูก
ไฟไหม้ฟาง
มะพร้าว .... ร่วง
บทอวสานของพริกไทยแท้????
ลำไย
มันส์ (มันเติม S)
น้ำส้มควันไม้
เกษตรอินทรีย์
ผลไม้ ... สักผลมั้ย
เพาะเมล็ดกล้วยไม้ด้วยตัวเอง
เรื่องกล้วย เรื่องยาก
กล้วยไม้ป่า
ประโยชน์ของวัชพืช
การอนุบาลลูกกล้วยไม้ด้วยเทคนิค Air humid confinement
ม็อบสีเขียว
ธรรมชาติพยากรณ์
หนามปาล์ม
ราปฏิปักษ์
ข้าวแพง
แสงกับการเจริญเติบโตของพืช
พิษภัยของไนเตรท
pH กับการปลดปล่อยธาตุอาหาร
วิธีผสมพันธุ์กล้วยไม้ (เรียนจากภาพ)
เคียว
พื้นฐานการปรับปรุงพันธุ์พืช (ตอนที่ 4 และ 5)
พื้นฐานการปรับปรุงพันธุ์พืช (ตอนที่ 3)
พื้นฐานการปรับปรุงพันธุ์พืช (ตอนที่ 2)
พื้นฐานการปรับปรุงพันธุ์พืช (ตอนแรก)
เรื่องร้อนๆ
ข้าวโพด : กับเรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้
pH ที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชบางชนิด
การให้ปุ๋ยทางใบกับพืช
ยาจี๊ด (ตอนจบ)
ยาจี๊ด (ตอนแรก)
โกโก้ ... เครื่องดื่มชั้นเทพ
อ้อยปิ้ง (ตอนจบ)
อ้อยปิ้ง (ตอนแรก)
จิบชาบนยอดดอย
TIB
ดินกับธาตุอาหารในดิน
พืชสวนโลก สดๆ ร้อนๆ (ภาพ)
พืชสวนโลก สดๆ ร้อนๆ (เรื่อง)
หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน
นาข้าวในกรุงเทพ
อยากลองเป็นสับปะรดดูสักที (ตอนที่ 3)
อยากลองเป็นสับปะรดดูสักที (ตอนที่ 2)
อยากลองเป็นสับปะรดดูสักที (ตอนที่ 1)
การลำเลียงน้ำและธาตุอาหารของพืช
คลอง 15
ผ.ผึ้ง ทำรัง
WASI
สวะในลำน้ำ
ตุ้มมะพร้าวเจี๊ยบ
2 วีรบุรุษทางชีววิทยา
สีสันของพืช
กระบวนการสังเคราะห์แสงของพืช
ไส้เดือน ... สัตว์มหัศจรรย์
สวะในลำน้ำ
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ครั้งในปีพุทธศักราช 2444 พระองค์ได้เสด็จประพาสอินโดนีเซีย ด้วยความสวยของดอกไม้น้ำชนิดนี้ เจ้านายในวังที่ได้ตามเสด็จประพาสก็ได้เก็บต้นมาปลูกในประเทศไทย โดยครั้งแรกนำมาลอยน้ำเลี้ยงในอ่างหน้าสนามวังสระปทุม ผักตบชวาขยายพันธุ์ได้ง่าย ชอบแสงแดดจัด ทำให้ปริมาณเพิ่มจำนวนมากขึ้น มีอยู่ปีหนึ่งที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ ผักตบชวาจะลอยลงลำคลองสาธารณะ จากนั้นก็ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ผักตบชวามีกลีบดอกนับได้ 6 กลีบ สีฟ้าอมน้ำเงินอมชมพู ออกดอกเป็นช่อตรงตั้งขึ้น มองดูคล้ายดอกไอริส (Iris) ออกดอกได้มากในช่วงฤดูหนาว
ครั้งหนึ่งสมัยที่ผมยังเป็นหนุ่มวัยกระเตาะ ตอนนั้นละครเรื่องมนต์รักลูกทุ่งกำลังดังทางช่อง 7 สี อ้ายคล้าวพายเรือพลอดรักกับทองกวาวไปตามลำคลอง บางทีก็พุ่งหัวเรือเข้าฝั่งเพื่อให้ทองกวาวเก็บดอกโสนที่ขึ้นอยู่ริมตลิ่ง นั่นเป็นแรงดลใจให้ผมอยากหัดพายเรือ ผมตัดสินใจไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่จังหวัดอ่างทองในช่วงปิดเทอมกลางเดือนตุลาคม ฤดูน้ำหลากที่แม่น้ำเจ้าพระยารับน้ำฝนจากแม่น้ำสี่สายหลัก ปิง วัง ยม น่าน น้ำในคลองย่อยไม่ใสอย่างที่ผมนึก สีมันออกคล้ายชาเย็น และที่สำคัญผักตบชวาจำนวนมหาศาลไหลลงมาพร้อมกับสายน้ำทางภาคเหนือ เป็นอันว่าการเดินทางครั้งนั้นเจตนาหัดพายเรือของผมล้มเหลว เพราะผักตบชวาน้ำหนักเป็นหมื่นๆ ตัน ลอยแผ่จนเรือไม่สามารถสัญจรได้ มันเป็นปัญหาต่อการคมนาคมทางน้ำและการระบายน้ำอย่างมากในปัจจุบัน
การกำจัดผักตบนั้นทำได้ยากนัก ผมเคยเห็นคนล้อมกอผักตบชวาไว้ในน้ำ จากนั้นก็ใช้ยาฆ่าหญ้าพ่นให้มันแห้งตายไป เห็นแล้วน่าหดหู่ไม่น้อยเพราะเขาอาจลืมคิดไปว่าผลกระทบจากสารเคมีที่ปนเปื้อนลงไปในน้ำแล้วนั้นจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อห่วงโซ่อาหารได้บ้าง
