Masked Rider Blade (2004) สนุกจนหยุดไม่ได้
Masked Rider Blade (2004)เห็นพระเอกหัวแหลมโด่เด่แบบนี้ แต่ขอบอกว่าโคตรสนุกเลยนะเรื่องนี้ตอนแรกที่เห็น ว๊าย ไรเดอร์อะำไร หัวแหลมมาเชียว น่าเกลี๊ยด แต่พอนั่งดูไปแป๊บ เออ มันหนุกดีแฮะ พอดูไปเรื่อยๆแล้วเกิดอาการปิดไม่ได้อ่ะ ต้องดูต่อไปเรื่อยๆๆๆ เนื้อเรื่องมันเข้มข้นมั่ก ออกจะเครียดๆอยู่สักหน่อย เดินเรื่องได้เร็วและกระชับดี ดูแล้วแบบว่าตื่นเต้น นั่งลุ้นตลอดเลย ตัวละครทุกตัวมีพัฒนาการชัดเจน ให้เห็นถึงหลายๆด้าน ไม่ใช่ว่าตัวไหนดีก็ดี ร้ายก็ร้ายไปเลยแบบเรื่องอื่นๆ พระเอกนี่ตอนแรกๆอ่อนปวกเปียก แต่จะค่อยๆเก่งขึ้นมาแบบเราเองก็ยังไม่รู้ตัวเลย สุดท้ายถึงคิดได้ โอ้ มันเก่งเทพแล้วแฮะเจ้าเคนซากิเนี่ย3 คนนี่เวลาอยู่ด้วยกันน่ารักดีน๊ะนักแสดงในเรื่องทุกคนเรียกว่าหน้าตาโอเคพอไปวัดไปวาได้ แต่ที่ออกแนวน่ารักคงมีอยู่คนเดียว ก็โคทาโร่ไง อิอิ น่ารัก เราว่าน่ารักสุดแล้วในเรื่อง เสื้อผ้าที่ใส่ก็ดูสดใสวัยรุ่นดี ไม่เก่าๆทึมๆเหมือนคนอื่น เคนซากิคุงนี่ก็ผ๊อม ผอมไปนะ คุณฮาจิเมะก็ถือว่าหน้าตาโอเคแต่เตี้ยไปนี้ส แล้วพี่แกไม่รู้ไปอาบแดดที่ไหน เกรียมมาเชียว คุณทาจิบานะก็ถือว่าหล่อเท่ ตอนเริ่มเรื่องเลยก็นึกว่าคนนี้เป็นพระเอกซะอีก แต่คงดูผู้ใหญ่เกินไปไม่โดนใจวัยรุ่น ส่วนตอนที่แปลงร่างเป็นไรเดอร์กันแล้วก็ไม่อยากวิจารณ์อะำไรมาก เพราะติดใจเนื้อเรื่องไปแล้ว อย่างอื่นมันก็เลยดูดีขึ้นมาเอง แต่ไอ้ตัวหัวหม้อตัวสุดท้ายนี่ สุดทำใจจะรับจริงๆ ไอ้ัตัวเขียวเลนเกลอ่ะ คิดแล้วปวดตับหนึบๆ แต่ตัวที่สวยก็สวยจริงๆนะ เราชอบมากเลย หลายๆคนคงเห็นเหมือนกัน ก็คาลิสไงล่ะ แหม ไม่รู้คนเดียวกันออกแบบรึเปล่า ไหงมันต่างกับไรเดอร์ตัวอื่นๆราวฟ้ากับเหว อ้อ แต่ตอนที่คาลิสใช้การ์ดคิงมันก็ดูแม่งๆเหมือนกันนะ สีมันดูไงอ่ะ ประหลาดพิลึก ตาสีเขียวอกสีเขียวตัวสีแดง คุณแม่ไม่ปลื้มค่า ไมมันไม่ทองอร่ามน่ากราบไหว้แบบเบลดกับกาเรนอ่ะ (2 ตัวนี่ก็หน้าเหลืองอร่ามกันมาเลย ตอนแรกเห็นแล้วขำแทบตาย) ตอนเป็นคิงฟอร์ม เราชอบเบลดที่สุด เพราะหัวไม่แหลมโด่เด่แล้ว และดูขลังขึ้นมากๆ เพราะตามแขนขาเล่นแปะยันต์เอาไว้เพียบ นี่ถ้าไปนั่งในโบสถ์คงหลงไปกราบแล้วล่ะเพราะนึกว่าเป็นพระพุทธรูป (คือก็ชอบอ่ะนะ แต่มันท๊อง ทองอ่ะ)สองคนนี่นอกจากจะอยู่บ้านทำกับข้าวแล้วต้องคอยช่วยกันตรวจหาอันเดดด้วยเรื่องนี้ถ้าใครหวังจะฮาก็ผ่านไปได้เลย มันก็มีเล่นมุกบ้างแต่เป็นแบบมุกผ่อนคลายไม่ได้ฮาก๊ากมากมาย แต่ก็มีหลุดปัญญาอ่อนออกมาช่วงนึง เป็นตอนของคุณฮาจิเมะที่ได้ไปเจอฝาแฝดเข้าอ่ะ ตอนนั้นล่ะรู้สึกจะติงต๊องสุดแล้ว นั่งดูอยู่ยังรู้สึกว่า แม๊...