ตัวของเรา สไตล์ของเรา ทำไมต้องเหมือนใคร
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
25 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 

ไม้ Hinoki - มารู้จัก Hinoki และญาติพี่น้องให้มากขึ้นกันเถอะ

สวัสดีครับ
อัพบล๊อกครั้งนี้ที่จริงเป็นเรื่องที่ร่างเสร็จตั้งนานแล้วแต่ยังไม่มีเวลามาพิมพ์ซะทีช่วงนี้มีอะไรให้ทำ
เยอะมาก ทำแบบ multi-tasking จริงๆ จนรู้สึกว่าอยากให้ 1 วันมีสัก 48 ชั่วโมงจัง

เมื่อสัก 2-3 เดือนที่ผ่านมานี่เองผมได้เซิร์ช google ไปเจอเรื่องไม้ฮิโนกิที่ช่อง 7ทำออกมา ผมก็
ไม่ได้ดูตอนที่เรื่องนี้ออกอากาศหรอกครับ แต่ได้ดูเอาในเวบ...ก็พบว่ามีการนำเสนอข้อมูลที่ผิด
พลาดไปก็เลยเขียนตอนนี้ขึ้นมา

ผมไม่ได้มีเจตนาจะดิสเครดิตใคร เพียงแต่อยากให้ข้อมูลที่ถูกต้องเท่านั้นเองครับ

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าครั้งนี้ยาวครับ ผมพยามจะทำให้มันสั้นและอ่านได้ง่ายๆ แต่ก็ดูจะไม่ค่อย
ได้เพราะมันต้องอ้างอิงกับชื่อทางวิทยาศาสตร์อยู่พอประมาณแล้วก็ตัดเรื่องให้สั้นมากก็ไม่ได้อีก
เดี๋ยวจะยิ่งพาลเข้าใจผิดกันไปใหญ่ครับ

ว่าแล้วก็เข้าเรื่องเลยดีกว่า....



ตอนนี้หลายๆ คนก็คงจะรู้จักกับไม้ Hinoki กันไปพอสมควรแล้วนะครับ ว่ามันเป็นไม้สีอ่อนสวย
มีกลิ่นหอมแบบธรรมชาติจากน้ำมันในเนื้อไม้ ต้านฤทธิ์แบคทีเรียได้



Hinoki เป็นไม้สนไซเพรสพันธุ์ญี่ปุ่น ย้ำว่าเป็นพันธุ์ญี่ปุ่นนะครับ
มีชื่อสามัญว่า Japanese Cypress หรือ Hinoki Cypress และต้น Hinoki นี้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์
ว่า Chamaecyparis obtusa เขียนสั้นๆ ได้ว่า C. obtusa สายพันธุ์ในภาษาญี่ปุ่นคือ วงศ์ Hinoki
สกุล Hinoki สปีชีส์ Hinoki ครับ

ฮิโนกิเป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดที่ตอนกลางของญี่ปุ่น ขึ้นที่ระดับความสูงประมาณ 2000-2500 เมตร
และ Kiso Hinoki ที่ถือว่าเป็นไม้ Hinoki ระดับท้อปเกรดราคาสูงที่ได้จากหุบเขา Kiso ในจังหวัด
Nagano นั้นจะขึ้นที่ระดับความสูงประมาณ 2800-3100เมตร ต้นฮิโนกิจะขึ้นบนที่สูงอากาศเย็น
และความชื้นต่ำ ที่เรียกกันว่า Hinoki (Hinoki Cypress หรือ Japanese Cypress) นี้คือต้นที่มีชื่อ
ทางวิทยาศาสตร์ว่า Chamaecyparis obtusa เท่านั้น นอกเหนือจากนี้จะเรียกเป็นชื่ออื่นๆ ครับ



