Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
25 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 

ถึงบ้านแย้ว

วันก่อนออกเดินทาง พ่อโม้เสียดิบดี "เด๋วจะตื่นตั้งแต่ตี้ห้า ออกไปลองสภาพถนน กะเติมน้ำมัน"
เจ็ดโมงเช้าก็แล้ว แม่ไปยืนกระแอมข้างเตียง พ่อยังไม่ขยับเร้ย

กว่าจะเอารถออกหน้าบ้านได้ก็เกือบแย่ พ่อขับไปถึงแค่สี่แยกโรงเรียนหน้าบ้าน ก็สำออยเสียแล้ว โทรสับเข้าบ้าน บอกแม่ให้เตรียมหาเบอร์ของ ชัตเตอร์บัสสนามบิน ไว้ได้เลย ใจจริงพ่อคงถอดใจ (ขี้เกียจ) ขับไปส่งลูกเมียสุดที่รักน่านแหละ คงกำลังสองจิตสองใจ ถึงได้ถามต่อว่า "ถ้าจะให้ฉันไปส่ง มรรคณิชาต้องพร้อมจะออกเดินทางในสิบนาทีนี้นะ" เหอ เหอ ม่ายต้องห่วงก่ะ ตอนพ่อออกไปนู๋ยังไม่ตื่น แต่แม่มีความสามารถพิเศษ (ซึ่งแม่ทู้กคนต้องมี) สามารถจัดการให้นู๋ตื่นขึ้นมา และนั่งโซ้ยอาหารเช้าได้อย่างรวดเร็ว (แม่จับนู๋ใส่เสื้อผ้าเตรียมไว้ตั้งกะมะวาน เอิ้กกก)

กลับเข้าบ้านปุ๊บ พ่อถามว่า "ตกลงเธอจะไปชัตเตอร์บัสใช่ไหม"
ดู๊...ถามงี้ได้ไงฟระ...
"อ้าว ยังไม่ได้หมุนเลย นึกว่าให้หาเบอร์รอไว้เฉยๆ ตกลงจะให้ไปชัตเตอร์บัส ชิมิก่ะ"
ก็แค่นั้นแหละ เราสองคนถึงได้นั่งรถมีพ่อขับให้สบายๆ

พ่อมีเวอร์เล็กน้อยตรงสี่แยกใกล้บ้าน แต่หลังจากนั้น ขึ้นไฮเวย์ได้ ทุกอย่างก็ชิลๆ มีทรายโรยไว้ตลอดทาง ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงจุดหมาย

ถึงสนามบินตั้งแต่แปดครึ่ง ถ้าเป็นเหตุการณ์ปกติ ถึงสนามบินแค่สิบโมงก็พอ ผู้คนมากมายโกลาหลอลหม่านกัน คิวรอยาวเหยียด มรรคณิชาตั้งคำถามที่ดีมั่กๆ นู๋ให้ข้อสังเกตว่า ทำไมแถวที่รอเป็นเส้นซิกแซก ไม่ใช่เส้นตรง

ที่แม่ประทับใจนู๋สุดๆ ก็ที่เราตกลงกันไว้แหละว่า ถึงตอนแม่เช็คอิน หรือต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ มรรคณิชาจะไม่พูดแทรกแซง ไม่ดึงยื้อยุดฉุกกระชากเรียกความสนใจ ซึ่งนู๋ทำตรงนี้ได้ดีมาก แถมยังทำหน้าที่ช่วยแม่ลากกระเป๋าแครี่ออนเกือบตลอดเส้นการเดินทาง

แม่สงสัยมั่กๆ ขณะเข้าคิวรอเช็คอิน ปกติจะต้องมีเจ้าหน้าที่มาเรียกผู้โดยสาร (โดยเฉพาะไฟลท์อินเตอร์) ให้ออกจากแถวมาเช็คอินได้ก่อน นี่ม่ายมีเลย เข้าแถวรอจนสิบโมงก่าๆ คิวของพวกเราก็มาถึงได้ครึ่งทาง แม่สังเกตเห็นหน้าจีนๆ ได้แยกแถวไปอีกช่อง เลยรีบแสล่นออกไปถาม ขอสิทธิพิเศษบ้าง ปรากฏว่าได้ผลคะ เค้าแยกพวกไฟลท์อินเตอร์ออกมา