ทำไปได้ แต่ก็โอนะ ให้คุณฮาจิเมะมีบทเบาๆกะเค้าบ้าง เพราะชีวิตพี่แกรู้สึกจะเครียดเหลือเกินไอ้ฝาแฝดของโจ๊กเกอร์นี่มันติงต๊องแบบไม่เกรงใจใครจริงๆมาพูดถึงเคนซากิคุงกันต่ออีกหน่อย ยิ่งดูไปยิ่งคิดว่าทำไมมันเป็นคนดีอย่างนี้ว้า จะเจ็บจะเหนื่อยแค่ไหนขอให้ได้ยินว่าอันเดด (Undead) ปรากฏตัวเป็นต้องวิ่งไปสู้ทุกครั้งไม่มีอิดออด โดยเฉพาะตอนท้ายๆ เป็นคนเดียวที่ตั้งใจจะช่วยคุณฮาจิเมะจริงๆ ใครพูดยังไงก็ไม่ยอมเชื่อ เพราะเค้าได้สัมผัสตัวตนของฮาจิเมะแบบที่คนอื่นไม่รู้ มันต้องหยั่งงี้สิ มั่นใจตัวเองเข้าไ้ว้เคนซากิ ดูแล้วมันซึ้งจริงๆยิ่งดูไปถึงตอนท้ายๆจะยิ่งซึ้งมากขึ้น ดราม่าโครต เค้าเขียนบทได้ลึกดีอ่ะ มันเชื่อมโยงกันไปหมด ทั้งความสัมพันธ์ของตัวละคร เนื้อเรื่องที่ไหลลื่นไปอย่างหยุดไม่ได้ ยิ่งตอนจบยิ่งซึ้งมาก เรียกว่าลุ้นจนวินาทีสุดท้ายว่ามันจะเป็นอย่างที่เราคิดมั้ยน้า ตกลงเคนซากิมันจะเอายังไงกันแน่ จบได้ดีเลยล่ะ ถ้าได้ดูมาตลอดทั้งเรื่องจะรู้ได้เลยล่ะว่าเคนซากินี่ล่ะมาสค์ไรเดอร์ตัวจริง คือทั้ง รัก+ห่วง+เข้าใจ+ดูแลเพื่อนๆ ช่วยเหลือและปกป้องแม้คนที่ไม่รู้จัก มองโลกในแง่ดี มีความมุ่งมั่น ไม่เกรียน ไม่หลงตัวเอง ไม่เจ้าชู้ ไม่ห่วงหล่อ และที่สำคัญที่สุดคือความเสียสละของเขานั่นเองชอบดีไซน์คาลิส แต่ของเบลดนี่เห็นหน้าแล้วคิดถึงหัวหอมทุกที คอนเซ็ปของเรื่องนี้ ก็คือไพ่ ไพ่ 1 สำรับที่เราเอาไว้เล่นป๊อกเด้งกันนั่นล่ะ ถือว่าเป็นคอนเซ็ปที่กิ๊บเก๋มากเพราะมีอะไรให้เล่นเยอะ กราฟฟิคหน้าไพ่ดุ๊กดิ๊กก็ดูน่ารักดี ถ้าเราได้ดูตอนเรื่องนี้ตอนฉายใหม่ๆคงได้ตามล่าสะสมการ์ดกันแล้วล่ะ ตอนที่ดูเบลดนี่ดับเบิ้ลกำลังฉายที่ญี่ปุ่น อิอิ เบลดมันจบไปตั้งหลายปีแล้วอ่ะ ก็นะคนมันเพิ่งมีเวลาดูนิ อ้อ มาพูดเรื่องการ์ดหรือไพ่กันอีกสักหน่อย เนื้อเรื่องมันก็คือว่า ไพ่ทั้งหมดมันมี 52 ใบใช่มะ ไพ่ 1 ใบก็จะแทนอันเดด 1 ร่างหรือ 1 รูปแบบนั่นเอง ในอดีตกาลเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนนั้น (นานโคตร) อันเดดทั้งหมดต้องต่อสู้กันตามกฏของมาสเตอร์ (นัยๆว่านั่นล่ะคือพระเจ้า...