เนื้อหาที่ทางช่อง 7 เสนอไปบอกว่าฮิโนกิเป็นที่มีถิ่นกำเนิดในลาวขึ้นที่ความสูง 1400 เมตรขึ้น
ไปปัจจุบันมีเหลือน้อย....แต่จริงๆ แล้วขึ้นบนที่สูงกว่านั้นตามที่ได้อธิบายไว้แล้ว ส่วนที่บอกว่ามี
เหลือน้อยนั้น ที่จริงแล้ว Hinoki (C.obtusa) มีเหลือไม่น้อยนะครับเพราะในญี่ปุ่นเขาปลูกกัน
เป็นอุตสาหกรรม ตัดแล้วก็ปลูกทดแทนแถมยังมีการจำกัดปริมาณที่จะตัดด้วย ส่วนที่ทางช่อง 7
ได้เสนอไป นั่นก็เป็นไม้สนไซเพรสชนิดหนึ่งเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ต้นที่เรียกว่า Hinoki Cypress
หรือ Japanese Cypress มันเป็นได้ 2 ชนิด ชนิดแรกคือ Fujian Cypress ครับ มีชื่อทาง
วิทยาศาตร์ว่า Fokienia Hodginsii ชื่อและสายพันธุ์ในภาษาญี่ปุ่นคือ Fukken Hiba (อ่านว่า
ฟุคเค็นฮิบะ) อยู่ใน วงศ์ Hinoki สกุล Fukken Hiba สปีชีส์ Fukken Hiba เพราะว่าจริงๆ แล้ว
มันเป็นไม้พวกฮิบะครับไม่ใช่ฮิโนกิ (ต้นฮิบะคืออะไรเดี๋ยวจะพูดถึง) ส่วนที่คนเรียกกันว่า
Laos Hinoki หรือฮิโนกิลาวนั้นก็เป็นเหมือนกับชื่อเล่นที่เรียกกันทั่วไป และชนิดที่ 2 ก็คือ
Calocedrus macrolepis ซึ่งมีอยู่ทั้งในไทย ลาวและประเทศใกล้เคียงครับ



คนญี่ปุ่นมักจะเรียกไม้สนไซเพรสของต่างประเทศว่าฮิโนกิแม้ว่ามันจะไม่ใช่ฮิโนกิก็ตาม แต่จะ
มีการเติมชื่อกำกับลงไปด้วย เช่น Lawson Hinoki (Lawson's Cypress) แต่ถ้าเป็นชนิดที่ใบ
สั้นกว่าก็มักจะเรียกเป็นฮิบะถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ฮิบะ ก็เหมือนกับที่คนไทยเรียกหางนกยูงฝรั่ง
เพราะว่าภายนอกมันเหมือนกับต้นหางนกยูงของไทย โดยที่เติมคำว่า "ฝรั่ง" เข้าไปเพื่อบอกว่า
มันเป็นคนละพันธุ์กันแทนที่จะไปคิดชื่อใหม่ขึ้นมานั่นเองครับ

อย่างไรก็ตามไม้ Hiba ก็เป็นไม้ที่มีคุณสมบัติคล้ายกับ Hinoki ครับ และไม้ที่ใกล้เคียงกันกับ
Hinoki ยังมีอีกหลายชนิด เรามารู้จักกับมันดีกว่า


พูดถึงสายพันธุ์ของ Hinoki แล้วก็เป็นต้นไม้ที่อยู่ในสกุล Chamaecyparis และในสกุล
นี้ยังมีอีก 5 ชนิด คือ

- Chamaecyparis pisifera - สนซาวาระ หรือ Sawara Cypress
- Chamaecyparis taiwanensis - สนไซเพรสใต้หวัน หรือ Taiwan Cypress
- Chamaecyparis formosensis - สนฟอร์โมซาน หรือ Formosan Cypress
- Chamaecyparis lawsoniana - สนลอว์สัน หรือ Lawson's Cypress
- Chamaecyparis thyoides - สนไซเพรสขาว หรือ Atlantic White Cypress

รวมเป็น 6 สายพันธุ์

มารู้จักอันแรกกันเลยครับ


สนซาวาระ
ชื่อสามัญคือ Sawara Cypress
ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Chamaecyparis pisifera



