สวัสดีค่ะ (*w*)
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
29 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

Masked Rider Blade (2004) สนุกจนหยุดไม่ได้

Masked Rider Blade (2004)


เห็นพระเอกหัวแหลมโด่เด่แบบนี้ แต่ขอบอกว่าโคตรสนุกเลยนะเรื่องนี้


ตอนแรกที่เห็น ว๊าย ไรเดอร์อะำไร หัวแหลมมาเชียว น่าเกลี๊ยด แต่พอนั่งดูไปแป๊บ เออ มันหนุกดีแฮะ พอดูไปเรื่อยๆแล้วเกิดอาการปิดไม่ได้อ่ะ ต้องดูต่อไปเรื่อยๆๆๆ เนื้อเรื่องมันเข้มข้นมั่ก ออกจะเครียดๆอยู่สักหน่อย เดินเรื่องได้เร็วและกระชับดี ดูแล้วแบบว่าตื่นเต้น นั่งลุ้นตลอดเลย ตัวละครทุกตัวมีพัฒนาการชัดเจน ให้เห็นถึงหลายๆด้าน ไม่ใช่ว่าตัวไหนดีก็ดี ร้ายก็ร้ายไปเลยแบบเรื่องอื่นๆ พระเอกนี่ตอนแรกๆอ่อนปวกเปียก แต่จะค่อยๆเก่งขึ้นมาแบบเราเองก็ยังไม่รู้ตัวเลย สุดท้ายถึงคิดได้ โอ้ มันเก่งเทพแล้วแฮะเจ้าเคนซากิเนี่ย


3 คนนี่เวลาอยู่ด้วยกันน่ารักดีน๊ะ


นักแสดงในเรื่องทุกคนเรียกว่าหน้าตาโอเคพอไปวัดไปวาได้ แต่ที่ออกแนวน่ารักคงมีอยู่คนเดียว ก็โคทาโร่ไง อิอิ น่ารัก เราว่าน่ารักสุดแล้วในเรื่อง เสื้อผ้าที่ใส่ก็ดูสดใสวัยรุ่นดี ไม่เก่าๆทึมๆเหมือนคนอื่น เคนซากิคุงนี่ก็ผ๊อม ผอมไปนะ คุณฮาจิเมะก็ถือว่าหน้าตาโอเคแต่เตี้ยไปนี้ส แล้วพี่แกไม่รู้ไปอาบแดดที่ไหน เกรียมมาเชียว คุณทาจิบานะก็ถือว่าหล่อเท่ ตอนเริ่มเรื่องเลยก็นึกว่าคนนี้เป็นพระเอกซะอีก แต่คงดูผู้ใหญ่เกินไปไม่โดนใจวัยรุ่น ส่วนตอนที่แปลงร่างเป็นไรเดอร์กันแล้วก็ไม่อยากวิจารณ์อะำไรมาก เพราะติดใจเนื้อเรื่องไปแล้ว อย่างอื่นมันก็เลยดูดีขึ้นมาเอง แต่ไอ้ตัวหัวหม้อตัวสุดท้ายนี่ สุดทำใจจะรับจริงๆ ไอ้ัตัวเขียวเลนเกลอ่ะ คิดแล้วปวดตับหนึบๆ แต่ตัวที่สวยก็สวยจริงๆนะ เราชอบมากเลย หลายๆคนคงเห็นเหมือนกัน ก็คาลิสไงล่ะ แหม ไม่รู้คนเดียวกันออกแบบรึเปล่า ไหงมันต่างกับไรเดอร์ตัวอื่นๆราวฟ้ากับเหว อ้อ แต่ตอนที่คาลิสใช้การ์ดคิงมันก็ดูแม่งๆเหมือนกันนะ สีมันดูไงอ่ะ ประหลาดพิลึก ตาสีเขียวอกสีเขียวตัวสีแดง คุณแม่ไม่ปลื้มค่า ไมมันไม่ทองอร่ามน่ากราบไหว้แบบเบลดกับกาเรนอ่ะ (2 ตัวนี่ก็หน้าเหลืองอร่ามกันมาเลย ตอนแรกเห็นแล้วขำแทบตาย) ตอนเป็นคิงฟอร์ม เราชอบเบลดที่สุด เพราะหัวไม่แหลมโด่เด่แล้ว และดูขลังขึ้นมากๆ เพราะตามแขนขาเล่นแปะยันต์เอาไว้เพียบ นี่ถ้าไปนั่งในโบสถ์คงหลงไปกราบแล้วล่ะเพราะนึกว่าเป็นพระพุทธรูป (คือก็ชอบอ่ะนะ แต่มันท๊อง ทองอ่ะ)


สองคนนี่นอกจากจะอยู่บ้านทำกับข้าวแล้วต้องคอยช่วยกันตรวจหาอันเดดด้วย


เรื่องนี้ถ้าใครหวังจะฮาก็ผ่านไปได้เลย มันก็มีเล่นมุกบ้างแต่เป็นแบบมุกผ่อนคลายไม่ได้ฮาก๊ากมากมาย แต่ก็มีหลุดปัญญาอ่อนออกมาช่วงนึง เป็นตอนของคุณฮาจิเมะที่ได้ไปเจอฝาแฝดเข้าอ่ะ ตอนนั้นล่ะรู้สึกจะติงต๊องสุดแล้ว นั่งดูอยู่ยังรู้สึกว่า แม๊...ทำไปได้ แต่ก็โอนะ ให้คุณฮาจิเมะมีบทเบาๆกะเค้าบ้าง เพราะชีวิตพี่แกรู้สึกจะเครียดเหลือเกิน


ไอ้ฝาแฝดของโจ๊กเกอร์นี่มันติงต๊องแบบไม่เกรงใจใครจริงๆ


มาพูดถึงเคนซากิคุงกันต่ออีกหน่อย ยิ่งดูไปยิ่งคิดว่าทำไมมันเป็นคนดีอย่างนี้ว้า จะเจ็บจะเหนื่อยแค่ไหนขอให้ได้ยินว่าอันเดด (Undead) ปรากฏตัวเป็นต้องวิ่งไปสู้ทุกครั้งไม่มีอิดออด โดยเฉพาะตอนท้ายๆ เป็นคนเดียวที่ตั้งใจจะช่วยคุณฮาจิเมะจริงๆ ใครพูดยังไงก็ไม่ยอมเชื่อ เพราะเค้าได้สัมผัสตัวตนของฮาจิเมะแบบที่คนอื่นไม่รู้ มันต้องหยั่งงี้สิ มั่นใจตัวเองเข้าไ้ว้เคนซากิ ดูแล้วมันซึ้งจริงๆ