สักพัก แถวก็มาถึงเคานเตอร์เช็คอิน แม่ได้ยินพวกผู้โดยสารที่เดินทางในประเทศส่งคำถามแสดงความไม่พอใจอย่างใหญ่หลวง ว่า ทำไมพวกไฟลท์อินเตอร์ตัดหน้าพวกเค้า... เจ้าหน้าที่เพียรพยายามบอกว่า ก็ไฟลท์ในประเทศถูกยกเลิกหมดอ่ะ (แล้วจะให้เรียกพวกคุณทำไมละฟระ)

เขินเล็กน้อย พาสปอร์ตแม่ยังเป็นรุ่นโบราณ ไม่ใช่อีพาสต์ปอร์ต ที่สามารถรูดปรึ๊ดๆ จัดการเช็คอินตัวเองได้ นี่ เลยต้องรบกวนเจ้าหน้าที่มาคีย์ช่วยเหลือ...ปรากฏว่า น้ำหนักกระเป๋าเราเกินไปโลครึ่ง.. เจ้าหน้าที่โหดดดมากกกก่ะ
"จะจ่ายห้าสิบดอลล่าร์ หรือจะเอาของออก"
กะเหรี่ยงอย่างแม่มีรึจะจ่าย เหอเหอ
พ่อหน้าบางมั่กๆ ยืนอายๆ ขณะแม่รื้อของ แม่หยิบของออกอย่างรวดเร็ว พ่อรับไปพร้อมกะบอกว่า เด๋วจะเมล์ส่งตามไปให้ แม่คิดในใจ ไม่ต้องหรอกย่ะ เด๋วจะยัดใส่แครี่ออน
ขณะเดียวกัน มีเจ้าหน้าที่อีกคนมาไล่ ไม่ให้เปิดกระเป๋าหน้าเคานเตอร์เช็คอิน ..อิอิ ห้ามช้าไปแล้วก่ะ ดิฉันจัดการเรียบร้อยแระ

เช็คอินเสร็จก็ไปเจอด่านตรวจ แถวยาววววว ไปไหนๆ ก็มีแต่แถวๆๆ แม้แต่ร้านอาหาร โดยเฉพาะพวกเบอร์เกอร์ แถวยาวขาดใจ
เราผ่านด่านตรวจไม่ยาก มรรคณิชาออกจะชอบด้วย ได้ถอดเสื้อ ถอดรองเท้า มีตกใจนิดโหน่ย ตอนเก็บข้าวของ นู๋กัวที่แม่ยืนห่างออกไป

พอเดินไปถึงเกท แม่รู้สึกแปลกๆ เพราะไม่เห็นเครื่องต่อที่งวง.. และแล้ว มหากาพย์แห่งการรอคอยก็เกิดขึ้น .. มีผู้โดยสารตกค้างจากวันก่อนๆ รอกันเต็มเกท .. เจ้าหน้าที่มีประกาศให้ผู้โดยสารของไฟลท์เราได้ใจชื้นว่า เครื่องของเราพร้อมแล้ว กัปตันและลูกเรือก็มาแล้ว ให้อดทนรอ... ไม่ได้บอกว่ารอนานแค่ไหน.. แม่ก็ไม่กล้าเขยื้อนไปไหน กลัวเค้าประกาศขึ้นเครื่องแล้วจะไม่ได้ยิน.. เอ้า ก็นั่งเล่นกะนู๋จนเลยเวลาบอร์ดดิ้ง แม่ถึงมั่นใจว่า สมควรพานู๋ออกไปหาอะไรหม่ำๆ มื้อกลางวัน... แม่ซื้อซุปอุด้งให้นู๋ จะได้อุ่นสบายท้อง ซึ่ง เป็นอะไรที่ม่ายอร่อยเอาเสียเลย.. อือม์ เอานะ.. หลังจากนั้นก็กลับไปเฝ้าเกทตามเดิม .. ผู้โดยสารที่นั่งรอนี่ รอกันจนจำหน้ากันได้.. อ้อ มีเรื่องตื่นเต้นนิดหน่อย เมื่อผู้โดยสารสองคนพยายามเดินเข้าไปในเกท ทำให้สัญญาณไซเรนดังลั่น.. แม่งี้ตกใจ นึกว่าผีซ้ำด้ามพลอย เจอเทอเรอลิสท์บุก 55 มรรคณิชาเสียอีก กลับบอกแม่ว่า "Mamy Calm down and Think"

