|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ย้อนรอย สิงโต VS อินทรี
ย้อนรอย สิงโต VS อินทรี ดวลกันสนุกทุกครั้งไป
การดวลกันของสองชาติมหาอำนาจลูกหนังหวนกลับมาอีกครั้ง สิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ มีคิวเปิดสนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน อุ่นเครื่องกับ อินทรีเหล็ก เยอรมนี คู่ปรับตลอดกาล หากมองย้อนกลับไปในอดีตทั้งสองฝ่ายไม่มีอ่อนข้อให้กันและกัน ด้วยศักดิ์ศรีที่ค้ำคอกันอยู่เชื่อเหลือเกินว่าแมตช์กระชับมิตรคืนวันพุธนี้ต้องไม่ธรรมดา ปี 1938 แมตช์อุ่นเครื่อง ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เยอรมนี 3-6 อังกฤษ การเผชิญแข้งกันที่ โอลิมปิก สเตเดี้ยม แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งกันระหว่างสองประเทศที่ค่อนข้างชัดเจน แต่หัวหน้าทีมลูกหนังทีมชาติอังกฤษสั่งให้นักเตะแสดงการให้เกียรติต่อเจ้าถิ่น และก็มีการยืนทำความเคารพแบบนาซีก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มขึ้น ในแมตช์ดังกล่าว อังกฤษ เอาชนะไป 6-3 โดยได้ประตูจากศูนย์หน้า 5 คนได้แก่ คลิฟฟ์ บาสติน, แฟร้งค์ บรูม, สแตนลี่ย์ แม็ทธิวส์, เลน กูลเดน และแจ๊คกี้ โรบินสัน เบิ้ลสองประตู ปี 1966 ฟุตบอลโลก นัดชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ ประเทศอังกฤษ อังกฤษ 4-2 เยอรมนี ตะวันตก (หลังต่อเวลาพิเศษ) ชัยชนะในการไปสู่ตำแหน่งแชมป์ฟุตบอลโลกของ อังกฤษ เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินของพวกเขาและก็เป็นการเอาชนะคู่ปรับตลอดกาลอย่าง เยอรมนี (ตะวันตก) แม้ เฮลมุท ฮัลเลอร์ จะยิงให้ทีมเยือนนำไปก่อน แต่ เจฟฟ์ เฮิร์ทส์ ซัดตีเสมอให้เจ้าถิ่นได้สำเร็จ ก่อนที่ มาร์ติน ปีเตอร์ส จะยิงให้ อังกฤษ พลิกนำ 2-1 ในนาทีที่ 78 อย่างไรก็ตาม โวล์ฟกัง เวเบอร์ ทำประตูตีเสมอจนต้องต้อเวลาพิเศษ ซึ่ง เจฟฟ์ เฮิร์ทส์ มาทำประตูที่สองให้ อังกฤษ ขึ้นนำ 3-2 และนั่นก็เป็นประตูประวัติศาสตร์ในฟุตบอลโลกที่ยังถกเถียงกันถึงปัจจุบันว่าตกลงแล้วลูกบอลข้ามเส้นไปหรือยัง จากภาพรีเพลย์ที่ปรากฏพบว่าลูกหนังใกล้เคียงกับเส้นประตูเป็นที่สุด ในนาทีสุดท้าย เฮิร์ทส์ มายิงฝังชัยให้ อังกฤษ คว้าแชมป์โลกสมัยแรกและสมัยเดียวถึงทุกวันนี้ และเขาก็เป็นนักเตะเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ทำแฮตทริกได้สำเร็จในฟุตบอลโลก นัดชิงชนะเลิศ
ประตูของ "เจฟฟ์ เฮิร์ทส์" ยังเป็นที่กล่าวขาน ปี 1970 ฟุตบอลโลก รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่เมืองเลออน ประเทศเม็กซิโก อังกฤษ 2-3 เยอรมนีตะวันตก (หลังต่อเวลาพิเศษ) เยอรมนี (ตะวันตก) ล้างแค้น อังกฤษ ได้ในฟุตบอลโลกที่เม็กซิโก และก็ถือเป็นการเขี่ยแชมป์เก่าตกบัลลังก์แชมป์ แม้ว่า อัลเลน มุลเลรี่ และมาร์ติน ปีเตอร์ส จะยิงให้ อังกฤษ นำไปก่อน 2-0 แต่ เยอรมนี (ตะวันตก) ก็ตามตีเสมอได้สำเร็จจาก ฟรานซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ และอูเว่ ซีเลอร์ เกมเสมอกันในเวลา 90 นาที ต้องเล่นช่วงต่อเวลาพิเศษ คราวนี้ เกิร์ต มุลเลอร์ ยิงประตูชัยให้ อินทรีเหล็ก ชนะไปบ้าง 3-2 โดยแมตช์ดังกล่าว กอร์ดอน แบงค์ ยอดนายทวาร อังกฤษ ไม่สบาย สิงโตคำราม จึงต้องส่งเอา ปีเตอร์ โบเนตติ ลงเฝ้าเสาและเขามีส่วนในการเสียประตูที่ 2 และ 3 การตัดสินใจดังกล่าวของ เซอร์ อัลฟ์ แรมซี่ย์ ยอดกุนซือทีมชาติอังกฤษจึงถูกตั้งคำถาม ปี 1990 ฟุตบอลโลก รอบรองชนะเลิศ ที่เมืองตูริน ประเทศอิตาลี เยอรมนีตะวันตก 1-1 อังกฤษ (ยังเสมอกันช่วงต่อเวลาพิเศษ เยอรมนีตะวันตก ยิงจุดโทษชนะ 4-3) เยอรมนี (ตะวันตก) ทำให้มหากาฬของชาวเมืองผู้ดีต้องล่มสลายไป เมื่อเอาชนะจุดโทษ อังกฤษ 4-3 ณ สังเวียนแข้ง สตาดิโอ เดลเล่ อัลปิ ในเมืองตูริน อินทรีเหล็ก ดูจะมีโชคเมื่อ อันเดรียส เบห์เม่ ปั่นฟรีคิกบอลแฉลบ พอล ปาร์เกอร์ ข้ามหัว ปีเตอร์ ชิลตัน เข้าไป แต่ แกรี่ ลินิเกอร์ ทำประตูตีเสมอให้ สิงโตคำราม ก่อนหมดเวลา 10 นาที ต้องมีการต่อเวลาพิเศษอีกครั้งและทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ จนต้องมาตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ สามคนแรกของทั้งสองทีมยิงเข้าหมด ก่อนที่ สจ๊วร์ต เพียร์ซ จะยิงไปติดเซฟ โบโด อิ๊กเนอร์ จากนั้น โอลาฟ โธน ยิงให้ เยอรมนี (ตะวันตก) ขึ้นนำ 4-3 คริส วอดเดิ้ล ยิงออกนอกกรอบทำให้ พอล แกสคอยน์ เพื่อนร่วมทีมต้องหลั่งน้ำตา แม้ อังกฤษ ตกรอบแต่ก็ทำผลงานเขยิบใกล้ความสำเร็จที่สุดนับตั้งแต่เมื่อ 24 ปีก่อน ส่วน อินทรีเหล็ก บินไปถึงตำแหน่งแชมป์โลก
"แก๊ซซ่า" เคยเสียน้ำตาให้เยอรมนี ปี 1996 ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบรองชนะเลิศ ที่เวมบลีย์ ประเทศอังกฤษ อังกฤษ 1-1 เยอรมนี (ยังเสมอกันช่วงต่อเวลาพิเศษ เยอรมนี ยิงจุดโทษชนะ 6-5) เยอรมนี ทำได้สำเร็จอีกครั้งด้วยการเอาชนะจุดโทษ อังกฤษ ในรอบรองชนะเลิศ พร้อมกับเขี่ยเจ้าภาพตกรอบศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 1996 แม้ ฮอตชอต อลัน เชียเรอร์ จะเบิกร่องให้แฟนๆ เจ้าถิ่นได้เฮตั้งแต่หัววัน แต่ สเตฟาน คุนท์ซ ตามตีเสมอให้ทีมเยือนในนาทีที่ 16 เกมจบลงที่การเสมอกัน 1-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แก๊ซซ่า พอล แกสคอยน์ พลาดโอกาสพา อังกฤษ คว้าชัย ต้องมาตัดสินถึงฎีกาอีกครั้ง โดย 5 คนแรกของทั้งสองฝ่ายยิงกันไม่พลาด แต่แล้ว แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็ยิงบอลไปให้ อันเดรียส ค็อปเค่ เซฟไว้ได้ ขณะที่ อันเดรียส โมลเลอร์ กระทุ้งผ่านมือ เดวิด ซีแมน ให้ เยอรมนี เข้าไปชิงชนะเลิศ ก่อนคว้าแชมป์มาครองด้วยการต่อเวลาพิเศษเอาชนะ สาธารณรัฐเช็ก ม้ามืด 2-1
กองเชียร์เยอรมนีหนุนหลังทีมเสมอมา ปี 2001 ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี เยอรมนี 1-5 อังกฤษ การพบกันหนนี้ของทั้งสองทีมเป็น อังกฤษ ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมครั้งหนึ่งในฐานะทีมเยือน แม้ คาร์สเท่น ยังเคอร์ จะยิงให้ เยอรมนี ออกนำไปก่อน แต่ ไมเคิล โอเว่น โชว์กระหน่ำแฮตทริก จากนั้น สตีเว่น เจอร์ราร์ด และเฮมิล เฮสกี้ มาช่วยกันยิงปิดกล่อง ซึ่งนั่นถือเป็นชั่วโมงทองของการทำงานของ สเวน-โกรัน อีริคส์สัน ก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม เยอรมนี เรียนรู้อะไรมากมายจากความชอกช้ำดังกล่าว และการหัวเราะทีหลังย่อมดังกว่า อินทรีเหล็ก ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2002 ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จับมือเป็นเจ้าภาพร่วม แม้ต้องพ่ายให้ บราซิล 0-2 แต่อย่างน้อยคู่ปรับตลอดกาลอย่าง อังกฤษ ก็หยุดเส้นทางไว้เพียงแค่รอบ 8 ทีมสุดท้ายจากความพ่ายแพ้ต่อ แซมบ้า บราซิล 1-2
"โอเว่น" ยิงแฮตทริกหักปีกอินทรีมาแล้ว
Create Date : 28 ธันวาคม 2550 |
|
0 comments |
Last Update : 28 ธันวาคม 2550 0:39:35 น. |
Counter : 1619 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|