ไอ๊ ถามวัต สุทธิพงศ์
<<
พฤษภาคม 2560
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
10 พฤษภาคม 2560
 
 

เรื่องของไอ๊ EPISODE 60

15 เมษายน 2560
โดย ถามวัต สุทธิพงศ์

ความภาคภูมิใจถือเป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจ คนเราขาดไร้ซึ่งกำลังใจไม่ได้ ด้วยจะทำให้เกิดความท้อถอยหดหู่ลู่ล้าในกายตน ยามเมื่อเรือนใจท้อแท้คราใดย่อมทำให้เรือนกายหมดสิ้นซึ่งเรี่ยวแรง อันจะนำไปสู่ความล้มเหลวในชีวิต เพียงน้ำผึ้งหยดเดียวสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างมหาสาร ประหนึ่งเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวกระนั้น

ก่อนอื่นไอ๊ขอกราบขอโทษเพื่อนเจ้าของเรื่องต่อไปนี้ที่แต่เดิมไอ๊ไม่เคยเห็นความสำคัญเรื่องราวบางเรื่องที่ทำให้เกิดกำลังใจแก่คนหนึ่งคนอย่างมากมาย ขณะที่ไอ๊ลงมือเขียน “เรื่องของไอ๊” EPISODE นี้ ยอมรับอย่างน่าไม่อายว่าแอบรู้สึกสะเทือนใจเบา ๆ ความจริงถ้าไอ๊เขียนหนังสืออยู่เพียงลำพังและมีความเงียบกว่านี้สักหน่อย น้ำหูน้ำตาไอ๊คงไหลออกมาเป็นทาง ก็แปลกดีที่อยู่ ๆ เกิดความรู้สึกอินอะไรได้ขนาดนั้น

ราววันที่ 2 เมษายน 2560 ไอ๊ได้มีโอกาสพบปะกับเพื่อนตาบอดในโลก SOCIAL ONLINE คนหนึ่ง เราต่างนัดหมายกันเพื่อจะไปละลายทรัพย์ที่งานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ 45 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถามว่าเพราะเหตุใดตาบอดแล้วยังหาอ่านหนังสือ ไอ๊ขออนุญาตตอบแทนเพื่อน ๆ คนพิการทางการเห็นทุกคนเลยครับว่า เพราะหนังสือคือสื่อเดียวที่เปิดโลกความรู้และความบันเทิงแก่คนพิการทางการเห็นได้ละเอียดลออกว่าสื่ออื่น ๆ ไม่เชื่อก็ลองปิดตาดูโทรภาพของประเทศไทยซิ่ครับว่ามีกี่รายการกันที่ฟังเพียงเสียงแล้วรู้แจ้งแทงตลอดว่าอะไรเป็นอะไร

ในชั้นแรกเรานัดพบกันที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสุขุมวิทย์เพื่อความสะดวกและง่ายในการหา ทว่าด้วยปัญหาเรื่องการเดินทางของไอ๊ที่คาดว่าจะไปหาเพื่อนไม่ทัน ทำให้เราตัดสินใจไปพบกันที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แม้ว่าผู้คนอาจจะมากหน่อยทำให้หากันไม่พบ และอาจต้องวุ่นวายคนอื่นช่วยกันค้นหา แต่สุดท้ายเรื่องราวกลับง่ายกว่าที่ไอ๊กังวล เมื่อเราต่างต้องอาศัยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในการเข้าออกสถานี ทำให้เราต่างได้พบเจอกันโดยไร้กังวล แล้วเราก็ต่างเลือกซื้อหนังสือในสิ่งที่ตนเองคิดว่าถูกจริตที่สุดผ่านการบรรยายปกหลังและเรื่องย่อโดยพนักงานขาย (ซึ่งมีไม่กี่แห่งที่จะยอมเสียเวลาทำเช่นนั้น) อย่างน้อยการได้รู้เรื่องราวผ่านปกหลัง และหรือเรื่องย่อ ๆ มันทำให้คนพิการทางการเห็นพอจะคาดเดาได้ราง ๆ ว่าควรจะซื้อหรือไม่

