Group Blog All Blog
|
ความเป็นแม่ ใช่ว่าใคร ๆ ก็เป็นได้..(10) เกาะสมุย..ที่นี่ฉันไม่เคยมา และไม่คิดว่าจะได้มาอาศัยอยู่ที่นี่ แต่ก็เป็นไปแล้ว ฉันตัดสินใจ พกเอกสารส่วนตัวใส่กระเป๋า ออกเดินหางานไปเรื่อย ๆ สมัครไปเรื่อย ๆ ทุกที่ แต่ก็มาสะดุดที่โรงเรียนอนุบาลซึ่งตั้งอยู่ปากซอยหน้าบ้าน ฉันคิดว่า ถึงฉันจะไม่มีรถ ฉันก็สามารถเดินไปทำงานได้ และตกลงกับน้าว่า รบกวนให้ช่วยดูแลหลานหน่อย ตอนเช้าจะเอามาส่ง และตอนเย็นจะรีบกลับมารับกลับ ก็สะดวกมากเพราะน้า พักอยู่อพาร์ทเม้นต์เดียวกัน น้าอยู่ชั้นล่าง ฉันอยู่ชั้นบนกับลูก ตอนนั้นค่าเช่าก็ 3500 ยังไม่รวมน้ำ-ไฟเบ็ดเสร็จแล้วก็ประมาณ 3800 เงินเดือนที่ได้ 8000 พอดี ๆ แล้วก็ต้องให้น้าอีก 3000 ทุกเดือนค่าเลี้ยงลูก ดูแล้วก็ไม่น่าพอ เหลืออยู่ประมาณ 2000 กว่าบาท ตรงนี้ก็หมดไปกับ ค่านม กับผ้าอ้อมสำเร็จรูป ที่พอเงินเดือนออกปั๊บ ก็ต้องไปซื้อตุนไว้ให้พอ สำหรับ 1 เดือน.. มันก็ยากค่ะ ที่จะอยู่ได้ด้วยเงินเท่านี้ ก็เลยพยายามหาของอะไรไปขายที่โรงเรียน ก็พอจะถูไถไปได้แต่ละเดือน ส่วนพ่อของลูก ฉันคิดว่าฉันไม่อยากโทรไปขอเงิน เพราะฉันไม่ใช่คนหน้าเงิน และจะไม่สอนลูกให้โทรไปขอเงินพ่อ เพราะลูกของฉันไม่ใช่เด็กเห็นแก่เงิน เพราะแม่จะสอนเขาให้มีศักดิ์ศรีและสอนให้เขายืนหยัดได้ด้วยตัวเอง ลูกชายของฉัน หน้าตาน่ารัก น่าชัง น้าพาไปขายของด้วยทุกวัน คนในตลาดทั้งเถ้าแก่เอย ลูกจ้างเอยในตลาดแถวนั้นเอ็นดูเด็กน้อยคนนี้มาก อยู่เป็นปี ๆ จนกระทั่งมาถึงจุดเปลี่ยน.. ลูกชายตัวน้อยของฉัน ไข้ขึ้นสูงมาก เกือบ 40องศา ฉันพาไปหาหมอ ที่อนามัยเพราะเข้า โรงพยาบาลเอกชนไม่ไหว บุคลากรที่อนามัยแนะนำว่า น่าจะเป็นโรคปาก-เท้าเปื่อย ให้รีบไปโรงพยาบาลใหญ่โดยด่วนจะได้ตรวจ ให้ละเอียด เพราะไข้สูงอย่างนี้อันตรายมาก.. ฉันจึงตัดสินใจบอกน้องของพ่อ ให้ช่วยไปส่งที่โรงพยาบาลที่หน้าทอน แต่คำตอบที่ได้รับคือ ไม่กล้าไปส่ง เพราะกลัวหลานอีกคน (หลานแท้ ๆของเขา) จะติดเชื้อโรค ก็เออนะ เป็นไปได้นะคนเรา ทุเรศจริง ๆ นี่ฉันฝากชีวิตของฉันกับลูกไว้กับคนอย่างนี้หรือ.. ฉันก็ตัดสินใจ จะไม่ไปข้องเกี่ยวอะไรกับเขามากมาย อยู่ ๆ กันไป ต่างคนต่างอยู่ วันนั้นแม่โทรมาหาฉันพอดี ได้ยินเสียงฉันเหมือนเป็นหวัด แม่ถามว่าเป็นอะไรมากไหม ฉันก็ร้องไห้ใหญ่ แล้วก็เล่าให้แม่ฟัง แม่ก็เสียใจที่ช่วยอะไรไม่ได้มาก และแม่ก็โทรหาน้องชาย น้องฉันเขาทำงาน และพักอยู่ที่สมุทรปราการ เป็นทหารเรืออยู่หลายปีแล้ว น้องรู้เข้าก็โกรธมาก ว่าไม่น่าทำกันขนาดนี้ ไม่มีน้ำใจจริง ๆ น้องชายและแม่ก็คิดหาทางช่วยเหลือ .. ฉันกับลูก น้องชายโทรมาคุยกับฉัน เรื่องงาน บอกว่าที่สมุทรปราการมีงานเยอะมากนะ ทำงานเลี้ยงหลานได้สบาย ๆ อยากให้ออกมาจากตรงนั้นเสียเถอะ ฉันก็สองจิตสองใจอยู่นาน เพราะรู้กันอยู่ว่ากรุงเทพฯนั้นคนเยอะ เอาตัวรอดกันทั้งนั้น ไม่เหมือนคนบ้านนอก และฉันก็กลัวว่าจะทำงาน ในกรุงเทพฯไม่ได้ กลัวไปหมดก็ปฏิเสธน้องไปหลายที จนสุดท้าย ฉันก็ตัดสินใจจะไปอยู่กับน้อง หลังจากคุยกันเรียบร้อย เรื่องหลานว่า ยังไง ๆ ก็ต้องรบกวนน้องนะ เพราะพี่ไม่มีใครจริง ๆ.. กลับบ้านก็ไม่ได้.. นัดแนะกันเรียบร้อย น้องก็หาวันว่าง มารับฉันถึงเกาะสมุย.. เห็นหลานครั้งแรก.. น้องฉันรีบโทรหาแม่บอกว่า "แม่ครับ หลานน่ารักมากครับ" ฉันก็ได้แต่ยิ้มด้วยความขอบคุณ .................. ในรูปนั่นคือลูกชายใช่ไหมคะ น่ารักจริงๆ
โดย: kai (aitai อ่านว่า อะอิไต้ ) วันที่: 22 มกราคม 2560 เวลา:17:11:05 น.
ใช่ค่ะ ลูกชายที่ลำบากมาด้วยกัน ขอบคุณมากค่ะ
โดย: สมาชิกหมายเลข 3619592 วันที่: 22 มกราคม 2560 เวลา:19:58:22 น.
|
สมาชิกหมายเลข 3619592
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |