ใครเคยพูดไว้ว่าอ่านหนังสือเยอะๆจะฉลาด ผมคนนึงล่ะครับขอเถียง แฮะๆ มิใช่อะไรหรอก ผมจะเถียงว่ามันขึ้นอยู่กับหนังสืออะไรด้วยต่างหาก แต่ที่ชัดเจนที่สุดผมว่าการอ่านหนังสือ จะทำให้เราได้เกิดจินตนาการ มีความคิดในการต่อยอดจากการอ่าน และอาจถึงขนาดนำไปวิเคราะห์ด้วยตนเอง จนถึงขนาดสังเคราะห์หรือแตกหน่อไปเรื่องอื่นๆได้อีกทีเดียว (น้านนน) สำหรับผม ผมชอบอ่านหนังสือรองลงมาจากฟังเพลงน่ะครับ แฮะๆ เพราะการอ่านหนังสือ ผมว่าเราจะต้องใช้สมาธิ สติอีกนิดหน่อย และก็เปิดหัวสมองในการรับเอาเจ้าตัวหนังสืออันมากมาย ได้เข้าไปอยู่ในหัวสมองของเรา แล้วอาจจะส่งต่อไปยังหัวใจ เพื่อจะรับรู้ ซึมซับเอาเรื่องราวที่เราได้อ่านนั้นๆเข้าไปด้วย เพราะฉะนั้น เวลาที่ผมมีสมาธิที่สุดก็คือก่อนนอนนั่นเองครับ ก่อนผมจะหลับผมจะต้องอ่านหนังสือจนเป็นกิจนิสัยไปซะแล้ว (อันนี้พูดถึงหนังสือเป็นเล่มๆ ไม่รวมถึงนิตยสาร หนังสือพิมพ์นะครับ) และนิสัยเสียอีกอย่างของผมนอกจากการที่ชอบชะแว้บเข้าร้านซีดีเพลงนั้น ก็มีร้านหนังสือนี่ล่ะครับที่สามารถดึงดูดตัวผมให้เข้าไปเยี่ยมชมซะหน่อย แล้วก็ชอบซื้อติดมือกลับบ้าน แล้วหลังจากนั้นเหรอครับ ก็มากองกับเพื่อนๆของมันนะสิครับ แต่นั่นเป็นเพราะว่าผมจะอ่านหนังสือเรื่องอะไรนั้น มันขึ้นอยู่กับอารมณ์หรือความสนใจในช่วงนั้นด้วยน่ะครับ พอผมอ่านจบไปเล่มนึง ผมจะรู้สึกสนุกตอนที่เลือกว่าจะอ่านเล่มไหนต่อดี ตอนเลือกๆเนี่ย ความอยากอ่านมันจะเกิดตอนนนั้นล่ะครับ (คาดเดาได้ยาก) เพราะหยั่งงั้นผมก็เลยต้องซื้อหนังสือมีกองไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าเราจะอยากอ่านเมื่อไหร่ แต่ที่ชอบที่สุดก็คงแนวสืบสวน แนวลึกลับละครับ แนวเยาวชนก็ชอบ อ่านแล้วรู้สึกไม่เครียด แต่อาจจะไม่รู้สึกสนุกเหมือนตอนเด็กๆ เพราะอ่านทีไอ้เจ้าสมองก็ชอบวิเคราะห์เหตุและผลไปด้วย ไม่เหมือนตอนเด็กๆอ่านโดยใช้อารมณ์เป็นหลัก เลยรู้สึกสนุกกว่าตอนนี้เยอะ แต่ข้อเสียอันเป็นลักษณะเฉพาะตัวของผมก็คือพออ่านเรื่องนั้นจบ อีกเดือนใครมาถามผมจะต้องคิดนานหน่อย เพราะผมจะลืมรายละเอียดของเนื้อเรื่องไปนะสิครับ แต่จะจำเค้าโครงเรื่องพอได้ เอ อันนี้สงสัยหน่วยความจำในตัวผมมันน้อยไปหน่อย ดังนั้น ผมก็เลยนำหนังสือที่ผมอ่านแล้วชอบมาคุยกันดีกว่าครับ ถือซะว่าผมเอาเพื่อนนอนของผม ( อืม ฟังดูแปลกๆไปหน่อย) มาแนะนำให้รู้จักดีกว่าครับ
มาอ่านและทักทายค่า