สรุปรวบยอดสั้นนะ เอาเป็นว่า มาถึงสนามบินตั้งแต่แปดโมงกว่าๆ กว่าจะได้ขึ้นเครื่องก็หกโมงเย็นอ่ะคะ และที่ช้านี่ไม่ใช่เพราะหิมะตกหนักเลยนะ วันเดินทางที่สภาพอากาศค่อนข้างโปร่งเชียวแหละ แต่ ๆๆๆ ปัญหามีอยู่ว่า เจ้าหน้าที่สนามบินไม่มาทำงานกันซะเยอะ การทำงานเลยเชื่องช้าาาาา ถึงช้าาาสุดดดดดๆๆๆ
ขึ้นเครื่องได้มรรคณิชาก็หลับป็อกทันที ตื่นมามีโยเยเล็กน้อย ไม่สบายตัว แต่พออาหารมาเสริฟ ทุกอย่างก็ดีขึ้น ..ฟาดเรียบเลย.. แม่งี้ปลื้ม ไม่เสียของ เหอ เหอ จบจากอาหาร นู๋ก็ตั้งหน้าตั้งตาดูหนัง เครื่องนอร์ธเวสต์ดีตรงที่ มีจอพิเศษสำหรับผู้โดยสารแต่ละคน เลือกดูหนังที่ตัวเองชอบตามสบาย มีรายการหนังเยอะพอควร นู๋ก็ดูจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน พอแม่บังคับปิดปุ๊บ นู๋ก็ป็อกได้ทันทีเหมือนกัน
อยากจะบอกว่า ระยะเวลาเกือบสิบสองชั่วโมงบินผ่านไปสบายๆ สำหรับลูก แต่สำหรับแม่นั้น ลำบาก เพราะนู๋เล่นนอนเหยียดเต็มสองที่นั่ง แม่นั่งได้อยู่ครึ่งก้นเบี้ยวๆ เหนื่อยแสนจะเหนื่อย แต่หลับไม่ได้ เพราะเอวบิด