มั้งนะตามความคิดเรา) เพื่อให้ได้ครอบครองพลังแห่งจักรวาล ซึ่งสามารถบันดาลทุกสิ่งในโลกได้ดั่งใจตน ผู้ที่พ่ายแพ้การต่อสู้จะถูกผนึกไว้ในศิลาของมาสเตอร์ และผลการต่อสู้ครั้งนั้นผู้ที่ชนะในการต่อสู้คือ Human Undead หลังจากนั้นเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ก็ได้สิทธิ์สืบเชื้อสายมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนฮิวแมนอันเดดตนนั้นก็ยังคงมีชีวิตอยู่มาจนกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน (สมชื่ออันเดดจริงๆ สุดยอด) แต่ทุกคนคงลืมคิดไปว่า จริงๆแล้วในไพ่ 1 สำรับนั้น ไม่ได้มีแค่ 52 ใบ แต่มีไพ่พิเศษที่ขาดไม่ได้อยู่ด้วย นั่นก็คือ Joker นั่นเองฉากประทับใจ คนกับอันเดดนั่งกินข้าวปั้นกันเนื้อเรื่องย่อ B.O.A.R.D. องค์กรวิจัยทางด้านโบราณคดีและทรัพยากรธรรมชาติ แต่เบื้องหลังคือองค์กรที่กำลังทำการวิจัยลับๆเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตอายุก่อนประวัติศาสตร์ Undead ที่ถูกผนึกไว้ในศิลาโบราณ บอร์ดทำการศึกษาและได้สร้างระบบที่เลียนแบบการทำงานของศิลาที่ผนึกอันเดดขึ้นมา โดยเปลี่ยนไปใช้การ์ดในการผนึกอันเดดแต่ละตนแทนต่อมาได้มีผู้ปลดผนึกอันเดดทั้งหมด ปลดปล่อยให้อันเดดทั้งหลายออกมาอาละวาดในโลกนี้อีกครั้ง ไรเดอร์ซิสเตมจึงถูกนำมาใช้งานเพื่อใช้ผนึกอันเดดที่ออกอาละวาด ทาจิบานะและเคนซากิ คือผู้ได้รับเลือกจากบอร์ดให้ทำหน้าที่ไรเดอร์เพื่อจัดการปราบอันเดดและผนึกลงในการ์ดเพื่อความปลอดภัยของมนุษย์โดยทั่วไป เมื่ออันเดดตนนั้นพ่ายแพ้หัวเข็มขัดจะเปิดออกแสดงว่าสามารถผนึกได้แล้วอันเดดทั้งหมดที่ออกมาได้ทำการ Battle Fight (Battle Royal) กันตามสัญชาตญาณเมื่อหมื่นปีก่อน คือการต่อสู้กันเพื่อหาผู้ชนะคนสุดท้าย โจ๊กเกอร์เมื่อถูกปลดผนึกออกมาก็ได้บังเอิญมาเจอกับฮิวแมนอันเดด (ซึ่งหน้าตาเหมือนคุณฮาจิเมะเพราะเป็นต้นแบบร่างที่ใช้แปลงเป็นมนุษย์ของโจ๊กเกอร์) คิดว่าฮิวแมนอันเดดนั้นคงจะเบื่อชีวิตแล้วเป็นแน่แท้ เพราะอยู่มานานมั่กมาก เลยยินยอมให้โจ๊กเกอร์ผนึกตนลงในการ์ดด้วยความเต็มใจ โจ๊กเกอร์ซึ่งมีความสามารถพิเศษคือเปลี่ยนร่างเป็นอันเดดที่ตนผนึกได้ทุกร่าง ก็ได้ใช้ร่างของฮิวแมนอันเดดนั้นอาศัยอยู่ร่วมกันกับมนุษย์ เพราะเขาสงสัยและอยากรู้ว่าความรัก ความผูกพันธ์และครอบครัวนั้นคืออะไร ทำไมมนุษย์ถึงได้คิดถึงคนอื่นก่อนตัวเอง นั่นเองที่ทำให้โจ๊กเกอร์ (คุณฮาจิเมะ) เริ่มเรียนรู้ความรู้สึกของมนุษย์จากคนรอบๆตัวเขา ต้องขอชมคุณ Makoto Ito ที่สวมชุดไรเดอร์คาลิสที่นอกจะแสดงได้ดีแล้ว ยังสวมชุดได้ฟิตแอนด์เฟิร์มมากๆอันเดดที่ว่าร้ายกาจ สุดท้ายนั้นหรือจะร้ายเท่ามนุษย์ การ Battle Fight กันในครั้งนี้ไม่ได้เหมือนเมื่อครั้งหมื่นปีก่อน อันเดดทั้งหลายต่างต่อสู้กันตามสัญชาตญาณและกฎที่มาสเตอร์เคยตั้งไว้ เพียงแต่ในครั้งนี้มีเพียงไรเดอร์เท่านั้นที่ผนึกอันเดดได้ ไม่ว่าอันเดดจะสู้กันเองปางตายสักแค่ไหน ศิลาของมาสเตอร์ก็ไม่เคยปรากฎขึ้นเพื่อผนึกผู้พ่ายแพ้เหมือนในกาลก่อน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะการต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้นโดยน้ำมือมนุษย์ที่วางแผนขึ้น เพื่อหวังครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่ โดยการทำให้เกิดการต่อสู้เลียนแบบเมื่อครั้งหนึ่งหมื่นปีก่อนขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น บอร์ดภายใต้การนำของเทนโนจิยังได้สร้างอันเดดประดิษฐ์ขึ้นอีกหลายตัว โดยใช้เซลล์จากอันเดดต่างๆมาทดลองและสร้างอันเดดที่สามารถทำงานตามคำสั่งได้นอกจากการต่อสู้กับอันเดดที่โหดร้ายแล้ว พวกเคนซากิยังต้องเผชิญกับมนุษย์ที่นับว่าชั่วช้ากว่าอันเดดหลายเท่านัก แต่การจัดการกับพวกนี้ก็เป็นเพียงความลำบากทางกายเท่านั้น แต่เรื่องราวของเพื่อนๆและคนใกล้ชิดนี่สิ ที่จะทำให้เกิดความลำบากและอึดอัดใจมากกว่า มีหลายๆเหตุการณ์ผ่านเข้ามาทดสอบความรักและความผูกพันธ์ที่มีต่อเพื่อนและคนรอบๆข้าง แต่มันก็เหมือนเป็นแบบทดสอบที่ทำให้พวกเขาผูกพันธ์กันมากยิ่งขึ้น ...โอ้ว ซึ้งจริงๆ เขียนไปได้... ฮิวแมนอันเดดที่ยอมให้ผนึกตนเองซะโจ๊กเกอร์นั้นเป็นไพ่ตายของการต่อสู้ครั้งนี้ ตายจริงๆ และตายแน่นอน เพราะกฎข้อหนึ่งของการต่อสู้นั้น ถ้าหากโจกเกอร์เป็นผู้ชนะคือเป็นอันเดดตนสุดท้ายที่เหลืออยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกรีเซทใหม่หมดเพื่อกลับไปสู่จุดเริ่มต้น คือความว่างเปล่า เหมือนเรากดปุ่มรีเซทหรือรีสโตร์นั่นเอง สิ่งมีชีวิตทุกอย่างบนโลกใบนี้จะสูญสิ้นไปจนหมด รวมทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์เองด้วย...