ยิ่งดูไปถึงตอนท้ายๆจะยิ่งซึ้งมากขึ้น ดราม่าโครต เค้าเขียนบทได้ลึกดีอ่ะ มันเชื่อมโยงกันไปหมด ทั้งความสัมพันธ์ของตัวละคร เนื้อเรื่องที่ไหลลื่นไปอย่างหยุดไม่ได้ ยิ่งตอนจบยิ่งซึ้งมาก เรียกว่าลุ้นจนวินาทีสุดท้ายว่ามันจะเป็นอย่างที่เราคิดมั้ยน้า ตกลงเคนซากิมันจะเอายังไงกันแน่ จบได้ดีเลยล่ะ ถ้าได้ดูมาตลอดทั้งเรื่องจะรู้ได้เลยล่ะว่าเคนซากินี่ล่ะมาสค์ไรเดอร์ตัวจริง คือทั้ง รัก+ห่วง+เข้าใจ+ดูแลเพื่อนๆ ช่วยเหลือและปกป้องแม้คนที่ไม่รู้จัก มองโลกในแง่ดี มีความมุ่งมั่น ไม่เกรียน ไม่หลงตัวเอง ไม่เจ้าชู้ ไม่ห่วงหล่อ และที่สำคัญที่สุดคือความเสียสละของเขานั่นเอง


ชอบดีไซน์คาลิส แต่ของเบลดนี่เห็นหน้าแล้วคิดถึงหัวหอมทุกที Smiley


คอนเซ็ปของเรื่องนี้ ก็คือไพ่ ไพ่ 1 สำรับที่เราเอาไว้เล่นป๊อกเด้งกันนั่นล่ะ ถือว่าเป็นคอนเซ็ปที่กิ๊บเก๋มากเพราะมีอะไรให้เล่นเยอะ กราฟฟิคหน้าไพ่ดุ๊กดิ๊กก็ดูน่ารักดี ถ้าเราได้ดูตอนเรื่องนี้ตอนฉายใหม่ๆคงได้ตามล่าสะสมการ์ดกันแล้วล่ะ ตอนที่ดูเบลดนี่ดับเบิ้ลกำลังฉายที่ญี่ปุ่น อิอิ เบลดมันจบไปตั้งหลายปีแล้วอ่ะ ก็นะคนมันเพิ่งมีเวลาดูนิ อ้อ มาพูดเรื่องการ์ดหรือไพ่กันอีกสักหน่อย เนื้อเรื่องมันก็คือว่า ไพ่ทั้งหมดมันมี 52 ใบใช่มะ ไพ่ 1 ใบก็จะแทนอันเดด 1 ร่างหรือ 1 รูปแบบนั่นเอง ในอดีตกาลเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนนั้น (นานโคตร) อันเดดทั้งหมดต้องต่อสู้กันตามกฏของมาสเตอร์ (นัยๆว่านั่นล่ะคือพระเจ้า...มั้งนะตามความคิดเรา) เพื่อให้ได้ครอบครองพลังแห่งจักรวาล ซึ่งสามารถบันดาลทุกสิ่งในโลกได้ดั่งใจตน ผู้ที่พ่ายแพ้การต่อสู้จะถูกผนึกไว้ในศิลาของมาสเตอร์ และผลการต่อสู้ครั้งนั้นผู้ที่ชนะในการต่อสู้คือ Human Undead หลังจากนั้นเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ก็ได้สิทธิ์สืบเชื้อสายมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนฮิวแมนอันเดดตนนั้นก็ยังคงมีชีวิตอยู่มาจนกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน (สมชื่ออันเดดจริงๆ สุดยอด) แต่ทุกคนคงลืมคิดไปว่า จริงๆแล้วในไพ่ 1 สำรับนั้น ไม่ได้มีแค่ 52 ใบ แต่มีไพ่พิเศษที่ขาดไม่ได้อยู่ด้วย นั่นก็คือ Joker นั่นเอง


ฉากประทับใจ คนกับอันเดดนั่งกินข้าวปั้นกัน


เนื้อเรื่องย่อ B.O.A.R.D. องค์กรวิจัยทางด้านโบราณคดีและทรัพยากรธรรมชาติ แต่เบื้องหลังคือองค์กรที่กำลังทำการวิจัยลับๆเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตอายุก่อนประวัติศาสตร์ Undead ที่ถูกผนึกไว้ในศิลาโบราณ บอร์ดทำการศึกษาและได้สร้างระบบที่เลียนแบบการทำงานของศิลาที่ผนึกอันเดดขึ้นมา โดยเปลี่ยนไปใช้การ์ดในการผนึกอันเดดแต่ละตนแทน

ต่อมาได้มีผู้ปลดผนึกอันเดดทั้งหมด ปลดปล่อยให้อันเดดทั้งหลายออกมาอาละวาดในโลกนี้อีกครั้ง ไรเดอร์ซิสเตมจึงถูกนำมาใช้งานเพื่อใช้ผนึกอันเดดที่ออกอาละวาด ทาจิบานะและเคนซากิ คือผู้ได้รับเลือกจากบอร์ดให้ทำหน้าที่ไรเดอร์เพื่อจัดการปราบอันเดดและผนึกลงในการ์ดเพื่อความปลอดภัยของมนุษย์โดยทั่วไป


เมื่ออันเดดตนนั้นพ่ายแพ้หัวเข็มขัดจะเปิดออกแสดงว่าสามารถผนึกได้แล้ว


อันเดดทั้งหมดที่ออกมาได้ทำการ Battle Fight (Battle Royal) กันตามสัญชาตญาณเมื่อหมื่นปีก่อน คือการต่อสู้กันเพื่อหาผู้ชนะคนสุดท้าย โจ๊กเกอร์เมื่อถูกปลดผนึกออกมาก็ได้บังเอิญมาเจอกับฮิวแมนอันเดด (ซึ่งหน้าตาเหมือนคุณฮาจิเมะเพราะเป็นต้นแบบร่างที่ใช้แปลงเป็นมนุษย์ของโจ๊กเกอร์) คิดว่าฮิวแมนอันเดดนั้นคงจะเบื่อชีวิตแล้วเป็นแน่แท้ เพราะอยู่มานานมั่กมาก เลยยินยอมให้โจ๊กเกอร์ผนึกตนลงในการ์ดด้วยความเต็มใจ โจ๊กเกอร์ซึ่งมีความสามารถพิเศษคือเปลี่ยนร่างเป็นอันเดดที่ตนผนึกได้ทุกร่าง ก็ได้ใช้ร่างของฮิวแมนอันเดดนั้นอาศัยอยู่ร่วมกันกับมนุษย์ เพราะเขาสงสัยและอยากรู้ว่าความรัก ความผูกพันธ์และครอบครัวนั้นคืออะไร ทำไมมนุษย์ถึงได้คิดถึงคนอื่นก่อนตัวเอง นั่นเองที่ทำให้โจ๊กเกอร์ (คุณฮาจิเมะ) เริ่มเรียนรู้ความรู้สึกของมนุษย์จากคนรอบๆตัวเขา