แน่นอน เครื่องดีเลย์ขนาดนี้ เราก็ต้องไปนอนค้างในโรงแรมที่ญี่ปุ่นหนึ่งคืน ปกติการดีเลย์เนื่องจากสภาวะอากาศ สายการบินจะไม่รับผิดชอบ แต่นอร์ธเวสต์ใจป้ำง่ะ ให้ห้องพักฟรีพร้อมอาหารสองมื้อ รถรับส่ง และแถมโทรศัพท์ทางไกลได้ 1 ครั้ง ไม่เกินสามนาที
เราเดินออกจากเครื่องแบบสดใส มองหาเคานเตอร์คอนเน็ตติ้งไฟลท์ไม่ยาก แม่รีบพานู๋จ้ำเอาจ้ำเอา เพราะจะได้ไม่ต้องรอคิวยาวๆ ไง ปรากฏว่า สายการบินออกตั๋วใหม่ให้แค่มรรคณิชา แม่ไม่มี เล่นเอาแม่ใจเสียเหมือนกัน แต่เจ้าหน้าที่เค้าดีนะ แก้ปัญหาให้ฉับไว ออกตั๋วใหม่ทันทีไม่มีบิดพลิ้ว แถมช่วยตีตราขอวีซ่าชั่วคราวให้แม่ด้วย
ออกตั๋วเสร็จก็เตรียมผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง แม่จ้ำๆ อีกตามเคย แม่นี่ ช่างแย่จริง ขนาดมรรคณิชาบอกว่า นู๋ตามไม่ทัน แม่ก็มัวแต่มุ่งมั่นจะไปคิวแรกๆ ให้ได้ ... พอเดินผ่านเสาใหญ่หน้าด่านตรวจ แม่เดินอ้อมไปทางซ้าย นู๋เดินสะเปะสะปะไปทางขวา แม่หันมาไม่เห็นก็ตกใจ รีบตะโกนเรียก มรรคณิชาก็ไม่ส่งเสียงตอบ ทีนี้ แม่ก็ตกใจ แต่แค่อึดใจเดียว แม่ก็ได้ยินเสียงนู๋ร้องเรียก หม่ามี้ๆๆ และนู๋ฉลาดมาก เดินอ้อมมาเจอแม่ได้ นู๋ร้องไห้โฮๆ แม่ต้องรีบกอดปลอบใจ "ขอโทษนะลูกนะ"
ด่านที่ญี่ปุ่นนี่ น่ารักคิกขุ เห็นนู๋ปุ๊บก็วิ่งเข้ามาทักทาย ชวนคุย ... ผ่านด่านได้อย่างรวดเร็ว
ออกมาถึงแม่มองหาเจ้าหน้าที่ของโรงแรม มิวายถามเจ้าหน้าที่ซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า ห้องพักฟรีนะ... แบบระแวงไง กลัวหลอกเอาแม่ลูกไปถึงไหนๆ แล้วเราจะไม่มีทางเลือก เพราะมันดึกแย้วอ่า แหะ แหะ..

เข้าถึงห้องพัก มรรคณิชาดีใจสุดๆ เราได้โรงแรมเรดิสัน ซึ่งเคยใช้บริการที่แคนาดามาก่อน มรรคณิชาเลยค่อนข้างคุ้นกะสภาพห้อง กดปุ่มโน่นนี่เล่นวุ่นวาย.. แม่ขอร้องให้นู๋ไปเป็นเพื่อนหม่ำๆ อาหารดีๆ อร่อยๆ แต่นู๋ไม่สน
แม่อิ่มแล้วก็พานู๋ขึ้นห้องอาบน้ำ มีปล่อยให้แช่น้ำร้อนเล่นสิบนาที อยากให้นู๋สบายตัว โชคดีที่แม่มีลางสังหรณ์ถึงได้ยัดเสื้อผ้าสแปร์ของนู๋ไว้ในกระเป๋าแครี่ออน มรรคณิชาเลยได้นอนแบบหอมๆ หลับสบายทันทีเชียวแหละ นู๋มีตื่นกลางดึกหนนึง ดอดมากดปุ่มต่างๆ ในห้องเล่น จนแม่ต้องทำเสียงเขียว ขู่ให้ไปนอน.. นู๋ก็มีลีลานะ ตื้อให้แม่ไปนอนด้วย แถมนอนแล้วมีเอามือเอาเท้ามา คอยเช็คว่าแม่อยู่ข้างๆ หรือเปล่า .. อ้อ ตอนเรียกให้เข้านอน นู๋จัดแจงพาตัวไปนอนที่พื้น เพราะนึกว่าจะเหมือนช่วงที่เราไปเที่ยวแคนาดากะครอบครัวอาเตี๋ย ตอนนั้น คนเยอะ แม่เลยจับนู๋นอนพื้น นู๋เลยนึกว่า งวดนี้ จะมีอาเตี๋ย ตั่วอี๊ เฮียโอ๋ตามมาสมทบละมั้ง ถึงได้เสียสละจะไปนอนพื้น..
แม่ไม่ได้นอนตามเคย นี่ละน๊า คนมีกรรม มีเตียงสบายๆ แล้วแท้ ๆ แต่ตามันค้าง .. ได้เวลาแม่ก็ปลุกนู๋ตื่น นู๋ตื่นแล้วสิ่งแรกที่นู๋ถามคือ "อาม่าอยู่ไหน" นู๋คงยังไม่เข้าใจ นึกว่าเราถึงเมืองไทยแล้ว 55