น่ากัววววจริงๆแต่ถ้าใครชอบเข้าบ่อนก็จะรู้ว่า ไพ่โจ๊กเกอร์ในสำรับนึงนั้นไม่จำเป็นต้องมีแค่ใบเดียวเหมือนไพ่ใบอื่นๆ และนั่นก็คือวิถีทางการแก้ปัญหานี้เห็นมะว่าพล็อตเรื่องนี้มันเจ๋งสุดๆ นอกจากที่เขียนนี่ยังมีเรื่องราวอื่นอีกมากมายที่ทำให้หยุดดูไม่ได้เลย เีรียกว่ามีเรื่องให้คอยลุ้นกันตลอดทั้งเรื่อง สำหรับเรายกให้เบลดนี่มีเนื่อเรื่องที่สนุกเข้มข้นที่สุดในซีรี่ย์ไเดอร์ทั้งหมดทั้งมวล เพราะแต่ละตัวละครมีเรื่องมีราวไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อน นู่นนี่นั่นให้เราคอยติดตามตลอด แถมเนื้อเรื่องไม่ได้จบในตอนอีกต่างหาก คือบางตอนกำลังสู้กันมันๆแต่มันหมดตอนแล้วก็ตัดจบไปดื้อๆ เราก็กำลังมันๆอยู่ก็ต้องเปิดตอนต่อไป แล้วก็ตอนต่อไป ต่อไป ๆ ๆ ปิดไม่ได้ซะที เอ้า มาถ่ายรูปหมู่กันหน่อยไรเดอร์ซิสเตม (Rider System) ที่ใช้ในการสร้างเข็มขัดแปลงร่างนี้ B.O.A.R.D. ได้ศึกษามาจากความสามารถในการเปลี่ยนร่างของโจ๊กเกอร์นั่นเอง (ซึ่งจะมาเฉลยเอาในตอนท้ายๆของเรื่องแล้ว) เข็มขัดของโจ๊กเกอร์นั้นแตกต่างจากเข็มขัดของอันเดดรูปแบบอื่นๆ ซึ่งบอร์ดใช้เข็มขัดของโจ๊กเกอร์นี่เองเป็นต้นแบบในการพัฒนามาเป็นเข็มขัดของไรเดอร์ เพื่อให้มนุษย์สามารถนำมาใช้เปลี่ยนร่างเป็นไรเดอร์ได้ โดยพลังงานที่ใช้ในการแปลงร่างนั้นได้มาจากอันเดดรูปแบบเอซเท่านั้น (ไพ่ Ace = A นั่นล่ะค่ะ) ฉะนั้นเราก็จะมีไรเดอร์ทั้งหมดแค่ 4 ตัว คือ เบลด กาเรน คาลิส และหัวหม้อ เอ้ย ไอ้เจ้าเลนเกล ส่วนการ์ดไพ่ใบอื่นๆนั้นเอาไว้ใช้ในการเรียกพลังแบบต่างๆแล้วแต่ความเหมาะสมในการต่อสู้ มนุษย์ที่สามารถใช้เข็ดขัดไรเดอร์ได้นั้น ต้องมีความสามารถในการเป็นตัวรับพลังของอันเดด หรือมีค่าฟิวชั่น (Fusion) ที่สูงมากพอ ซึ่งหาได้ยากในมนุษย์ทั่วๆไป น้อยคนนักที่จะมีค่าฟิวชั่นสูงพอที่จะแปลงร่างได้ ในตอนหลังหัวหน้าคาราซูมะได้สร้างเร้าเซอร์ขึ้นมาให้เบลดกับกาเรนเพื่ออัพเกรดพลังการต่อสู้ โดยการใช้การ์ดควีนฟิวชั่นกับแจ็คหรือคิง เพื่อดึงพลังจากอันเดดชั้นสูงมาใช้เพิ่มพลังในการต่อสู้แอ็คชั่นนี้สวยเริ่ดและเรื่องมันก็เกิดขึ้นตรงนี้เอง เพราะเจ้าเคนซากินั้นมีค่าฟิวชั่นที่สูงมากผิดปรกติ เมื่อเปลี่ยนร่างเป็นคิงฟอร์มแล้ว