ต้องขอชมคุณ Makoto Ito ที่สวมชุดไรเดอร์คาลิสที่นอกจะแสดงได้ดีแล้ว ยังสวมชุดได้ฟิตแอนด์เฟิร์มมากๆ


อันเดดที่ว่าร้ายกาจ สุดท้ายนั้นหรือจะร้ายเท่ามนุษย์ การ Battle Fight กันในครั้งนี้ไม่ได้เหมือนเมื่อครั้งหมื่นปีก่อน อันเดดทั้งหลายต่างต่อสู้กันตามสัญชาตญาณและกฎที่มาสเตอร์เคยตั้งไว้ เพียงแต่ในครั้งนี้มีเพียงไรเดอร์เท่านั้นที่ผนึกอันเดดได้ ไม่ว่าอันเดดจะสู้กันเองปางตายสักแค่ไหน ศิลาของมาสเตอร์ก็ไม่เคยปรากฎขึ้นเพื่อผนึกผู้พ่ายแพ้เหมือนในกาลก่อน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะการต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้นโดยน้ำมือมนุษย์ที่วางแผนขึ้น เพื่อหวังครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่ โดยการทำให้เกิดการต่อสู้เลียนแบบเมื่อครั้งหนึ่งหมื่นปีก่อนขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น บอร์ดภายใต้การนำของเทนโนจิยังได้สร้างอันเดดประดิษฐ์ขึ้นอีกหลายตัว โดยใช้เซลล์จากอันเดดต่างๆมาทดลองและสร้างอันเดดที่สามารถทำงานตามคำสั่งได้

นอกจากการต่อสู้กับอันเดดที่โหดร้ายแล้ว พวกเคนซากิยังต้องเผชิญกับมนุษย์ที่นับว่าชั่วช้ากว่าอันเดดหลายเท่านัก แต่การจัดการกับพวกนี้ก็เป็นเพียงความลำบากทางกายเท่านั้น แต่เรื่องราวของเพื่อนๆและคนใกล้ชิดนี่สิ ที่จะทำให้เกิดความลำบากและอึดอัดใจมากกว่า มีหลายๆเหตุการณ์ผ่านเข้ามาทดสอบความรักและความผูกพันธ์ที่มีต่อเพื่อนและคนรอบๆข้าง แต่มันก็เหมือนเป็นแบบทดสอบที่ทำให้พวกเขาผูกพันธ์กันมากยิ่งขึ้น ...โอ้ว ซึ้งจริงๆ เขียนไปได้...


ฮิวแมนอันเดดที่ยอมให้ผนึกตนเองซะ


โจ๊กเกอร์นั้นเป็นไพ่ตายของการต่อสู้ครั้งนี้ ตายจริงๆ และตายแน่นอน เพราะกฎข้อหนึ่งของการต่อสู้นั้น ถ้าหากโจกเกอร์เป็นผู้ชนะคือเป็นอันเดดตนสุดท้ายที่เหลืออยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกรีเซทใหม่หมดเพื่อกลับไปสู่จุดเริ่มต้น คือความว่างเปล่า เหมือนเรากดปุ่มรีเซทหรือรีสโตร์นั่นเอง สิ่งมีชีวิตทุกอย่างบนโลกใบนี้จะสูญสิ้นไปจนหมด รวมทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์เองด้วย...น่ากัววววจริงๆ

แต่ถ้าใครชอบเข้าบ่อนก็จะรู้ว่า ไพ่โจ๊กเกอร์ในสำรับนึงนั้นไม่จำเป็นต้องมีแค่ใบเดียวเหมือนไพ่ใบอื่นๆ และนั่นก็คือวิถีทางการแก้ปัญหานี้

เห็นมะว่าพล็อตเรื่องนี้มันเจ๋งสุดๆ นอกจากที่เขียนนี่ยังมีเรื่องราวอื่นอีกมากมายที่ทำให้หยุดดูไม่ได้เลย เีรียกว่ามีเรื่องให้คอยลุ้นกันตลอดทั้งเรื่อง สำหรับเรายกให้เบลดนี่มีเนื่อเรื่องที่สนุกเข้มข้นที่สุดในซีรี่ย์ไเดอร์ทั้งหมดทั้งมวล เพราะแต่ละตัวละครมีเรื่องมีราวไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อน นู่นนี่นั่นให้เราคอยติดตามตลอด แถมเนื้อเรื่องไม่ได้จบในตอนอีกต่างหาก คือบางตอนกำลังสู้กันมันๆแต่มันหมดตอนแล้วก็ตัดจบไปดื้อๆ เราก็กำลังมันๆอยู่ก็ต้องเปิดตอนต่อไป แล้วก็ตอนต่อไป ต่อไป ๆ ๆ ปิดไม่ได้ซะที


เอ้า มาถ่ายรูปหมู่กันหน่อย


ไรเดอร์ซิสเตม (Rider System) ที่ใช้ในการสร้างเข็มขัดแปลงร่างนี้ B.O.A.R.D. ได้ศึกษามาจากความสามารถในการเปลี่ยนร่างของโจ๊กเกอร์นั่นเอง (ซึ่งจะมาเฉลยเอาในตอนท้ายๆของเรื่องแล้ว) เข็มขัดของโจ๊กเกอร์นั้นแตกต่างจากเข็มขัดของอันเดดรูปแบบอื่นๆ ซึ่งบอร์ดใช้เข็มขัดของโจ๊กเกอร์นี่เองเป็นต้นแบบในการพัฒนามาเป็นเข็มขัดของไรเดอร์ เพื่อให้มนุษย์สามารถนำมาใช้เปลี่ยนร่างเป็นไรเดอร์ได้ โดยพลังงานที่ใช้ในการแปลงร่างนั้นได้มาจากอันเดดรูปแบบเอซเท่านั้น (ไพ่ Ace = A นั่นล่ะค่ะ) ฉะนั้นเราก็จะมีไรเดอร์ทั้งหมดแค่ 4 ตัว คือ เบลด กาเรน คาลิส และหัวหม้อ เอ้ย ไอ้เจ้าเลนเกล ส่วนการ์ดไพ่ใบอื่นๆนั้นเอาไว้ใช้ในการเรียกพลังแบบต่างๆแล้วแต่ความเหมาะสมในการต่อสู้

มนุษย์ที่สามารถใช้เข็ดขัดไรเดอร์ได้นั้น ต้องมีความสามารถในการเป็นตัวรับพลังของอันเดด หรือมีค่าฟิวชั่น (Fusion) ที่สูงมากพอ ซึ่งหาได้ยากในมนุษย์ทั่วๆไป น้อยคนนักที่จะมีค่าฟิวชั่นสูงพอที่จะแปลงร่างได้ ในตอนหลังหัวหน้าคาราซูมะได้สร้างเร้าเซอร์ขึ้นมาให้เบลดกับกาเรนเพื่ออัพเกรดพลังการต่อสู้ โดยการใช้การ์ดควีนฟิวชั่นกับแจ็คหรือคิง เพื่อดึงพลังจากอันเดดชั้นสูงมาใช้เพิ่มพลังในการต่อสู้