ผักตบชวาอยู่ในวงศ์ Pontederiaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า
Eichhornia crassipes
ชื่อสามัญคือ Water hyacinth, Java weed แค่ชื่อก็บ่งบอกให้ทราบอยู่แล้วว่ามันเป็นวัชพืช และเป็นวัชพืชที่น่ากลัวมากด้วย เพราะมันมีความอดทนสูง สมบุกสมบันทุกสภาพดินฟ้าอากาศ ขึ้นได้ไม่เลือกแม้ว่าคุณภาพน้ำจะเป็นอย่างไร หากน้ำตื้นมันจะแทงรากแผ่ลงดินได้ ก้านใบที่พองคล้ายฟองน้ำ ทำให้มันลอยน้ำได้ ต้นผักตบชวาสดมีสัดส่วนของน้ำมากกว่า 90% คนโบราณกะแนะกะแหนว่ามันคือสวะ เพราะยังไม่รู้จะใช้ประโยชน์จากมันอย่างไรได้บ้างนอกจากการหั่นให้ละเอียดแล้วนำไปต้มแล้วคลุกกับหัวอาหารให้หมูกิน
ปัจจุบัน มีการนำผักตบชวาขึ้นมาสร้างมูลค่าเพิ่มโดยนำมาใช้ในงานหัตถกรรมต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการทำปุ๋ยหมักจากซากผักตบ หรือการใช้เลี้ยงสัตว์ ก้านใบของผักตบเมื่อนำไปตากแดดจนแห้งดีแล้วมีสัดส่วนของโปรตีนอยู่ถึงเกือบ 17% ทีเดียว นอกจากนี้ยังมีผลการศึกษาในการนำเศษผักตบไปใช้เป็นเชื้อเพลิงได้อีกด้วย หวังใจว่าในอนาคตผักตบชวาจะไม่ใช่สวะในสายตาเราๆ อีกต่อไป
Create Date : 06 มกราคม 2549
Last Update : 6 มกราคม 2549 6:47:08 น.
11 comments
Counter : 1617 Pageviews.
Share
Tweet
แวะมาเยือนถึงถิ่นครับน้า
โดย: ลุดวิก (
ลุดวิก
) วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:10:34:26 น.
ป้ามดไม่เคยมองข้ามผักตบชวาเลยค่ะ .. น้าโหด
โดย:
ป้ามด
วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:16:19:45 น.
hello
good story krab
โดย: jungle man IP: 203.162.3.154 วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:17:40:04 น.
อืม มีเรื่องให้อ่านเรื่อยเลยนะน้า ดีจัง
โดย: ลิงเล IP: 203.114.107.226 วันที่: 7 มกราคม 2549 เวลา:16:53:36 น.
มีเรื่องน่าสนใจมาให้อ่านประดับความรู้เสมอนะครับ
โดย: สำเภางาม IP: 202.5.84.228 วันที่: 7 มกราคม 2549 เวลา:23:03:38 น.
ชอบสีแบบนี้มากคะ และมาเก็บความรู้ใหม่ๆๆๆคะ
โดย: เอื้องโมก IP: 61.91.140.204 วันที่: 8 มกราคม 2549 เวลา:21:54:35 น.
สวะ ไม่ใช่สวะ อยู่แล้ว
โดย:
เสือจุ่น
วันที่: 9 มกราคม 2549 เวลา:14:58:53 น.
ยังไงๆก็ดูสวยค่ะ
สวะ ใช่ว่าจะไร้ค่าเสมอไปนะคะ
แถวบ้านเค้านำมาทำเครื่องสานจากผักตบชวาค่ะ
เป็นotopตามสมัยเลยนะคะ
โดย:
noojew
วันที่: 9 มกราคม 2549 เวลา:22:33:17 น.
ผักตบชวาลอยน้ำมาคำหล้าทนได้นะ .. ยังพอตีโป่งได้อยู่
แต่มีหนังยางลายน้ำมาอย่างในรูปไม่ชอบค่ะ..
พืชเป็นของขวัญจากธรรมชาติอยู่แล้ว .. อะไรที่มันไม่สะดวก เด๋วคนเราก็หายทางจัดการได้เองแหละ ..แต่สิ่งที่คนทำลายธรรมชาตินี่สิคะ .. อีกนานกว่าจะเยียวยา
โดย: คำหล้า IP: 61.90.105.78 วันที่: 12 มกราคม 2549 เวลา:1:11:50 น.
ที่จริงเขามีประโยชน์หลากหลายแต่เรายังไม่ค่อยจะรู้ครับ ตัวอย่างง่ายๆ ในสระน้ำที่เราขุดมานั้น น้ำจะขุ่นตลอด แต่ถ้าเราเอาเขามาเลี้ยงไว้ระยะหนึ่งน้ำจะใสมากครับ(ต้องเป็นน้ำนิ่ง) และอีกอย่างหนึ่ง เราปลูกต้นไม้ไว้แล้วลองเอาเขามาโปะที่โคนต้นก็ดีนะครับได้ทั้งความชื้นและปุ๊ยในภายหลังด้วยครับ
โดย: เจ้าพระยาสุราบาน IP: 203.151.33.220 วันที่: 12 มกราคม 2549 เวลา:16:16:17 น.
โดย:
Jannyfer
วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:15:06:35 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
น้าโหด
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add น้าโหด's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.