สนซาวาระเป็นต้นไม้ที่มีความใกล้เคียงกับฮิโนกิมากครับ เพราะเป็นไซเพรสพันธุ์ญี่ปุ่นเหมือนกัน
สนซาวาระมีถิ่นกำเนิดที่ตอนกลาง-ใต้ของญี่ปุ่น มีความสูงประมาณ 35-50 เมตร เส้นผ่าศูนย์
กลางโคนต้นใหญ่ได้ถึง 2 เมตร ไม่ผลัดใบเหมือนกันกับฮิโนกิใบคล้ายกับฮิโนกิแต่ฮิโนกิปลาย
ใบจะทื่อส่วนซาวาระปลายใบจะมน เมื่อพลิกดูที่ใต้ใบ จะเห็นเส้นสีขาวเป็นรูปตัว X ถ้าฮิโนกิจะ
เป็นรูปตัว Y ดูได้จากในรูป...รูปแรกเป็นใบฮิโนกิรูปที่สองเป็นใบซาวาระครับ





เนื้อไม้ของสนซาวาระ มีสีอ่อนคล้ายกับฮิโนกิแต่จะออกเหลืองมากกว่าที่จะเป็นขาวเหลืองอ่อนๆ
อมชมพูอย่างฮิโนกิ มีคุณสมบัติแบบเดียวกันกับฮิโนกิ แต่กลิ่นอ่อนกว่าถูกใช้ทำสิ่งของต่างๆ
อ่างอาบน้ำ ใช้สร้างวัด ศาลเจ้า รวมถึงทำโลงศพด้วย



ถึงแม้สนซาวาระจะเป็นสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกับฮิโนกิมากแต่ราคาของไม้ก็ยังต่ำกว่าฮิโนกิครับ


ต่อไป...


สนไซเพรสใต้หวัน
ชื่อสามัญคือ Taiwan Cypress
ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Chamaecyparis taiwanensis

ไซเพรสใต้หวันนี้ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Taiwan Hinoki ครับ มีถิ่นกำเนิดที่ภูเขาในใต้หวัน ขึ้นที่
ระดับความสูง 1300-2800 เมตร ต้นสูงประมาณ 40 เมตร และขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่โคนต้น
ใหญ่ได้ถึง 2 เมตร ไม่ผลัดใบ ใบมีลักษณะปลายแหลมเป็นอีก 1 สายพันธุ์ที่ถือว่าใกล้เคียงกับ
Hinoki ครับ

ถ้าดูจากหนังสือของทางยุโรปหรืออเมริกา จะมีไม่น้อยที่ไซเพรสใต้หวันนี้จะถูกเรียกรวมไปกับ
ฮิโนกิ แต่มันถูกจัดเป็นคนละพันธุ์กันกับฮิโนกิก็เพราะ สิ่งที่ต่างไปจากฮิโนกิของญี่ปุ่นก็คือ
ฮิโนกิมักจะขึ้นบนเขาสูง (Ridge-top Site) ที่แห้งกว่าแต่ไซเพรสใต้หวันจะขึ้นบนพื้นที่ที่มี
ความชื้นในดินและอากาศสูงกว่าและปริมาณน้ำฝนมากกว่า


สนฟอร์โมซาน หรือ ไซเพรสแดงใต้หวัน
ชื่อสามัญคือ Formosan Cypress, Taiwan Red Cypress
ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Chamaecyparis formosensis



เป็นไซเพรสพันธุ์ใต้หวันที่ใกล้เคียงกับสนซาวาระ ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Taiwan Beni Hinoki
หรือเรียกสั้นๆ ว่า Benihi ซึ่งมีความหมายว่าไซเพรสแดงนั่นเองครับ

สนฟอร์โมซานมีถิ่นกำเนิดในใต้หวัน ขึ้นที่ระดับความสูง 1000 เมตรขึ้นไปและพบมากที่ระดับ
1500-2000 เมตร จัดเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่มาก ต้นสูงได้ราว 55–60 เมตร และลำต้นอาจกว้าง
ได้ถึง 7m ปลายใบมนคล้ายกับสนซาวาระครับ

ไม้ของสนฟอร์โมซานมีเนื้อไม้อ่อน มีคุณสมบัติทนทานต่อการผุ มีกลิ่นแรง ราคาสูงในใต้หวัน
ใช้สร้างวัดและศาลเจ้า สายพันธุ์ตกอยู่ในสถานะถูกคุกคาม ปัจจุบันมีจำนวนเหลือน้อยลง มีแค่
บางส่วนที่ต้นใหญ่อายุมาก ถูกอนุรักษ์ไว้ในอุทยานแห่งชาติของใต้หวัน แต่อีกมากที่ยังไม่ถูก
คุ้มครองครับ


