การอนุบาลลูกกล้วยไม้ด้วยเทคนิค Air humid confinement
ความสัมพันธ์ของอุณหภูมิ แสง และความชื้นสัมพัทธ์ มีส่วนเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน เช่นหากเพิ่มความเข้มแสงให้กับพืชมากขึ้น อุณหภูมิก็จะแปรผันตาม ความชื้นสัมพัทธ์ในบริเวณ microclimate ก็จะลดลง
ในโรงเรือนอนุบาลต้นกล้า ต้องแบ่งความต้องการความชื้นของพืชเป็น 2 ส่วน หนึ่งคือความชื้นในเครื่องปลูก (Moisture content) และสองคือความชื้นสัมพัทธ์หรือความชื้นในบรรยากาศ (Relative humidity) ซึ่งความชื้นทั้ง 2 ก็จะเย้าโยงกับการลำเลียงน้ำในต้นพืช เช่นหากความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ ต้นพืชจะคายน้ำออกสู่บรรยากาศได้มาก อัตราการลำเลียงน้ำจากเครื่องปลูกจะสูง หากเปรียบก็เหมือนคนอออกกำลังกายเสียเหงื่อไปในอากาศก็ต้องจำเป็นต้องดื่มน้ำเข้าไปทดแทนมากกว่าคนปกติ
นี่เองคือความจำเป็นที่ต้องพิจารณาความสมดุลระหว่างความชื้นในอากาศและความชื้นที่เครื่องปลูกให้อยู่ในภาวะที่เหมาะสม หากความชื้นทั้ง 2 มากเกินความพอดี พืชจะไม่มีการลำเลียงน้ำและธาตุอาหาร สุขภาพอ่อนแอ เสี่ยงต่อการเข้าทำลายของเชื้อโรค ในอีกทางหนึ่งคือถ้าความชื้นทั้ง 2 ต่ำกว่าความต้องการของพืช ต้นพืชจะสูญเสียน้ำไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งเหี่ยวและตายในที่สุด
พืชที่อยู่ในสภาพปลอดเชื้อในขวดอาหารวิทยาศาสตร์ได้รับการปรับสมดุลมาเป็นอย่างดี ขั้นตอนที่สำคัญในการนำออกจากขวดและทำให้คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ (Acclimatization) คือการรักษาสมดุลความชื้นให้เหมาะสม เช่นกล้วยไม้บางชนิดต้องการความชื้นสัมพัทธ์สูง หลังจากนำออกจากขวดแล้วอาจจำเป็นต้องนำเข้าไปอนุบาลภายในอุโมงค์ชื้น หรืออาจใช้ถุงพลาสติกใสปิดปากถุงให้แน่นเพื่อรักษาความชื้นเอาไว้ระยะหนึ่งก่อน เพื่อทำ RH confinement เมื่อต้นพืชเริ่มคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ จึงค่อยๆ เผยอถุงในเวลากลางคืนและปิดในเวลากลางวัน เพื่อทำให้พืชมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น (Hardening) อีกระยะจึงพร้อมย้ายปลูกในกระถางเดี่ยวได้
การย้าย Cymbidium โดยใช้สแฟรกนั่มมอสกับทรายเป็นเครื่องปลูก
Create Date : 10 พฤศจิกายน 2551 |
|
2 comments |
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2551 20:28:15 น. |
Counter : 3437 Pageviews. |
|
|
|