แอ็คชั่นนี้สวยเริ่ด


และเรื่องมันก็เกิดขึ้นตรงนี้เอง เพราะเจ้าเคนซากินั้นมีค่าฟิวชั่นที่สูงมากผิดปรกติ เมื่อเปลี่ยนร่างเป็นคิงฟอร์มแล้ว แทนที่เขาจะดึงแค่พลังของคิงออกมาใช้ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาสามารถรวมร่างเข้ากับอันเดดทั้ง 13 ตัวได้ (คือจำนวนไพ่ทั้งหมดในดอกเดียวกัน) ซึ่งความสามารถนี้มีแต่เคนซากิและฮาจิเมะเท่านั้นที่ทำได้ ตอนท้ายๆเมื่อเหลือแต่อันเดดที่มีฝีมือร้ายกาจ แล้วไหนจะพวกไทรอัลซีรี่ย์ทั้งหลายอีก นั่นทำให้เคนซากิเริ่มใช้คิงฟอร์มบ่อยขึ้น ซึ่งส่งผลเสียต่อเขาเป็นอันมาก นอกจากร่างกายของเขาจะสูญเสียพลังไปมากมาย ทำให้ถึงกับสลบหลังจากเป็นคิงฟอร์มทุกๆครั้งแล้ว มันยังมีผลร้ายแรงต่อความเป็นมนุษย์ของเขาอีกด้วย เพราะเมื่อเขารวมร่างกับอันเดดทั้ง 13 ตนนานเข้าๆ จนเกินขีดจำกัดที่ร่างกายจะต่อต้านไหว เขาจะค่อยๆผสานหลอมรวมเข้ากับอันเดดที่เขารวมร่างด้วย จนเขามีโอกาสจะอาจกลายเป็นอันเดดไปเองก็ได้ และด้วยเข็มขัดที่เขาใช้ในการแปลงร่างนั้นเลียนแบบมาจากโจ๊กเกอร์ ทำให้เขามีรูปแบบพลังเหมือนกัน นั่นแปลว่าเขาอาจกลายเป็นโจ๊กเกอร์ตนที่สองก็เป็นได้ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกชะตากรรมหนึ่งที่เขามีร่วมกับฮาจิเมะ


รูปถ่ายนี้วางอยู่ในห้องนอนของเคนซากิคุง


ตอนจบของเรื่องนี้ ดูไป 2 รอบ ก็นั่งตัวแข็งทั้งสองรอบ มันทั้งลุ้นทั้งซึ้ง กินใจสุดๆ และตัวละครทุกตัวในเรื่องคงจะอยู่ในใจตลอดไป

ตอนจบของเรื่องนี้ มันไม่ได้หยุดที่ว่าทุกอย่างป้องกันไว้ได้ทันเวลา แต่ในเบลดนี่ทุกอย่างที่ได้เอ่ยถึงมันจะเกิดขึ้น ทุกอย่างที่ไม่อยากให้เป็นเราจะได้เห็นมัน เนื้อเรื่องจะไหลไปเรื่อยๆอย่างหยุดไม่ได้ เหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อในที่สุดโจ๊กเกอร์ก็เป็นอันเดดตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ และตามกฎแล้วเขาก็ไม่สามารถที่จะขออะไรได้ (คือไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้พลังแห่งสรรพสิ่งนั่นเอง) เป็นเพียงแค่ปุ่มรีเซทแค่นั้น เมื่อกระบวนการทำลายล้างได้เริ่มขึ้น ไม่ใช่ทุกสิ่งจะหายวับไปในทันที แต่มันจะค่อยๆถูกทำลายลงโดยสัตว์ประหลาดจำนวนมากที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากศิลาของมาสเตอร์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด นั่นล่ะคือที่มาของฉายา นักสู้ผู้เลือดเย็น ที่อันเดดตัวอื่นๆขนานนามเขา


สุดท้ายเมื่อเคนซากิหายไป เพื่อนๆจะเสียใจกันมากแค่ไหน Smiley



Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley Smiley




SmileyMain Charactors in BladeSmiley





นี่ละคร้าบ พระเอกของเรื่อง Smiley

เคนซากิ คาซูมะ Rider Blade - ไพ่โพธิ์ดำ เป็นคนขององค์กร B.O.A.R.D. (บอร์ด) พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตในเหตุการณ์เพลิงไหม้เมื่อตอนเขาอายุ 11 ขวบ โดยที่เขาำไม่สามารถทำอะไรได้เพราะยังเด็กอยู่มาก ตั้งแต่นั้นเขาจึงตั้งใจจะช่วยเหลือผู้อื่นเท่าที่ตัวเองจะทำได้ เคนซากิเหมือนเป็นสื่อกลางเชื่อมโยงตัวละครอื่นๆให้เข้าหากัน ไม่ว่าจะเป็นทาจิบานะ ฮาจิเมะ โคทาโร่ หรือฮิโรเสะ เคนซากิเป็นพระเอกที่ไม่ได้หล่อ ไม่ได้เทพ ไม่ได้เก่งมาแต่เกิด แถมออกแนวยากจนอีกต่างหาก บ้านช่องจะอยู่ยังไม่มีเลย ต้องอาศัยเค้าอยู่ แต่ทั้งหมดนี่จะเรียกเป็นข้อดีก็ได้ เพราะมันทำให้เขาดู Real มากๆ เป็นธรรมชาติดี




เคนซากิ กับ คุณทาจิบานะ เคนซากิเคารพคุณทาจิบานะในฐานะรุ่นพี่ในองค์กรบอร์ดมาก เพราะทาจิบานะเป็นไรเดอร์คนแรกของบอร์ดและเป็นคนมีฝีมือดี คอยสอนเคนซากิเรื่องการต่อสู้มาตลอด ช่วงแรกๆของเรื่องเมื่อไม่มีทาจิบานะคอยสู้เคียงข้างเขาจะขาดความมั่นใจไป เพราะรู้สึกว่าตัวเองยังมีความสามารถไม่พอ




เคนซากิ กับ โคทาโร่ ถ้าดูเผินๆก็เหมือนเป็นเพื่อนกันธรรมดา แต่การที่ได้รู้จักกับโคทาโร่นั้นถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเขาเลยก็ว่าได้ ไม่รู้ว่าคนอื่นจะสังเกตุกันรึเปล่า แต่ตอนต้นเรื่องนั้นเคนซากินอกจากจะเดือดร้อนเรื่องไม่มีที่จะอยู่แล้ว เขายังอยู่ในภาวะที่เริ่มจะหมดความไว้เนื้อเชื่อใจคนรอบข้างอีกด้วย เนื่องจากเขามักจะโดนคนที่เชื่อใจหักหลังหรือหลอกลวงมาหลายต่อหลายครั้ง (รวมถึงเรื่องทาจิบานะที่เอาตัวหัวหน้าไปตอนต้นเรื่องด้วย) แต่ก็ได้โคทาโร่นี่แหละที่ให้กำลังใจและพูดให้เขาคิดได้ ถือว่าเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเคนซากิก็ว่าได้ที่คุยกันได้ทุกเรื่อง คอยดูแลกันและกันตลอด