สนลอว์สัน
ชื่อสามัญคือ Lawson's Cypress
ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Chamaecyparis lawsoniana



ในรูปสนลอว์สันคือต้นซ้ายส่วนต้นขวาเป็น Sugar Pine ครับ
ญาติสายพันธุ์อเมริกานี้มีถิ่นกำเนิดที่ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของ Oregon และฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ
ของ California รู้จักกันในชื่อ Port Orford-cedar ถึงจะถูกเรียกว่าซีดาร์แต่ที่จริงแล้วมันเป็น
ไซเพรสไม่ใช่ซีดาร์ครับ



สนลอว์สันขึ้นที่ระดับความสูง 1500 เมตร เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ ไม่ผลัดใบ ต้นสูงได้ถึงราวๆ
50-70 เมตร ใบปลายแหลมมองดูเป็นแฉกๆ ออกข้างคล้ายสนซาวาระ ใบสีเขียวอมฟ้าปน
เทาหม่นๆ



ไม้ของสนลอว์สันมีน้ำหนักเบาและทนทาน มีราคาสูงในแถบเอเซีย ไม้นี้ถูกส่งออกไปยังประเทศ
ในแถบเอเซียตะวันออกเช่น ญี่ปุ่น ซึ่งมีความต้องการสูงในการใช้สร้างวัดและศาลเจ้ารวมถึงใช้
ทำโลงศพครับ


สนไซเพรสขาวแอตแลนติค
ชื่อสามัญคือ Atlantic White Cypress หรือ White Cypress
ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Chamaecyparis thyoides



ไซเพรสขาวแอตแลนติค เรียกสั้นๆ ว่า ไซเพรสขาวก็ได้ครับ เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ฝั่งตะวัน-
ออกของอเมริกาตามชายฝั่งทะเลแอตแลนติค ขึ้นในบริเวณพื้นที่ที่ชื้นแฉะ (wet site) ที่ความ
สูงประมาณ 50 เมตร และพบบริเวณตีนเขาบ้างเล็กน้อยมักถูกเรียกว่า Atlantic White Cedar
ซึ่งก็เป็นการเรียกชื่อซีดาร์ทั้งๆ ที่เป็นไซเพรสไม่ใช่พวกสนซีดาร์ครับ (ผมก็ไม่เข้าใจพวกฝรั่ง
เหมือนกันว่าทำไมอะไรๆ ก็เรียกเป็นซีดาร์ไปซะหมด)



สนไซเพรสขาวเป็นต้นไม้ขนาดกลางความสูงประมาณ 25 เมตร ใบสีเขียวอมฟ้าเทาลักษณะ
คล้ายกับสนลอว์สัน แต่จะดูเรียวและเรียบกว่าไม่ดูเป็นแฉกเท่าสนลอว์สัน ไม้ของไซเพรสขาว
มีคุณสมบัติทนต่อความชื้นและถูกใช้ทำรั้วบ้าน ไม้ฝาและหลังคา



นี่ก็เป็นทั้งหมด 6 สายพันธุ์ในสกุล Chamaecyparis ซึ่งเป็นสกุลเดียวกันกับ Hinokiของญี่ปุ่น
จึงเรียกได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกันมากที่สุด แต่ยังไม่หมดครับ ยังมีไซเพรสอื่นที่อยู่ใน
วงศ์เดียวกันกับฮิโนกิอีกแต่ว่าอยู่ในสกุลอื่นนั่นก็คือ Asunaro หรือ Hiba นั่นเอง

ชื่อฮิบะนี้ผมพูดถึงไปบ้างแล้วในช่วงแรกว่าไม้ไซเพรสที่พบได้ในลาวไม่ใช่ฮิโนกิแต่เป็นฮิบะ
แล้วฮิบะมันคืออะไร มาดูกันเลยครับ