เพื่อนของไอ๊คนนี้ชื่อเต๋า เขาเป็นสุภาพบุรุษที่ถึงแม้ว่าไม่ได้มีชื่อจริงว่าสมชาย แต่ร่างกายและจิตใจโคตรสมชายมาก ๆ เขาบอกกับไอ๊ว่า นี่คือครั้งแรกที่ได้มีโอกาสมาเดินเที่ยวภายในงานสัปดาห์หนังสือ เขาเคยคิดฝันหลายครั้งว่าครั้งหนึ่งเขาจะต้องมาเสพกลิ่นหมึกท่ามกลางผู้คนที่เบียดเสียดเยียดยัดแออัดราวปลากระป๋อง ไอ๊คือคนที่ทำให้เขาสำเร็จถึงความต้องการอันแรงกล้านั้น (ก็น่าภูมิใจในตัวเองไม่น้อยเหมือนกันนะเนี่ย) วันอาทิตย์ ที่ 2 เมษายน 2560 ถือเป็นวันดี ๆ วันหนึ่งที่เต๋าคงจะจดจำเอาไว้ไม่ลืมเลือนเลยล่ะ เพราะอย่างน้อยเขาก็ได้มาที่นี่ แม้จะซื้อหนังสือไปไม่มากด้วยสภาพการณ์ที่ไม่เอื้อให้พนักงานขายหนังสือสามารถบรรยายปกหลังให้เต๋าฟังได้ทุกสำนักพิมพ์ รวมถึงหนังสือที่ไปละลายทรัพย์มาทั้งหมดนั้นมารู้ทีหลังว่ามีซ้ำกับกองดองของอาสาสมัครอ่านหนังสือเสียงของห้องสมุดคนตาบอดแห่งชาติ แต่เต๋าก็ไม่ได้รู้สึกเสียดมเสียดายกับเม็ดเงินที่สูญไปโดยเปล่าประโยชน์ เขาเชื่อว่า หนังสือทั้งสองเล่มอันนั้นก็ถือเป็นของขวัญอันสำคัญสำหรับคนอื่น ๆ ที่เขาไม่รู้จักซึ่งบรรณารักษ์ยินดีจะจัดส่งไปยังห้องสมุดประชาชนที่เป็นเครือข่าย เต๋า...นายหล่อจริง ๆ หากเป็นไอ๊คงนั่งสาบถสาบานในอกในใจเป็นนานถึงเม็ดเงินที่สูญไปกับหนังสืออื่น ๆ ที่ไม่ได้มีโอกาสทำเป็นหนังสือเสียง

ก่อนจากกัน (คืนนั้นสองเรา) โอ้...ไม่ใช่ครับ...

ก่อนจากกัน เราต่างโดยสารรถไฟลอยฟ้า โดยที่หนึ่งคนมีจุดหมายปลายทางคือสถานีเอกมัยเพื่อมุ่งหน้าต่อไปยังจังหวัดชลบุรีด้วยรถประจำทาง และอีกหนึ่งคนมีจุดหมายปลายทางแค่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเพื่อมุ่งหน้าไปยังสนามหลวง (ที่ไม่ใช่ค่ายเพลง) เราต่างล่ำลาโดยไอ๊ไม่รู้ตัวว่าเต๋าได้พกเอาความทรงจำดี ๆ กลับไปจนเต็มเนื้อเต็มตัวที่พอจะเป็นพลังงานสำรองแก่ชีวิตในโมงยามที่วินาทีใดวินาทีหนึ่งอาจพบเจอกับคืนวันที่โหดร้ายไม่รู้ตัว

เต๋ามาเล่าให้ฟังภายหลังว่า ช่วงเวลาที่เต๋ากำลังจะถึงสถานีรถไฟลอยฟ้าเอกมัย บังเอิญพบกับสองแม่ลูก ซึ่งหนึ่งเป็นคุณแม่ยังสาวอายุอานามราวสามสิบกำลังหอบหิ้วสัมภาระมาจนเต็ม เต๋าสังเกตจากการฟังเสียงถุงพลาสติกที่เสียดสีกันซึ่งเขาคิดว่าคงถือมาหลายใบ และอีกหนึ่งคือเด็กหญิง (อย่างน้อย...เต๋าก็เชื่ออย่างนั้น) ที่เดินมาพร้อมกับคุณแม่ “ยังตัวเล็ก ๆ อยู่เลยนะไอ๊ แต่ไม่มีใครให้แกนั่ง รถไฟฟ้าบีทีเอสมันก็วิ่งไปบนลางอย่างรุนแรง มันแรงกว่ารถไฟฟ้าใต้ดินตั้งเยอะ ขนาดผู้ชายแข็งแรงอย่างเรายังเซ แล้วเด็กล่ะจะขนาดไหน” เต๋าเลยตัดสินใจสละที่นั่งที่เหลือเพียงไม่กี่สถานีให้กับเด็กน้อยคนนั้น แม้ทีแรกฝั่งของคุณแม่จะปฏิเสธด้วยเห็นว่าคนที่สละที่นั่งเป็นคนตาบอด แต่ในเมื่อเต๋าแสดงเจตนาอย่างแจ้งชัดโดยการลุกไปยืนใกล้ประตูทางออกคุณแม่ของเด็กน้อยคนนั้นเลยทำได้แค่เพียงเรียกลูกของตนไปนั่ง เพียงเท่านั้นก็ทำให้เต๋าเก็บไปยิ้มคนเดียวได้หลายวัน มิหนำซ้ำยังคะยั้นคะยอให้ไอ๊ช่วยบันทึกความทรงจำเป็นตัวอักษรเอาไว้ด้วยอย่างน้อยบันทึกความทรงจำอันนี้อาจจะพอให้คนตาบอดคนอื่น ๆ ที่ท้อแท้จากความอยากทำดีแต่ไม่มีหนทางได้นำไปเป็นแรงผลักดันเล็ก ๆ (อย่างน้อย...เต๋าก็เชื่ออย่างนั้น)




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2560
0 comments
Last Update : 10 พฤษภาคม 2560 11:42:23 น.
Counter : 537 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

อาณาจักรแห่งเรา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เราเป็นนักแสวงหา...
เรายังคงค้นหาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เมื่อหามาแล้ว...
เราจะนำมาเล่า
New Comments
[Add อาณาจักรแห่งเรา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com