เคนซากิ กับ ฮาจิเมะ สองคนนี่กว่าจะรู้ใจกันก็ตีกันมาแล้วหลายรอบ ด้วยความที่ตีกันบ่อยนี่แหละ ทำให้เห็นไส้เห็นพุง รู้นิสัยใจคอกันดี เคนซากิเคยช่วยฮาจิเมะไว้ตอนที่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ตั้งแต่นั้นความสัมพันธ์ของทั้ง 2 คนก็ค่อยๆพัฒนาขึ้น ได้ช่วยเหลือกันและกันหลายครั้ง จากความที่เขาอยากรู้ตัวตนที่แท้จริงของฮาจิเมะ ทำให้เขาได้รู้เรื่องราวต่างๆของฮาจิเมะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมั่นใจว่าฮาจิเมะเป็นอันเดดที่ลึกๆแล้วมีจิตใจที่ดี แต่มีชะตากรรมที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่สามารถเลือกทางเดินได้ เคนซากิเห็นความพยายามและความทรมานในการกดสัญชาตญาณของอันเดดไว้ ทำให้เขาเห็นใจและอยากจะช่วยฮาจิเมะมาก ถึงแม้ว่าจะต้องเสี่ยงกับการที่ทุกอย่างในโลกจะถูกทำลายหรือแม้กระทั่งต้องละทิ้งความเป็นมนุษย์ก็ตามที การที่ฮาจิเมะกดสัญชาตญาณของโจ๊กเกอร์ไว้ ทำให้เขาลืมเลือนเรื่องราวในอดีตไปด้วย เขาและเคนซากิจึงมักได้รับรู้เรื่องราวต่างๆจากการต่อสู้ไปพร้อมๆกัน







ฮาจิเมะ - คาลิส ตัวโปรดเรา Smiley

ไอคาวะ ฮาจิเมะ Rider Chalice - ไพ่โพธิ์แดง บุคคลปริศนาผู้มีเลือดเป็นสีเขียว ซึ่งที่จริงแล้วเขาคือโจ๊กเกอร์ อันเดดตัวพิเศษที่ไม่มีฝ่ายไหนต้องการให้เขาเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้แม้แต่อันเดดด้วยกันเอง เขาใช้ร่างมนุษย์เข้ามาอยู่กับครอบครัวของอามาเนะจัง เพราะเขาเป็นต้นเหตุให้พ่อของอามาเนะเสียชีวิตเนื่องจากโดนลูกหลงขณะที่เขากำลังต่อสู้อยู่กับอันเดดตัวอื่น ก่อนตายพ่อของอามาเนะยื่นรูปครอบครัวให้แก่เขาเหมือนกับอยากจะบอกอะไรบางอย่าง และวินาทีที่โจ๊กเกอร์รับรูปใบนั้นมา มันเหมือนกับเขารับเอาความรักทั้งหมดจากชายผู้นั้นมาด้วย ตั้งแต่นั้นเขาก็ได้เข้ามาอยู่ในบ้านของอามาเนะจัง ซึ่งเริ่มแรกเขามาที่นี่เพราะความสงสัยในความรู้สึกของมนุษย์ ว่าทำไมผู้ชายคนนั้นถึงได้คิดถึงครอบครัวมากกว่าชีวิตของตัวเอง และเมื่อได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่มีแต่ความรัก ความอบอุ่น ความอ่อนโยนของสองแม่ลูกนี้ ทำให้ฮาจิเมะรักและผูกพันกับครอบครัวนี้โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ มันทำให้มีคำถามเกี่ยวกับความรู้สึกต่างๆของมนุษย์เกิดขึ้นมากมายในหัวเขา เขาเป็นอันเดดจึงหาเหตุผลให้กับความรู้สึกเหล่านี้ไม่ได้ มีแต่คำว่าทำไมๆเกิดขึ้นมากมาย ทั้งๆที่จริงๆแล้วเขาได้ซึมซับความรู้สึกเหล่านั้นไว้ในจิตใจโดยไม่รู้ตัว สุดท้ายเขาจึงขอเลือกที่จะอยู่ในร่างมนุษย์ตลอดไป พยายามต่อสู้และกดสัญชาตญาณของอันเดดเอาไว้อย่างสุดกำลัง เขารู้สึกรังเกียจที่ตัวเองเป็นอันเดดที่กระหายเลือดเหมือนสัตว์ป่า เมื่อใดที่เขาโดนสัญชาตญาณอันเดดเข้าครอบงำโดยสมบูรณ์ เขาจะจำไม่ได้แม้แต่อามาเนะจัง และจะออกอาละวาดทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า

ครั้งนึงโจ๊กเกอร์เคยพยายามฆ่าัตัวตาย แต่ไม่สำเร็จ เขาได้แต่หัวเราะให้กับชะตากรรมของตนเองและพูดว่า เป็นอันเดดจะตายได้ยังไง ....น่าฉงฉานจัง


ความสามารถในการแปลงร่างของโจ๊กเกอร์

ถ้าใครเคยเล่นไพ่แล้วเกิดทำหายไปซักใบนึง เราไม่ต้องเขวี้ยงสำรับนั้นทิ้งแล้ววิ่งไปซื้อมาใหม่ให้มันเสียเวลาหรอก เราก็ใช้ไพ่โจ๊กนี่แหละแทนใบที่หายไปได้เลย นี่แหละคือความสามารถของโจ๊กเกอร์ ที่เป็นอันเดดเพียงตนเดียวที่สามารถใช้การ์ดที่ผนึกอันเดดตัวอื่นมาใช้แปลงร่างได้ทุกใบโดยผ่านเข็มขัดไรเดอร์ แล้วจะเปลี่ยนร่างไปเป็นอันเดดตนนั้นๆได้







ใช้ชีวิตอยู่ด้วยเหตุผล พยายามทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด

ทาจิบานะ ซาคูยะ Rider Garren - ไพ่ข้าวหลามตัด เขาเป็นนักวิจัยขององค์กรบอร์ด และต่อมาได้รับเลือกให้เป็นไรเดอร์กาเรน ไรเดอร์ตัวแรกของบอร์ด เป็นคนมีฝีมือและมีความเป็นผู้ใหญ่ แต่ใครจะรู้ว่าเขามีความหวาดกลัวซ่อนอยู่ลึกๆภายในจิตใจ มันบั่นทอนร่างกายเขาให้ทรุดโทรมลงไปเรื่อยๆ แต่เขากลับคิดว่านั่นเกิดจากระบบที่ผิดพลาดในไรเดอร์ซิมเต็มเมื่อใช้แปลงร่างบ่อยๆ ภาพร่างกายที่แตกสลายคอยหลอกหลอนเขาอยู่ในหัวจนเขาเริ่มสติแตกไปเรื่อยๆ สุดท้ายหลงผิดไปเป็นพวกของอันเดดชั้นสูงตนนึง แต่หลังจากการตายของแฟนสาวทำให้เขาคิดได้และเสียใจกับเหตุการณ์นี้จนต้องการจะเลิกเป็นไรเดอร์ แต่ในที่สุดเขาก็ต้องกลับมาต่อสู้ร่วมกับเคนซากิเพื่อปกป้องมนุษย์จากอันเดดทั้งหลาย เขาเป็นผู้ให้คำแนะนำเรื่องการต่อสู้แก่เคนซากิตอนที่เคนซากิเพิ่งเริ่มเป็นไรเดอร์ และหลังจากนั้นเขาจะเป็นผู้ที่ฝึกมุซึกิ ไรเดอร์คนที่ 4 ให้พยายามควบคุมพลังด้านมืดของรูปแบบเอซ

ตั้งแต่เริ่มต้น ทาจิบานะคุงไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยไอคาวะ ฮาจิเมะไว้ เพราะเขาไม่ไว้ใจและยิ่งมารู้ทีหลังว่าโจ๊กเกอร์คือไพ่ตายแล้วเขายิ่งเป็นกังวลมากขึ้น แต่ก็ทำอะำไรไม่ได้เพราะมีเคนซากิคอยขัดขวางอยู่ แต่ในที่สุดแล้ว เขาคนนี้นี่แหละที่ยอมสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องโจ๊กเกอร์ ตอนที่เห็นคุณทาจิบานะยังไม่ตาย โห ดีใจมากๆ ตอนแรกนึกว่าจะำำไม่รอดแล้วซะอีก






เลือกแคปภาพที่เท่สุดมาเลยนะเนี่ยไอ้น้อง

คามิโจ มุซึกิ Rider Leangle - ไพ่ดอกจิก เด็กนักเรียนม.ปลายที่สามารถแปลงร่างเป็นเลนเกลได้ เป็นคนจิตใจอ่อนแอจึงถูกพลังของรูปแบบเอซเข้าครองงำ เมื่อตอนเป็นเด็กเคยถูกลักพาตัวแล้วเอาเขาไปขังไว้ในล็อคเกอร์ ภาพเหตุการณ์ตอนนั้นยังฝังใจเขาจนโต และทำให้เขาหวาดกลัวความมืด เขาต้องการจะชนะพลังด้านมืดของรูปแบบเอซก็เพื่อจะเอาชนะความกลัวภายในจิตใจของตนเองด้วย

เจ้าหนูมุซึกิยังไงก็เป็นแค่เด็กมอปลาย เขาจึงใช้เวลานานมากกว่าจะขจัดความกลัวของตัวเองออกไปได้ จริงๆแล้วเขาเป็นเด็กดีและมีจิตใจอ่อนโยน แถมเจ้าหนูนี่ยังโชคดีที่มีแฟนที่ทั้งดีและน่ารัก มีเซมไปไรเดอร์ที่เก่งๆคอยช่วยเหลือ แล้วยังเป็นที่รักของเหล่าอันเดดอีกด้วย อิอิ เพราะมีอันเดดตั้งหลายตัวที่ช่วยเจ้าหนูนี่ ตอนท้ายๆเรื่องเจ้าหนูมุซึกิก็สู้ไม่ถอยเหมือนกันนะ Smiley






โคทาโร่หล่อจังเลย Smiley

ชิราอิ โคทาโร่ เป็นนักข่าวและนักเขียนอิสระ เขากำลังเก็บข้อมูลและเขียนเรื่องของมาสค์ไรเดอร์และได้เจอกับเคนซากิเข้าพอดี เขาได้ให้ที่พักแก่เคนซากิเพื่อแลกกับข้อมูลของมาสค์ไรเดอร์ ซึ่งต่อมาเคนซากิก็พาฮิโรเสะกับหัวหน้าคาราซุมะเข้ามาอยู่กันซะเต็มบ้านโคทาโร่ไปหมด โคทาโร่เป็นคนใจดีมาก ติดแต่ว่าพูดมากและขี้โวยวายไปหน่อย ดูเขาน่าจะมีฐานะเหมือนกันเพราะมีที่ มีบ้านหลังใหญ่และยังขับแลนด์โรเวอร์ด้วยอ่ะ (แถมยังมีรถโบราณคันงามด้วยอีกคัน) น่าจะได้มรดกมาจากพ่อบุญธรรมมั้งเห็นเคยพูดในเรื่อง เขามีพี่สาว 1 คนคือคุณฮารุกะ และหลานจอมเฮี้ยวอีก 1 คน คือ อามาเนะจังนั่นเอง ซึ่งอามาเนะนั้นไม่ยอมเรียกโคทาโร่ว่าน้าเลย เรียกแต่ชื่อเฉยๆ แถมยังชอบว่าโคทาโร่ไม่เอาไหนอีกแหนะ แต่โคทาโร่ก็รักทั้งพี่และหลานคนนี้มาก นอกจากจะให้ที่พักอาศัยกับพวกของเคนซากิแล้ว ยังต้องทำกับข้าวให้กินอีกด้วย โคทาโร่มีเอกลักษณ์อย่างนึงคือกินแต่นมวันนึงไม่รู้กี่ขวด จนทุกคนพากันบอกว่าเดี๋ยวก็กลายเป็นวัวไปหรอก เด็กๆถ้าอยากน่ารักแบบพี่โคทาโร่ก็กินนมกันเยอะๆนะจ๊ะ เรื่องนี้เราจะลุ้นตลอดว่าโคาทาโร่จะได้เป็นไรเดอร์กับเค้าบ้างมั้ยน๊อ






สาวน้อยคนเดียวในเรื่อง เราชอบนะน่ารักดี

ฮิโรเสะ ชิโอริ หนึ่งในทีมวิจัยของบอร์ดที่รอดชีวิตในวัีนที่ศูนย์วิจัยบอร์ดถูกอันเดดโจมตี และเคนซากิได้พามาอยู่ที่บ้านของโคทาโร่ ฮิโรเสะเป็นคนที่คอยใช้โปรแกรมอันเดดเสิร์ชจับสัญญาณหาที่อยู่ของอันเดดที่ออกอาละวาดตามที่ต่างๆ แล้วรายงานให้เคนซากิและทาจิบานะรู้เพื่อเข้าไปผนึกอันเดดนั้นๆ เธอคนนี้เป็นคนที่คอยเตือนสติเคนซากิเมื่อเวลาที่เคนซากิเกิดรู้สึกท้อถอยขึ้นมา และขอเตือนว่าอย่าทำให้เธอโมโหเชียวนะ เพราะอาจจะโดนเธอยกเก้าอี้ทุ่มเอาได้