อาสึนาโร หรือ ฮิบะ
ชื่อสามัญคือ Asunaro หรือ Hiba
ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Thujopsis dolabrata



อาสึนาโรหรือฮิบะเป็นไม้ไซเพรสสายพันธุ์ญี่ปุ่นอีกชนิดหนึ่งครับ เป็นสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกับ
สกุล Thuja มาก ชื่ออาสึนาโร (Asunaro) มาจากคำว่า Asu wa Hinoki ni narou ซึ่งมีความ-
หมายว่า "พรุ่งนี้จะกลายเป็นฮิโนกิ"



ฮิบะมีถิ่นกำเนิดที่ญี่ปุ่น เป็นต้นไม้ขนาดกลาง-ใหญ่ ไม่ผลัดใบ สูงได้ถึง 40 เมตรและเส้นผ่า
ศูนย์กลางที่โคนใหญ่ได้ถึง 1.5 เมตร ใบมีลักษณะเป็นเกล็ดซ้อนเหมือนกับฮิโนกิแต่ว่าขนาด
กับรูปทรงของแต่ละข้อไม่เหมือนครับ คือจะมีรูปร่างเหมือนตัว W เมื่อเทียบกับฮิโนกิแล้วใบ
ของฮิบะจะดูแบนและกว้างกว่า



ไม้ของอาสึนาโรหรือฮิบะมีคุณสมบัติเหมือนกับฮิโนกิครับ แต่ว่าสีเข้มกว่าคือฮิบะจะออกสีน้ำตาล
มากกว่าฮิโนกิ ว่ากันว่าบ้านที่สร้างด้วยไม้ชนิดนี้แมลงจะไม่เข้าเลยถึง 3 ปีครับ


เรารู้จักฮิบะกันแล้วก็มารู้จักกับไซเพรสที่พบในลาวซึ่งเป็นไม้พวกฮิบะกันครับ ไซเพรสที่พบในลาว
หรือที่หลายคนอาจจะรู้จักในชื่อ ฮิโนกิลาว นั้นมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Fujian Cypress
และชื่อในภาษาญี่ปุ่นคือ Fukken Hiba


สนไซเพรสฝูเจี้ยน หรือ ไม้โลงเลง (โรงเรง โหรงเหรง)
ชื่อสามัญคือ Fujian Cypress
ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Fokienia hodginsii



ชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นของสนชนิดนี้คือ Fukken Hiba (ฟุคเค็นฮิบะ) ส่วนที่เรียกกันว่า
Laos Hinoki หรือ ฮิโนกิลาว นั่นเป็นเหมือนชื่อเล่นเท่านั้นครับ และสายพันธุ์ในภาษาญี่ปุ่นคือ
วงศ์ Hinoki สกุล Fukken Hiba สปีชีส์ Fukken Hiba

Fujian Cypress มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ตอนใต้ของจีน ตอนเหนือ-กลางของเวียดนามและลาว ในไทย
เราเรียกว่าไม้โลงเลง โรงเรง โหรงเหรง หรืออื่นๆ คล้ายกันนี้ แต่ผมว่าถ้าเราจะเรียกว่าสนไซเพรส
ฝูเจี้ยน สนฝูเจี้ยน หรือ สนฮกเกี้ยน ก็น่าจะได้เหมือนกันครับ



ไซเพรสชนิดนี้ต้นสูงได้ถึง 30 เมตร ใบมีลักษณะเป็นเกล็ดซ้อน แบนกว้างรูป W ใบมันเป็นเงา
ใต้ใบเป็นสีเงินเหมือนกับฮิบะ เปลือกลำต้นสีน้ำตาลเทา ต่างจากพวกไม้พันธุ์ญี่ปุ่นที่เปลือกจะ
เป็นสีน้ำตาลแดง เติบโตได้ดีในสภาพอากาศอบอุ่นมีฝนตกมาก พบได้มากบริเวณที่มีสภาพเป็น
ภูเขาและดินชื้น ในเวียดนามจะพบได้ในบริเวณที่มีสภาพเป็นหินปูนและแกรนิตที่ความสูง
ประมาณ 900 เมตร

