Group Blog All Blog
|
5 ธันวาคม 2559 วันที่สำคัญที่สุดในชีวิต เสียงโทรศัพท์ดังกลางดึกเมื่อหลายวันจากทางบ้าน โทรมาบอกว่าพ่ออาการไม่ค่อยดีแล้ว (พ่ออินเป็นอัมพกฤเป็นเวลา สิบห้าปีแล้วค่ะ) ใจเต้นตึกตักกล้าๆ กลัวๆ ที่จะรับโทรศัพท์นะคะ ตอนนั้นแต่ก็ทำใจเพราะพ่อท่านทนมาก็นานพอสมควร ถ้าวันนี้พ่อจะจากไปก็ไม่เห็นเป็นไร แม่บอกว่าพ่อเหนื่อยมากไม่ยอมทานข้าวแล้ว ตอนนั้นก็เลยตัดสินใจบอกแม่ว่าขอดูอาการพ่อสักพัก ไม่ได้ตัดสินใจกลับมาในทันที คอยโทรหาแม่กับพี่สาวตลอดว่าพ่อเป็นอย่างไรบ้าง จนวันที่ 4 ธันวาก็ตัดสินใจเดินทางกลับ ตอนบ่ายคิดว่าได้อยู่กับคุณพ่อสักพักก่อนท่านจะจากไป แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น คุณพ่อเสียเช้าตรู่วันพ่อแห่งชาติพอดี ระหว่างนั้นเรายังเดินทางกลับบ้านอยู่เลย แต่ความรู้สึกตอนนั่งบนเครื่อง เราก็ร้องให้ไปด้วยใจตะหงิดแล้วว่าต้องมีเรื่องไรแน่แล้ว พอถึงกรุงเทพฯ พี่สาวกับน้องชายมารับเราจะกลับบ้านกันทันที ก็เลยโทรหาแม่ก่อนบอกแม่ว่าถึงเมืองไทยแล้วนะ สิ่งแรกที่แม่บอก พ่อเสียแล้ว เมื่อคืน ก็ไม่รู้จะพูดไรตอนนั้น ดีใจปนหดหู่นิดหน่อย ทำไมถึงดีใจเพราะเราไม่อยากให้พ่อท่านลำบากมากกว่านี้ พ่อเป็นแผลอาจจะเจ็บปวดได้แต่ก็ หดหุ่ เสียใจบ้างแต่ไม่มีการร้องให้ ให้พ่อต้องห่วงเรา เพราะต่อจากนี้จะไม่มีพ่อให้เห้นอีกแล้ว เหลือไว้เพียงรูปถ่ายกับความทรงจำระหว่างพ่อกับลูกๆ รู้สึกเสียใจที่ไม่ยอมตัดสินใจกลับมาดูใจพ่อก่อนสิ้นลม ตรงนี้ตัดสินใจผิดไปนิดค่ะ แต่ก็ไม่เสียใจมากนักเพราะสี่เดือนก่อนก็กลับไม่ดูแลพ่อ พอดี ก่อนท่านเสียลูกๆ ไม่มีใครร้องให้เสียใจในวันที่พ่อจากไป เพราะเราทุกคนทราบดีว่า เกิดแก่เจ็บตายมันเป็็นเรื่องปกติ และเราก็ทำใจกันมาแล้วว่าวันหนึ่งพ่อ ก็ต้องจากไป ไม่ช้าหรือเร็ว ลูกขอให้พ่อจงมีความสุข มองดูความเจริญของลูกจากบนท้องฟ้าด้วยนะคะ |
สมาชิกหมายเลข 3520464
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
Friends Blog Link |