ไฟลท์ออกจากญี่ปุ่น เราได้เครื่องของทีจี.. ง่า แถวยาวเฟื้อยฟ้ายอีกแย้วอ่า เซ็งจัดๆ
เจ้าหน้าที่สนามบินที่ญี่ปุ่นเป็นอะไรที่คิกขุน่ารักมั่กๆ เสียอย่างเดียว ไม่รู้เธอคิดอะไรอยู่ เธอฟุ้งภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียว ผู้โดยสารที่ยืนรอแถวก็ทำหน้าเหรอหลา ไม่รู้ว่าเธอประกาศอะไร
ได้ตั๋วปุ๊บ แม่ก็พานู๋เข้าห้องน้ำๆ คิวยาวอีกอ่ะจ้า.. ที่ยาวนี่ไม่ใช่อะไร เพราะแต่ละคนคงเพลิดเพลินกะสารพัดปุ่มของชักโครกรุ่นนี้ แม่กะนู๋ยังช่วยกันเล่นมันส์ไปเลยเน๊อะ มีปุ่มเสียงเพลง ปุ่มกดน้ำ กะปุ่มอะไรอีกไม่รุ อ่านภาษาญีปุ่นไม่ออก ไม่กล้าลองมาก กลัวไอ้ที่ไหลทิ้งไปแล้วจะย้อนกลับมา 55
หน้าเกทของที่นี่ มีร้านค้ายั่วๆ เยอะแยะ โดยเฉพาะขนมญี่ปุ่น แม่งี้ ต้องสะกดใจแทบตาย เพราะรู้ว่า เค้ามาร์คอัพราคามากเกินไป อาศัยแพคเกจจิ้งสวยสะเด็ดก็จะมาหลอกเอาเงินเราไปเร๊อะ เชอะ
รอบนี้ เราได้ขึ้นเครื่องของการบินไทย ซึ่งใช้ที่นั่งแบบสามคน เราได้นั่งติดกะลุงคนนึง ฮื้อ เศร้ามากเลย เพราะตลอดไฟลท์นี้ ลุงคนนี้ แกไม่ปวดลุกไปเข้าห้องน้ำเลย แม่ต้อง เอ็กซ์คิ้วอัส หลายหนจนเกรงใจมากกก ตอนหลังเลยไม่พานู๋กลับที่นั่งแต่อาศัยนั่งที่นั่งท่อนกลางเอา มรรคณิชาก็คอยเฝ้าคุณลุงว่า เมื่อไหร่คุณลุงจะตื่นน๊า นู๋จะได้มุดกลับเข้าที่ของนู๋ ตลอดไฟลท์นี้ นู๋ร่าเริงสุดขีด แอร์ชวนคุยด้วยใหญ่ นู๋ก็ติดใจ อ้างกะแม่จะขอน้ำจากแอร์กินเสียหลายรอบ
แม่อดไม่ได้ที่ต้องถามนู๋ก่อนเครื่องลงจอด "ทำไมลูกแม่ร่าเริงหยั่งงี้ละค๊า" นู๋ฟังแล้วก็ยิ้มๆ เข้ามาซบแม่ แล้วก็แน่นิ่ง ... อ้าวหลับไปเฉยเลย ... เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก หลับแค่สิบห้านาทีตอนเครื่องลงเนียะนะ... ตื่นมานู๋ก็ออกฤทธิ์พิเศษอ่ะจิ... ไม่ยอมเดิน แม่ต้องแบขึ้นหลังแก่ๆ ของแม่ เดิน..ไกลมากกก... หลังแอ่นเลยจ้า

ขอบ่นนิดส์เหอะ ไอ้โทรศัพท์หลายๆ เครื่องที่อยู่แถวๆ ประตูที่ออกมาจากด่านศุลกากรอ่ะ ... ใช้ไม่เป็นวุ้ย กดอะไรไป ก็ไม่ถูกใจมันซ้ากกะที แถมไอ้เครื่องสีเงิน ยังรับประทานเหรียญไทยที่มีอยู่น้อยนิดไปเสียอีก สงสัยเครื่องพวกนี้ โดนบรรดาบู้ธบัตรโทรศัพท์ต่างๆ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามวางยาแน่ๆ

อี๊สาเอาคนขับรถมารับ มรรคณิชาตื่นเต้นกะแท็กซี่สีชมพู เหอะ เหอะ








 

Create Date : 25 ธันวาคม 2551
6 comments
Last Update : 26 ธันวาคม 2551 3:29:15 น.
Counter : 643 Pageviews.