สกุล Fokienia เป็นสกุลที่ใกล้เคียงกับ Chamaecyparis ปัจจุบันพบในธรรมชาติเพียง 1 สปีชีส์
คือ Fokienia hodginsii หรือ Fujian Cypress นี่เองครับ



ไม้จาก Fujian Cypress มีสีแบบเดียวกับฮิบะคือออกสีน้ำตาลเหลืองมากกว่าและเข้มกว่าฮิโนกิ
มีคุณสมบัติด้านอโรม่าและอื่นๆ แบบเดียวกับฮิโนกิ ไม้ถูกใช้สร้างบ้าน ทำเครื่องใช้ต่างๆ และ
ถ่านซึ่งให้ความร้อนสูงครับ


และชนิดสุดท้าย....
ไซเพรสที่มีอยู่ในไทยคือ Calocedrus macrolepis ครับ พบบนเขาสูง ในไทยเราเรียกกันว่า
"สนแผง"



เป็นไม้ต้นขนาดกลาง สูงได้ถึง 25-35 เมตร ไม่ผลัดใบ มีถิ่นกำเนิดที่ตอนใต้ของจีน ทางเหนือ
ของเวียดนาม ลาว พม่าและทางเหนือกับอีสานในไทย พบที่ระดับความสูงประมาณ 800-1,400
เมตร จัดเป็นพืชหายากครับ




สำหรับในไทยที่โครงการหลวงมีอยู่ ผมก็ชักจะไม่แน่ใจซะแล้วครับว่าจริงๆ แล้วเป็น Hinoki
(C.obtusa) หรือว่าเป็น Fujian Cypress (F.hodginsii) หรือว่าเป็น Calocedrus macrolepis
กันแน่เพราะดูจะมีการเข้าใจผิดกันอยู่พอสมควร

สุดท้ายต้องขอขอบคุณที่อ่านมาจนจบ มันยาวมากจริงๆ...แต่ก็คิดว่าคงจะช่วยให้หลายๆ คน
รู้จักฮิโนกิและสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงต่างๆ กันมากขึ้นนะครับ จะได้ไม่สับสนกับไซเพรสสายพันธุ์
อื่นๆ ครับ

ปิดท้ายนิดนึง...
ส่วนตัวแล้วผมว่าในปัจจุบันนี้เรายังไม่ค่อยคุ้นกับไม้สนไซเพรสกันมากนักเพราะเรามีไม้สัก
ไม้มะค่าใช้กันมานาน แต่หลังจากนี้ไปถ้าเราคุ้นกับมันมากขึ้น รู้วิธีใช้มันมากขึ้น ไม่แน่ว่าใน
อนาคตไซเพรสอาจจะได้รับความนิยมมากขึ้นจนกลายเป็นไม้เศรษฐกิจไปก็ได้ครับ

แล้วไว้คราวหน้าเรามารู้จักกับไม้ญี่ปุ่นชนิดอื่นๆ นอกจากฮิโนกิกันบ้างครับ


รูปประกอบเนื้อหาจาก
google
//www.bartokdesign.com
ja.wikipedia.org
en.wikipedia.org
//commons.wikimedia.org/
//blog.goo.ne.jp/botanicallife-1956/m/200612
//bomennederland.wordpress.com/2009/01/




 

Create Date : 25 มิถุนายน 2553
16 comments
Last Update : 16 สิงหาคม 2553 20:38:54 น.
Counter : 23414 Pageviews.

 

 

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว 25 มิถุนายน 2553 12:35:46 น.  

 

ว๊าว ได้ความรู้มากมายเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ

 

โดย: นีระพารถ 25 มิถุนายน 2553 12:51:59 น.  

 

ขอบคุณครับ ได้ความรู้มากเลย นั่งหาอยู่พอดี ขอบคุณมากครับ

 

โดย: purerain IP: 58.11.25.87 14 สิงหาคม 2553 21:26:33 น.  

 

เมื่อวานไปซื้อหมอนไม้ฮิโนะคิที่อิเซตันมาค่ะ กลิ่นมันไม่ค่อยหอมเลย (เทียบกับแก้วไม้ที่ไปซื้อมาจากบ้านไม้ไชยปราการ) หรือมันจะไม่เหมือนกันคะ สงสัยอ่า

 

โดย: aumimplovelydolphin (aumimplovelydolphin ) 18 ตุลาคม 2553 12:52:00 น.  