แทนที่เขาจะดึงแค่พลังของคิงออกมาใช้ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาสามารถรวมร่างเข้ากับอันเดดทั้ง 13 ตัวได้ (คือจำนวนไพ่ทั้งหมดในดอกเดียวกัน) ซึ่งความสามารถนี้มีแต่เคนซากิและฮาจิเมะเท่านั้นที่ทำได้ ตอนท้ายๆเมื่อเหลือแต่อันเดดที่มีฝีมือร้ายกาจ แล้วไหนจะพวกไทรอัลซีรี่ย์ทั้งหลายอีก นั่นทำให้เคนซากิเริ่มใช้คิงฟอร์มบ่อยขึ้น ซึ่งส่งผลเสียต่อเขาเป็นอันมาก นอกจากร่างกายของเขาจะสูญเสียพลังไปมากมาย ทำให้ถึงกับสลบหลังจากเป็นคิงฟอร์มทุกๆครั้งแล้ว มันยังมีผลร้ายแรงต่อความเป็นมนุษย์ของเขาอีกด้วย เพราะเมื่อเขารวมร่างกับอันเดดทั้ง 13 ตนนานเข้าๆ จนเกินขีดจำกัดที่ร่างกายจะต่อต้านไหว เขาจะค่อยๆผสานหลอมรวมเข้ากับอันเดดที่เขารวมร่างด้วย จนเขามีโอกาสจะอาจกลายเป็นอันเดดไปเองก็ได้ และด้วยเข็มขัดที่เขาใช้ในการแปลงร่างนั้นเลียนแบบมาจากโจ๊กเกอร์ ทำให้เขามีรูปแบบพลังเหมือนกัน นั่นแปลว่าเขาอาจกลายเป็นโจ๊กเกอร์ตนที่สองก็เป็นได้ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกชะตากรรมหนึ่งที่เขามีร่วมกับฮาจิเมะรูปถ่ายนี้วางอยู่ในห้องนอนของเคนซากิคุงตอนจบของเรื่องนี้ ดูไป 2 รอบ ก็นั่งตัวแข็งทั้งสองรอบ มันทั้งลุ้นทั้งซึ้ง กินใจสุดๆ และตัวละครทุกตัวในเรื่องคงจะอยู่ในใจตลอดไป ตอนจบของเรื่องนี้ มันไม่ได้หยุดที่ว่าทุกอย่างป้องกันไว้ได้ทันเวลา แต่ในเบลดนี่ทุกอย่างที่ได้เอ่ยถึงมันจะเกิดขึ้น ทุกอย่างที่ไม่อยากให้เป็นเราจะได้เห็นมัน เนื้อเรื่องจะไหลไปเรื่อยๆอย่างหยุดไม่ได้ เหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อในที่สุดโจ๊กเกอร์ก็เป็นอันเดดตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ และตามกฎแล้วเขาก็ไม่สามารถที่จะขออะไรได้ (คือไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้พลังแห่งสรรพสิ่งนั่นเอง) เป็นเพียงแค่ปุ่มรีเซทแค่นั้น เมื่อกระบวนการทำลายล้างได้เริ่มขึ้น ไม่ใช่ทุกสิ่งจะหายวับไปในทันที แต่มันจะค่อยๆถูกทำลายลงโดยสัตว์ประหลาดจำนวนมากที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากศิลาของมาสเตอร์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด นั่นล่ะคือที่มาของฉายา นักสู้ผู้เลือดเย็น ที่อันเดดตัวอื่นๆขนานนามเขาสุดท้ายเมื่อเคนซากิหายไป เพื่อนๆจะเสียใจกันมากแค่ไหน