เล่นตั้งแต่ตัวกระเปี๊ยกเดียวจนตอนท้ายจะสูงเท่าคุณฮาจิเมะแล้ว

อามาเนะจัง เด็กน้อยจอมแก่แดด อิอิ แต่เราก็ชอบอามาเนะนะ น่ารักดี น้องเค้าก็เล่นดีด้วย อามาเนะเป็นเด็กนักเรียนชั้นประถมที่ต้องสูญเสียคุณพ่อไป เลยต้องอยู่กับคุณแม่กันแค่ 2 คน พอคุณฮาจิเมะเข้ามาขอเช่าห้องอยู่ที่นี่ เธอจึงรักคุณฮาจิเมะมาก คงเอามาแทนที่พ่อของเธอที่เสียไปแล้ว แถมเมื่อคุณฮาจิเมะมาอยู่ที่นี่ก็ยังช่วยงานที่บ้านของเธอที่เป็นร้านกาแฟด้วย คุณฮาจิเมะนี่ก็แปลก เป็นอันเดดที่ล้างจาน เช็ดโต๊ะ เสิร์ฟน้ำ แถมยังเล่นกับเด็กได้อีกด้วย แล้วยังยิ้มแย้มแจ่มใสดี ทำให้อามาเนะกับแม่ของเธอรักและไว้ใจฮาจิเมะจนเหมือนคนในครอบครัวคนนึง (เผลอๆรักมากกว่าโคทาโร่อีก นี่ก็อาจเป็นเหตุผลนึงที่โคทาโร่ไม่ค่อยชอบขี้หน้าฮาจิเมะเท่าไหร่ )





พวกอันเดดชั้นสูงทั้งหลาย คือพวก แจ็ค ควีน คิงและโจ๊กเกอร์ เป็นพวกที่สามารถแปลงเป็นร่างมนุษย์ได้ และเจ้าพวกนี้ก็มีความคิดความอ่านและบุคลิกที่แตกต่างกันไปคล้ายมนุษย์เรา บางตัวก็สามารถเข้าใจความรู้สึกนึกคิดแบบมนุษย์ได้ แถมบางตัวยังให้ความช่วยเหลือพวกเคนซากิด้วยซ้ำ มีตัวที่เราชอบอยู่หลายตัวเหมือนกัน เอามาให้ดูเป็นบางส่วน สำหรับพวกอันเดดแล้วนอกจากที่ต้องสู้ตามกฎของมาสเตอร์ ทุกๆตนยังต้องการให้เผ่าพันธ์ของตนเองมีโอกาสได้อยู่บนโลกใบนี้ ซึ่งพวกเขารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมที่ขณะนี้มนุษย์เป็นผู้ครอบครองโลกไว้แต่เพียงผู้เดียว คิงตัวสุดท้ายเคยบอกกับมุซึกิว่า จะให้อันเดดอยู่ร่วมกับมนุษย์โดยให้เขาต้องเข้าไปอยู่ในป่าอย่างนั้นเหรอ ฟังดูแล้วก็สะท้อนใจ เหมือนอันเดดเป็นตัวแทนสัตว์ต่างๆในโลกนี้ที่นับวันที่อยู่อาศัยก็จะถูกรุกรานไปเรื่อยๆ เหมือนรอวันจะสูญพันธ์ มนุษย์เราครอบครองโลกนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียวจริงๆอย่างที่พวกอันเดดว่า เราไม่เคยคิดถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆเลยที่เขาก็ต้องการพื้นที่อยู่อาศัยบ้าง คนเราขยายพื้นที่อยู่อาศัยไปเรื่อยๆ อะไรที่เคยอยู่มาก่อนก็กำจัดเขาทิ้งไป ไล่เขา ฆ่าเขา เห็นว่าคนเองสำคัญกว่าชีวิตอื่นๆได้ยังไง หรือว่าเรามีสมองที่ฉลาดก็เพียงเพื่อการนี้


อันเดดไทเกอร์รูปแบบควีน อันเดดตัวที่ีเราชอบมากที่สุด เพราะสวยเหมือนกัน Smiley



คิงตัวสุดท้ายที่แสนฉลาดและรู้เท่าทันแผนการต่อสู้ครั้งนี้



คิงเด็กน้อยที่หน้าตาขี้เหร๊ขี้เหร่แต่เราชอบนิสัยมันอ่ะ



เซอร์บีลัส เอซใบที่ 5 อันเดดลูกผสมที่เกิดมาเพราะความต้องการพลังเพื่อสร้างโลกใหม่ของเทนโดจิ


ถ้าอยากดูข้อมูลของเบลดและเหล่าอันเดดทั้งหลายแบบละเอียด เชิญไปชมที่ modxtoy ได้เลยค่ะ จะทำลิงค์ไว้ให้ข้างล่างนะคะ

+ อันนี้เป็นรายละเอียดของอันเดดทั้งหมดค่ะ

+ ข้อมูลของไรเดอร์แต่ละตัว

+ อันนี้ข้อมูลของการ์ดทั้งหมด อาวุธ และท่าไม้ตายต่างๆค่ะ




Smiley The Movie : Missing Ace Smiley






ขีดเส้นใต้ไว้ที่คำว่า "เริ่ด" สมแล้วที่เกิดมาเป็นเดอะมูฟวี่ของเบลด เพราะดูแล้วยังได้บรรยากาศ ได้อารมณ์ของเบลดอยู่ ความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง และสุดท้ายความดราม่าที่ยังคงมีมาให้คนดูได้นั่งซึ้งตัวแข็งกันอยู่ในตัวหนังที่มีความยาวแค่ชั่วโมงกว่าๆ ซึ่งก่อนดูก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะโดนมูฟวี่ของคาเมนไรเดอร์ทำให้เจ็บช้ำมาก็หลายเรื่อง



แว๊กกกก...พระเอกชั้นกลายเป็นคนเก็บขยะไปได้ไงเนี่ย อนาจจริง


เนื้อเรื่องภาคมูฟวี่นี่ก็มีว่า เมื่อเหลือโจ๊กเกอร์ฮาจิเมะเป็นตัวสุดท้าย เคนซากิตัดสินใจที่จะผนึกเขาซะแม้ว่าจะไม่ได้อยากทำก็ตาม แต่เรื่องราวทั้งหลายไม่มีทางจบลงเพียงแค่นี้แน่นอน (ไม่งั้นเราจะดูอะไรล่ะ) ไรเดอร์ทุกคนคืนเข็มขัดและการ์ดทั้งหมดให้หัวหน้าคาราซุมะไป ขณะที่หัวหน้าคาราซุมะและทาจิบานะกำลังเดินทางเพื่อนำการ์ดทั้งหมดไปเก็บไว้ในสถานที่ๆปลอดภัยนั้น จู่ๆรถของพวกเขาก็ถูกโจมตีโดยโจ๊กเกอร์อีกตนหนึ่งซึ่งไม่มีใครเคยพบเห็นมาก่อน อันเดดกว่าครึ่งถูกปลดผนึกออก หัวหน้าคาราซุมะเสียชีวิต