 

อืม...กลิ่นจากหมอนที่อิเซตันเดี๋ยวผมลองไปดมดูก่อนแล้วจะมาตอบอีกที
แต่อาจจะตอบได้ไม่ชัดเจนนักเพราะผมเองก็ยังไม่เคยได้กลิ่นไม้ของทาง
ไชยปราการครับ

ตอนนี้ผมวิเคราะห์คร่าวๆ ได้ยังงี้ครับ....
ถ้าคำว่ามันไม่ค่อยหอมหมายถึงกลิ่นมันอ่อนกว่า แต่เป็นกลิ่นแบบเดียว
กันละก็...มันก็เป็นไปได้ครับว่าจะเป็นเพราะไม้มาจากคนละที่กันซึ่งเพียง
แค่ไม้จากคนละแหล่งผลิตก็ให้กลิ่นไม่เท่ากันแล้ว อีกอย่างก็เพราะว่าไม้
ที่คุณ aumimplovelydolphin ได้มาจากไชยปราการเป็นไม้ชิ้นใหญ่กว่า
ครับ ก็เป็นไปได้ว่ามันอาจจะมีน้ำมันอยู่ในเนื้อไม้มากกว่าเศษไม้ที่ใส่ไว้
ในหมอนครับ

สารระเหยจากไม้ฮิโนกินี่บางคนก็แพ้นะครับ แนะนำให้ลองสังเกตุตัวเอง
ดูด้วยว่าใช้หมอนไปแล้วมีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่า อย่างผมเองก็
ต้องใช้อย่างพอเหมาะถ้ามากๆ เข้าก็จะแพ้ครับ ออกอาการคันที่ตา

 

โดย: nyo 20 ตุลาคม 2553 13:32:39 น.  

 

สำหรับสนในโครงการหลวงและสนลาวคือชนิดเดียวกันค่ะ ดิชั้นรับประกันและมีการตรวจสอบเนื้อเยื่อชัดเจนและมีใบรับรองจากมหาวิทยาลัยชิบะแล้ว ว่ามันคือเจแปนนีสไซเพรสแท้ค่ะ คุณบัติน้ำมัดึงออกมาได้113ตัว

 

โดย: cheri IP: 115.87.88.213 23 มกราคม 2554 15:39:40 น.  

 

ส่วนสนที่อยู่ที่ลาวนั้น มี2ชนิดค่ะที่คล้ายกัน

 

โดย: cheri IP: 115.87.88.213 23 มกราคม 2554 16:56:28 น.  

 

ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างเลยไม่ได้เข้ามาซะนาน

ขอบคุณข้อมูลของคุณ cheri ด้วยครับ
ถ้าใครมีอะไรเพิ่มเติมก็เชิญนะครับ

 

โดย: nyo 6 มีนาคม 2554 0:10:39 น.  

 

สนใจไม้โลงเลงโทร0874282288ครับ มีไม่มาก อยู่ขอนแก่น

 

โดย: เบิร์ด IP: 111.84.63.212 2 กรกฎาคม 2554 20:23:57 น.  

 

แหม...ผมมัวยุ่งๆ ไม่ได้เข้ามาซะนาน ที่คุณ aumimplovelydolphin
ถามเอาไว้จะมาตอบตอนนี้ก็คงจะช้าไปแล้ว แต่ก็ขอตอบให้ไว้เป็นข้อมูล
กับคนที่มาอ่านทีหลังก็แล้วกันครับ

คือในที่สุดผมก็มีโอกาสไปสูดกลิ่นไม้ที่อิเซตันมาแล้ว (ตั้งนานแล้ว)
แต่ก็ไม่ได้มาตอบซักทีครับ

ไม้ที่ทำไส้หมอนที่อิเซตันนั่นจะเหมือนกันกับที่ผมมีครับ กลิ่นเดียวกันเลย
แต่ของทางไชยปราการผมยังไม่เคยได้กลิ่น ก็เลยยังสรุปให้ไม่ได้ครับ

 

โดย: nyo 22 ธันวาคม 2554 16:13:55 น.  