 

 

โดย: CrackyDong 25 ธันวาคม 2551 6:53:37 น.  

 

 

โดย: แมวโหด 25 ธันวาคม 2551 8:22:55 น.  

 


มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

เมอร์รี่คริสต์มาส แอนด์แฮบปี้นิวเยียร์ครับ

กว่าจะผ่านด่านที่สนามบินได้แทบแย่เลยนะครับ

อิอิ

ปล. จะมาชวนนู๋มรรคณิชาไปเยี่ยมชม "น้องตุ้งแช่" ที่บล็อคของผมครับ

อิอิ

 

โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 25 ธันวาคม 2551 10:26:15 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: แค่ฟ้ามีดาว ^^ 25 ธันวาคม 2551 11:34:34 น.  

 

Happy Holidays ka

 

โดย: กิ่งไม้ไทย 25 ธันวาคม 2551 21:59:34 น.  

 


สุขสันต์วันคริสมาสต์และสวัสดีปีใหม่ค่ะ
ขอให้แม่น้องมรรคและครอบครัวมีความสุข
สดชื่น สมหวัง มีสุขภาพแข็งแรงๆ นะคะ

ปล.อ่านเพลินเลยค่ะ น้องมรรคน่ารักจริงๆ ค่ะ

 

โดย: แป๋วภูเก็ต 26 ธันวาคม 2551 13:32:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


มรรคณิชา
Location :
Sleepless in Seattle United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สวัสดีคะ
นู๋ชื่อ มรรคณิชา.... เรียกนู๋เต็ม ๆ นะคะ เพราะนู๋ไม่มีชื่อเล่นคะ ... อยากรู้จักนู๋ ก็ต้องตามไปช่วยอ่าน ช่วยคอมเม้นต์นะคะ แม่นู๋จะได้มีกำลังใจ
แก้ไขเพิ่มเติมคะ....
มีคุณน้า คุณพี่ หลายคนมักถามคุณแม่เสมอๆ ว่า "ชื่อของนู๋ แปลว่าอะไร"
บอกเลย ไม่เล่นตัว...อิอิ
มรรค มาจากคำว่า "มรรค 8" ในศาสนาพุทธไงคะ...คุณแม่คงอยากเห็นนู๋เป็นเด็กดี...แถมเวลาสะกดเป็นภาษาปะกิต คุณแม่ใช้ชื่อคุณพ่อสะกดซะเลย...งานนี้ คุณพ่อหน้าบานคะ
ส่วน ณิชา แปลว่า บริสุทธ์
พอมารวมกะ "มรรค" ชื่อนู๋เลยเก๋กู๊ดซ้า

แก้ไขเพิ่มเติม (อีก 5/29/2011)
แขกเค้ามีดาราหญิงชื่อ มานิชา คล้ายชื่อนู๋มากเลย แรกๆ แม่ก็ปลื้มหรอกนะ แต่หลังๆ ชักหวั่นไหว เพราะเพื่อนร่วมงานของพ่อชื่อนี้เปี๊ยบ เป็นตัวป่วนที่ทำคุณพ่อปรี๊ดส์บ่อยๆ

แม่พบว่า เด๋วนี้ เวลาเรียกมรรคณิชาเต็มๆ คือการทำเสียงเข้ม ในเหตุการณ์ปกติ แม่เรียกนู๋ ว่า "ลูก" "นู๋" หรือ ไม่ก็ "ชิชา" "ชา"
Friends' blogs
[Add มรรคณิชา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.