เกรียน 3 ตัว ที่จุดจบไม่สวย (แอบบสมน้ำหน้าเล็กน้อย)


ทาจิบานะสร้างไรเดอร์ใหม่ขึ้นมาอีก 3 ตัวเพื่อไล่ผนึกอันเดด เขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพวกเคนซากิเพราะไพ่เอซที่เบลดและเลนเกลต้องใช้ในการแปลงร่างนั้นถูกปลดผนึกไปแล้ว

เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ในคราวที่ฮิวแมนอันเดดเป็นผู้ชนะใน Battle Royal มาสเตอร์ได้มอบพลังที่ยิ่งใหญ่ให้กับเขา แต่เขาปฏิเสธที่จะใช้มัน พลังนั้นจึงยังคงหลับไหลอยู่ภายในศิลาโบราณ ซึ่งผู้ที่บังเอิญไปพบและเปิดมันออกมา คือพ่อของอามะเนะจังในคราวที่เขาเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์การต่อสู้ของอันเดดแล้วโดนลูกหลงจนเสียชีวิตนั่นเอง



มีเกสต์มาจากไฟซ์ด้วย คุณคิบะกับประธานสมาร์ทเบรน Smiley


สิ่งที่โจ๊กเกอร์ตนนี้ต้องการก็คือพลังอันยิ่งใหญ่ที่ยังถูกผนึกอยู่ในศิลานั่นเอง ซึ่งวิธีการปลดผนึกพลังนี้นั้น ผู้ที่เปิดมันออกจะเป็นกุญแจในการปลดผนึกพลัง โดยต้องสังเวยชีวิตตนลงในการ์ดที่จะเกิดขึ้นมาใหม่เมื่อใช้คิงทั้ง 4 ใบมารวมกัน แต่เมื่อคุณพ่อของอามาเนะจังเสียชีวิตไปนานแล้ว สิ่งที่โจ๊กเกอร์กำลังตามหาคือทายาทที่เหลืออยู่นั่นเอง



ในเรื่องเจ๊ฮิโรเสะจะขึ้นคานก็เพราะเพื่อนๆนี่แหละ


วุ้ย...ทำไมยิ่งพิมพ์มันยิ่งยาว แต่เนื้อเรื่องยังมีรายละเอียดอะไรมากว่านี้เยอะ ใครคือโจ๊กเกอร์ พลังนั้นคืออะไร จะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง แล้วตอนจบล่ะ อิอิ ขอบอกว่าซึ้งแน่ๆ และที่สำคัญมันส์ชัวร์ ใครเป็นแฟนเบลดพลาดไม่ได้นะคะกับมิซซิ่งเอซ (เค้าดูกันไปสามชาติแล้วล่ะแก มีแกคนเดียวนี่แหละที่เพิ่งมาดูกะเค้าเนี่ย )




Smiley Original Soundtrack Smiley


ทั้งเพลงนำและเพลงประกอบของเบลดนี่ก็เพราะไม่แพ้กับไรเดอร์ภาคอื่นๆ แต่ที่โดดเด่นกว่าคือเสียงกีต้าร์ที่ใช้ประกอบช่วงดราม่า โดยเฉพาะช่วงดราม่าเกี่ยวกับตัวโจ๊กเกอร์ ในภาคหนังจะมีช่วงที่โชว์ซาวน์กีต้าร์อยู่นิดนึง รู้สึกจะเป็นเพลงที่ฮาจิเมะเคยเล่นในภาคซีรี่ย์ ส่วนเพลงที่เด่นๆของเบลดนี่ก็มีเพราะๆหลายเพลง มีเพลงนึงที่ได้ Aikawa Nanase ที่เพลง Bye Bye Boy ของเธอเคยดังมากๆเมื่อหลายปีก่อน ที่ไม่ว่าไปที่ไหนจะได้ยินเพลงของเธอหลอกหลอนอยู่ทุกที่ ส่วนนักแสดงนำในเรื่องนี้ทุกคนล้วนได้ร้องคนละ 1 เพลง เอามาให้ลองฟังกันดูบางเพลงนะคะ

Smiley RIDER CHIPS Featuring Ricky - Elements

Smiley Nanase Aikawa - Round Zero ~ Blade Brave

Smiley Aikawa Hajime (Morimoto Ryouji) - Take It A Try

Smiley Yume No Katami - เพลงช้าๆเคล้าเสียงกีต้าร์ เพราะดี




Smiley Hyper Battle -- Blade VS Blade Smiley


และเช่นเคยตอนพิเศษสั้นๆ โก๊ะๆ กับเบลดเวอร์ซัสเบลด เมื่อมีไทรอัลบังอาจแปลงร่างเป็นเคนซากิ และยิ่งกว่านั้นสามารถแปลงเป็นเบลดได้ด้วย คราวนี้เคนซากิคุงจะทำยังไงดี จะมีใครแยกระหว่างตัวจริงกับตัวปลอมออกบ้างนะ



อ่ะนะ ตัวปลอมผูกผ้าแดงโล่ยังจะแยกกันไม่ออกอีก Smiley



3 คนนี่ใครจะรู้จักเบลดดีที่สุด



โดนมุซึกิเอาไม้ตีหัวเพราะจำผิด



อิไต้ๆ โดนทาจิบานะคุงยิงตรูดเอาอ่ะ จายร้าย Smiley



สุดท้ายฮาจิเมะแค่เรียกชื่อเบลดก็รู้แล้วว่าใครเป็นใคร



ก็แกมันเฉื่อยกว่าพวกไทรอัลนี่ กว่าจะหันมาได้ (อิอิ โดนเลยเบลด )




Smiley Special Bonus Smiley








จบแล้วค่า...บ๊าย บาย Smiley






Tag : Kamen Rider Blade , มาสค์ไรเดอร์เบลด , คาเมนไรเดอร์เบลด




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2553
3 comments
Last Update : 3 มีนาคม 2554 17:08:34 น.
Counter : 17607 Pageviews.

 

เท่สุดๆ ชอบเบลด อ่ะๆ

 

โดย: Metallica IP: 118.173.83.15 30 มีนาคม 2555 18:42:57 น.  

 

Hi, after reading this remarkable piece of writing i am also cheerful to share my know-how here with friends.
outlet di peuterey //www.fipav-latina.it/peuterey-outlet/wcTTEHYGFR/

 

โดย: outlet di peuterey IP: 192.99.14.36 3 ธันวาคม 2557 23:46:21 น.  

 

แล้วโจ๊กเกอร์ตัวหลังมันเกิดจากการ์ดคิงได้อย่างไร

 

โดย: Jks IP: 58.11.10.141 26 มิถุนายน 2562 14:03:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


just a little thing
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add just a little thing's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.