 

อยากทราบว่าแก้วน้ำดื่มจากไม้โลงเลงมีคุณประโยชน์จริงหรือเปล่าคะ?

 

โดย: จินตนา IP: 27.55.13.228 12 มกราคม 2556 18:54:33 น.  

 

ไม่ทราบว่าเป็นแก้วแบบไหนครับ ถ้าเป็นแก้วที่มีการปิดผิวแบบภาชนะไม้ก็ใช้ได้ตามปกติครับ จะมีกลิ่นไม้ออกมา แต่ถ้าไม่มีการปิดผิวไม้มันก็จะทำให้ยางหรือน้ำมันในไม้อาจจะปนออกมาในน้ำได้ครับ ซึ่งการดื่มน้ำที่มียางหรือน้ำมันจากไม้ปนอยู่เข้าไปนั้นผมไม่มีข้อมูลครับว่าจะมีผลดีหรือเสียอย่างไรกับร่างกายหรือเปล่า เพราะไม้โลงเลงผมเคยเห็นครับแต่ไม่มีของอยู่เลยไม่มีข้อมูล

อย่างไรก็ตามผมไม่แนะนำให้ดื่มน้ำที่มียางหรือน้ำมันจากไ้ม้ปนอยู่เข้าไปครับ เพราะอย่างไม้ฮิโนกินี่บางคนก็แพ้นะครับ ตัวผมก็แพ้ถ้าหายใจเข้าไปโดยปกติที่ไม่เข้มข้นมากก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าน้ำที่มียางหรือน้ำมันจากไม้ปนอยู่เข้าตาผมก็ออกอาการแพ้แล้วครับคือจะคันตา

 

โดย: nyo 15 มกราคม 2556 23:33:37 น.  

 

ขอรบกวนหน่อยนะค่ะอยากทราบว่าการที่นำไม้ ฮิโนกิมาทำเป็นเครื่องสำอางค์จะดีหรือไม่ดียังไงค่ะ

 

โดย: ปุ๊ก IP: 171.100.169.113 31 มกราคม 2556 23:59:11 น.  

 

ผมไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางค์ แต่ก็พอให้ข้อมูลได้ตามนี้ครับ

น้ำมันฮิโนกิมีผลช่วยในการปรับสภาพผิวในด้านความกระจ่างใสและเรียบเนียน แต่ปริมาณที่ใช้มากน้อยแค่ไหนและเรื่องการแพ้ว่าจะยังมีอยู่หรือไม่นี่ไม่ทราบครับ

 

โดย: nyo 5 กุมภาพันธ์ 2556 22:05:28 น.  

 

หมอนไม้ฮิโนกิของอิเซตัน เป็นไม้ kiso hinoki จากญี่ปุ่นค่ะ ราคาจึงค่อนข้างสูง ส่วนของไชยปราการ น่าจะเป็นไม้ของฝั่งลาวนะคะ @aumimplovelydolphin

 

โดย: nid IP: 180.180.95.113 20 มิถุนายน 2557 17:20:46 น.  

 

ไม้ Hinoki - มารู้จัก Hinoki และญาติพี่น้องให้มากขึ้นกันเถอะ
fifa 15 coins //www.hizzolla.com/profiles/blogs/www-fifaon-com-global-strategy-forum

 

โดย: fifa 15 coins IP: 157.7.205.214 4 พฤศจิกายน 2557 4:56:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


nyo
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์ ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ 2539 ห้ามผู้ใดทำการคัดลอก ส่วนใดส่วนหนึ่งของบล๊อกนี้ไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อค


ติดต่อผมได้ที่
naai.nyo@gmail.com

____________________

บล๊อกนี้ผมเขียนขึ้นมาจากสิ่งที่ผมไปรู้ไปเห็นมาก็เลยเอามาเล่าต่อเพื่อเป็นการแชร์ความรู้กัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้างไม่มากก็น้อยครับ


กรูณาใช้ภาษาให้เหมาะสมในการแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ
Friends' blogs
[Add nyo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.